คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 13
Chapter 13
คอนโด หรู ของเจสสิก้า
ติ้งงงงง ติ้งงงงงงงง
(เสียงออด)
เสียงออดดังรัวๆอยู่หน้าประตู เจสสิก้าที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ
ยังไม่ทันได้เเต่งตัวต้องเดินออกไปเปิดประตูด้วยชุดคลุมอาบน้ำ
เพราะคิดว่าน่าจะเป็นทิฟฟานี่
“มาแล้วววว”
ทันทีที่เปิดประตูออกมาก็พบกับความว่างเปล่า
แทนที่จะเป็นหน้าเพื่อนสาวแต่กลับมีเพียงช่อดอกไม้และซองจดหมายสีม่วง
วางอยู่ด้านหน้าประตู
มองออกไปด้านนอก รอบๆก็ไม่พบใครเลย
จึงกลับเข้าไปในห้อง เปิดซองจดหมายก็พบกับข้อความเขียนไว้ว่า
“ฉันเฝ้ามองเธออยู่นะสาวน้อย แล้วเราจะได้พบกันอีก…”
ข้อความบนจดหมายนั้นทำให้ร่างบางวิตก และหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย
ซ้ำยังไม่ระบุที่มาและผู้ส่งอีกด้วย กลัวว่าจะเป็นพวกโรคจิต..
“ใครกันนนะ..”
“อาจจะเป็นจดหมายแกล้งเล่นก็ได้ สิก้าแกจะกลัวทำไมนะ”
แต่ก็พยายามไม่คิดอะไรกับจดหมายนั่นมากเกินไป เพราะอาจจะเเค่มีคนมาเล่นตลกกับเธอก็ได้
.
ผ่านไป 1 สัปดาห์
ชีวิตของเจสสิก้านั้นดำเนินไปตามปกติ นับตั้งแต่วันที่มีจดหมายแปลกๆกับช่อดอกไม้นั้น
เธอก็เล่าเรื่องนี้ให้ทิฟฟานี่ฟัง ซึ่งบางวันทิฟฟานี่ก็จะมานอนเป็นเพื่อนที่คอนโด
แต่หลังจากวันนั้นก็ไม่มีอันตรายใดๆเกิดขึ้นกับเธอเลยเเม้แต่น้อย
จนทำให้เธอนั้นลืมเรื่องจดหมายนั่นไปแล้ว เพราะคิดว่าเป็นแค่การแกล้งเล่น...
“ฟานี่แกจะไปไหนต่ออีกหรือเปล่า”
เจสสิก้าถามเพื่อนสาวหลังจากหมดคาบเรียนวิชาสุดท้าย
เพราะเมื่อเช้าทิฟฟานี่อาศัยรถเธอมาด้วย
“แกกลับก่อนเลยก็ได้ เดี๋ยวฉันจะกลับพร้อมพี่แท”
“จ่ะๆ เดี๋ยวนี้อะไรๆก็พี่แท”
“เเหมมม แกก็รีบๆเลือกสักทีสิ ชักช้าอยู่ได้ ระวังคนอื่นมาคาบไปก่อนนะยะ”
“แกวนมาเรื่องนี้อีกล้ะ ไม่คุยกับแกเล่า”
“5555 แกนี่ปากแข็งกว่าที่ฉันคิดอีกนะ ให้ตายสิ.."
ทิฟฟานี่หัวเราะชอบใจที่ทำให้เพื่อนสาวหน้ามุ่ยได้
ที่เธอบอกว่าเจสสิก้าปากแข็งน่ะ
เพราะว่าเธอรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าเจสสิก้านะเลือกใคร
จะเหลือแต่ให้เจ้าตัวเขาเอ่ยขึ้นมาเองจะดีกว่า
“ถ้าจะให้ฉันนั่งเป็นเพื่อน ก็หยุดพูดเรื่องนี้ซะ ฉันยังไม่มีคำตอบให้แกตอนนี้หรอก”
“ฉันไม่ได้อยากให้แกตอบฉัน แต่ฉันอยากให้แกตอบหัวใจตัวเองต่างหากล่ะสิก้า
ฉันอยากให้แกเจอคนที่รักแกจริงๆนะ….. อย่างพี่ยุนอา เป็นต้น555”
“ย่าส์ !! เกือบซึ้งแล้วเชียว ฉันว่าละ”
ถึงจะติดใจกับคำบอกของเพื่อนไม่น้อย แต่ก็ต้องทำตัวกลบเกลื่อนความรู้สึกข้างในใจเอาไว้
เธอไม่อยากให้ใครรู้ จนกว่าหัวใจเธอเองจะมั่นใจกว่านี้
“ฉันไปละนะ พี่แทมาเเล้ว แกก็ขับรถกลับดีๆนะถึงแล้วโทรบอกฉันด้วยล่ะ”
ยังไงทิฟฟานี่ก็ยังเป็นทิฟฟานี่วันยังค่ำ ห่วงใยคนอื่นเสมอ
เธอจึงไม่เคยนึกโกรธเพื่อนคนนี้เลย
เพราะรู้ว่ามันคือความห่วงใยนั่นเอง
“อืม แกก็เหมือนกันนะ”
หลังจากบอกลากับเพื่อนสาวก็ตัดสินใจเดินไปที่รถตัวเองเพื่อที่จะกลับไปพักผ่อน
แต่ระหว่างทางที่เดินไปที่จอดรถนั้น
ร่างบางรู้สึกเหมือนมีคนเดินตามมาด้านหลัง
พอหันไปก็พบกับความว่างเปล่า
//เราคงจะคิดมากไปเองแหละมั้ง...คงไม่มีอะไรหรอก//
เนื่องจากเป็นเวลาที่นักศึกษานั้นเลิกเรียนกันไปหมดเเล้ว
จะมีอยู่เฉพาะบางกลุ่มเท่านั้น
หรือไม่ก็พวกนักกีฬาที่ซ้อมกันหลังเลิกเรียน ทำให้มหาลัยนั้นค่อนข้างเงียบ
ร่างบางเดินมาจนใกล้จะถึงรถตัวเองแล้ว
แต่ความรู้สึกเดิมก็กลับมา….. ความรู้สึกที่มีใครจองมองอยู่ด้านหลัง
คราวนี้เจสสิก้าตัดสินใจไม่หันกลับไปดู และรีบเดินไปที่รถตัวเองอย่างเร็วที่สุด
ปัง!
เฮ้ออ~~~~
เสียงถอดหายใจด้วยความเหนื่อยหอบ เจสสิก้าไม่รอช้ารีบสตาร์ทเครื่องและออกไปจากตรงนี้ทันที
กึก กึก พรึบ...
แต่ยังไม่ทันจะออกจากมหาลัย จู่ๆรถของเจสสิก้าก็ดับขึ้นมากะทันหัน
“อ้าว รถเป็นอะไรเนี่ย”
//ติดเซ้ แกจะมาเสียตอนนี้ได้ไง//
เจสสิก้ารีบหันมองรอบด้านว่าแถวนี้มีใครที่เธอพอจะรู้จักอยู่บ้าง
แต่ก็ไม่มีคนที่เธอรู้จักเลยสักนิด ซ้ำยังไม่มีพวกผู้หญิงเดินผ่านแม้แต่คนเดียว
“จะทำไงดีหล่ะทีนี้ โทรศัพท์ยังจะมาแบตหมดอีก ทำไมมันซวยพร้อมกันยังนี้เนี่ย”
ปิ๊ด ปิ๊ดดดด
“อ้าว! สิก้ายังไม่กลับอีกหรอ” [เชื่อสิว่าบังเอิญ..5555]
ยูริกำลังจะขับรถกลับบ้านแต่สายตาเหลือบไปเห็นรถของเจสสิก้าพอดี มองดูเหมือนร่างบางต้องการความช่วยเหลือด้วย ก็เลยลองเข้าไปทักซะหน่อย
“เอ่อ กำลังจะกลับแล้วค่ะ แต่ว่ารถเป็นอะไรก็ไม่รู้”
“งั้นเดี๋ยวลองให้พี่ดูให้ไหม พี่พอจะมีความรู้อยู่บ้างนะ”
“กะ..ก็ได้ค่ะ”
เจสสิก้าพูดเสียงตะกุกตะกัก ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่จะเป็นตลอดเวลาอยู่กับยูริ
คงเป็นเพราะยังไม่ชินล่ะมั้ง
“งั้นสิก้าเปิดกระโปรงให้หน่อยนะ”
“○.○!”
“อะ..เอ่อ พี่หมายถึงกระโปรงรถน่ะคับ แหะๆ”
“อะ..อ๋อ ได้ค่ะ”
//นี่เจสสิก้าพี่เขาก็หมายถึงกระโปรงรถ แกจะคิดไปไกลทำไมเนี่ย//
ยูริเดินไปยกกระโปรงรถขึ้น เขาดูเหมือนคนมีความรู้ด้านนี้จริงๆ
ดูจากลักษณะท่าทางเเล้ว
เวลาที่เขาทำท่าหยิบโน่น จับนี่ รวมๆแล้วมีเสน่ห์...(♫เหลือเกิน ไม่ต้องมาเขิน♫ ใช่เวลาร้องเพลงมั้ย 5555 )
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นตอนนี้คงจะตกหลุมรักเขาไปเรียบร้อยแล้วหล่ะ
แต่คงไม่ใช่กับเจสสิก้า เพราะเธอรักและเคารพเขาแบบรุ่นพี่เท่านั้น
เธอไม่เคยรู้สึกว่าเธอรักเขาในแบบอื่นเลยแม้แต่นิดเดียว
“สิก้าลองสตาร์ทรถดูสิคับ”
“อะ.อ่า ค่ะ”
บรืออ บรื้นนน กึก กึก พรึบบ [ใช้ imagine กันเอาด้วยนะ 5555]
“พี่ยูลคะ มันดับอีกแล้วค่ะ”
“งั้นพี่ว่าเราคงต้องเรียกช่างแล้วหล่ะ เดี๋ยวพี่โทรให้นะ พี่พอรู้จักอยู่บ้าง”
ยูริควักโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมาโทรหาช่างทันที
ความแสนดีของเขานั้นทำให้เจสสิก้ามองยูริในแง่ดีขึ้นมากมายจากเมื่อก่อน
เธอเป็นลูกสาวคนเดียว จึงรู้สึกเหมือนยูริเป็นพี่ชายของเธอ
เธอคงจะดีใจไม่น้อยถ้าได้ยูริมาเป็นพี่ชายให้จริงๆ
“เอ่อ สิก้ามีธุระที่ไหนรึเปล่า”
“ไม่มีนะคะ”
“คือ ช่างเขาบอกว่าตอนนี้ติดธุระอยู่ อีก 2 ชั่วโมงถึงจะมาดูให้ได้”
“ถ้า.. สิก้าไม่มีธุระอะไร เราไปทานข้าวกันนะครับ^^”
“ก็ได้ค่ะ”
แล้วทั้งสองก็ยิ้มให้กัน แต่เป็นยิ้มคนละความหมาย
เจสสิก้ายิ้มให้แกพี่ชายที่แสนดี..
...แต่ยูรินั้น ยิ้มให้คนที่ตนรัก…
ทั้งคู่ไม่รู้ตัวเลยว่าตกเป็นเป้าสายตาของใครอยู่
คนที่เฝ้ามองการกระทำของทั้งสองอยู่ในรถของตน
มองทั้งคู่ยิ้มให้กันด้วยหัวใจที่ปวดร้าว กับภาพตรงหน้า
เฝ้ามองจนทั้งคู่นั้นขึ้นรถและขับออกไปด้วยกัน
แต่ถึงยังไงยุนอาก็ไม่ไว้ใจยูริอยู่ดี
จึงตัดสินใจขับรถตามออกไป
มาถึงที่ห้าง
หลังจากหาที่จอดรถเสร็จ ยูริก็เดินอ้อมมาเปิดประตูให้เจสสิก้า
ซึ่งการกระทำนั้นอยู่ในสายตาของยุนอาตลอด จนยุนอาต้องเบ้ปากมองบน
ยูริก็พาเจสสิก้าไปทานข้าวที่ร้านอาหารอเมริกัน
เพราะเขาคิดว่าเจสสิก้าเกิดที่เมืองนอก น่าจะชอบอะไรพวกนี้
ยุนอาที่เดินตามมาได้เเต่เบ้ปากไปเป็นรอบที่สอง
เพราะเขารู้ว่าเจสสิก้าไม่ค่อยทานอาหารพวกนี้เท่าไร
และยังรู้อีกว่าเจสสิก้านั้นชอบทานซูชิเอามากๆ
ยกนี้ยุนอาชนะไปใสๆ [หรอ]
หลังจากยูริสั่งอาหารมาแล้วนั้น ทั้งคู่ก็ทานอาหารกับตามแบบคนปกติ
ไม่ได้มีสวีทอะไรกันเลย
ดูเหมือนยูรินั้นจะมีความสุขเหลือเกิน ยิ้มจนหน้าบานเชียว แต่ที่ยุนอาสังเกตเห็นเจสสิก้าหน้าตาไม่ค่อยดีเท่าไรเลย อาหารก็ทานไปนิดเดียวเอง
พอทานเสร็จทั้งคู่ก็เดินออกมาจากร้านอาหาร
ยุนอานั้นก็สะกดรอยตามไม่ห่าง
พอมาถึงลานจอดรถ อยู่ดีๆเจสสิก้าก็หน้ามืด เกือบเซล้มไป แต่ยูรินั้นอยู่ใกล้
เลยเข้ามาคว้าร่างบางไว้ทัน
เลยเหมือนว่าตอนนี้ยูริโอบเจสสิก้าอยู่
ยุนอาเห็นแล้วแทบจะวิ่งไปกระชากออกมา แต่ต้องคอยดูต่อไปเรื่อยๆก่อน
“สิก้า เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบายหรอ”
“ปะ..เปล่าค่ะ สงสัยคงเวียนหัวนิดหน่อย ตอนนี้ไม่เป็นอะไรเเล้วค่ะ”
“ไม่เป็นอะไรแน่นะครับ ไปหาหมอไหม..”
ยูริพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรค่ะ สิก้าว่าเรารีบกลับกันเถอะ”
“งั้นก็ได้ครับ”
รถของยูรินั้นมาส่งเจสสิก้าที่คอนโด
ตอนแรกเขาจะเข้าไปส่งข้างในแต่เจสสิก้าบอกว่าเธอไม่เป็นอะไรมาก
เลยให้จอดส่งแค่หน้าคอนโดก็พอ
“สิก้าจะไม่ให้พี่ไปส่งจริงๆหรอ”
ยูริถามเจสสิก้าด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
“สิก้าไม่เป็นไรแล้วค่ะ พี่ยูริกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ”
“งั้นก็ได้ครับ ถึงห้องแล้วไลน์มาบอกพี่ด้วยนะ”
“ค่ะ.. ขับรถกลับดีๆนะคะ”
“ครับ^^”
ร่างบางยืนรอจนรถของยูริเคลื่อนตัวออกไป จึงเดินเข้าไปในคอนโด
ระหว่างทางเดินขึ้นไปนั้น
เจสสิก้าก็นึกถึงยุนอาที่พักนี้เขาไม่ค่อยมาวอแวกับเธอเท่าไร
ข้อความก็ไม่มีส่งมา
เจสสิก้ามัวแต่เหม่อลอยจนชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งที่เดินสวนมาอย่างจัง
จนเจสสิก้าแทบล้มลงไปกับพื้น
แต่อยู่ๆก็มีมือของใครสักคนมารับไว้ทัน ทำให้ตอนนี้ร่างบางอยู่ในอ้อมกอดของคนคนนั้น... ที่คุ้นเคย
//ไม่ผิดแน่ ต้องเป็นยุนอาแน่ๆ//
เจสสิก้ามั่นใจอย่างนั้นว่าคนที่มารับเธอไว้ไม่ให้ล้มไปกองกับพื้นต้องเป็นยุนอาแน่ๆ
เพราะเธอสัมผัสได้ อ้อมกอดแบบนี้มีแต่เขาเท่านั้นแหละ
แล้วก็ตามคาดเมื่อเจสสิก้าเงยหน้าขึ้นมองคนที่มาพยุงเธอไว้ ก็เป็นยุนอา
เขาหันมาสบตากับเธอเพียงครู่เดียวแล้วก็หันกลับไปมองคนที่เดินชนจนเธอล้ม
ที่ตอนนี้เดินหายไปแล้ว
//ทำคนอื่นล้มยังจะไม่ขอโทษอีก//
เจสสิก้าคิดในใจ [ไม่ใช่มัวแต่เหม่อหรอกหรอจ๊ะ555]
สักพักหนึ่งยุนอาก็หันมาพยุงเธอให้ลุกขึ้น
“เป็นไงบ้าง เจ็บตรงไหนไหม”
แล้วเขาก็จับเธอหมุนไปรอบๆ ดูว่ามีบาดแผลหรือเปล่า
เธอเลยส่ายหน้า
“มัวแต่คิดถึงฉันหรือไง ถึงเดินไม่ดูตาม้าตาเรือน่ะ”
“ใครจะไปคิดถึงกัน ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
ฉึก!! เจ็บเบาๆกับคำว่า ไม่ได้เป็นอะไรกัน
แต่ยุนอาก็ไม่แสดงอาการอะไรให้อีกคนจับได้หรอก
“ไปไหนกับยูริมา”
ยุนอาถามไป อยากรู้ว่าอีกคนจะตอบแบบไหน
“แค่ไปทานข้าวธรรมดา ไม่มีไร”
เจสสิก้าตอบเสียงเบา
“งั้นหรอ”
ยุนอาพูดเหมือนไม่ค่อยเชื่อ แต่ที่จริงเขานั้นรู้เห็นทุกอย่าง
“แล้วยุนมาทำอะไรที่นี่”
เจสสิก้ายิงคำถามใส่บ้าง
“อะ..เอ่อ..ก็มากินข้าวไง”
โดนคำถามนี้ยุนอาถึงกับไปไม่เป็น จะให้บอกว่าขับรถตามมาก็กระไรอยู่
แต่ที่เขาบอกว่าจะมาทานข้าวน่ะเรื่องจริง เพราะเขาซื้อซูชิมาด้วย
กะว่าจะมากินกับอีกคน
“หื้ม.. มากินข้าวแน่นะ”
เจสสิก้าเห็นอีกคนดูท่าทางเเปลกๆ
“แน่สิ...ก็จะมากินกับสิก้าไงล่ะ”
ยุนอาพูดพร้อมยกกล่องซูชิที่ซื้อมาโชว์ให้ร่างบางดูว่ามากินข้าวจริงๆ พร้อมกับยิ้มจนตาหยี
//คิดว่ายิ้มแล้วจะทำให้ใจอ่อนหรอ เฮอะ//
[แค่เห็นซูชิก็ใจอ่อนแล้วจย้าา]
แต่ด้วยว่าเจสสิก้านั้นฟอร์มจัด
“ใครบอกว่าจะกินด้วย”
เจอประโยคนี้เข้าไปยุนอาถึงกับหน้าหงอยไปเลย เหมือนหมาไม่ได้กินข้าวมาสามวัน
//ทำไมต้องมาทำหน้าหงอยใส่ด้วยเล่า เห้อสงสารอ่ะนะ กินด้วยก็ได้//
[จองเจสเธออยากกินก็บอกเขาไป..]
“อ่ะๆๆ กินด้วยก็ได้”
//Yes!!// ยุนอาได้แต่ดีใจอยู่ในใจ
เดี๋ยวเขาจะรู้ว่าเมื่อกี้แค่แกล้งแสดง
แล้วทั้งคู่ก็เดินขึ้นห้องไป
หลังจากทานซูชิเสร็จ
เจสสิก้าก็ทำท่าจะไล่ยุนอากลับ
“นี่ทานเสร็จก็กลับไปได้แล้ว”
“ก็ยังไม่อยากกลับอ่ะ”
ยุนอาตอบเสียงกวนๆ
จนเจสสิก้าต้องมองค้อน
“ยุนอา..”
เจสสิก้าเอ่ยด้วยเสียงเหนื่อยๆ เพราะเธอรู้สึกไม่ค่อยสบาย เลยอยากจะพักผ่อน แต่ยุนอาไม่ยอมกลับสักทีนี่สิ
“คับ^^”
“กลับไปได้แล้วนะ มืดค่ำขนาดนี้”
“ก็ยังไม่อยากกลับอ่ะ”
“เฮ้อ.. งั้นก็ตามใจ”
พูดจบเจสสิก้าก็เดินหายเข้าไปในห้อง
ยุนอายิ้มชอบใจ
ผ่านไป 30 นาที
เจสสิก้าจึงเดินออกมาจากห้อง
หลังจากอาบน้ำเสร็จ
คิดว่ายุนอาคงจะกลับไปแล้ว
แต่เปล่าเลย พอเดินเจ้าไปในห้องนั่งเล่น
ก็เห็นร่างสูงนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา
เจสสิก้าหมดหนทางที่จะไล่เขากลับไปล้ะ เอาไว้อยากกลับเมื่อไรเดี๋ยวก็ไปเองแหละ
เจสสิก้าเดินไปหยิบน้ำส้มมาสองแก้ว แล้วเดินไปหาอีกคนที่โซฟา
ยุนอาหันมามองเจสสิก้าแล้วยิ้มใส่
“สิก้า..”
“หื้ม..”
“พักนี้มีอะไรแปลกๆบ้างไหม”
ร่างบางเลิกคิ้ว คิดว่าควรจะบอกยุนอาเรื่องจดหมายนั่นดีไหมนะ
เลยตัดสินใจไม่บอก
“ก็ไม่มีนะ”
“งั้นหรอ.. แต่อยู่คนเดียวแบบนี้ก็ระวังตัวด้วยนะ”
“มีอะไรหรือเปล่า”
“ก็เมื่อเย็นน่ะ ยุนเห็นผู้ชายคนหนึ่ง มายืนอยู่แถวๆหน้าห้อง
พอถามว่ามาหาใครก็ไม่ตอบแล้วก็เดินหนีไป ไปเจออีกทีก็ตอนที่เห็นสิก้าโดนชนนั่นแหละ ผู้ชายคนเดียวกัน
อยู่คนเดียวก็ระวังตัวด้วยนะ”
“อืม..รู้แล้วน่า”
เจสสิก้านึกถึงจดหมายนั่นอีกครั้ง
“อาบน้ำมาหรอ หอมจัง”
ยุนอาเปลี่ยนเรื่องทันทีเพราะไม่อยากให้ร่างบางวิตก
“ทะลึ่ง!!”
เจสสิก้าถลึงตาใส่ยุนอาที่เอาหน้าเข้ามาใกล้
“555 งั้นยุนกลับล่ะ มีนัดกับไอ้แทไว้น่ะ”
ยุนอาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แต่ก่อนจะไปไม่วายหันมาแกล้งร่างบางอีกครั้ง
ยุนอายื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆอีกรอบ คราวนี้เจสสิก้าไม่ได้พลักหรือหันหน้าหนีแต่อย่างใด
ฟุด ฟุด
“หอมจริงๆ ยุนชอบกลิ่นนี้นะ^^”
เจสสิก้าถึงกลับซ่อนความรู้สึกไม่อยู่ ใบหน้านั้นร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
ไหนจะหัวใจที่เต้นกระส่ำไม่เป็นจังหวะอีก
หลังจากที่ยุนอาออกไปแล้วเจสสิก้าก็เดินไปล็อคประตูตามที่ร่างสูงสั่งไว้ก่อนที่จะออกไป
หันหลังพิงกับประตูเเล้วยกมือขึ้นทาบที่ตำแหน่งหัวใจที่เต้นแรง
อิมยุนอา มักทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงเสมอ….
ผ่านไปได้สักพักก็มีเสียงก็ออดที่หน้าประตูอีกครั้ง
เจสสิก้าลังเลว่าจะไปเปิดดีหรือเปล่า
แต่ก็ตัดสินใจลุกขึ้นไปเปิดประตู เพราะคิดว่าน่าจะเป็นยุนอา
“ลืมอะไรหรอ ย ยุ… อื้อ..”
“ว่าไงสาวน้อย….”
ความคิดเห็น