ตอนที่ 16 : แตะต้องครั้งที่ 16: จับบบ…เหตุผลกับหัวใจถอดไส้ไปกินขี้ข้อเสียก็มีข้อดีก็เหลือเฟือโปรยเกลือสามเม็ด
แตะต้องครั้งที่ 16
จับบบ…เหตุผลกับหัวใจถอดไส้ไปกินขี้ข้อเสียก็มีข้อดีก็เหลือเฟือโปรยเกลือสามเม็ด
❤ C A L ❤: ขอคุยอะไรซีเรียสหน่อยได้ปะ
❤ C A L ❤: อย่าเล่นมุกนะ
NaTee(n): ไม่ได้
❤ C A L ❤: ทำไม
❤ C A L ❤: ได้เวลาออกไปหากบหาเขียดกินเหรอ
NaTee(n): นี่เจ๊เล่นมุกเองนะ
❤ C A L ❤: เอาดีๆ
❤ C A L ❤: ทำไมไม่ได้
NaTee(n): กำลังจะถอดไส้ออกไปหาขี้กินอะ
NaTee(n): แค่นี้ก่อน
ต่อให้แชตกันนานกว่านี้ก็คงจับความไม่ได้อยู่ดี ตอนนั้นอยู่กับพี่ทัชด้วย ผมเลยไม่อยากก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือเหมือนคนไม่มีมารยาท...โอเค อันนี้โกหก เอาจริงๆ คือ อยากคุยอยากกวนตีนพี่ทัชเล่นมากกว่า
วันนี้ผมก็เลยต้องถ่อมาหาเจ๊แคลถึงถิ่น ซึ่งก็คือคอนโดที่ถูกสายลับของพี่เห็ดแอบถ่ายคลิปไว้ได้นั่นแหละ นี่เดินไปยังหลอนๆ อยู่ อย่างกับเด็กมีปมเลย
เจ๊แคลกลับเข้ามาที่คอนโดก่อนผมไม่กี่นาที แกเลยนั่งรอที่ล็อบบี้ จนผมมาถึงค่อยขึ้นไปบนห้องด้วยกัน
“นี่ห้องหรือโกดังเก็บขยะอะเจ๊” ผมแซว
“มันจะเป็นที่เก็บขยะเพราะแกถอดรองเท้าไม่เรียบร้อยเนี่ย” เจ๊แซวกลับ
“ขอโทษครับๆ ขอโทษเจ้าที่เจ้าทางด้วยคร้าบ”
“ตีปากตัวเองสองทีเลย ช่วงนี้ยิ่งกลัวๆ อยู่”
“ไรหรอ”
“เสียงก๊อกแก๊กไรงี้”
“หนูรึเปล่า ห้องเจ๊รกไง หนูเลยแอบเข้ามาอยู่ เอ๊ะ หรือมีผีจริงๆ”
“ไม่เอา~ ไม่พูดแบบนี้~ เดี๋ยวเจ๊ขอเช็ดหน้าก่อน” เจ๊ดิ่งไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ลงมือปลอบประโลมผิวหน้าด้วยมือน้อยๆ อย่างแผ่วเบา
มาห้องเจ๊แคลทีไรผมชอบแซวในทางตรงข้ามแบบนี้แหละ เพราะห้องสะอาดเกิ๊น สะอาดจนอยากร้องขอชีวิต พื้นไม่มีฝุ่นสักเม็ด ข้าวของวางเป็นระเบียบทุกมุม ผ้าทุกผืนเป็นต้องมีกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มแม้จะเป็นผืนที่ใช้แล้ว แม้แต่ผ้าขี้ริ้วยังดูดีกว่าเสื้อบางตัวของผมอีก
แล้วไม่ใช่แค่รักสะอาด ข้าวของแต่ละอย่างนี่ก็คาวาอี้สุดๆ ไม่ว่าจะเป็นแก๊งตุ๊กตาดีสนีย์ ที่รองแก้วสตูดิโอจิบลิ พวงกุญแจซานริโอ้ แล้วก็อื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน
แต่เห็นสะสมของกุ๊กกิ๊กแบบนี้ เจ๊แคลก็ไม่เคยหลุดจากโผท็อปเท็นคนชอบเล่นมุกของคณะบริหารนะ จังหวะรับส่งมุกสูสีกับโอเปิ้ลเลย เพราะแบบนี้ผมถึงชอบกวนตีนแกเล่น
ไม่รู้เจ๊มีเรื่องซีเรียสอะไร กินน้ำวอร์มเส้นเสียงไว้ก่อนละกัน ผมเดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำให้ตัวเอง แล้วมานั่งที่โซฟามองเจ๊แกที่กำลังเช็ดมาสคาร่าอย่างเบามือ
“เจ๊ ทำไมเจ๊ไม่ทาห้องสีชมพูไปเลยอ่ะ จะได้เข้ากับของสะสม”
“อยากอยู่ แต่พ่อไม่ให้ทำ เดี๋ยวเรียนจบแล้วปล่อยคอนโดให้เช่าต่อ... เสร็จละ” เจ๊แคลหันมาด้วยหน้าสด ซึ่งก็ดูสวยใสไม่แพ้ตอนโปะด้วยเครื่องสำอางเท่าไหร่หรอก แล้วจะแต่งทำไมวะ แวบนึงผมก็อดดีใจไม่ได้ที่เกิดเป็นผู้ชาย ไม่ต้องมานั่งวุ่นวายอะไรกับหนังหน้ามากขนาดนี้
“แล้วที่เรียกมานี่คือ…”
“เดี๋ยวนะ ล้างหน้าแป๊บ”
น่ะ ยังไม่เสร็จอีก
ผมนั่งไถมือถือเล่นรอจนเจ๊แคลประกอบพิธีกรรมปลอบโยนผิวหน้าเสร็จ เจ๊แกมานั่งที่โซฟาแล้ว เอาแต่ถอนหายใจเฮือกๆ เหมือนแมวหอบแดด ไม่ยอมพูดสักที ผมเลยต้องถามเอง
“ขอเดานะ ไม่ใช่เรื่องเรียน”
“ไม่ใช่”
“ผู้ชายใช่มะ”
“อือ”
“อะ เล่ามา”
“ไม่รู้จะเล่ายังไง”
“งั้นเขียนจดหมายมัดติดขานกพิราบมาละกัน ไปละ…”
“เอ้า เดี๋ยว” เจ๊แคลคว้าแขนผมไว้ แล้วถอนหายใจอีก “คือ...ก็มีคนเข้าหาเยอะอะ”
“ก็ดีแล้วนี่เจ๊ สวยเลือกได้”
“เริ่มไม่ดี”
“สับรางไม่ถูกว่างั้น”
“ก็ไม่ใช่แบบนั้น เจ๊ไม่เคยคิดจะคบซ้อนหรือคุยหลายคนอะไรอยู่แล้ว มีคนเข้ามาทำความรู้จักแบบดีๆ ด้วย เราก็ดีกลับ”
“อัธยาศัยดี”
“ใช่ มันก็เหมือนเราได้รู้จักเพื่อน รู้จักพี่สักคนเพิ่มมาในชีวิต มันก็ดีอะ แต่หลังจากแต่ละคนเริ่มดูจริงจัง โดยเฉพาะเจมส์กับพี่เรนจิ”
“พี่เห็ดแกสายพุ่งชนนะผมว่า แต่บางทีอาจจะไม่รู้จังหวะมั้ง เลยอาจจะพุ่งแรงไปจนหัวทิ่ม”
“อื้ม”
“หลักๆ ตอนนี้คือสองคนนี้ใช่มะ แล้วไง ปัญหาคือ…”
“ไม่อยากคุยซ้อน”
“จะเทคนนึงว่างั้น”
“ไม่...ไม่รู้สิ”
“ก็น่าปวดเศียรอยู่ เอ้า ยาดม” ผมควักยาดมที่พกติดกระเป๋ามาส่งให้ เจ๊แคลรับไปเปิดฝาแล้วสูดปื๊ดเต็มที่ “ลืมบอก ไม่รู้มีขี้มูกผมติดรึเปล่านะ”
“เอ้า ไอ้นี่ เอาคืนไปเลย”
“ล้อเล่นน่า”
“ใช่เวลาเล่นมั้ยเนี่ย”
“โอเคๆ กลับสู่โหมดซีเรียส...เฮ้อออ” ผมถอนหายใจยาว อัดยาดมเข้าจมูกบ้าง “เอางี้ ลองจับมาแหกไส้ดูทีละคนเท่าที่เจ๊รู้ เริ่มจากพี่เจมส์ ลิสต์ข้อดีข้อเสียออกมาเลย เอาข้อดีก่อนนะ นึกอะไรได้พูดออกมาให้หมด”
“ก็...ดีนะ สม่ำเสมอดี ตลกนิดๆ ฉลาด แก้ปัญหาเก่ง…”
“ไรอีก”
“ก็...ประมาณนี้แหละ”
“โอเค ข้อเสียล่ะ”
“เจ๊ไม่ค่อยชอบผู้ชายพูดมากอะ แล้วเจมส์นี่พูดตลอดเวลา แล้วเราก็มีอะไรหลายอย่างที่ชอบไม่เหมือนกัน อย่างเจ๊สายกิน เจมส์สายออกกำลังกาย นึกฟีลออกใช่ปะ”
“แล้วพี่เห็ดอะ ข้อดีก่อน”
“พี่เรนจินี่...หล่อ แต่งตัวดี รสนิยมดี ไม่ติดหรูมากแต่ก็ไม่ติดดินเกินไป เทคแคร์ดีมาก ใส่ใจสุดๆ ดูชัดเจน จริงจัง
จริงใจ สายพุ่งชนอย่างที่แกว่า”
“พี่เห็ดมาวินแล้วดิแบบนี้”
“แต่…”
“แต่ข้อเสียก็เยอะใช่มะ”
“ไม่เชิง”
“ยังไงล่ะ ไหน มีข้อเสียไรบ้าง”
“อธิบายไม่ถูก ไม่ค่อยมีข้อเสียอะไรหรอกมั้ง”
“เอ้า”
“แต่เจ๊ชอบตัวเองตอนอยู่กับเจมส์มากกว่า”
เอี๊ยด!
หักมุมหัวทิ่ม
“เจ๊ ตั้งสตินะ นี่กำลังจะบอกว่าคนที่มีข้อเสียมากกว่า ดีกว่าคนที่แทบไม่มีข้อเสียอะไรงั้นเหรอ”
“...”
“เจ๊ชอบคนตลกใช่มะ”
“ใช่”
“พี่เห็ดแกฮานะเจ๊ ผมรัวมุกใส่แกก็รับทันทุกมุก แถมรัวกลับมาไม่ยั้ง”
“กับเจ๊พี่เขาไม่ขนาดนั้นนะ”
“อาจจะยังไม่สนิทมากไง อีกหน่อยคงฮากว่านี้”
“ไม่รู้สิ”
“สำคัญคือแกดูจริงจังจริงใจนี่แหละ แกเข้าใจผิดว่าผมกิ๊กกับเจ๊ นี่ถึงกับลากผมไป…” ผมยั้งปากไว้ทัน ก่อนจะเปลี่ยนคำให้เบาลง “เคลียร์กันแบบแมนๆ ผมว่าแกก็ชัดเจนดีออก”
งงตัวเอง
ทำไมตอนนี้กูเชียร์พี่เห็ดวะ
“...”
“เจ๊ คิดดีๆ”
เจ๊แคลคว้าหมอนหมีพูห์มากอด ก้มหน้าอยู่เงียบๆ ผมคันปากอยากจะกดดันอีก แต่แกพูดขึ้นซะก่อน “เจ๊เคยคิดว่าไม่ชอบคนพูดมาก แต่พออยู่ด้วยมันก็เพลินๆ ดี เจ๊ชอบกินส่วนเขาชอบออกกำลังกาย มันก็น่าหงุดหงิดนะ แต่มีคนคอยกระตุ้นให้เราดูแลสุขภาพมันก็ดี ส่วนเจ๊ก็คอยแนะนำร้านอร่อยๆ ให้เขา บางที...ความแตกต่างในบางเรื่อง มันก็ดีเหมือนกัน”
“อันนี้พูดถึงพี่เจมส์ใช่มั้ย”
“อือ”
“แล้วพี่เห็ดอะ” ผมถาม ก่อนจะย้ำอีก “คิดดีๆ นะเจ๊”
“...”
คราวนี้เจ๊เงียบไปนาน
นานจนผมนึกว่าแกจะไม่พูดอะไรแล้ว
“เอาจริงนะ ข้อดีข้อเสียมันอาจจะไม่สำคัญเท่าไหร่ก็ได้ หรือคนแบบที่เราคิดว่าเราจะชอบ สุดท้ายก็ไม่ได้ทำให้เรามีความสุขเสมอไป บางทีเราก็แค่อยากอยู่กับคนที่ทำให้เราชอบตัวเองตอนอยู่กับเขา”
“...” คราวนี้ผมเงียบบ้าง
“เจ๊ว่านะ...ความดีมันไม่ใช่คำตอบของความรัก แล้วคนที่ใช่ก็อาจจะไม่ใช่คนที่ตรงสเป็กเราก็ได้”
คมไปอี๊ก
เฮ้อออ…
“เจ๊รู้จักกับพี่เห็ดนานแค่ไหนนะ”
“ไม่ถึงสามเดือนมั้ง”
“ตีไปซะว่าสองเดือน มันเร็วไปมั้ยอะที่จะตัดสินว่าใช่หรือไม่ใช่”
“กับคนที่ไม่ใช่แป๊บเดียวมันก็รู้สึกว่าไม่ใช่นะ”
“แล้วกับคนที่ใช่ล่ะ”
“เจ๊ยังไม่รู้หรอกว่าคนที่ใช่จริงๆ เป็นยังไง ตอนนี้รู้แค่ว่าคนนี้ยังไม่ใช่”
คมอีกละ
พี่เห็ดคงถึงคราวเคราหะห์จริงๆ เชียร์ยังไงก็ไม่ขึ้น
“...สรุปจะเทพี่เห็ดเนอะ”
“อืม คิดว่างั้น ไม่อยากให้ความหวังเขา”
“งั้นก็บอกพี่แกดิ อย่าปล่อยไว้นาน”
“ไม่กล้าอะ ที่เรียกมาก็เพราะเห็นว่าแกรู้จักพี่เขานี่แหละ บอกพี่เขายังไงดี”
“ไม่รู้ดิเจ๊ แล้วก็ไม่ต้องคิดนะว่าจะให้ผมเป็นคนไปบอก…”
“ไม่ๆ เจ๊ต้องบอกเขาเองอยู่แล้ว แต่ใช้วิธีไหนดี”
“สายพุ่งชนอย่างพี่เห็ด คงไม่ชอบให้อ้อมๆ หรอกมั้ง บอกต่อหน้าตรงๆ ไปเลยมั้ยล่ะ”
“มันไม่โหดร้ายไปเหรอ”
ผมถอนหายใจอีกเฮือก “เจ๊ ความจริงมันอาจจะโหดร้าย แต่การโกหกกันไปเรื่อยๆ มันโหดร้ายกว่านะ” เจ๊แคลทำหน้าเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง ผมเลยเสริมไปให้ชัด “นี่คิดเองสดๆ เลยนะ ไม่ได้ลอกใครมา”
“อือ งั้นเดี๋ยวหาจังหวะบอกพี่เขาเร็วๆ นี้”
“ตามนั้น ไปห้องน้ำแป๊บนะ นั่งดราม่ากับตัวเองไปก่อน”
ผมลุกไปเข้าห้องน้ำ ไม่ได้ปวดชิ้งฉ่องกิงก่องแก้วอะไรหรอก แค่อยากถอนหายใจหนักๆ สักหน่อย เฮ้อออ! ผมควักมือถือออกมากดเข้าหน้าแชตและนั่งลงบนฝาชักโครก
NaTee(n): พี่
NaTee(n): มีเรื่องไม่สบายใจอะ
NaTee(n): แต่พูดไม่ได้
NATOUCH: พูดไม่ได้ก็พิมพ์
NaTee(n): พิมพ์ก็ไม่ได้
NATOUCH: อยู่ในมหาลัยรึเปล่า
NATOUCH: กูทำงานอยู่กับเพื่อน เดี๋ยวไปหา
NaTee(n): อยู่ข้างนอกอะ
NATOUCH: ที่ไหน
NaTee(n): ไม่เป็นไร
NaTee(n): พี่ทำงานกับเพื่อนไปเถอะ
NATOUCH: …
โปรยเกลือสามเม็ดอีกละ
แรกๆ ผมมักจะหงุดหงิดที่เขาโปรยเกลือแบบนี้ เพราะไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ก็เริ่มชินแล้ว และพักหลังๆ มานี้เขาก็โปรยเกลือน้อยลงมาก พอเริ่มคุยกันทีไรก็มักจะไหลยาวทุกที
ว่าจะคุยค้างไว้แค่นี้พอ กวนตีนให้เขาสงสัยเล่น
แต่แล้วผมก็คิดถึงเรื่องนึง
NaTee(n): พี่
NaTee(n): เรารู้จักกันนานแค่ไหนแล้ว
NaTee(n): เดือนกว่าๆ ปะ
NATOUCH: 1 เดือน 16 วัน
NaTee(n): ใช่เหรอ
NATOUCH: ทำไม
NaTee(n): ถือว่านานปะ
NATOUCH: ไม่นาน
NaTee(n): ก็ว่างั้น
NaTee(n): เอาจริงๆ แป๊บเดียวเองนะ
NATOUCH: แต่บางทีรู้สึกเหมือนนาน
NaTee(n): จริง
NaTee(n): พี่ งั้นถามไรอย่างดิ
NaTee(n): พี่ชอบตัวเองตอนอยู่กับผมปะ
NATOUCH: …
NaTee(n): แปลว่าอะไร
NaTee(n): ชอบโปรยเม็ดเกลืออะ
NATOUCH: กูทำงานละ
NATOUCH:
พี่แกโหลดสติกเกอร์นี้มาใช้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ แถมยังใช้ไม่ตรงวันด้วย
นี่คือกวนตีนแล้วใช่มะ
“นะฑี ฉี่หรือขี้ นานขนาดนี้” เสียงเจ๊แคลดังอยู่ข้างนอก
“เจ๊จะขี้เหรอ”
“อยากล้างมือ”
ผมเดาว่าเจ๊แคลอาจจะอยากหลบเข้ามาถอนหายใจหนักๆ ในนี้เหมือนกันมั้ง
เหมือนที่นางเอกในหนังชอบทำกันแหละ เวลาไม่สบายใจ ก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปคุยกับคนในกระจกไรงี้
“แป๊บนึงเจ๊ เสร็จแล้วๆ”
ผมลุกขึ้น
มองคนในกระจกที่ยังทำหน้าอึนๆ อยู่ เลยปลุกความสดใสในตัวเองแบบฉับพลันด้วยการวักน้ำล้างหน้า ฉีกยิ้มกว้างๆ ส่งท้าย เตรียมเปิดประตูออกไปเจอหน้าเจ๊แคล
ตื่อดึ๊ง!
นึกว่าพี่ทัชพิมพ์อะไรมาอีก แต่ไม่ใช่
★R3NJI: เฮ้ย ไอ้หน้าปลาทูเน่า
★R3NJI: ถามไรหน่อยดิ๊
★R3NJI: ช่วงนี้คณะบริหารเรียนหนักเหรอวะ
★R3NJI: แคลดูเงียบๆ
★R3NJI: ไม่ค่อยตอบแชตกู
เฮ้อออ…
หน้ากูกลับมาอึนอีกละ
สงสารพี่เห็ดว่ะ ตอบแกยังไงดีวะเนี่ย ไม่ตอบก็เดี๋ยวเซ้าซี้ยาวอีก คิดไม่ออกลอกพี่ทัชละกัน
NaTee(n):
★R3NJI: พฤหัสบ้านป้ามึง
★R3NJI: นี่วันพุธ
NaTee(n): อ้อ ใช่ๆ
NaTee(n): เรียนหนักอะเพ่
NaTee(n): โอ๊ยๆๆๆ ปวดหัว
NaTee(n): แค่นี้ก่อนนะ
NaTee(n):
_______________________
อยู่อ่านพี่ณทัชด้วยกันไปนานๆ นะคะ
ขอบคุณมากๆ เลยค่า :D
นางร้าย
18.กันยา.19
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

โอ๋ๆนะพี่เห็ด ต้องมีคนมาดามใจแน่นวลลล มีเราคนนึงละ อิอิ😍😍😍 เป็นอีกตอนที่ทำให้ใจเต้นรัวววว น้องจะถามอย่างนั้นกับพี่ทัชไม่ด้ายยยย "พี่ชอบตัวเองเวลาอยู่กับผมมั้ย" คือฉันตายไปหลายตลบเลยจ้า💕💕💕💕 แต่ยอม รักคุณนางร้ายและชอบผลงานมั่กมั่กเลยนะคะ
-//////-
รอเสมอนะคะ สู้ๆค่าาาา
ตอนนี้พี้ทัชค่าตัวแพงมาแค่เกลือสามเม็ด ลุ้นต่อไปว่าพี่เห็ดจะโดนเทจริงๆปะ แล้วพี่ทัชล่ะเดือนกว่าแล้วนานพอให้รู้สึกไรยัง...กริ๊วๆ