ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จอมใจจอมปิศาจ

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่2

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 52


    2

     

                    "เตรียมตัวจัดงานฉลองได้เลย  ข้าไม่ได้เห็นตรานี่มาตั้งนานแล้ว   นานมากเหลือเกิน"  เสียงภายในห้องเงียบลงแม้แต่เสียงลมหายใจก็แทบไม่ได้ยิน  มีแต่เสียงหญิงผู้ทำคลอดและทารกน้อยในอ้อมอกของนางดังอยู่เท่านั้น

              "เกิดอะไรขึ้นทรงประสูติแล้วเหรอ  พระโอรสหรือพระธิดา"เสียงของแพทย์หลวงดังขึ้นพร้อมกับเจ้าตัวผลีผลามเข้ามาในห้อง  ตามมาด้วยองค์กษัตริย์และเด็กชายวัย ห้าขวบปี

              "ถวายบังคมเพคะฝ่าบาท  แต่นี่ทรงผลีผลามเข้ามาได้อย่างไรกัน"หญิงทำคลอดถอนสายบัวทำความเคารพร่างที่อยู่ตรงหน้า

              "เป็นยังไงบ้าง  ข้าได้ลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย  เซเทรียล่ะเป็นอย่างไร"  พระราชาเฟรเดอร์ริคตรัสถามอย่างตื่นเต้น

               "พระโอรสเพคะ  และที่น่ายินดีไปกว่านั้นคือ  ทรงมีตราประจำอาณาจักรซิสเวิร์ดด้วยนะเพคะ  น่ายินดียิ่งนัก  น่ายินดี"

               "จริงเหรอคะท่าน  เช่นนี้ก็เตรียมจัดงานฉลองได้เลยสิ  ยินดีด้วยนะเพคะ  ฝ่าบาท  ยินดีด้วย"  สาวใช้ในห้องพูดแสดงความยินดี


    บรรยากาศภายในห้องต่างรื่นเริง  เต็มไปด้วยความน่ายินดี  ข่าวการประสูติของพระโอรสองค์ใหม่ซึ่งจะเป็นรัชทายาทคนต่อไป  ทำให้ชาวเมืองต่างยินดีปรีดา  แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในใจของกษัตริย์หนุ่มคือ  เขาไม่แน่ใจว่ามีบางสิ่งที่เขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกำลังจะเกิดขึ้นกับบุตรชายของเขาหรือไม่




              ด้านนอกพระราชวัง  ชาวเมืองตางจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองอย่างสนุกสนานโดยหารู้ไม่ว่าในพระราชวังนั้นกำลังวุ่นวายใจกับพระอาการของพระนางเซเทรียหลังคลอดพระโอรสองค์รอง  ที่กำลังทรุดหนักลงเรื่อยๆ  บานทวารใหญ่สลักลวดลายเถาองุ่นอย่างวิจิตรงดงามถูกผลักออกด้วยแรงของนางกำนัลที่อยู่หลังบานทวารใหญ่สี่คน  ตามมาด้วยแพทย์หลวงที่เดินออกมาอย่างหนักใจ  ใบหน้าซีดเผือดอย่างกับเห็น  กาย  บรรพบุรุษของพวกเขามาประจักษ์แจ้งแก่ตรงหน้า

               "ทูลฝ่าบาท  กระหม่อมสมควรได้รับโทษอันสาสม  ตอนนี้พระอาการขององค์ราชินีทรุดหนักมาก  กระหม่อมขอบังอาจทูลว่าพระนางอาจไม่รอด  นอกเสียแต่ว่าจะใช้เลือดของพระองค์ให้พระนางได้ดื่ม  แล้วพระนางก็จะกลายเป็นแวมไพร์อย่างเช่นพวกเรา"สิ้นคำของแพทย์หลวงก็ทำเอาผู้ฟังที่รอคอยคำตอบอยู่นอกบานทวารใหญ่ตกใจไม่แพ้พระราชาแห่งอาณาจักรที่คอยเฝ้าสวดภาวนาว่าอย่าให้กายเอานางไปอยู่ด้วยเลย  ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทีเขาเพียงแต่ได้หวังว่าแพทย์หลวงจะออกมาจากบานทวารใหญ่ที่ดูสวยงามนั่นแล้วบอกกับเขาว่า  ชายาของเขาอาการทุเลาลงแล้ว  อีกไม่นานก็คงจะหายจากการประชวร  แต่สิ่งที่เขาได้ยิน มันกับตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง 

              "ฝ่าบาท...........  ฝ่าบาทพะยะค่ะ"

              "หือ......"

              "ฝ่าบาทจะไม่เสด็จเข้าไปทอดพระเนตรองค์ราชินีหน่อยหรือพะยะค่ะ"  แพทย์หลวงเอ่ยถาม  เมื่อเห็นผู้เป็นนายนิ่งเงียบไป

              "อืม..."



              ชายภูษาที่ผูกอยู่รอบเสาตียงที่ทำด้วยไม้สักพลิ้วไสวไปตามแรงลม  แสงสีส้มอ่อน  ทอแสงลาลับขอบฟ้าสะท้อนเข้ามาในห้อง  คล้ายจะบอกว่าเงาทะมึนสีดำจะเข้ามาปกคลุมท้องนภาในอีกไม่ช้า  กลิ่นของบุปผาช่อโตถูกจัดเรียงไว้อย่างสวยงามในแจกันแก้วใบใหญ่หอมอบอวลไปทั่วห้อง  บรรยากาศเช่นนี้ชั่งรื่นรมย์เสียจริง  หากไม่มีร่างบางที่จมอยู่บนฟูกผืนหนา  ร่างนั้นนอนแน่นิ่งไม่ขยับ  ลมหายใจรวยรินอย่างกับมันจะหายไปได้ทุกเสี้ยววินาที

               ดวงเนตรสีนิลงามลืมขึ้นมาก็เห็นชายผู้เป็นสวามีนั่งอยู่บนฟูกเคียงข้างกายอีกคน

              "ฝ่าบาท"  พระนางเซเทรียตรัสออกมา แต่สุรเสียงที่ออกมานั้นก็ชั่งเบาเหมือนลมหายใจของนางเหลือเกิน  แต่อย่างไรก็ทำให้พระราชาเฟรเดอร์ริคได้ยิน

              "เซเทรีย"

              "ฝ่าบาท  เราจะตั้งชื่อลูกของเราว่าอย่างไรดีเพคะ   หม่อมฉันได้ยินว่าตอนลูกของเราคลอด  ฟ้าแลบแปรบปราบไปทั่ว  อืม..จะให้ชื่อว่าอะไรดีล่ะเพคะ  พ่อชื่อเฟรเดอร์ริค  แม่ชื่อเซเทรีย  พี่ชื่อรานดอล์ฟ  น้องก็ต้องชื่อ..เรนเนลด์  ดีหรือไม่เพคะ  แปลว่า  พลังอันล้นเหลือ"  ร่างบางพูด  ทำเอาคนฟังแทบสะอึก ทำไม นางถึงยังดูร่าเริงได้อีก  ถึงรอยยิ้มจะดูแจ่มใสและนางก็พูดอย่างร่าเริง  แต่ดวงหน้ากลมมนนั้นหาได้รับกับรอยยิ้มไม่  มันชั่งแลดูซีดเซียวนัก

              "อืม.......... ตะ......ตามใจเจ้าสิ"

              "ฝ่าบาทว่าหรือไม่เพคะ เรนเนลด์น่ะ  เขาต้องรูปงามเหมือนพระองค์แล้วก็รานดอล์ฟแน่เลยนะเพคะ"

              "อืม..... ชะ...ใช่  เขาต้องรูปงามเหมือนข้าแน่เลย  รู้เช่นนี้แล้วเจ้าก็จะต้องรอคอยดูวันที่เรนเนลด์เขารูปงาม
    เหมือนข้า  เคียงข้างข้าสิ
    "  เสียงปนสะอื้นไห้ตอบหลับมา  หยาดอสุชลรินไหลเปื้อนใบหน้าคมสัน  เขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าผู้หญิงที่เขารักจะมีลมหายใจได้อีกนานสักเท่าไร

              "หม่อมฉันคงไม่มีโอกาสได้ตอบรับคำเชิญอันทรงเกียรติเช่นนั้น  หม่อมฉันคงอยู่ได้อีกไม่นาน  ฝ่าบาทอย่าทรงเศร้าใจไปเลยนะเพคะ  หม่อมฉันรู้ตัวดีว่าคงจะไม่มีโอกาสได้ดูแลรานดอล์ฟและเรนเนลด์อีก"

               "ใครบอกล่ะ  เจ้าจะหายดี  เจ้าจะหายดี  เราสองคนจะช่วยกันดูแลรานดอล์ฟกับ  ฮึก..  เรนเนลด์นะ  เราสองคนจะช่วยกันดูแลอาณาจักรของเรา  ฮึก..  อย่างไรเล่า  เราสี่คนจะมีความสุขด้วยกันนะ"  หยาดอัสสุชลเปื้อนไหลเต็มใบหน้าขององค์ราชาเฟรเดอร์ริค  หัตถ์เอื้อมไปจับหัตถ์ของพระนางเซเทรียอย่างวิงวอน  หยาดอัสสุชลหยดลงบนหัตถ์ใหญ่หนานับไม่ถ้วน

              "โธ่เอ๋ย..........ฝ่าบาท  มนุษย์อย่างหม่อมฉันนั้นการเวียนว่ายตายเกิดเป็นของธรรมดา  มันไม่มีสิทธิเลือก  แม้องค์มหาเทพหรือกาย จะมาพรากหม่อมฉันไปจากพระองค์  หม่อมฉันก็หาได้กลัวไม่  หม่อมฉันไม่กลัวความตายหรอกเพคะ  ถึงอย่างไรหม่อมฉันมั่นใจว่าทุกคนก็ยังรักหม่อมฉันไม่เปลี่ยนแปลงเพียงเท่านี้หม่อมฉันก็พอใจแล้ว  แต่มีสิ่งหนึ่งที่หม่อมฉันอยากจะขอร้อง"เสียงของพระนางเซเทรียเปลี่ยนเป็นไปอย่างจริงจัง

              "อะไร  เจ้าต้องการสิ่งใดข้าจักจัดหามาให้เจ้า  เพียงแต่เจ้าอย่าทิ้งข้าไป"  เสียงทุ้มหนาเอ่ยขึ้น  ใบหน้าพราวไปด้วยหยาดอัสสุชล  เขารู้สึกอายนัก  นางซึ่งเป็นผู้หญิงยังเข้มแข้งได้ขนาดนี้แต่เขากลับอ่อนแอเสียได้  

              "หม่อมฉันรู้นะเพคะ ว่าเรนเนลด์มีตราประจำอาณาจักรซิสเวิร์ด  นั่นก็เท่ากับเขาเป็นรัชทายาทที่จะขึ้นครองราชย์สืบต่อจากฝ่าบาท  แต่ฝ่าบาทนั้นหาได้เหมือนไม่  เพราะฝ่าบาทนั้นได้ขึ้นครองราชย์เพราะเป็นรัชทายาท  
    เพราะครานั้นไม่มีผู้ที่มีตราเลย  ต่อให้เป็นทาสที่ต่ำต้อย  แต่หากราชวงศ์ขาดคน  ไม่มีผู้ใดที่มีตราสัญลักษณ์เลย  ก็ต้องให้ทาสขึ้นครองราชย์  ฝ่าบาทก็รู้ดีว่า ผู้ที่มีตราสัญลักษณ์นั้นเหมือนกับมีสองคน  คนหนึ่งอย่าภายนอกอีกคนอยู่ภายในจิตใจ  แล้วหากคราใดจิตใจชนะกายขึ้นมาละก็  กายก็จะถูกกลืนกินตลอดกาล  หากนั่นมันเกิดกับลูกของเรา หม่อมฉันคงตายตาไม่หลับแน่   แต่หม่อมฉันมีลางสังหรณ์ยิ่งนักว่ามันจะนำหายนะมาสู่ลูกของเรา
    "

              "เหตุใดเล่าเจ้าจึงคิดเช่นนั้น"พระราชาเฟรเดอร์ริคตรัสถาม  เสียงสะอื้นหยุดอยู่แค่นั้น

              "ฝ่าบาท  มนุษย์นั้นลางสังหรณ์แม่นยิ่งนักนะเพคะ หม่อมฉันหวาดกลัวกับลางสังหรณ์นี้เหลือเกิน  ไม่เช่นนั้นก็คงปั่นป่วนไปทั้งสามโลก"

              "อืม......ข้าสัญญา" 

              

                    เกศาสีดำสนิทแผ่สยายไปทั่วเตียงฝ้ายอ่อนนุ่ม รับกับดวงเนตรกลมโต  แพขนตาหนางอนยาว ค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆ  นาสิกโด่งได้รูปผ่อนลมหายใจลง  เรียวโอษฐ์บางเอื้อนเอ่ยคำสุดท้ายก่อนจะไม่ได้เอ่ยไปตลอดกาล "พอใจแล้ว แค่นี้ก็พอใจแล้ว หม่อมฉันรักพระองค์กับลูกๆมากนะเพคะ และจะรักไปตลอดกาล"

                    นางไปแล้ว.....นางจากข้ากับลูกไปแล้ว...ทำไมกายจะต้องเอาคนดีๆเช่นนางไปด้วย

                    ข้าสัญญาว่าข้าจะดูแลรานดอล์ฟและเรนเนลด์ให้ดีที่สุด ข้าสัญญา

                    องค์ราชาเฟรเดอร์ริคกอดหญิงผู้เป็นชายาไว้แนบอกอย่างรักใคร่  ร่างใหญ่สะอื้นกอดร่างไม่ไหวติงราวกับกลัวว่าจะหายไป  อัสสุชลไหลอาบเต็มปรางค์ของร่างใหญ่  คำว่ารักของเขาและชายาจะคงอยู่ตลอดไปถึงแม้ว่านางจะไม่อยู่แล้วก็ตาม



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×