ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จอมใจจอมปิศาจ

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.พ. 52


    บทนำ
     
                    ในที่ที่ไม่มีห้วงมิติ ในที่ที่ไม่มีกาลเวลา ในที่ที่ไม่มีสิ่งใดมีแต่ความมืดมิดตลอดกาล

                    “เฟรเดอร์ริค” เสียงบุรุษนิรนามเอ่ยขึ้นในความมืด

                    “ใครกันน่ะ”เจ้าของชื่อเอ่ยถามที่มาของเสียง

                    “จำกันไม่ได้แล้วรึ” ชายนิรนามกล่าวพร้อมเดินเข้ามาใกล้คู่สนทนา จึงเห็นได้ชัดว่าชายผู้นั้นใส่เสื้อคลุมสีดำ

                    “ท่านเป็นใครกัน ข้าไม่เคยรู้จัก”เฟรเดอร์ริคตอบกลับด้วยท่าทีงุนงง

                    “ท่าทางจะจำกันไม่ได้จริงๆแล้วสิ”ชายนิรนามกล่าว พร้อมเดินเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้นแล้วถอดเสื้อคลุมออก

                    สิ่งที่ประจักษ์แก่สายตานั้นทำให้เฟรเดอร์ริคตกใจยิ่งนัก ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านั้น ผมสีดำดั่งคืนรัตติกาลประจวบเหมาะกับนัยน์ตาสีนิลดูมืดมิดแต่ทรงอำนาจ ผิวหน้าขาวราวหิมะดูเยือกเย็น ริมฝีปากบางเป็นกระจับเหมือนอิสตรี คุ้นคุ้นมากๆ ถ้าเป็นเขาคนนั้น แต่จะเป็นไปได้อย่างไรกัน

                    “ทะ...ท่าน” ไม่ผิดแน่ ชายผู้นี้คือ ‘กาย’ บรรพบุรุษของเขา!!

                    “จะเป็นไปได้อย่างไรกัน ในเมื่อท่านดับสูญไปแล้ว” เฟรเดอร์ริคกล่าว ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อที่แตกพลั่ก

                    “เจ้าคิดว่าฝีมือเทพชั้นต่ำนั่นจะทำอะไรข้าได้งั้นรึ อย่างมากก็ทำได้แค่จองจำข้า ไม่ให้ข้าไปไหน หึหึหึ..... แต่ไม่ต้องห่วง ข้าจะกลับมา เจ้าไม่ยินดีงั้นรึ” บรรพบุรุษของเฟรเดอร์ริคหันกลับมามองหน้าเฟรเดอร์ริคอย่างจับผิด

                    “คะ....ใคร บอกเล่า ข้ายินดียิ่งนัก ที่ท่านจะกลับมา กะ..กลับมาครองตำแหน่งองค์ราชาอีกครั้ง ข้ายิ....”

                    “หุบปาก !!!  เจ้าโกหก!! ไม่ต้องมาทำเป็นเสแสร้ง เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้งั้นรึ ถึงข้าจะถูกจองจำแต่ข้าก็รู้ดีว่าเจ้าน่ะทำอะไร ในขณะที่ข้าถูกจองจำ ลูกหลานข้าเดินตามสานเจตนารมณ์ของข้า แต่เมื่อมาถึงรุ่นของเจ้า เจ้ากลับไม่เดินสานเจตนารมณ์ของข้า ตรงกันข้าม เจ้ากลับบอกให้พวกพ้องของเจ้าหยุดทำสงครามกับมนุษย์อันโสมมและพวกเทพชั้นต่ำนั่น แล้วเจ้าก็ยังบอกไม่ให้พวกชาวเมืองทำร้ายพวกมนุษย์นั่นอีก หนำซ้ำเจ้ากลับนำมนุษย์มาเป็นเมีย เจ้าน่าจะรู้ดีว่าแวมไพร์อย่างเราเกลียดคนที่ทำสายเลือดอันบริสุทธิ์แปดเปื้อน แต่เจ้ากลับละเมิดกฎนั่น”  

                    เสียงที่ดุดันและโกรธเคืองนั่น ทำเอาจนเฟรเดอร์ริคเหงื่อแตกพลั่กยิ่งไปอีก นัยน์ตาที่เคยเป็นสีดำบัดนี้ถูกย้อมไปด้วยสีแดงดั่งไฟผลาญโลกก็ไม่ปาน
       
                    “ขะ....ข้าคิดว่าเราน่าจะอยู่ร่วมกันได้  ข้าไม่อยากมีสงครามกับใคร ข้าไม่อยากเห็นคนพวกนั้นร้องไห้ ข้าเห็นภาพพวกนั้นมามากพอแล้ว” เฟรเดอร์ริคแก้ตัว

                    “เจ้ามันใจอ่อน ใจอ่อน ยิ่งกว่าอิสตรีเสียอีก”

                    “แต่ไม่นานหรอกเฟรเดอร์ริค ข้าจะกลับมา ข้าจะกลับมาเผาผลาญเหล่ามนุษย์อันโสมม  และพวกเทพชั้นต่ำนั่น  ฮ่าฮ่าฮ่าๆๆ  จงจำคำของข้าไว้ให้ดี  เฟรเดอร์ริค    
          

                      ยามใด...ที่โอรสแห่งจอมปีศาจ บังเกิดขึ้น

              ยามนั้น...มนุษย์ และเหล่าทวยเทพจะต้องสูญสลาย 

                       เหล่าปีศาจจะกลับมาเรืองอำนาจอีกครั้ง

                    ความมืดจะเข้าปกคลุมทั้ง 3 โลกตลอดกาล
     

          หึหึหึ จงจำคำของข้าไว้ให้ดีเฟรเดอร์ริค จงจำไว้ให้ดี ฮ่าๆ...” บรรพบุรุษของเฟรเดอร์ริคพูดก่อนที่ร่างจะเลือนหายไปแต่เสียงยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทของเฟรเดอร์ริค 

                    “ดะ...เดี๋ยวก่อนท่าน เดี๋ยวก่อน กลับมาก่อน กลับมา” เฟรเดอร์ริคยังตะโกนต่อไปหวังว่าเขาจะได้ยิน แล้วกลับมาแก้ความให้ประจักษ์ แต่สิ่งที่สะท้อนกลับมานั้น คือความเงียบและความมืดที่ไม่มีสิ้นสุด
                   
     
     
                    “ฝ่าบาท... ฝ่าบาทเพคะ เป็นอะไรรึเปล่าเพคะฝ่าบาท”เสียงหวานใสดังก้องมากระทบโสตประสาทของเฟรเดอร์ริค เฟรเดอร์ริคลืมตาขึ้นมาอย่างหวาดกลัวและงุนงง เขาไม่ได้อยู่ในที่มืดมิด ไม่มีสิ่งใด เขานอนอยู่ในห้องที่นอนอยู่ทุกคืนตั้งแต่เยาว์วัย 

                    “ฝ่าบาท เป็นอะไรรึเปล่าเพคะ หม่อมฉัน... เห็นฝ่าบาททรงบรรทมเพ้อ เหงื่อชุกไปทั้งพระวรกาย เรียกเท่าไร ฝ่าบาทก็ไม่ตื่น อย่าทรงทำอย่างนี้อีกเลยนะเพคะ ทรงแกล้งกันเช่นนี้ หม่อมฉันไม่สบายใจเลย “ ร่างบางโผเข้ากอดชายผู้เป็นสวามีตรงหน้าอย่างห่วงใย น้ำตาคลอเบ้าอย่างอดเสียไม่ได้ 

                    “ข้าไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อยเซเทรีย เจ้าจะกลัวอะไร ข้าแค่ฝันนิดหน่อย อย่าได้ตื่นกลัวไปเลย นอนซะเถอะ นอนซะ”เฟรเดอร์ริคปลอบโยนร่างบางที่ซบอยู่ที่อก 

                    “เพคะ  ฝ่าบาท “  เซเทรียทำตามอย่างว่าง่าย 
     
     

                    เวลาผ่านไปมากเท่าไรแล้วไม่รู้ แต่ยังมีร่างหนึ่งที่มองผ่านมายังหน้าต่างไปยังบนท้องฟ้า

                    “ข้ากลัวเหลือเกินเซเทรีย หากนั่นเป็นความฝันแล้วมันไม่จริงก็คงดี แต่หากมันเป็นจริงขึ้นมาล่ะก็ ข้าจะทำเช่นไรเซเทรีย ช่วยข้าคิดหน่อยสิ ข้าหวั่นใจนัก” เฟรเดอร์ริครำพึงกับตนเอง
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×