ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SNSD] I'm Just In Love (Yoonsic ft.Taeny)

    ลำดับตอนที่ #16 : Chapter 15

    • อัปเดตล่าสุด 12 ธ.ค. 59


    Chapter 15































    “ยุนรักสิก้า  เป็นแฟนกันนะ”






    “.......”





    เห็นร่างบางเงียบอยู่พักหนึ่ง ยุนอาถึงกับฉายแววตาเศร้าออกมา  เพราะคิดว่าร่างบางคงไม่ได้คิดเหมือนกัน  

    //ไม่น่าเลยยุนอา เจ็บดีไหมล่ะ //



    “เอ่อ..คิดซะว่าเมื่อกี้ยุนไม่ได้พูดแล้วกันนะ”

    ยุนอาพูดด้วยเสียงเศร้า  กำลังจะลุกออกไป

    แต่เจสสิก้าคว้ามือไว้   


    “ยุน~  ดูให้หน่อยสิ มันเหมือนมีอะไรเข้าตาอ่ะ”  


    ยุนอาจำใจขยับเข้ามาใกล้ร่างบาง

    เพ่งมองไปที่ดวงตาร่างบางเพื่อหาสิ่งแปลกปลอม


    “ไม่เห็นมีอะไรเลยนะ”


    “ขยับเข้ามาใกล้อีกสิ อยู่ใกล้อย่างนั้นจะเห็นได้ไง”



    ยุนอาแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ยอมขยับเข้าไปใกล้ร่างบางอีก

    ถึงแม้จะอยู่ใกล้กันเพียงแค่คืบ  แต่ตอนนี้ทั้งสองรู้สึกได้ถึงลมหายใจของอีกคน



    ยุนอารู้สึกว่าตัวเองประหม่าเอามากๆ  เมื่อกี้เพิ่งจะบอกความรู้สึกตัวเองออกไป

    แล้วจะให้มาอยู่ใกล้กันแบบนี้อีก หัวใจเต้นระรัว  

    ร่างสูงต้องใช้ความอดทนอย่างมากเพื่อที่จะไม่เผลอไปสัมผัสคนตรงหน้า  



    ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย

    ร่างบางช้อนตามองริมฝีปากแดงของคนตรงหน้า  มันเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่าง

    ให้เจสสิก้าอยากลองสัมผัสมันสักครั้ง


    ยุนอาไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ คนตรงหน้าคิดจะทำอะไรอยู่   

     เพราะมัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาอดกลั้นอารมณ์ของตัวเองไว้



    เจสสิก้าค่อยๆโน้มตัวไปประกบริมฝีปากแดงตรงหน้า   

    ร่างบางไม่ได้ลุกล้ำแต่อย่างใด เพียงแต่แค่กดย้ำไปที่ริมฝีปากแดงนั่น  

    ก่อนที่จะผละออกมา  


    “แค่นี้คงจะเป็นคำตอบได้นะ”

    พูดเองก็เขินเอง ซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำของตัวเองไว้ใต้ผ้าห่มหน้า  ไม่กล้าหันไปมองอีกคน  




    ยุนอานิ่งไปตั้งแต่ที่ริมฝีปากบางมาสัมผัสแล้ว   สมองเริ่มประมวลผลจนมาถึงคำพูดที่ร่างบางเอ่ยออกมา   

     หัวใจเริ่มสูบฉีดเลือดเร็วขึ้น จนเสียงดังแทบจะทะลุออกมา    

    พอรู้ความหมายที่อีกคนสื่อออกมา

    ทำให้มันหยุดยิ้มไม่ได้เลย


    “สิก้าพูดจริงใช่ไหม”   

    ถึงยังไงก็อยากจะถามร่างบางดู  


    เจสสิก้าโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม หันมามองหน้ายุนอาที่ตอนนี้หน้าแดงเหมือนลูกตำลึงไม่แพ้กัน  

    ก่อนจะขยับเข้าไปจุ๊บที่ริมฝีปากแดงนั่นอีกครั้ง   จนหน้าที่แดงอยู่แล้วของยุนอาแดงขึ้นไปอีก


    ที่จริงคนที่จะเขินต้องเป็นเธอไม่ใช่หรอ  แต่เธอรู้สึกว่าร่างสูงตรงหน้าจะเขินมากกว่าเธอเสียอีก  



    “แค่นี้พอรึยังคะ”  เสียงหวานเอ่ยขึ้นก่อนจะยกยิ้มมุมปาก



    “อะ..อื้อ”

    “ต่อไปนี้เราเป็นแฟนกันแล้วนะ^^”   




    ทั้งสองสื่อสารกันผ่านสายตา  

    //ดูแลหัวใจของฉันดีๆนะยุนอา//

    //ต่อไปนี้ฉันจะดูแลเธอเองนะ สิก้า//































    หลังจากที่สองคนรู้ใจกันแล้ว ก็เข้าสู่โหมดสวีทหวาน   

     จนแทบจะลืมเรื่องที่ผ่านมาไม่นานนี้    

    เจสสิก้าขอให้ยุนอานอนบนเตียงด้วยกัน

    โดยอ้างว่าข้างนอกมันหนาวเลยให้มานอนด้วยกันก็ได้   เธอไม่ถืออยู่แล้ว

    แต่ยุนอาไม่ยอมท่าเดียว   บอกว่าถึงจะเป็นแฟนกันแล้ว   แต่เรื่องแบบนี้เขาก็อยากให้เกียรติเธอ

    สรุปคืนนี้ยุนอาเลยได้นอนนอกห้องคนเดียว

    แต่ตลอดทั้งคืนยุนอาก็แอบเข้ามาดูร่างบางเป็นครั้งครา  แต่แทบไม่ได้นอนเลยทีเดียว

    เพราะเจสสิก้านั้นไข้ขึ้น ตัวร้อนจี๊  ยุนอาเลยต้องคอยตื่นขึ้นมาเช็ดตัวให้ทุกชั่วโมง  แต่ไข้ก็ไม่มีวี่แววว่าจะลดเลย









    “สิก้าๆ  ยุนว่าตื่นมาทานยาก่อนนะ  ไข้ไม่ลดเลย”

    ยุนอาจำเป็นต้องปลุกร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงขึ้นมา   ตอนนี้ก็ใกล้จะเช้าแล้ว แต่ร่างบางยังไม่มีท่าทีว่าตัวจะหายร้อนเลย   




    “อือออ ไม่เอาาไม่อยากกินยา”


    “ตื่นมากินยาก่อนนะครับคนเก่ง เดี๋ยวจะไม่สบายหนักกว่าเดิมนะ”

    เด็กดื้อแบบนี้  มันต้องค่อยๆกล่อมให้กินยา


    เจสสิก้าชะงักไปครู่นึง คิดว่าจะกินยาดีหรือไม่  เธอเกลียดการป่วยแล้วต้องกินยาที่สุด เพราะมันขมมากๆ




    “อื้ออ ไม่เอาา ไม่กินได้มั้ยคะ”

    เจสสิก้าพูดเสียงอ้อนๆ

    พูดด้วยเสียงแบบนี้ ไหนจะทำท่าเหมือนลูกแมวกำลังอ้อนนั่นอีก  ถ้าไม่คิดว่าป่วยนะยุนอาจะจับมาบิดแก้มให้หน่ำใจเลย  




    พูดถึงขนาดนี้แล้ว มีหรือยุนอาจะห้ามได้ ก็ต้องยอมไปก่อน





    “งั้นเช็ดตัวก่อนนะ เผื่อไข้จะลดบ้าง”

    เจสสิก้าพยักหน้ายอมให้ร่างสูงเช็ดตัวให้   ยุนอาก็เช็ดตัวให้เจสสิก้าด้วยความอ่อนโยน

    เช็ดไปเช็ดมาถึงช่วงที่ต้องเช็ดด้านใน   แค่คิดยุนอาก็หน้าแดงจนลามมาถึงหู



    เจสสิก้าเหมือนรู้ทันว่ายุนอาคิดอะไรอยู่ เลยเอ่ยดักทางไว้ก่อน

    “อะ..เอ่อ เดี๋ยวที่เหลือสิก้าทำเองก็ได้ เสร็จแล้วจะเรียก”




    เจสสิก้าตอนนี้ก็หน้าแดงไม่แพ้ยุนอาเลย



    “อืม งั้นเสร็จแล้วเรียกนะ เดี๋ยวยุนไปรอข้างนอก”































    ติ๊ดๆๆ   ติ๊ดๆๆๆ  ติ๊ดๆๆ   ติ๊ดๆๆๆ  (เสียงโทรศัพท์)

    เสียงโทรศัพท์ของยุนอาดังขึ้นของเช้าวันใหม่  หลังจากที่เมื่อคืนเข้ามาจัดการเช็ดตัวให้คนบนเตียงเรียบร้อย

      ก็กลับไปนอนข้างนอกเหมือนเดิม


    “ฮัลโหล ว่าไง”

    ยุนอากรอกเสียงไปตามสายด้วยความงัวเงียสุดๆเพราะเมื่อคืน

    แทบจะไม่ได้นอนเพราะต้องดูแลร่างบาง



    “นี่!! ไอ้ยุน ไปอยู่ไหนมาหา!! รู้ไหมคนอื่นเขาตามหาแกจนทั่วเนี๊ย!!”


    ยังไม่ทันได้ตื่นดี ไอ้เพื่อนตัวดีก็พ่นไฟใส่เลย


    “เออๆ  นี่แกพูดเบาๆหน่อยได้ไหม  แก้วหูจะแตกแล้วเนี่ย”


    “เออ  งั้นก็บอกมาว่าเมื่อคืนแกไปอยู่ไหนมา”


    “เอ่อ..ก็อยู่คอนโดไงวะ”

    ยุนอาตอบอ้อมแอ่ม ไม่อยากให้เพื่อนตัวดีรู้เท่าไร


    “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ทัน  เมื่อคืนแกยังไม่กลับเข้าห้องเลย ทำไมฉันจะไม่รู้  ไปนอนที่ไหนบอกมาเดี๋ยวนี้”


    //โว้ะไอ้นี่ ถามมากจริง//


    “เออๆ บอกแล้วๆ  อยู่คอนโดเจสสิก้า”


    “......”


    //อ้าว เงียบอีก นี่ก็ไม่ได้พูดอะไรผิดนี่หว่า//



    “แล้วเจสสิก้าล่ะ”

    แทยอนถามเสียงเรียบ


    “ยังไม่ตื่นเลย”


    “อย่าบอกนะว่า...แกกับเจสสิก้า...”

    แทยอนเว้นวรรคไว้นิดนึง ก่อนจะพูดสิ่งที่ตัวเองคิด..


    “มีอะไรกันแล้ว”






    “เฮ้ย! ไอ้บ้า ไอ้ใจอกุศล ไอ้ ไอ้.. หึ่ย  แกจะบ้าหรอใครจะไปทำแบบนั้นล้ะ   พูดมาได้ไง ให้เกียรติน้องเขาหน่อยดิ ไอ้นี่...”



    “เออ ก็แค่แหย่เล่นป้ะวะ ทำเป็นร้อนตัว พ่อคนดีของสังคมเออแล้วจะมาเรียนไหมวันนี้”


    “คงไม่หรอก สิก้าเหมือนจะไม่สบายด้วย ฝากแกบอกฟานี่ด้วยแล้วกันนะ”


    “อืมได้ เดี๋ยวจะบอกให้”

    “ฉันยังรอฟังคำอธิบายจากแกอยู่นะเว้ย เย็นนี้ให้เคลียร์ๆ”

    แทยอนพูดด้วยเสียงจริงจัง  



    “อือๆ เดี๋ยวกลับไปจะเล่าเองแหละ”

    หลังจากที่วางสายจากแทยอน  ยุนอาเลยเลยเข้าไปดูเจสสิก้าในห้องอีกครั้ง    

    เห็นเจสสิก้าหลับอยู่เลยไม่อยากปลุก  เพราะสีหน้าดูอ่อนเพลียมาก  เลยเปลี่ยนจุดหมายเดินไปที่ห้องครัวแทน  

    เพื่อที่จะทำอาหารไว้ให้ร่างบางตอนตื่นมา






































    10.37 น.



    ฝุด ฝุด ~

    กลิ่นหอมของอาหารโชยมาถึงเตียงนอนในห้อง ส่งผลให้คนที่หลับอยู่ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา


    “อืมมมมมม หอมจังงง”   เจสสิก้าค่อยๆลืมตาขึ้นมา  

    ก็ได้กลิ่นที่หอมน่ากินนี้ลอยมาแตะจมูก   ตัดสินใจเดินไปที่ห้องครัว

    แต่พอเท้าสัมผัสพื้นเท่านั้นแหละ  ก็เกิดอาการเจ็บแปล๊บ  จนต้องอุทานออกมา


    “โอ๊ย!!”


    หารู้ไม่ว่าการที่เธอแค่ร้อง  โอ๊ย  แค่นั้นทำให้ร่างสูงที่อยู่ในห้อง   

    กำลังเตรียมอาหารอยู่ รีบวิ่งเข้ามาดูร่างบางทันที


    “สิก้า!”  

    ยุนอารีบวิ่งมาพยุงให้เจสสิก้าไปนั่งที่เตียงทันที  พร้อมกับบ่นอีกคน   

    “ยังเจ็บแผลอยู่เลย ทีหลังจะลุกไปไหนให้เรียกยุน เข้าใจไหม”


    เจสสิก้าที่โดนยุนอาบ่นเพียงแค่อมยิ้มออกมา

     ดูเหมือนยุนอานั้นจะเป็นห่วงเธอจนกินไปหรือเปล่า

    แต่เธอก็มองว่าเขาน่ารักดี จะมีผู้ชายสักกี่คนที่เป็นแบบนี้นะ

    “นั่งรอตรงนี้ก่อนนะ ยุนทำอาหารไว้ เดี๋ยวไปยกมาให้”

    พูดเสร็จยุนอาก็รีบเดินไปหยิบถาดอาหารที่เตรียมไว้ทันที



    จัดแจงอะไรเสร็จแล้ว ตอนแรกเจสสิก้าบอกว่าจะกินเอง

     แต่ยุนอาไม่ยอม อ้างเหตุผลว่า เพิ่งผ่านเรื่องไม่ดีมา

    เดี๋ยวเขาจะดูแลเธอเอง   เพียงแค่นั้นแหละ เจสสิก้าก็ยอมให้ยุนอาป้อนสมใจ



















    ----------------------------------------------------------------------------------------------------



























    xolovestephi:  อยู่ไหนแล้วคะ

    taeyeon_ss: ใกล้จะถึงแล้วครับ  ตอนนี้ติดไฟแดงอยู่

    xolovestephi: งั้นเดี๋ยวฟานี่ไปรอที่หน้าบ้านนะคะ

    taeyeon_ss: ครับบบ




    “คุณพ่อคะ ฟานี่ไปเรียนก่อนนะคะ พี่แทยอนมารับแล้ว”   

    ทิฟฟานี่บอกลาพ่อตัวเองด้วยเสียงร่าเริง


    “ตั้งใจเรียนนะลูก  แล้วก็เป็นเด็กดีด้วยรู้ไหมคะ”

    คุณฮวังหัวหน้าครอบครัวเอ่ยกับลูกสาวสุดที่รัก


    “ค่าา ฟานี่จะตั้งใจเรียน แล้วก็เป็นเด็กดีนะคะ”

    “งั้นฟานี่ไปเรียนก่อนนะคะคูณพ่อ รักนะคะ”

    ก่อนจะไปทิฟฟานี่ก็เข้ากอดคนเป็นพ่อก่อนจะออกไปหาคนที่มารอด้านนอก





    หลังจากบอกลา แล้วทิฟฟานี่ก็ตรงดิ่งมาหาคนที่เพิ่งขับรถมาถึง  


    “รอนานไหมคะ”

    “นานมากครับ นานจนแทบจะทนไม่ไหว”


    แทยอนแกล้งทำเสียงเบื่อหน่าย  จนทิฟฟานี่รู้สึกผิดที่ปล่อยให้แฟนรอนาน

    แค่หลังจากที่แทยอนเอ่ยประโยคถัดมา ก็ทำให้ทิฟฟานี่กลับมายิ้มกว้างอีกครั้ง



    “เพราะอยากเจอฟานี่จนจะทนแทบไม่ไหวแล้วค้าบบ”

    แทยอนเอ่ยเสียงทะเล้น

    ทิฟฟานี่ได้ยินเสียงทะเล้นของอีกคน เลยใช้มือฟาดไปที่ต้นแขนเบาๆ ไม่ได้จริงจังนัก



    “ คนบ้า เล่นอะไรก็ไม่รู้ ฟานี่นึกว่าพูดจริงๆซะอีก”




    “ก็คนมันคิดถึงนี่ครับ คิดถึงมากๆๆๆ”

    แทยอนเอื้อมมือไปกุมแก้มทั้งสองข้างของทิฟฟานี่แล้วโยกไปมารัวๆ

    ในรถอบอวนไปด้วยเสียงหัวเราะของทั้งสองคน



    “ฟานี่ว่าเรารีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวจะเข้าเรียนสายเอา”

    “โอเคครับ”
















    ----------------------------------------------------------------------------------------------------



















    หลังจากที่ทานอาหารเช้าที่ยุนอาเตรียมไว้ให้หมดเรียบร้อยแล้ว  

    เจสสิก้าก็เหลือบไปเห็นเข็มนาฬิกา

    ชี้ที่เลข 11  ร่างบางเด้งตัวขึ้นอย่างเร็ว แต่ยังไม่ทันจะได้ยืน ก็ถูกยุนอากดลงให้นั่งลงที่เดิม




    “ยุนสิก้าสายแล้ว เดี๋ยวเข้าเรียนไม่ทัน”

    ร่างบางพูดเสียงออกจะงอแงนิดๆ  


    “วันนี้ไม่ต้องไปเรียน อยู่ที่นี่แหละ”



    “ไม่ได้นะ วันนี้มีพรีเซนท์งานคู่กับฟานี่ด้วย ห้ามขาดเด็ดขาด”

    เจสสิก้าทำท่าจะลุกขึ้นอีกครั้ง แต่ยุนอาไม่ยอม  ดันให้เจสสิก้านั่งลงที่เดิม

    แต่เจสสิก้าก็ไม่ยอม ยังฝืนที่จะลุกขึ้นไปแต่งตัวอีกครั้ง

    คราวนี้ยุนอาเลยใช้ไม้แข็ง ดันให้ร่างบางนอนราบไปบนเตียงโดยตัวเองอยู่ด้านบน






    “ยุนบอกว่าไม่ต้องไปไง เข้าใจไหม”

    ยุนอาพูดเสียงเรียบ

    “ไม่เข้าใจ วิชานี้มันสำคัญมากนะครั้งสุดท้ายแล้วด้วย”

    แต่มีหรือที่เด็กดื้ออย่างเจสสิก้าจะยอม  ถ้าเธอไม่ไปวันนี้มีหวังเธอได้ติด F วิชานี้แน่

    เจสสิก้าพยายามดันตัวให้ลุกขึ้นไปอีกครั้ง เพราะยุนอาไม่ได้ดันเธอไว้แรงเท่าไร




    แต่เธอคงคิดผิด เพราะยุนอานั้นนอกจากจะรู้ทันแถมยัง

    ใช้แรงกดเธอลงมากกว่าเดิมเสียอีก แล้วยังโน้มตัวเข้ามาใกล้อีกด้วย  

    ตอนนี้เจสสิก้าแทบจะลืมเรื่องที่จะไปเรียนแล้ว    เพราะยุนอาโน้มลงมาใกล้มาก

    ทำให้หัวใจเธอนั้นเริ่มกลับมาเต้นรัวบวกกับกลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวยุนอา  


    มันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอม  แต่มันเป็นกลิ่นที่ติดอยู่กับตัวของยุนอาต่างหาก

    เพราเมื่อคืนเขาก็ค้างที่นี่  ชุดก็ชุดเดิม คงไม่มีเวลาไปพรมน้ำหอมหรอก   

    เจสสิก้าเหมือนตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะ

    ก่อนที่จะรู้สึกตัวเมื่อได้ยินเสียงที่อ่อนลงกว่าก่อนหน้านี้ของยุนอา





    “เพราะว่าสิก้ายังเจ็บอยู่ ยุนไม่อยากให้สิก้าเป็นอะไรไปอีก รู้ไหมครับ”


    เสียงของยุนอานั้นช่างฟังดูอบอุ่นเหลือเกิน  เจสสิก้ารู้สึกได้ว่าร่างสูงเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน

    เลยต้องยอมทำตามที่ยุนอาบอก



    “ไม่ไปแล้วก็ได้”

    เจสสิก้าพูดเสียงหงอย เพราะยังเสียดายโอกาสที่จะพรีเซนท์งานอยู่




    “ไม่ต้องห่วงหรอกเรื่องนั้นเดี๋ยวยุนจัดการให้”

    ยุนอากลับมาพูดโทนเสียงปกติเหมือนเดิมแล้วเพื่อให้เจสสิก้าคลายกังวลเรื่องงาน

    แต่ก็ยังไม่ยอมถอยออกไป




    “อือ”

    “สิก้าว่ายุนลุกออกไปก่อนดีไหม”

    ตอนนี้หน้าเจสสิก้าเริ่มแดงนิดๆ เพราะว่าท่าที่ยุนอากับเธอตอนนี้มันค่อนข้างชวนคิดลึก



    ยุนอาเห็นเจสสิก้าคลายกังวงแล้ว แถมหน้ายังออกแดงๆนิดๆ

    ก็ยิ่งอยากแกล้งร่างบางอีก  โน้มเข้าไปใกล้จนร่างบางชะงักไปนิดหนึ่ง



    “ยุนว่า...ไหนๆก็ไม่ได้ไปเรียนแล้ว เรามาหาอะไรทำกันดีไหม”



    “จ..จะทำอะไรน่ะยุนอา”

    ยิ่งยุนอายิ่งแกล้ง เจสสิก้าก็ยิ่งหน้าแดงมากขึ้นไปอีก

    คิดไปต่างๆนานาว่าเขาจะทำอะไร
















    “ก็…...ดูหนังกัน”



    [แป๊วววว  จองเจสเธอนี่คิดไปไกลมากเลยนะจ๊ะ]



    แล้วก็ที่ว่าจะไปดูหนังเนี่ย ไม่ได้ไปดูหนังที่โรงหนังแต่อย่างใด

     ยุนอาพาเจสสิก้ามานั่งที่โซฟา

    แล้วจัดการไปหยิบกล่องหนังมาให้ร่างบางช่วยกันเลือก

    ที่จริงกล่องหนังพวกนั้นเธอไม่ได้เป็นคนซื้อเองหรอก ยัยทิฟฟานี่ต่างหากที่ซื้อมาให้

    บอกว่าให้เอาไว้ดูตอนที่อยู่คนเดียว

    แต่เจสสิก้าก็ไม่เคยคิดจะเปิดดูเลยสักครั้ง

    “ดูเรื่องไหนดีน้าาา”

    ยุนอาหยิบขึ้นมาดูประมาณ 4-5 เรื่อง  ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าน่าจะหาอะไรทานระหว่างดูหนัง







    “สิก้าเลือกรอก่อนนะ เดี๋ยวยุนจะไปทำข้าวโพดอบมาให้”

    “ใส่เนยด้วยนะ”


    “ได้ค้าบบ”







    หลังจากยุนอาเดินไปทำข้าวโพดอบตามสั่ง เจสสิก้าก็หยิบกล่องหนังขึ้นมาเลือกรอยุนอา

    เจสสิก้ารู้สึกดีที่มียุนอาคอยอยู่ข้างๆ คอยดูแลเธอ หลังจากที่เธอเพิ่งจะผ่านเรื่องร้ายๆมา

    นึกย้อนไปจนถึงตอนที่ร่างสูงขอเธอเป็นแฟน  มันเป็นอะไรที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเลยจริงๆ

    เพราะเขานั้นช่างอบอุ่นกับเธอมาก  อ้อมกอดของเขานั้นทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย

    เธอจึงไม่ลังเลที่จะตอบตกลง



    “ยังเลือกไม่ได้อีกหรอ”

    เสียงของยุนอาทำให้เจสสิก้าหยุดความคิดนั้นไว้แต่เพียงเท่านั้น แล้วหันมายิ้มให้ยุนอา


    “ยุนเลือกสิ สิก้าไม่ค่อยรู้จักเรื่องพวกนี้เท่าไร”

    เจสสิก้าบอกไปตามตรงเพราะหนังพวกนี้ทิฟฟานี่เป็นคนซื้อและขนมาไว้ให้เธอ

    แต่เธอก็ไม่เคยคิดจะเปิดดูเลยสักเรื่องเดียว


    “งั้นหรอ ยุนก็ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เหมือนกัน   งั้นมาช่วยกันเลือกดีกว่าเนอะ

    ดูซิมีเรื่องอะไรบ้าง   อืม.. Fifty Shades of Grey,   

    Basic instinct , Atonement, The Notebook, Lie With Me

    ยุนไม่รู้จักเรื่องพวกนี้เลย งั้นเรามาดูทีละเรื่องเนอะ”


    เจสสิก้าพยักหน้ารับ เพราะเธอก็ไม่รู้จักเหมือนกัน


    ยุนอาหยิบเรื่อง Basic instinct  ไปเปิดเป็นเรื่องแรก

    แล้วก็เดินไปปิดม่านและหรี่ไฟลงเล็กน้อย ให้บรรยากาศเหมือนได้ไปดูหนังที่โรงหนังจริงๆ

    เปิดเสร็จก็เดินมานั่งโซฟาตัวเดียวกับร่างบาง โดยที่มีหมอนกั้นอยู่1ใบ




    ทั้งสองดูเหมือนจะตั้งใจดูหนังเรื่องนี้มาก  ไม่มีใครหันมามองกันเลยแม้แต่น้อย

    เพราะอะไรน่ะหรอ เพราะว่าฉากหนังที่กำลังเล่นอยู่นี่สิ มันค่อนข้างที่จะติดเรท ไม่สิติดเรทเลยล่ะ

    เพราะพระนางเขากำลังเมกเลิฟกัน  ทั้งเสียงทั้งภาพมาเต็ม

    เจสสิก้าเลยหันไปบอกให้ยุนอาเปลี่ยนเรื่องอื่นดีกว่า  





    “ยุนน สิก้าว่าดูเรื่องอื่นกันเถอะ”

    เจสสิก้าเอ่ยกับยุนอาปกติ แต่ดูเหมือนยุนอาจะรู้สึกว่าเสียงของเจสสิก้านั้นช่างหวานหูเหลือเกิน

    ไหนจะฉากเมื่อกี้อีก






    ยุนอาเดินไปหยิบอีกเรื่องที่วางอยู่บนโต๊ะมาเปิด

    เกิดเสร็จก็กลับไปนั่งที่เดิม โดยมีหมอนใบเดิมกั้นไว้  

    แต่ยังไม่ทันได้ดูเท่าไร  ยุนอาก็ขอเดินไปดูข้าวโพดที่อบไว้ก่อน เจสสิก้าก็พยักหน้า

    เพราะกำลังตั้งใจดูหนังที่เพิ่งเปิดขึ้นมา






    “เสร็จแล้วววว ข้าวโพดอบได้แล้วครับ”

    ยุนอาถือข้าวโพดอบที่ตัวเองทำมานั่งลงที่เดิมข้างๆร่างบาง  

    แต่ตอนนี้ร่างบางหยิบหมอนใบนั้นไปไว้กับตัวเองแล้ว  ก็เลยได้นั่งใกล้กันมากขึ้น  

    ยุนอาสังเกตเห็นเจสสิก้าหน้าออกแดงๆหน่อยๆ  เลยนึกว่าไข้จะขึ้นอีก

    เลยเอื้อมมือไปวัดไข้ที่หน้าผากร่างบาง  จนเจสสิก้าสะดุ้งเล็กน้อย  


    “แค่จะลองวัดดูน่ะ ว่าตัวหายร้อนยัง เห็นหน้าแดงๆ”



    “อะ..เอ่อ ไม่ได้ตัวร้อนหรอก หายแล้ว”

    แต่เหตุผลที่เจสสิก้าหน้าแดงก็คือฉากจูบที่ดูดดื่มของพระเอกกับนางเอกเมื่อกี้ก่อนที่ยุนอาจะเข้ามานี่แหละ  

    เป็นสาเหตุที่ทำให้เจสสิก้าหน้าแดง


    แต่มีหรือที่ยุนอาจะยอม เอื้อมมือไปวัดไข้ที่หน้าผากร่างบางให้แน่ใจว่าหายแล้วจริงๆ

    “อืม ตัวไม่ร้อนแล้วล่ะ”

    “กินนี่สิ อร่อยนะ ทำสุดฝีมือด้วยแหละ”



    ยุนอาเลื่อนข้าวโพดอบไปตรงหน้าร่างบาง  ร่างบางก็หยิบมากินปกติ






    แล้วทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง  ทั้งสองคนตั้งใจดูกันมาก  ไม่มีใครปริปากพูดเลยสักคน

    แต่ความเย็นของเครื่องปรับอากาศในห้องนั้นทำให้ทั้งคู่ขยับเข้าหากันมากขึ้น จนใกล้ชิดกัน

    มากขึ้น   เจสสิก้ารู้สึกเมื่อยเลยเอนหัวพิงไหล่ของยุนอา   ยุนอารู้สึกเหมือนมีแมวนอนมาซบตรงไหล

    หันไปมองพร้อมมอบรอยยิ้มอบอุ่นให้ ก่อนจะหันไปสนใจหนังที่กำลังเล่นอยู่






    หนังดำเนินเรื่องมาจนถึงกว่าครึ่งเรื่อง  ฉากบนจอภาพได้ฉายขึ้นอีกครั้ง

    ฉากที่พระนางกำลังเมกเลิฟกัน  แต่ครั้งนี้ภาพมันเสมอจริง มาทั้งเสียงมาทั้งภาพ

    จนยุนอานั้นรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวตรงส่วนกลาง  หันลงมามองร่างบางที่ซบไหล่เขาอยู่

     ยุนอาคิดว่าเจสสิก้านั้นน่าจะเผลอหลับไปแล้ว   

    แต่คงจะคิดผิด เพราะเจสสิก้านั้นยังจ้องมองฉากนั้นบนจออยู่เลย





    //ไม่ได้นะยุนอา น้องยังเด็กเว้ย//  

    ยุนอาพยายามระงับอารมณ์ที่มันพลุ่งพล่านตอนนี้  

     แต่สายตานั้นกลับจ้องมองไปที่ใบหน้าร่างบาง

    อย่างไม่ละสายตา เหมือนถูกมนต์สะกดยังไงยังงั้น


    และด้วยความบังเอิญหรืออย่างไรก็แล้วแต่  

     ร่างบางก็หันหน้ามาพอดี

    ทั้งสองมองตากัน  แล้วใบหน้าก็่อยๆขยับเข้าหากันเรื่อยๆ

    จนรู้สึกถึงลมหายใจของกันและกัน

    ยุนอามองตาร่างบางเป็นเชิงขออนุญาตก่อน แล้วเจสสิก้าก็ไม่ได้ประท้วงอะไร

     ริมฝีปากแดงของร่างสูงบรรจงจูบลงไปที่ริมฝีปากบางอย่างแผ่วเบา  ร่างบางปล่อยให้มันเป็นไปตามอารมณ์

    เสียงของหนังที่ฉายบนจอก็ยังดำเนินฉากรักของพระนางไปเรื่อยๆ

    ทำให้อารมณ์ของยุนอาพลุ่งพล่านมากกว่าเดิม รู้สึกได้ถึงสิ่งที่คับแน่นอยู่ใต้กางเกง






    “ อื้มมมม”  

    เสียงของความพอใจเล็ดลอดออกมาจากร่างบาง





    ยุนอาผละออกมาให้ร่างบางได้หายใจ ก่อนจะเปลี่ยนจากจูบที่แสนหวานมาเป็นจูบที่เผ็ดร้อน

     จนแทบจะลืมหายใจ  ลิ้นร้อนยังหยอกล้อกันไม่มีใครยอมใคร  

    ร่างสูงดันร่างบางให้นอนราบไปบนโซฟา ก่อนจะตามไปประกบริมฝีปากบางอีกครั้ง

     มือหนาค่อยๆไล่ขึ้นไปปลดกระดุมออกทีละเม็ด  โดยที่ร่างบางไม่รู้ตัวเลย





    “อื้มมมมม อืออ”







     


    ตอนนี้ทั้งสองปล่อยให้มันเป็นไปตามอารมณ์ของทั้งคู่  โดยที่มีเสียงจากจอภาพเป็นเชื้อเพลิงกระตุ้นอารมณ์ของทั้งสอง

    จนตอนนี้กระดุมเสื้ออันสุดท้ายของร่างบางถูกร่างสูงจัดการไปเรียบร้อยแล้ว …….



    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ..

    ..............................TBC























    ------------------------------------------Talk-------------------------------------------
    หายไปนานเลย  คิดถึงกันไหมเอ่ยยย  หวังว่าตอนนี้จะถูกใจกันนะคะ 
    ตอนต่อไปมาลุ้นกันนะว่าเขาจะได้กันหรือเปล่า 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×