ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฉันนี่นะราชาจักรพรรดิ์แวมไพร์จุติใหม่

    ลำดับตอนที่ #1 : โลกมนุษย์ที่แวมไพร์ปกครอง

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 65


    บนโลกมนุษย์ปัจจุบันของเราทุกวันนี้ ได้มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ มีการแข่งขันจากหลายบริษัททั่วทุกมุมโลกมากมายหลายประเทศ แข่งขันกันเพื่อสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อแสดงจุดขายลักษณะเด่นเฉพาะของบริษัทตัวของเองและแสดงถึงประสิทธิภาพของอุปกรณ์ต่างๆที่ผลิตขึ้นเพื่ออำนวยสะดวกแก่ผู้บริโภคที่ได้ซื้อสินค้าจากพวกเขา และนั่นคือ ผลพลอยจากวิทยาการวิทยาศาสตร์ ปัจจัยที่สำคัญต่อมนุษย์  วิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในสังคมโลกปัจจุบันและอนาคต  เพราะวิทยาศาสตร์เกี่ยวข้องกับชีวิตของทุกคนทั้งในการดำรงชีวิตประจำวันและในงานอาชีพต่างๆ  เครื่องมือเครื่องใช้   ตลอดจนผลผลิตต่างๆ  เพื่อใช้อำนวยความสะดวกในชีวิตและการทำงาน   ล้วนเป็นผลของความรู้วิทยาศาสตร์   ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์และศาสตร์อื่นๆ   ความรู้วิทยาศาสตร์ช่วยให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างมาก    พร้อมกันนั้นเทคโนโลยีก็มีส่วนสำคัญมากที่จะให้การศึกษาค้นคว้าความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง

    แต่ไม่ใช่สำหรับที่แห่งนี้ โลกที่มนุษย์อยู่ใต้อำนาจการปกครองของแวมไพร์ มนุษย์เป็นเพียงแค่ ทาส ตัวน้อย ที่ไม่มีพลังวิเศษเทียบชั้นได้กับเหล่าอสูรกายแวมไพร์ เมื่อหลายร้อยปีก่อน หลังจากที่มนุษย์ได้ค้นพบว่า บนโลกของตนได้มีสิ่งมีชีวิตประหลาดโบราณที่ปกครองโลกมาอย่างช้านานก่อนพวกเขา ได้ตื่นขึ้นจากการหลับไหลมาอย่างช้านานนับหลายล้านปีนับตั้งแต่โลกได้ถือกำเนิดขึ้น พวกมันคือ อสูรกายเผ่าพันธุ์ชั้นสูง ที่มีสภาวะร่างกายที่แข็งแกร่งกว่ามนุษย์เป็นอย่างมาก แม้มนุษย์จะมีวิทยาการทางวิทยาศาสตร์ที่มากมายแต่ก็ไม่สามารถผลิตอุปกรณ์หรืออาวุธที่ต่อกรกับแวมไพร์ได้เลยแม้ติดนิดเดียว

    เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแก่มนุษยชาติ พวกผู้นำของเหล่ามนุษย์ในอดีตได้ตัดสินใจ ลงนามเซ็นสัญญายอมตกเป็นเบี้ยล่างของเผ่าแวมไพร์ แม้ช่วงแรกมันจะยากลำบากใจที่จะยอมรับ แต่หลังจากนั้นทั้งสองเผ่าก็ได้ชีวิตกันอย่างสงบสุขเรื่อยมา โดยมีเผ่าแวมไพร์ ขุนนางชั้นสูง 7ตระกลูใหญ่ เป็นผู้ปกครองโลกมนุษย์

    ฉัน หยาน เฟิงหลาน 
    ในตอนนี้ฉันไม่รู้เลยว่า เรื่องทั้งหมดในตอนนี้ เกี่ยวกับโลกใบนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทุกอย่างที่ฉันคุ้นเคยกลับเปลี่ยนและแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง แม้หลายสิ่งหลายอย่างจะดูคล้ายเหมือนเดิมไม่ต่างจากภาพเดิมในความทรงจำ แต่สิ่งรอบตัวกลับดูต่างจากโลกเดิมที่จากมา โลกใบนี้สิ่งต่างๆราวกับไม่ใช่โลกที่ฉันคุ้นเคยนัก

    ตัวฉันชื่อ หยาน เฟิงหลาน เดิมทีฉันเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งไม่ได้มีฐานะที่ดีหรือรํ่ารวยอะไรมากมาย เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาเสเพล อกตัญญู ใช้ชีวิตอย่างสูญเปล่าไปวันๆ พ่อกับแม่ของฉัน พวกท่านทั้งสอง ไม่ได้มีอาชีพที่โดดเด่นอะไรมาก แม่ของฉัน เป็นเพียงแค่แม่บ้านที่
    ร้บงานทำความสะอาดที่พักอาศัยของคนอื่น ส่วนพ่อของฉัน ก็ได้ทำงานเป็นเจ้าของร้านอาหารบางครั้งวันไหนถ้าลูกค้าเยอะแม่ก็จะมาช่วยพ่อทำงาน ร้านของเราเป็นแค่ร้านเล็กๆไม่ใหญ่มาก พวกท่านทั้งสองต้องเหนื่อยลำบากยากเขนเป็นอย่างมากเพื่อพยายามหาเงินเป็นค่าเล่าเรียนมากมายเพื่อให้ฉันได้มีโอกาส เข้ารับการศึกษาสถาบันดีๆเพื่อที่จะได้เรียนจบและมีหน้ามีตาทางสังคมหน้าที่การงานที่ดี และแน่นอน ฉันได้เข้ารับศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศที่เมืองหลวง มังกรมรกต
    สถาบันมหาวิทยาลัย เทียนเฉิง

    แต่ถึงแม้ฉันจะได้เข้ารับการศึกษาที่สถาบันดีๆที่มีชื่อเสียงมากในประเทศ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตัวฉันกระตือรือร้นที่อยากจะศึกษาเล่าเรียนเลยแม้แต่น้อย ในแต่ละวันฉันใช้ชีวิตไปกับการเสพสารติดมีเรื่องชกต่อยมีปัญหากับคนอื่นไปทั่ว

    ฉันมีลูกน้องข้ารับใช้บริวาลมากมายในมหาวิทยาลัย ใครๆก็ต่างเกรงกลัวฉัน ฉันเริ่มก่อตั้งแก๊งทำตัวเยี่ยงอันธพาลหาเรื่องต่อยตี เข้าพับบาร์เป็นว่าเล่น ฉันหลงละเลิงไปกับโลกแสงสีและคิดว่าตัวเองมีอำนาจยิ่งใหญ่อยู่ในกำมือ ต่อให้เกิดปัญหาก็ยังมีพี่น้องหรือคนของฉันมากมายที่จะอยู่คอยช่วยเหลือฉันเมื่อเกิดปัญหา

    แต่ไม่เลยฉันคิดผิด ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันอยากจะขอโอกาสในสิ่งที่ฉันเคยทำพลาดไปในอดีตได้เริ่มต้นใหม่ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าตัวฉัน จะเป็นแค่คนที่ถูก
    หลอกใช้ พอหมดประโยชน์ก็ถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้เยื้อใย ในวันนั้นที่ฉันได้รับรู้ความจริง คือวัน ที่พ่อของฉันต้องเข้ารับการรักษานอนที่โรงพยาบาลอย่างกระทันหัน เนื่องจากป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ส่วนแม่ ก็เป็นเนื้องอกในเซลล์ในสมอง และต้องใช้ค่ารักษาเป็นจำนวนเม็ดเงินมหาศาล

    วันนั้นฉันพยายามโทรยืมเงิน หลายต่อหลายคนที่ฉันเคยคิดว่าพวกเขาเปรียบเสมือนพี่น้องที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันแต่เปล่าเลย มีเพียงแค่ฉันที่คิดว่าพวกเขาเป็นเหมือนญาติคนสำคัญและคิดว่าเขาจะช่วยฉันเมื่อยามลำบากเหมือนที่ฉันช่วยพวกเขาตอนพวกเขาเกิดปัญหา

    ชีวิตของฉันสู่จุดตกต่ำเมื่อพ่อที่เป็นเสาหลักของบ้านเสียชีวิตลงและแม่ก็ได้เริ่มป่วยหนักจนต้องได้นอนที่โรงพยาบาล ฉันต้องทำงานหาเงินอย่างหนักเพื่อนำไปรักษาแม่ที่นอนป่วย แม้จะต้องยอมเสียเหงื่อ อดหลับอดนอน โดยนายจ้างรังแกสารพัดสารเพ ก้มกราบเลียร้องเท้ายังไง ก็ต้องยอม ทุกอย่างก็เพื่อเงิน

    ศักดิ์ศรีและความยิ่งทะนงในตัวฉัน มันหายไปจนแทบหมดสิ้น ฉันเลือกเดินทางผิดมาตลอด ถ้าหากฉันตั้งใจเรียนมากกว่านี้ ชีวิตของฉันคงไม่ลงเอยตกตํ่าถึงเพียงนี้

    หลังจากความพยายามของฉันอย่างหนักมาหลายเดือนสุดท้ายฟ้าก็ยังคงให้ต้องเผชิญหน้ารับกรรมอย่างแสนสาหัส เงินที่ฉันเก็บมาหลายเดือนก็ได้ถูกเพื่อนร่วมงานหลอกขโมยไป นั่นทำให้ฉันฉุนจนโมโหตามไปสั่งสอนเจ้านั้นด้วยความโกรธ ถึงที่บาร์ ในคืนนั้นฉันก็ต้องพบกับข่าวร้ายอีกอย่าง แม่ของฉันได้เสียชีวิตหมดลมหายใจไปจากโลกนี้แล้ว

    จิตใจของฉันแทบแตกสลาย แม้จะมีร่างกายแต่ก็เหมือนไร้วิญญาณฉันดื่มสุราอย่างหนัก เพื่อให้ตื่นจากฝันร้ายนี่สักทีขอให้มันเป็นแค่ฝัน

    คืนหนึ่งฉันได้ไปนั่งดื่มสุราที่ริมทะเลคลื่นซัดลมแรงเข้าชายฝั่ง สายหยาดเม็ดฝนได้โถ่มตกลงมายังพื้นดินราวกับคือนํ้าตาแห่งความโศกเศร้าของตัวฉัน

    ความรู้สึกแตกสลายไม่เหลืออะไรเลยในชีวิตจนแทบอยากจะจบชีวิตตัวเอง ฉันมัวแต่จะพึ่งคนอื่นแต่ไม่เคยที่จะพึ่งตัวฉันเอง นี่คงเป็นผลกรรมซินะในขณะที่กำลังตัดพ้อหมดสิ้นกำลังใจ ฉันก็ได้เหลือบมองเห็นหญิงสาวผมยาวสลวย ลากยาวจนถึงพื้นสวมชุดเดรสสีขาว กำลังเดินลงทะเลไปอย่างช้าๆ

    ณ วินาทีนั้น ฉันได้ร้องตะโกนส่งเสียงถามเธอ ไปหลายต่อหลายครั้ง แต่อาจจะเพราะฟ้าฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก บวกกับคลื่นซัดนํ้ารุนแรง เสียงลมพายุที่พัดโถมเข้ามาทำให้เสียงของฉันอาจไปไม่ถึงหล่อนคนนั้น ฉันไม่รอช้ารีบวิ่งกระโดดลงไปช่วยหญิงสาวปริศนาอย่างไม่ลีรอ

    ดำลงไปชั่วครู่หนึ่งฉันก็พบเธอ หญิงสาวปริศนาที่กำลังจมอยู่ใต้ทะเล ฉันคิดว่าเธอคนนั้นคงอยากที่จะฆ่าตัวตาย เมื่อเห็นดังนั้นฉันจึงอยากช่วยให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อ

    แต่แล้วแม้ฉันจะช่วยเธอให้รอดพ้นจากความตายมาได้ แต่ตัวฉันก็ต้องถูกคลื่นซัดที่โถมเข้ามาแรงจนต้องลอยไปกับตามกระแสนํ้าทะเลและจมดิ่งลึกลงในความมืด ร่างกายของฉันในตอนนี้เริ่มหมดลมหายใจและกำลังจะตายจากโลกใบนี้ ฉันหวังลึกๆเพียงอย่างเดียวว่าอยากที่จะแก้ไขเรื่องราวทั้งหมดในอดีตที่ฉันทำพลาดมาตลอด หากโชคชะตาฟ้าดินให้โอกาสฉัน ฉันขอสาบานกับตัวเอง ฉันจะไม่มีวันเดินตามรอยแบบเดิมซํ้าสองเป็นเด็ดขาด

    และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นับต่อจากนี้ มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นของเรื่องราวของตำนานบทใหม่



    ชี้แจ้งนะครับผม : หลายเดือนหลายสัปดาห์ที่ผ่านทุกคนอาจจะเห็นว่าผมแทบไม่ได้อัพนิยายเลย ซึ่งผมไม่ได้ทิ้งหายไปไหนแต่อย่างใดนะครับ ตัวผมนั้นมีเหตุส่วนตัว เนื่องด้วยอะไรหลายๆอย่าง ทำให้ผมไม่สามารถจะทำผลงานนิยายอัพให้คนที่คอยติดตามเรื่องผมได้อ่านกันได้ 

    1.ผมรู้สึกท้อหมดไฟ ไม่มีอารมณ์ ผมไม่อยากแต่งนิยายลวกๆแบบที่ตัวเองไม่ได้สนุก เพราะถ้าผมไม่สนุกถึงแต่งไป มันก็จะเป็นผลงานไม่ดี คนที่อ่านก็จะไม่รู้สึกสนุกด้วย ขอโทษในจุดนี้ด้วยครับผม

    2.ไม่ค่อยมีเวลาครับ เพราะช่วงที่ผ่านมาติดโปรเจ็ค และอยากพักเอาแรง

    3.ผมติดฝึกงาน ผมทำงานอยู่ที่ร้านคอม ที่ห้าง ซึ่งเริ่มทำงาน ตั้งแต่ 10โมง-1ทุ่ม ทำงาน จันทร์ ถึง เสาร์ พักแค่วันอาทิตย์ ซึ่งผมเลยไม่ค่อยมีเวลา

    แต่ต่อจากนี้จะพยายามทำผลงานออกมาให้ไวและไม่ทิ้งหายไปไหน ขอบคุณครับ เรื่องเดิมๆจะกลับมาอัพแน่นอน

    โปรดติดตามต่อไป : 
            ฝากกดหัวใจกดติดตามเป็นกำลังให้นักเขียนด้วยนะครับ




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×