ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [NARUTO Fic] KNH High School - วุ่นนักรักวัยเรียน

    ลำดับตอนที่ #4 : HOUR02

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 57



    HOUR02


    "ทำไมฉันต้องนั่งตรงนี้ด้วยเนี่ย" นารูโตะเบ้ปากเมื่อมาถึงที่นั่งของเขาซึ่งอยู่ C31 ตามที่เขียนในบอร์ดดิ้งพาส เด็กหนุ่มมุ่ยหน้า "ไม่ได้นั่งใกล้หน้าต่างเลย ดูสิ"

    "ฉันสิที่อยากจะบ่นมากกว่า" ซาสึเกะกัดฟันกรอด ที่นั่งของเขาอยู่ที่ A31 ซึ่งอยู่ติดกับหน้าต่างก็จริง แต่ปัญหาคือที่นั่ง B31 ตรงกลางซึ่งเจ้าของที่กำลังนั่งอย่างไม่คิดจะรับรู้ใดๆรอบตัวเลยสักนิด ยกเว้นที่นั่งทางซ้ายมือของเธอ ซาสึเกะพึมกำในลำคอเสียงเบา "ทำไมฉันต้องนั่งติดยัยนี่ด้วย"

    "มีอะไรเหรอ ซาสึเกะ ทำหน้าเหมือนอยากโยนใครออกทางประตูฉุกเฉินของเครื่องบินงั้นแหละ" นารูโตะที่นั่งประจำที่เอ่ยถามซาสึเกะซึ่งตวัดสายตาคมๆมามองเขา และเบนสายตาดุๆนั่นไปทางคนที่นั่งข้างๆเขา

    "ก็เออสิ" ว่าแล้วก็ทิ้งตัวลงนั่งกับที่นั่งติดหน้าต่างอย่างแรง "ให้ทำให้ดูเลยไหม"

    "เฮ้ย ไม่อนุญาติโว้ย นายห้ามเอาเพื่อนโยนทิ้งเรี่ยราดบนสนามบินของฉันนะ" นารูโตะทำเสียงหลง

    "สนามบินห้างหุ้นส่วนของพ่อนาย กับคุณฮาชิรามะต่างหาก อย่ามาโมเม ไอ้เซ่อ" ซาสึเกะเอ่ยกลับเสียงเรียบ นารูโตะทำท่าจะเถียงอีก แต่ก็ต้องชะงักไว้เมื่อสายตาของคนที่นั่งตรงกลางหันมามองเขา ตาที่เดิมเป็นสีเขียวอยู่แล้วแลดูเหมือนมันจะยิงลำแสงพิฆาตออกมาได้อย่างไรอย่างนั้น "อะ ... เอ่อ ... มีอะไรเหรอ ซากุระจัง ?"

    "นายหยุดตะโกนข้ามหัวฉันซักทีได้ไหม แล้วก็หยุดเถียงซาสึเกะคุงซักทีด้วย" หญิงสาวเอ่ยเสียงดัง ก่อนจะหันไปหาซาสึเกะที่นั่งทางซ้ายมือของเธอ พร้อมกับแขนที่เลื้อยไปหาแขนขาวๆของอีกฝ่ายอย่างเนียนๆ "วางใจได้เลยซาสึเกะคุง ถ้าไอ้บ้านี่มันจะกวนเธอเมื่อไหร่ ฉันจะจัดการมันให้เอง"

    "และถ้าเธอยังไม่เอามือออกจากแขนฉัน ฉันนี่แหละจะถีบส่งเธอลงจากเครื่องตอนนี้เลย" เสียงที่เอ่ยขึ้นไม่มีวี่แววของการล้อเล่นเลยสักนิด ซากุระจึงทำได้เพียงเก็บความหน้าแตกเอาไว้ในใจก่อนจะค่อยๆดึงมือกลับไปวางบนหน้าตักตัวเองอย่างเรียบร้อยตามเดิม

    "โถ ยัยเถิกโดนด่า โฮะโฮะ" เสียงดังมาจากที่นั่งด้านหลังเรียกให้สาวผมชมพูยืดตัวขึ้นไปมอง คู่กัดตัวดีของเธอหัวเราะคิกคักใส่ด้วยท่าทีหน้าหมั่นไส้ "อุตส่าห์ได้นั่งติดเขาทั้งที แหม่"

    "เงียบเลยยัยหมูตอนอิโนะ" เธอเงื้อมือทำท่าจะต่อยอีกฝ่ายที่แสร้งทำเป็นตกใจดี๊ด๊ารับมุขที่ว่านั้น "อย่างน้อยฉันก็ดีกว่าเธอ ไม่มีโอกาสได้นั่งใกล้เขา"

    "ยัยซากุระ !!"



    "ฉันว่าพวกเธอเงียบๆหน่อยก็ดีนะ เพราะคราวหน้า คนที่จะจับพวกเธอโยนลงไปที่รันเวย์นั่น จะเป็นคุณมาดาระ ไม่ใช่ซาสึเกะคุง" เสียงทุ้มๆที่เอ่ยขึ้นช่วยหยุดสองสาวที่กำลังจะเปิดศึกได้เป็นอย่างดี ซาสึเกะเหลือบสายตาขึ้นมองผู้พูดเมื่อได้ยินโทนเสียงที่คุ้นเคย ชายหนุ่มผมสีดำที่มีทรงผมคล้ายคลึงกับนารูโตะสบสายตาที่มองขึ้นมาพอดี

    "แล้วทำไมมาขึ้นทางเข้าของ Economy นั่ง First ก็ไปขึ้นประตูตัวเองดีๆสิ" ซาสึเกะเอ่ยถามคนมาใหม่ โอบิโตะยักไหล่ก่อนจะเหลือบสายตาไปอีกคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังเขา

    "ก็ถามมาดาระเอาซิ" เป้าสายตาถูกเปลี่ยนไปยังอีกคนหนึ่ง

    "ก็แค่แวะมาดู มีอะไรรึไง" มาดาระเอ่ยกึ่งตอบกลับกึ่งถามด้วยเสียงเรียบๆ ยื่นชุดสูทของตัวเองที่เพิ่งถอดให้โอบิโตะที่เดินนำหน้าเอาไปถือไว้ ซาสึเกะยักไหล่ แปลความหมายได้ว่า .. ไม่มีอะไร .. "อ้อ ฝากบอกฟุงาคุด้วยนะ ลำนี้แอร์ห้อง Eco ร้อนไปหน่อย"

    "จะรู้ไหมลำไหน" เด็กหนุ่มเอ่ยถามกลับด้วยเสียงเซ็งๆ "คิดว่าเครื่องบินที่เรามีมันมีซักกี่ลำกัน มาดาระ"

    "B474 สึคุโยมิ" คนเป็นผู้ใหญ่ยังคงใจเย็นแม้จะโดนว่ามาแบบนั้นก็ตามที

    "แล้วจะโทรบอกพ่อให้ตอนถึงที่พักแล้วหรอก" เมื่อพ้นสายตามาดาระและโอบิโตะ ซากุระกับอิโนะเองก็ได้แต่เงยหัวขึ้นมาสบตากัน ก่อนจะฝากความแค้นสปาร์คใส่กันผ่านทางสายตาไปก่อน เนื่องจากไม่มีใครอยากเสี่ยงโดนจับโยนออกนอกเครื่องบินทั้งนั้น



    เสียงประกาศและขั้นตอนต่างๆแลดูยุ่งยากสำหรับนารูโตะ เจ้าตัวนั่งก้นไม่ค่อยติดเบาะเท่าใดนัก หันซ้ายแลขวาตลอดเวลาที่เครื่องบินกำลังเคลื่อนที่ไปตามรันเวย์ช้าๆ เที่ยวบินรอบนี้พิเศษเล็กน้อยตรงที่อาหารการกินนั้น พวกเขาต้องเดินไปขอเองที่บริเวณ Galley ของ Business Class ที่อยู่ด้านหน้าๆของเครื่อง และมีแอร์โฮสเตทเพียงคนเดียวทำหน้าที่ดูแลพวกเขา เนื่องจากทั้งลำมีผู้โดยสารเพียงเท่านี้ จึงไม่จำเป็นต้องการคนดูแลมากมายให้เปลืองทรัพยากรบุคคล นารูโตะมุ่ยหน้านั่งดูคำอธิบายและข้อปฏิบัติที่ขึ้นฉายบนจอมอนิเตอร์ในเครื่องอย่างเหนื่อยหน่าย จะหลับมิหลับแหล่

    "ซาสึเกะคุง ทำไมทำหน้ามุ่ยแบบนั้นล่ะ" ซากุระเอ่ยถามคนที่นั่งทางซ้ายมือของเธอ เสียงอธิบายจากมอนิเตอร์เงียบลงไปแล้ว เหลือเพียงเสียงสัญญาณของเครื่องบินที่เตรียมจะทะยานขึ้นดังมาเป็นระยะเท่านั้น คนถูกทางทำเพียงตวัดสายตานิ่งๆมาให้เท่านั้น

    "เธอจะไม่วุ่นวายซักเรื่องจะได้ไหม" ซาสึเกะเอ่ยด้วยน้ำเสียงรำคาญมาให้ แต่นั่นไม่ได้ทำให้หญิงสาวเรือนผมสีชมพูย่อท้อแต่อย่างใด

    "มีเรื่องอะไรบอกฉันได้นะ ซาสึเกะคุง"

    "มี ช่วยอยู่เงียบๆจนกว่าเครื่องจะลง แล้วก็เลิกกวนฉันได้แล้ว" ซากุระเงียบเสียงไปเมื่อเห็นว่าซาสึเกะไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะสนทนาใดๆทั้งสิ้น เขาหลับตาลงอย่างเหนื่อยหน่าย ทั้งห้องโดยสารเงียบสนิทระหว่างที่เครื่องบินกำลังไต่ระดับขึ้นไปยังเพดานบินที่ต้องการ



    "เฮ้ย นารูโตะ" เบาะที่นั่งเขย่ากึงกัง นารูโตะเยี่ยมหน้าออกไปมองคนเรียก คิบะส่งเสียงกระซิบกระซาบเบาๆมา "ซาสึเกะหลับยังวะ"

    "น่าจะมั้ง นิ่งเลย" ว่าพลางเหล่ตาไปมองคนนั่งติดหน้าต่างเนียนๆไม่ให้สาวผมชมพูที่นั่งติดเขาจับได้ว่าลอบมองผู้ชายคนโปรดเธออยู่ อีกฝ่ายหลับตา พิงเบาะนั่งอยู่เงียบๆ "มีอะไรอีกวะ"

    "ขาดขาว่ะ สนเปล่า" นัยน์ตาสีฟ้าพราวระยับเหมือนเด็กที่เห็นของเล่นชิ้นโปรด นารูโตะยกนิ้วโป้งให้คิบะ เข็มขัดที่นั่งถูกปลดออกอย่างรวดเร็ว

    "จัดมา" คนตัวเล็กทำท่าจะลุกออกจากที่นั่ง พอดิบพอดีกับเสียงเย็นๆ นิ่งๆ เรียกเขาเอาไว้ เจ้าของเรือนผมสีทองสะดุ้งนิดหน่อย

    "จะไปไหน นารูโตะ"

    "เล่น ... ไพ่" ว่าพลางเอี้ยวหน้าหันไปมองสายตาคมกริบที่จ้องเขาอย่างคาดโทษ นารูโตะยิ้มแหยๆให้ ซาสึเกะมองนารูโตะ ก่อนจะมองอย่างคาดโทษไปยังคิบะที่ยืนโก้งโค้งชวนนารูโตะอยู่ตรงทางเดินเครื่องบิน

    "อะไร ทำไมต้องมองฉันยังงั้นด้วยวะ ซาสึเกะ" เมื่อรู้ว่าถูกมอง ไอ้คนโดนมองก็รี่บดีเฟนด์ตัวเองอย่างรวดเร็ว "หรือนายอยากเล่นด้วย"

    "ก็ไม่เลว" ว่าแล้วก็ปลดเข็มขัดที่นั่งของตัวเองออกบ้าง สาวผมชมพูที่นั่งข้างๆเห็นก็ทำท่าจะร้องเรียก แต่เธอยังไม่อยากเอาสวัสดิภาพของตัวเองไปเสี่ยง ก็เลยได้แต่ชะงักมือไว้แล้วนั่งกัดเล็บเงียบๆอยู่เพียงคนเดียว รู้สึกว่าตัวเองเป็นหมาหัวเน่าอย่างเห็นได้ชัด บางทีขอสลับที่กับชิกามารุแล้วยอมกัดฟันนั่งข้างยัยอิโนะปากมากอาจดีกับสุขภาพจิตตัวเองมากกว่านั่งดูซาสึเกะและนารูโตะคุยกันข้ามหัวเธอแบบนี้ก็ได้




    ----------------------------------------------------


    Talk ท้ายเรื่องกันนิดนึงค่ะ

    อย่างที่เราได้บอกกันไปก่อนหน้านี้แล้วแหละ ว่า เครื่องบินลำที่พวกโตะนั่งมาเนี่ย ต้นแบบมันคือ Boeing 747-400 V1 ซึ่งลำที่ว่าเนี่ยรับคนได้ประมาณ 400 คนเลยทีเดียว ซึ่งพวกโตะก็นั่งมากันแค่เท่านั้น บวกโบนัสอีกสองท่านคือมาดาระและโอบิโตะ ไม่ถึง 20 คนด้วยนะ(เวอร์จริงไม่ติงนัง มากันแค่นี้ใช้เครื่องใบพัดก็ได้นะ ตรงๆ ฮ่าา)

    และเนื่องด้วยจำนวนผู้โดยสารที่น้อยมาก ไรท์เลยตัดในส่วนที่เป็น Service ที่ควรจะมีลูกเรือมาบริการอาหารว่าง หรือบริการเครื่องดื่มถึงที่ออก จริงๆมันก็ไม่ควรทำแบบนี้หรอกค่ะ ในการที่จะตัด Service ออกไป แต่ต้องบอกเลยว่า เอาไปลงตรงนั้นหมด ไรท์เองก็ขี้เกียจค่ะ เลยเปลี่ยนเป็นให้ลูกเรือนั่งรอพวกนี้ไปสั่งอาหารเมื่อต้องการดีกว่า ถึงจะมักง่ายไปหน่อยก็เถอะ ต้องขออภัยกับความเกียจคร้านตรงนี้จริงๆ ฮ่าา

    สำหรับคำแปลกๆ ที่น่าจะไม่ค่อยได้ยินกัน ไรท์คิดว่าน่าจะเป็นคำว่า Galley คำนี้แปลว่าครัวบนเรือหรือเครื่องบินค่ะ บนอากาศยานเองก็ทำอาหารได้นา ฮ่าา

    เสริมอีกนิดนึง ในส่วนของชั้นโดยสารบนเครื่อง ในเรื่องนี้ไรท์ยึดการบินไทยเป็นโมเดล(อีกแล้ว) ก็จะมี 3 ชั้นโดยสาร เรียงจากแพงสุดไปถูกสุดก็จะเป็น First Class > Business Class > Economy Class ที่เราๆนั่งกันก็เป็น Eco นี่แหละค่ะ


    อ้อ แล้วก็ เครื่องบินแต่ละลำ มีชื่อด้วยนะคะ สำหรับในเรื่องนี้ ลำนี้ไรท์ก็คิดไม่ออกว่าจะให้ชื่ออะไร ก็เลยให้ชื่อสึคุโยมิไปก่อน ฮ่าา

    คิดว่ามีเท่านี้แหละค่ะ ขอให้สนุกกับฟิคนะคะ


    สวัสดีค่ะ



    CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×