ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (GOT7) Your heart หัวใจพ่ายรัก JackBam feat. Mark [Mpreg]

    ลำดับตอนที่ #7 : 06 Your heart (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 58






    ตอนที่6 (Chapter Six)...
     
     
     
     
     
    ร่างสูงเดินออกมาจากโรงพยาบาลอย่างไร้เรี่ยวแรง เสียงของคุณหมอยังคงกระแทกเข้ามาในหัวใจของเข้าจนมันกรีดลึกกลายเป็นแผลเหวอะหวะ
     
     
     
     
     
    “เลว”
     
     
     
     
     
    แจ็คสันพร่ำพูดแต่คำๆนี้ตั้งแต่ที่เขามองร่างของแบมแบมโดนเหล่าพยาบาลพาขึ้นรถไป เขาไม่กล้าแม้แต่จะขับรถพาอีกคนไปโรงพยาบาล ตอนนั้นเขาทำได้แค่โทรเรียกรถพยาบาลและยืนมองคนที่ตั้งท้องลูกตัวเองจมกองเลือดอยู่แบบนั้น แม้กระทั้งตอนที่รถพยาบาลมาถึงเข้าก็ทำได้แค่หลบซ่อนตัวเองไม่ให้มีใครเห็น เขามันก็แค่คนขี้ขลาดและสารเลวคนหนึ่งที่ฆ่าได้แม้กระทั่งลูกของตัวเอง
     
     
     
     
     
    “เลวเอ้ย! แกมันสารเลวจริงๆไอ้แจ็คสัน!” ก็ได้แค่สบถด่าตัวเองอยู่คนเดียวท่ามกลางความมืดและเงียบสงบของสวนสาธารณะแห่งหนึ่งแถวๆโรงพยาบาล
     
     
     
     
     
    เขายังไม่อยากกลับคอนโด แต่เขาก็ไม่กล้าพอที่จะไปนั่งเฝ้าแบมแบมหน้าห้องไอซียู ไม่กล้าแม้แต่จะยืนอยู่ในโรงพยาบาลด้วยซ้ำ ก็บอกแล้วว่าหวังแจ็คสันมันขี้ขลาด ตาขาวสิ้นดี!
     
     
     
     
     
    “เป็นนายจริงๆด้วยสินะ” เสียงคุ้นหูที่ดังอยู่ด้านหลังไม่ได้ทำให้แจ็คสันตกใจมากไปกว่านี้อีกแล้ว ร่างหนาทำได้แค่หันไปมองหน้าอีกคนด้วยสายตาว่างเปล่า
     
     
     
     
     
    “นายทำแบบนี้ทำไมแจ็คสัน” ร่างสูงก้าวเข้ามาเผชิญหน้ากับแจ็คสัน ก่อนจะถามออกไปอย่างผิดหวังในการกระทำของน้องชายคนสนิท ทั้งๆที่เขาไว้ใจว่าแจ็คสันจะไม่ทำมันแต่สุดท้ายแจ็คสันก็ทำลายความไว้ใจของเขาจนป่นปี้ไม่มีชิ้นดี
     
     
     
     
     
    “ผม.....ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่รู้...” แจ็คสันพึมพำออกมาเสียงเบา แต่ด้วยความเงียบคริสเลยได้ยินมันชัดเจน ร่างสูงยังคงมองหน้าอีกคนนิ่งรอคำอธิบายจากปากของแจ็คสัน
     
     
     
     
     
    “แบมแบมแพ้ถั่ว....ผมไม่รู้จริงๆ ผมไม่ได้อยากให้ลูกตายนะครับ ผมไม่ได้อยากจะทำร้ายเขาจริงๆนะครับเกอ ฮึก..”
     
     
     
     
     
    นี่ถ้าเป็นใจจอทีวีเขาคงยกรางวัลนักแสดงชายดีเด่นให้แจ็คสันไปแล้วกับบทดราม่าน้ำตาแตก แต่นี่เป็นชีวิตจริง และเขาก็รู้ว่าแจ็คสันไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ แจ็คสันกำลังเสียใจ ไม่ต่างกับมาร์คเมื่อกี้เลย และมันดูเหมือนจะมากกว่าด้วยซ้ำ
     
     
     
     
     
    แจ็คสันตอนนี้โคตรจะไม่โอเค
     
     
     
     
     
    “ฉันว่านายกลับบ้านไปพักผ่อนก่อนเถอะนะ วันนี้นายเหนื่อยมามากพอแล้วกลับไปคิดทบทวนตัวเองว่าควรจะเอายังไงต่อ ส่วนเรื่องทางนี้เดี๋ยวฉันดูให้เอง” คริสพูด มือหนาตบไหล่น้องชายเบาๆเหมือนที่ทำกับมาร์ค
     
     
     
     
     
    แจ็คสันพยักหน้าเบาๆก่อนจะเดินกลับไปที่รถของตัวเอง แต่ยังไม่วายมองเข้าไปข้างในโรงพยาบาล ทำอย่างกับจะเห็นแบมแบมอย่างไงอย่างงั้น
     
     
     
     
     
    ใจก็ได้แต่ภาวนาขออย่าให้แบมแบมเกลียดเขาเลย
     
     
     
     
     
    เขาไม่ได้ตั้งใจเลยจริงๆ
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    *****
     
     
     
     
     
    “พี่มาร์ค”
     
     
     
     
     
    “แบม...แบมฟื้นแล้ว” เสียงของร่างบางที่เพิ่งตื่นจากการหลับใหลอยู่บนเตียงเรียกให้ร่างสูงที่นั่งกุมมืออีกคนแน่นอยู่ข้างเตียงเงยหน้าขึ้นมามองแล้วอดที่จะยกยิ้มออกมาด้วยความดีใจไม่ได้
     
     
     
     
     
    “อึก พี่มาร์ค” แรงกอดที่แน่นเกินไปของร่างสูงทำให้แบมแบมถึงกับจุก แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขารู้ว่าพี่มาร์คกอดด้วยความรัก
     
     
     
     
     
    รู้แค่นี้แบมแบมก็หายจุกแล้วล่ะ (:
     
     
     
     
     
    “พี่นึกว่าแบมจะไม่ฟื้นซะแล้ว พี่นึกว่าแบมจะทิ้งพี่ไป...” เสียงทุ้มดังอู้อี้อยู่ข้างหูของแบมแบม งอแงเหมือนเด็กๆ เรียกรอยยิ้มจากคนเพิ่งตื่นออกมาได้เป็นอย่างดี
     
     
     
     
     
    “แบมไม่ทิ้งพี่มาร์คหรอกนะ แบมจะทิ้งคนที่แบมรักไปได้ยังไงล่ะครับ”
     
     
     
     
     
    “แบม...” มาร์คผละกอดออกมา มองสบตาหวานที่มองตอบกลับมาด้วยความรู้สึกรักไม่ต่างกัน
     
     
     
     
     
    “ว่าแต่นี่แบมหลับไปนานแค่ไหนกันเนี้ย ดูพี่มาร์คของแบมซูบไปเยอะเลยนะ” ไม่พูดเปล่าสองมือบางยังยกขึ้นมาจับใบหน้าหล่อเหลาของคนรักเข้ามาใกล้ๆ
     
     
     
     
     
    ‘ทำไมพี่มาร์คไม่ดูแลตัวเองเลยนะ’
     
     
     
     
     
    ได้แต่คิดและมองหน้าคนตรงหน้าอย่างอ่อนใจ
     
     
     
     
     
    “สองวันแหนะ แบมหลับไปตั้งสองวัน”
     
     
     
     
     
    “ว๊าแบมนี่แย่จัง แบบนี้ลูกก็หิว....” เสียงหวานชะงักทันทีที่มือบางลูบโดนท้องแบนราบของตัวเอง
     
     
     
     
     
    ทำไมมันแบนล่ะ มันต้องกลมสิ!
     
     
     
     
     
    “ลูก.....พี่มาร์ค ลูกแบมไปไหน เค้าไปไหนอ่ะพี่มาร์ค” แขนทั้งสองข้างของแบมแบมเปลี่ยนไปจับแขนแกร่งและเขย่าอย่างขอคำตอบ
     
     
     
     
     
    มาร์คที่โดนถามก็ไม่รู้จะให้คำตอบยังไง เหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างมาจุกอยู่ที่คอ จะพูดก็พูดไม่ออก ได้แต่ครางเสียงแผ่วเรียกชื่ออีกคนเท่านั้น
     
     
     
     
     
    “แบม”
     
     
     
     
     
    “พี่มาร์ค.....ลูกแบมไปไหน หมอเอาลูกแบมไปไหน พี่มาร์ค!”
     
     
     
     
     
    “เค้าไปแล้วแบม....เค้าไปสบายแล้ว”
     
     
     
     
     
    “มะ ไม่จริงอ่ะ ไม่จริง....ใช่มั้ยพี่มาร์ค ตอบแบมสิว่ามันไม่จริงใช่มั้ย พี่มาร์ค ฮืออออ” ร่างเล็กปล่อยโฮทันทีที่ได้ยินคำตอบจากพี่ชายร่างสูง
     
     
     
     
     
    แบมแบมกำลังเจ็บ เจ็บมาก.......เจ็บจนเหมือนกำลังจะตาย
     
     
     
     
     
    “พี่ขอโทษ....พี่ขอโทษแบมแบมเพราะพี่เอง เพราะพี่ดูแลแบมไม่ดีเอง พี่ผิดเอง...” แขนแกร่งรอบตัวร่างบางเขามาไว้ในอ้อมกอด ปล่อยให้คนตัวเล็กถูหน้ากับอกของตัวเองโดนไม่สนว่ามันจะเลอะทั้งน้ำมูกน้ำตา
     
     
     
     
     
    “ไม่หรอกพี่มาร์ค ฮึก แบมเอง ฮึก แบมตางหากที่โง่เอง แบมผิดเอง” เสียงหวานเอ่ยออกมาเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่ทั้งห้องจะมีแต่เสียงสะอื้นไห้ของผู้ชายสองคน
     
     
     
     
     
    แบมแบมโง่เอง
     
     
     
     
     
    ถ้าเรื่องนี้จะมีใครเป็นคนผิด คนๆนั้นก็คือแบมแบมเอง
     
     
     
     
     
    แบมแบมผิดเอง ที่เชื่อใจ..........ผู้ชายคนนั้น
     
     
     
     








    *****25%



     
     
    “แบมแบมครับ เดี๋ยวพี่ต้องไปประชุม.....แบมอยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย?”
     
     
     
     
     
    “ครับ”
     
     
     
     
     
    “พี่ไม่ได้อยากทิ้งแบมเลยนะครับแต่พี่มีงานด่วนจริงๆ”
     
     
     
     
     
    “ไปเถอะครับพี่มาร์ค แบมอยู่ได้”
     
     
     
     
     
    “พี่จะรีบกลับมานะครับ” เอ่ยจบมาร์คก็จุมพิตที่หน้าผากมนก่อนจะเดินออกจาห้องพักผู้ป่วยเพื่อไปทำงาน
     
     
     
     
     
    สิ้นเสียงปิดประตูร่างบางที่เคยยิ้มให้กับร่างสูงก็ปรับสีหน้าเป็นหมองเศร้า ดวงตากลมโตมองออกไปยังนอกหน้าต่างอย่างเลื่อนลอย ยิ่งนึกถึงวันที่ตัวเองโง่เขลาจนต้องเสียงลูกไปน้ำตาก็พาลจะไหลซะอย่างนั้น
     
     
     
     
     
     สองเท้าค่อยๆก้าวลงจากเตียงผู้ป่วยและพาร่างตัวเองเดินไปทางระเบียง โดยไม่สนว่าเสาน้ำเกลือจะล้มเพราะแรงลากหรือว่าเข็มน้ำเกลือจะทิ่มจนเลือดไหลออกมามากมาย
     
     
     
     
     
     มือบางวางลงไปที่ราวเหล็กตรงระเบียง มองลงไปด้านล่างที่มีผู้คนเดินพลุ่กพล่าน แม้จะมองเห็นเป็นเพียงตัวเล็กๆ ด้วยเพราะความสูงของชั้นที่ตัวเองอยู่ถึงชั้นที่หก น้ำใสๆที่เคยกลั้นค่อยๆไหลลงมาอาบแก้มกลมจนภาพตรงพร่าเบลอ ก่อนที่เสียงแหบพร่าจะเปล่งออกมาอย่างยากลำบาก
     
     
     
     
     
     “แม่ขอโทษนะลูก....แม่ขอโทษ..”
     
     
     
     
     
     
     
     
    [Jackson Said]
     
     
     
     
     
     วันนี้ผมตัดสินใจว่าจะมาอธิบายให้แบมแบมฟังว่าเรื่องที่เกิดขึ้นผมไม่ได้ตั้งใจและผมอยากจะขอโทษที่ทำให้แบมแบมต้องเสียลูกไป ผมอยากให้เขาให้อภัยผมแม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันจะร้ายแรงจนเกินให้อภัยก็ตาม แต่ผมก็ยังหวังว่าเขาจะเข้าใจว่าผมไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายเขาและลูกเลย
     
     
     
     
     
     ผมได้รับเเมสเซสจากคริสเกอว่าแบมแบมฟื้นมาได้สองวันแล้วแต่ผมก็ยังไม่กล้ามาเยี่ยมเพราะผมยังละอายใจถ้าหากจะต้องมาเจอหน้ามาร์คต้วน ผมรู้ว่าเขาก็เสียใจไม่ต่างจากผม อาจจะมากกว่าผมด้วยซ้ำเพราะว่าเขาคอยดูแลแบมแบมกับลูกมาตลอดระยะเวลากว่าหกเดือนที่ผ่านมาก็คงจะผูกพันธุ์กับลูกของผมไม่น้อย ขนาดผมที่เพิ่งเทียวไปเทียวมาแค่เดือนเดียวยังรู้สึกรักเลยแล้วผู้ชายคนนั้นจะเหลืออะไร
     
     
     
     
     
     แต่วันนี้คริสเกอบอกว่ามาร์คจะมีประชุมใหญ่ เลยไม่ได้อยู่เฝ้าแบมแบม ผมเลยเลือกที่จะมาหาแบมแบมวันนี้เพราะถ้าไม่มาวันนี้ผมก็ไม่รู้ว่าจะได้มาอีกเมื่อไหร่ และตอนนี้ผมก็ยืนอยู่หน้าห้อง 604 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ใจมันก็ยังไม่กล้าพอที่จะเปิดประตูเข้าไปเลยได้แต่ยืนมองป้ายชื่ออยู่หน้าประตูแค่นั้น
     
     
     
     
     
     ในสมองผมตอนนี้สับสนไปหมด ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มพูดยังไงดี กลัวว่าแบมเบมจะเกลียดขี้หน้าจนไม่ยอมฟังผม พยายามควบคุมจิตใจที่มันกำลังวุ่นวายให้สงบ แต่ก็ไม่เป็นผล สองเท้าของผมตัดสินใจหมุนกลับมาทางเดิมเพราะใจไม่กล้าพอแต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกเดินก็ต้องชะงักเพราะเสียงที่ดังมาจากในห้อง
     
     
     
     
     
    เคร้ง!!
     
     
     
     
     
     
     ผมตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปทันที และภาพที่เห็นก็ทำเอาผมแทบทรุดแต่ก็ต้องควบคุมสติและวิ่งเข้าไปกอดร่างบางที่กำลังจะกระโดดระเบียงลงไปให้กลับมาในห้อง
     
     
     
     
     
    “ปล่อย! ปล่อยผม!!” แบมแบมกระโกนออกมาพร้อมกับพยายามสะบัดร่างกายให้หลุดจากพันธนาการของผม แต่ผมก็ยังคงกอดรัดร่างบางเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
     
     
     
     
     
    “ผมบอกให้ปล่อยไง! ปล่อย!!”
     
     
     
     
     
    “ไม่!”
     
     
     
     
     สิ้นเสียงผมร่างบางก็เงียบไปทันที ร่างกายที่เคยสะบัดก็หยุดนิ่ง ผมจึงค่อยๆคลายอ้อมกอดของตัวเองออก แต่ยังไม่ทันได้ลุกแบมแบมก็สะบัดตัวออกและวิ่งหลบไปอยู่ที่มุมห้องทันที
     
     
     
     
     
    “อะ..ออกไปนะ” เสียงที่สั่นเครือกับแววตาที่สั่นระริกของร่างบางทำเอาผมใจกระตุกวูบ จากที่เคยจะเดินเข้าไปหาขาทั้งสองข้างกลับก้าวไม่ออก ทำเพียงได้แต่เอ่ยเรียกชื่ออีกคนเสียงแผ่วเท่านั้น
     
     
     
     
     
    “แบมแบม...”
     
     
     
     
     
    “ออกไปนะ...คนใจร้าย คุณทำแบบนี้ได้ยังไง....คุณทำกับลูกได้ยังไง ฮึก T_T” ว่าจบ ร่างบางก็ทรุดลงไปนั่งที่พื้นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มอย่างน่าสงสาร
     
     
     
     
     
    “แบมแบม” ตอนนี้ผมไม่รู้จะทำยังไง ไม่กล้าแม้แต่จะเดินเข้าไปกอดปลอบ ไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรออกไปด้วยซ้ำ นอกจากย้ำชื่อของอีกคนเบาเบา
     
     
     
     
     
    “ทั้งๆที่ผมอุตส่าห์เก็บเค้าไว้ ทั้งๆที่ผมคอยดูแลเค้ามาอย่างดีโดยตลอด.....แต่ทำไม ฮึก ทำไมคุณต้องทำร้ายเค้าด้วย.......ทั้งที่ผมบอกคุณแล้วว่าเค้าเป็นลูกของผม ฮึก แต่คุณก็ยัง ทำแบบนี้อีก ทำไม ฮืออ”
     
     
     
     
     
    “ฉัน....”
     
     
     
     
     
    “ผมเกลียดคุณ!”
     
     
     
     
     
     จบคำพูดของแบมแบม เหมือนกับมีมีดมากรีดลงที่ใจผม มันเจ็บจนพูดอะไรไม่ออก แม้จะอยากอธิบายเหลือเกินแต่ปากมันก็ไม่สามารถขยับได้ ราวกับปลาขาดน้ำที่ทำได้เพียงอ้าปากพาบๆเท่านั้น
     
     
     
     
     
    นี่สินะผลจากการกระทำของคนสารเลวอย่างผม
     
     
     
     
     
    โดนแค่นี้มันอาจจะน้อยไปด้วยซ้ำ!
     
     
     
     
     
    “ฉัน....ขอโทษ”
     
     
     
     
     เพียงแค่นี้จริงๆที่ผมสามารถพูดออกไปได้อย่างเต็มปาก
     
     
     
     
     
    ผมหมุนตัวเดินออกมาจากห้องอย่างคนหมดแรง มือเอื้อมไปปิดประก่อนจะทรุดนั่งมันซะตรงนั้น ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะเดินต่อ ไม่มีแม้แต่จะมีแรงหายใจ
     
     
     
     
     
    หมดสิ้นแล้วความไว้ใจอันน้อยนิดที่เคยสั่งสมมา
     
     
     
     
     
    ต่อไปนี้มันคงไม่มีอีกต่อไปแล้ว.....ไอดอลในดวงใจของแบมแบม ที่ชื่อหวังแจ็คสัน
     
     
     
     
    [End Jackson Said]
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    *****
     
    [Bambam Said]
     
     
     
     
     
    หลังจากที่ผู้ชายคนนั้นกลับไป ก็มีพยาบาลเข้ามาทำแผลให้ผม (แผลที่ได้มาจากการลากเสาน้ำเกลือนั่นแหละ) ผมได้แต่นั่งนิ่งๆบนเตียงไม่เอ่ยเสียงใดๆ ไม่รู้สึกเจ็บหรือแสบเลยสักนิดเวลาที่โดนแอลกอฮอร์จิ้มมาที่แผล เพราะตอนนี้หัวใจของผมมันเจ็บมากกว่านั้นหลายเท่า
     
     
     
     
     
     
    ‘ผมเกลียดคุณ’
     
     
     
     
     
    ประโยคนี้ผมไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยว่าจะได้พูดมันกับผู้ชายคนที่ผมปลื้มมากที่สุดและเก็บเขาเอาไว้ในดวงใจมาโดยตลอด แต่วันนี้ผมพูดมันออกไปแล้ว พูดไปทั้งๆที่ใจไม่ได้คิดอย่างนั้นเลยสักนิด
     
     
     
     
     
    เพียงแค่แววตาที่รู้สึกผิดของผู้ชายคนนั้นมองมาที่ผม ความโกรธที่เคยมีก่อนหน้านี้มันก็มลายหายไปจนหมด แต่ยิ่งผมมองหน้าของเขาผมก็ยิ่งเจ็บ เพราะมันทำให้ผมคิดถึงลูก........ผมไม่อยากเจ็บอีกต่อไปแล้ว ผมไม่อาจทนมองหน้าผู้ชายคนนี้ได้อีกต่อไป สิ่งเดียวที่ทำได้คือไล่เขาไปไกลๆ และคำว่าเกลียดมันคงจะเป็นคำไล่ที่มีประสิทธิภาพที่สุด
     
     
     
     
     
    ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่แจ็คสันมาหาผมที่บ้านในวันนั้น หลังจากนั้นเขาก็ไปมาหาสู่ตลอดเวลาที่ไม่มีงาน มันทำให้ผมได้เรียนรู้นิสัยใจคอของเขาและได้รู้ว่าเขาเป็นคนดีมากๆแบบที่ผมคิดจริงๆ
     
     
     
     
     
    ผมไม่เคยบอกเรื่องนี้กับพี่มาร์ค มันอาจจะดูเหมือนคนเลวที่พอลับหลังคนรักก็แอบพาผู้ชายอื่นเข้าบ้าน แต่สำหรับผมแล้ว ผมบริสุทธิ์ใจผมคิดเพียงว่าแจ็คสันเป็นแค่พ่อของลูก และผมก็อยากให้ลูกได้พูดคุยกับพ่อแท้ๆของตัวเองบ้างก็เท่านั้น เพราะผู้ชายคนเดียวที่ผมรักจนสุดหัวใจก็คือพี่มาร์ค
     
     
     
     
     
    จนทุกวันนี้พี่มาร์คก็ยังไม่เคยถามผมสักคำว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม เพราะพี่มาร์ครู้ว่าถ้าถามผมอาจจะคิดถึงลูกแล้วก็ร้องไห้ออกมาอีก พี่มาร์คไม่ชอบเห็นผมมีน้ำตา และผมก็ไม่อยากให้พี่มาร์คมาเห็นน้ำตาของผมด้วย ผมเลยทำได้แค่ยิ้มตอบแทนที่พี่มาร์คก็คอยยิ้มและจับมือเคียงข้างผมมาตลอด
     
     
     
     
     
    ทำไมผมจะไม่รู้ว่าพี่มาร์คเองก็เจ็บไม่ต่างจากผม…..เมื่อคืนผมได้ยินเสียงเขาแอบร้องไห้ในห้องน้ำตอนกลางดึก ตอนนั้นใจผมแทบขาดเป็นเสี่ยงๆ ผมรู้แล้วว่าจริงๆสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของผมมันไม่ใช่ลูกแต่มันคือผู้ชายที่ดูแลและเคียงข้างผมทั้งยามทุกข์และสุข สิ่งสำคัญของผมคือพี่มาร์ค
     
     
     
     
     
    ผมรู้แล้วว่าต่อจากนี้ชีวิตผมควรจะเดินต่อไปยังไง ผมเลยเลือกที่จะปล่อยความเจ็บปวดและทิ้งมันไว้ตรงนี้ แต่ไม่รู้อะไรที่ทำให้ผมคิดสั้นเกือบกระโดดลงไปแบบนั้น และไม่รู้ว่าผมทำบุญมาด้วยอะไรครั้งนี้ถึงมีคนมาช่วยผมไว้ทัน ถึงแม้คนๆนั้นจะเป็นคนๆเดียวที่ทำให้ผมต้องเสียลูกไป แต่ผมอาจจะต้องขอบคุณเขามากๆก็ได้ที่ช่วยให้ผมมีชีวิตอยู่ต่อไป................เพื่ออยู่กับคนที่ผมรัก
     
     
     
     
    [End Bambam Said]
     
     
     
     





    *****60%






     

    #สองเดือนผ่านไป
     
     
     
     
     
    “พี่มาร์คครับ นี่จะแปดโมงแล้วนะยังไม่ลุกอีก” แบมแบมบอกร่างสูงที่นอนหลับอยู่บนที่นอนอย่างสบายใจเฉิบไม่สนแม้เข็มนาฬิกาจะเคลื่อนใกล้เวลาทำงานไปมากทุกที
     
     
     
     
     
    “พี่มาร์ค อ๊ะ!” ร่างบางร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆก็ถูกแขนแกร่งของคนที่หลับอยู่ดึงให้ลงไปนอนด้วยแล้วเกี่ยวเอวบางเข้าไปกอดจากทางด้านหลัง
     
     
     
     
     
    “อยู่แบบนี้อีกสักพักนะ” พูดทั้งที่ยังหลับตาพริ้มเอาคางวางไว้บนไหล่เล็ก แอบลอบยิ้มเล็กๆที่อีกคนไม่ว่าอะไร
     
     
     
     
     
    จริงๆแล้วมาร์คตื่นตั้งนานแล้วล่ะ ตื่นก่อนที่แบมแบมจะตื่นอีกด้วยซ้ำ มาร์คชอบนะ ได้นอนมองหน้าแบมแบมยามหลับและแกล้งหลับเมื่อแบมแบมตื่น ชอบตอนที่ได้นอนแอบมองร่างบางเดินทำภารกิจในตอนเช้าไปรอบๆห้อง ชอบที่แบมแบมคอยมาปลุกเขาให้ลุกไปอาบน้ำ และชอบที่เขาได้ดึงแบมแบมลงมานอนกอดแบบนี้
     
     
     
     
     
    “งื้อ~ พี่มาร์คถ้าไม่ลุกตอนนี้ จะไปทำงานสายเอานะครับ” แบมแบมบอกยามที่พลิกตัวหันหน้ามามองมาร์คที่นอนอมยิ้มอยู่ทั้งที่ยังหลับตา
     
     
     
     
     
    “งื้อ~ น้องแบมขอไปสายวันหนึ่งไม่ได้หรอ” มาร์คอ้อน ค่อยๆลืมตามองใบหน้าหวานที่อยู่ห่างเพียงแค่คืบ
     
     
     
     
     
    “ไม่เอานะเป็นถึงผู้บริหารจะมาเข้างานสายไม่ได้นะครับ” แบมแบมว่าพรางตีหน้าดุใส่คนพี่ที่ยังคงเอาแต่นอนยิ้มไม่ยอมขยับ
     
     
     
     
     
    จุ๊บ!
     
     
     
     
     
    “มอร์นิ่งคิสครับ :)” มาร์คพูดหลังจากถอนริมฝีปากออกมาจากริมฝีปากนุ่มแล้ว ร่างสูงลุกเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
     
     
     
     
     
    แบมแบมมองตามแผ่นหลังคนรักไปด้วยรอยยิ้ม พี่มาร์คเนี่ยน่ารักขึ้นทุกวันเลยนะ
     
     
     
     
     
    ตกหลุมรักครั้งที่ห้าพันแปดร้อยสามสิบหก <3
     
     
     
     
     
     
     
     
    “อ้าว...ทำไมพี่มาร์คแต่งตัวแบบนี้ล่ะครับ?” แบมแบมถามหลังจากเงยหน้าขึ้นมามองคนรักที่เดินลงมาจากชั้นสอง แล้วก็พบว่าอีกคนอยู่ในชุดไปรเวทธรรมดาสบายๆ ไม่ได้ใส่สูทรผูกไทด์เหมือนทุกที
     
     
     
     
     
    “วันนี้พี่หยุดน่ะ”
     
     
     
     
     
    “ทำไมไม่บอกแบมก่อนล่ะครับ แบมจะได้ปล่อยให้พี่มาร์คนอนหลับสบายๆ” แบมแบมยู่ปากเล็กๆ
     
     
     
     
     
    “ไม่เป็นไร พี่ชอบให้แบมปลุกนะ” มาร์คพูด มองใบหน้าหวานของคนรักแล้วก็ยิ้มกริ่ม ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้นั่งลงตรงข้ามกับร่างบาง ตาก็กวาดมองอาหารบนโต๊ะไปด้วยอย่างตื่นเต้น
     
     
     
     
     
    มีแต่ของโปรดมาร์คทั้งนั้นเลย
     
     
     
     
     
    “วันนี้เป็นวันพิเศษแบมเลยทำอาหารเยอะไปหน่อย ไม่ว่ากันนะครับ”
     
     
     
     
     
    “หืม? พี่จะว่าทำไมล่ะครับ มีแต่ของโปรดทั้งนั้นพี่จะกินให้หมดทุกอย่างเลย” มาร์คพูดก่อนจะหยิบช้อนขึ้นมาตักซุปเต้าหู้เข้าปาก
     
     
     
     
     
    “อือหือ ...อร่อยเหมือนเดิมเลยนะครับ” คนกินเอ่ยชม จนคนทำที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามยิ้มจนแก้มแทบปริ
     
     
     
     
     
    “อร่อยก็กินเยอะๆนะครับ” แบมแบมบอก และทั้งสองก็ลงมือทานมือเช้ากันอย่างเอร็ดอร่อยด้วยรอยยิ้ม
     
     
     
     
     
    วันนี้มาร์คลางานเพราะอยากจะอยู่บ้านกับแบมแบมเพื่อเป็นของขวัญให้กับตัวเองในวันสำคัญ
     
     
     
     
     
    ใช่แล้วล่ะวันนี้เป็นวันเกิดมาร์ค และแบมแบมก็จำได้ดีเลยลุกขึ้นมาทำแต่ของโปรดให้คนรักทานในตอนเช้าไง
     
     
     
     
     
    วันนี้มาร์คไม่ได้ตั้งใจที่จะหยุดอยู่กับแบมแบมเท่านั้นนะแต่เขายังอยากจะพาแบมแบมออกไปสุดอากาศข้างนอกบ้านด้วย เพราะน้องไม่ค่อยออกไปไหน เขาไม่อยากให้แบมแบมอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน แบมแบมน่ะชอบนึกถึงเรื่องเก่าๆ เขาไม่อยากให้น้องแอบร้องไห้อีกแล้ว
     
     
     
     
     
    ภายนอกแบมแบมอาจจะดูเหมือนคนเข้มแข็งที่ทำใจได้ในเวลาเพียงแค่เดือนกว่าๆแต่จริงๆแล้วใครจะรู้ว่าข้างในแบมแบมอ่อนแอจะตาย ทั้งรอยน้ำตาที่แห้งแล้วบนหมอน ไหนจะกระดาษทิชชู่มากมายที่ทิ้งในถังขยะทุกๆวันนั่นอีก แม้ว่าน้องพยายามจะปกปิดไม่ให้เขาเห็นว่าตัวเองอ่อนแอแต่มาร์คก็รู้หมดนั่นแหละ
     
     
     
     
     
    อย่าลืมว่าแบมแบมคือหัวใจของมาร์ค......หัวใจของตัวเองเจ็บทำไมเจ้าตัวจะไม่รู้ล่ะ
     
     
     
     
     
    “แบมแบมครับวันนี้เราไปเที่ยวกัน” มาร์คเอ่ยชวนหลังจากช่วยแบมแบมเก็บโต๊ะอาหารเสร็จ
     
     
     
     
     
    “ไปไหนหรอครับ?” ร่างบางเงยหน้าขึ้นมาถาม มือก็ถือจานข้าวที่ทานเสร็จแล้วเข้ามาล้างในครัว โดยมีมาร์คเดินตามเข้ามาช่วยล้างด้วยอีกแรง
     
     
     
     
     
    “อืม....ไปปิกนิกกัน พี่เห็นมีสวนสาธารณะเปิดใหม่ตรงทางเข้าหมู่บ้านเรา ไปนั่งกินลมชมวิว พักผ่อนร่างกาย ดีมั้ย?” พูดไปมือก็รับจานที่แบมแบมล้างน้ำยาแล้วมาล้างน้ำเปล่า ล้างไปคุยไปเพลินดีเหมือนกัน
     
     
     
     
     
    “ก็ดีนะครับ ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลแบมก็ไม่ค่อยได้ไปไหนเลย ไปปั่นเรือเป็ดกันก็น่าสนุกดีนะ” แบมแบมพูดแล้วก็หันมาส่งยิ้มหวานให้คนรักอย่างมีความสุข บอกเลยว่าตอนนี้แบมแบมไม่ต้องการอะไรแล้วขอแค่มีกันและกันไปทุกวันแบบนี้ก็ดีมากมาย
     
     
     
     
     
    “งั้นเดียวพี่ไปเตรียมพวกเสื่อกับร่มก่อนนะ”
     
     
     
     
     
    “โอเคเดี๋ยวแบมจะเตรียมของว่างไปกินนะครับ”
     
     
     
     
     
    มาร์คพยักหน้าให้ร่างบางแล้วก็เดินไปเตรียมของพวกเสื่อกับร่มผ้าใบเอาไปกางเผื่อร้อน จัดการเอาทุกอย่างใส่ท้ายรถก่อนจะเดินไปแอบมองแบมแบมที่กำลังเตรียมของว่างอยู่ในครัว เมื่อเห็นว่าอีกคนยังไม่เสร็จก็เดินย่องขึ้นมาบนห้อง หยิบของที่ตัวเองแอบไปซื้อมาเมื่อหลายวันก่อนออกมาเปิดดู มือหนาจัดการหยิบของที่อยู่ในกล่องออมาใส่กระเป๋าแล้วก็เก็บกล่องเอาไว้ที่เดิมไม่อยากเอาไปด้วยเดี๋ยวกระเป๋ามันตุงแล้วจะโดยสงสัย
     
     
     
     
     
    ร่างสูงเดินลงมาจากชั้นสองพอดีกับที่แบมแบมก็เตรียมของเสร็จแล้วเดินออกจากครัวมา ร่างบางหันมามองมาร์ค ส่งยิ้มหวานมาให้โดยที่มาร์คก็ยิ้มตอบกลับไป
     
     
     
     
     
    “ไปกันเลยมั้ยครับ”
     
     
     
     
     
    “ไปสิครับ” ว่าจบร่างสูงก็เดินไปฉวยตะกร้าที่แบมแบมถือมาถือเอาไว้เองแล้วก็เดินโอบไหล่บางออกมาที่รถ
     
     
     
     
     
    ไม่ได้หรอกเดี๋ยวน้องหายไปแล้วมาร์คจะทำยังไงล่ะ (:
     
     
     
     
     
    มือหนาเอื้อมไปเปิดประตูให้คนตัวเล็กกว่า แบมแบมหันมามองแล้วส่งยิ้มให้
     
     
     
     
     
    “ขอบคุณครับ”
     
     
     
     
     
    มาร์คยิ้มตอบไป มันอาจจะดูเหมือนคนบ้าที่พวกเขาเอาแต่ยิ้มให้กันทั้งวันแต่สำหรับมาร์คกับแบมแบมแล้วมันคือความสุข
     
     
     
     
     
    ไม่ต้องพูดเยอะ ไม่ต้องเอ่ยอะไรมาก แค่ส่งยิ้มให้กันแค่นั้นก็เหมือนได้บอกความรู้สึกของกันและกันแล้ว
     
     
     
     
     
    ว่าพวกเขาน่ะ.....รักกันมากแค่ไหน
     
     
     
     

     
    Talk.ครบร้อยแล้วค่ะ เนื่องจากเรื่องนี้บอกเลยว่ามันยากจริงๆเพราะเป็นดราม่าซึ่งมันไม่ใช่ตัวไรท์เลย แต่เค้าอยากทำอะไรที่มันเป็นการท้าทายตัวเอง ซีนอารมณ์มันเยอะเลยต้องใช้เวลาหน่อย
    ตอนนี้ก็ผ่านจุดพีคๆของเรื่องมาสองจุดแล้ว จุดแรกก็คือตอนแบมท้อง จุดสองก็คือตอนแบมแท้ง จุดต่อไปก็กำลังจะมาแล้วค่ะ เป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องเลยก็ว่าได้
    ในความคิดเค้ามันก็ดราม่าพอตัวนะแต่ไม่รู้ว่าคนอื่นจะสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่เค้าอยากจะสื่อรึเปล่า ไม่ต้องถึงขนาดว่าอ่านไปแล้วน้ำตานองแค่พอรู้สึกหนึบๆในอกก็ถือว่าไรท์ประสบความสำเร็จแล้วล่ะ
    เอาเป็นว่าถ้าชอบก็แชร์ต่อนะคะ เรื่องนี้ขับเคลื่อนด้วยยอดวิว ตอนหน้าจะมาอัพถ้ายอดวิวถึงสี่แสน #โดนตบ เอาเป็นว่าเจอกันตอนหน้านะคะ^^

    ปล.มีคนบอกว่าถ้าเศร้ากว่านี้จะมาเผาบ้านไรท์(ไม่มีหรอกเค้าล้อเล่น)

    ตอบคำถาม คุณ Kpug ไม่ต้องเตรียมถังค่ะ ให้เตรียมมีดมาแทงไรท์เตอร์มันได้เลย55555 #ยังจะหัวเราะ
     
    #หัวใจพ่ายรัก
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×