ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : 05 Your heart (100%)
ตอนที่5 (Chapter Five)...
“น้องแบมวันนี้พี่กลับดึกนิดนึงนะครับมีประชุมลากยาวถึงสองทุ่มเลยไม่รู้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่” มาร์คบอกออกมาระหว่างที่มือบางกำลังจัดเน็กไทด์ให้
“ทำงานหนักก็อย่าลืมทานข้าวกลางวันด้วยนะครับ ตอนเย็นก็บอกให้คุณโบมีหาอะไรมาให้รองท้องไว้ด้วยนะจะได้ไม่ต้องทนหิวแบกท้องกลับมาที่บ้าน รู้มั้ยครับ” เอ่ยบอกอย่างเป็นห่วงเพราะแบมแบมน่ะรู้ดีว่าพี่มาร์คอ่ะชอบแบกท้องมากินข้าวพร้อมเขาที่บ้าน บางทีมีประชุมทั้งวันข้าวเที่ยงก็ไม่ได้กินแต่ก็ทนหิวมาจนเย็นได้ นี่ถ้าคุณโบมีเลขาคนสวยไม่โทรมาบอกแบมแบมก็คงไม่รู้หรอกว่าพี่มาร์คเกเรไม่ยอมกินข้าว
“ครับ แม่...ทูนหัว” มาร์คว่ายิ้มๆ ส่งมือไปโยกหัวอีกคนอย่างเอ็นดู
“ไปทำงานได้แล้วครับ” แบมแบมดุนหลังคุณว่าที่สามีไปที่ประตู ก่อนที่อีกฝ่ายจะก้มลงมากดจมูกสูดความหอมจากแก้มยุ้ยเหมือนทุกวัน
ฟอดดด
“รักนะครับ” กระซิบบอกข้างหูก่อนจะก้มลงไปจูบท้องกลมที่เริ่มโตขึ้นมาอีกนิดเบาๆ
“รักเหมือนกันครับ”
ดังเช่นทุกวันที่แบมแบมมักจะมายืนรอส่งพี่มาร์คจนไฟท้ายรถลับตาไปถึงเข้าบ้าน มือบางลูบท้องตัวเองที่อายุครรภ์เพิ่งครบยี่สิบสัปดาห์เบาๆ รอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นมาเมื่อถึงว่าพี่มาร์คนั้นขี้เห่อแค่ไหน
ร่างบางลงมาล้มต้มนั่งบนโซฟาตัวยาวก่อนจะหยิบพวกหนังสือสำหรับคุณแม่ที่พี่มาร์คซื้อมาให้ขึ้นมาอ่าน....บางหน้าก็มีโน้ตแผ่นเล็กติดอยู่
‘เรื่องควรจำสำหรับคนท้อง’
แบมแบมไล่อ่านตั้งแต่บรรทัดแรกจนบรรทัดสุดท้ายค่อยพลิกหน้าต่อไป มันก็เป็นหลักเกณฑ์ธรรมดาทั่วไปของคนที่กำลังตั้งครรภ์นั่นแหละ.....ข้อห้ามนู้นห้ามนี่เยอะจะตาย
“คนท้องห้ามกินของเผ็ดหรือรสจัด...ว้าเสียดายจัง”
ร่างบางร้องออกมาอย่างรู้สึกเสียดาย ว่าแล้วทำไมช่วงนี้พี่มาร์คถึงห้ามไม่ให้เขากินของเผ็ดมากนักเพราะหนังสือเล่มนี้นี่เอง
“ห้ามคนท้องกินน้ำมะพร้าว...หื้ม?” ร่างบางทำหน้างุนงงเล็กน้อย เขาเคยได้ยินมาบ้างว่าถ้าเกิดแม่กินน้ำมะพร้าวตอนท้องลูกจะออกมาผิวสวย แต่ทำไมหนังสือเล่มนี้ถึงบอกว่าห้ามกินกันนะ
“เพราะน้ำมะพร้าวเป็นน้ำที่สะอาดหากคุณแม่กินเข้าไปมันจะไปบีบมดลูกอาจทำให้แท้งลูกได้....อ๊า น่ากลัวจัง” แบมแบมร้องออกมาเบากับความน่ากลัวของน้ำมะพร้าวดีนะที่เขาไม่อยู่เมืองไทยไม่งั้นได้ร้องกินทุกวันแน่ ก็หลังบ้านปลูกต้นมะพร้าวนี่....แต่จะว่าไปแบมแบมไม่มีมดลูดนี่นาแล้วแบบนี้จะกินน้ำมะพร้าวได้มั้ยนะ บางทีการท้องนอกมดลูกแบบแบมแบมก็ต้องการคู่มือที่เฉพาะตัวมากกว่านี่นะ
ตากลมไล่อ่านไปเรื่อยๆพลิกกระดาษจนมาถึงหน้าสุดท้าย แอบตกใจกับตัวเองที่อ่านหนังสือได้มากขนาดนี้ทั้งที่ปกติแค่เห็นตัวหนังก็ง่วงแล้ว แต่ตั้งแต่มีลูกเขาก็อยากอ่านมากขึ้นอยากรู้ข้อควรระวังมากๆเพื่อเขาจะได้ดูแลลูกในท้องได้....ถามว่าโอเคมั้ย? มันก็สนุกดีนะเหมือนได้เล่านิทานให้ลูกฟังเลย
“อาหารต้องห้ามอย่างสุดท้าย ‘ถั่ว’ .....อันนี้ถึงไม่ห้ามแม่ก็ไม่กินอยู่แล้วล่ะลูก” แบมแบมยู่ปากให้หนังสือก่อนจะปิดลงและวางมันไว้บนโต๊ะตามเดิม
ร่างบางขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงพนักดีเพิ่งรู้ว่าตัวเองไหลมานอนก็ตอนนี้แหละ
ปิ๊งป่อง
เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้นเรียกสายตาคุณแม่ท้องแรกให้หันไปมองอย่างสงสัย....พี่มาร์คลืมของเหรอ?
ไม่รอช้า ร่างบางที่ท้องเริ่มโตลุกขึ้นไปเดินไปเปิดประตูทันที ถ้าเกิดพี่มาร์คลืมของจะได้รีบมาเอาและรีบกลับไปทำงาน เขาไม่อยากให้พี่มาร์คเสียเวลางานไปกว่านี้ แค่ลาหยุดหาเขาไปหาหมอตามที่หมอนัดก็มากพอแล้ว
“ลืมอะไรหรอครับพี่มาร์ค...อ้าว!”
“แท่ แด~” เสียงทุ้มร้องออกมาอย่างเซอร์ไพรส์ ก่อนที่หน้าหล่อจะค่อยๆโผล่มาจากหลังตะกร้าปิกนิกที่ตัวเองถือมา
วันนี้แจ็คสันไม่ได่ใส่แว่นดำ หรือแมสปิดปากมาเหมือนทุกที มีแค่หมวกสีดำที่พอช่วยปิดใบหน้าได้เล็กน้อยเท่านั้น
“เข้ามาก่อนสิครับ....วันนี้ไม่มีงานหรอครับถึงมาที่นี่ได้” คุณแม่เอ่ยและก็เดินนำมาทรุดนั่งที่โซฟาตัวยาว
“วันนี้ฉันว่างน่ะก็เลยแวะมาหานายซะหน่อย” แจ็คสันตอบหลังจากวางตะกร้าลงแล้ว ทุกครั้งที่ว่างๆเขาก็มักจะมาหาแบมแบมเสมอ ดีที่เขาไม่ใช่พวกชอบสุงสิงกับใครเลยไม่ค่อยมีเพื่อนมานั่งถามให้ต้องขี้เกียจตอบ
“แล้วนี่เอาอะไรมาเยอะแยะครับเนี่ย” แบมแบมถาม ตาก็มองไปที่ตะกร้าอย่างสนใจ
“ฉันเห็นนายอยู่บ้านคนเดียวน่ะ คงไม่ค่อยได้ออกไปไหนใช่มั้ยล่ะ...ทำอาหารกินเองก็คงไม่สะดวกเลยให้แม่นมที่บ้านทำของพวกนี้มาให้ ลองกินดูสิ” พูดพรางเปิดตะกร้าหยิบกล่องซุปเปอร์แวร์ออกมา
กลิ่นหอมอ่อนๆของซุปกิมจิเรียกน้ำลายของคุณแม่ได้อย่างง่ายดาย จนต้องยกมือขึ้นมาปิดปากไว้ก่อนที่น้ำลายจะหยดลงมาจริงๆ เห็นอย่างนั้นแล้วแจ็คสันก็อดที่จะยกยิ้มไม่ได้ มือหนาดันกล่องซุปไปข้างหน้าคุณแม่โดยไม่ลืมที่จะส่งช้อนไปให้ด้วย
“หือ...อร่อยอ่ะ” เพียงแค่คำแรกก็ได้รับคำชมซะแล้ว งานนี้คนทำก็ไม่อยู่ คนเอามาก็ได้หน้าไปสิจ๊ะ
“อร่อยก็กินเยอะๆนะ...นี่ลองอันนี้ดูฉันทำเอง ตั้งใจมากเลยนะคิดว่ากินคู่กับซุปน่าจะอร่อย”
“แซนวิสเนี่ยนะ?” แบมแบมถามอย่างแปลกใจ มองไปที่กล่องแซนวิสที่อีกคนเพิ่งหยิบออกมา
“อื้ม..ทำไมล่ะปกติฉันก็กินมันคู่กับซุปสาหร่ายออกจะบ่อย” แจ็คสันตอบ ก็ส่วนมากเขาก็จะให้ผู้จัดการไปซื้อมาให้บ่อยๆเพราะไม่ชอบกินอาหารกองถ่าย
“นี่คุณทำงานจนไม่มีเวลาออกไปหาอะไรที่มันให้พลังงานมากกว่านี้กินเลยหรอ”
“ไม่อ่ะขี้เกียจ...ให้ผู้จัดการซื้อมาให้ง่ายกว่า”
“คุณนี่นะ...เหมือนพี่มาร์คเลย รายนั้นนะขี้เกียจแม้แต่จะสั่งให้เลขาไปซื้อให้ น่าตีว่ามั้ย” คุณแม่พูดอย่างอ่อนใจ แต่พอนึกถึงหน้าของพี่มาร์คที่ชอบบ่นกลับมาว่าหิวแล้วก็อดยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้
“นายรักเขามากเหรอ”
“หื้ม?” แบมแบมเลิกคิ้วสงสัยที่อยู่แจ็คสันก็ถามคำถามนี้ขึ้นมา
“ผู้ชายที่ชื่อมาร์คน่ะ...นายรักเขามากหรอ” ถามย้ำออกไปอีกครั้ง ตาก็มองสังเกตอาการของคุณแม่ท้องแรกไปด้วย
“อื้ม...พี่มาร์คน่ะน่ารักจะตายไป ไม่ว่ายังไงก็ไม่เคยทิ้งกัน แม้ว่าเหตุการณ์จะร้ายแรงแค่ไหนแต่ถ้ามีพี่มาร์คอยู่ข้าง เราก็ผ่านมันไปด้วยกันได้” ตอบออกมาอย่างไม่ลังเล โดยไม่ลืมประดับรอยยิ้มไว้บนหน้าด้วย แค่พูดถึงพี่มาร์คไม่ว่าเรื่องอะไรแบมแบมก็ยิ้มได้เสมอแหละ
“น่าอิจฉาเนอะ”
“หื้ม? คุณว่าอะไรนะ” แบมแบมเลิกคิ้วถามอีกครั้ง ไม่ค่อยได้ยินสิ่งที่อีกคนพูดเท่าไหร่
“ถ้าฉันเป็นเหมือนเขาก็คงจะดี” แจ็คสันพูด ตาคมก้มมองมือของตัวเองที่ยังคงถือแซนวิสทูน่าค้างไว้
ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกอิจฉาผู้ชายที่ชื่อมาร์คขึ้นมา แค่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นจะได้รับความรักจากแบมแบม จะได้ดูแลแบมแบม และได้เป็นพ่อของลูกในท้องแบมแบม เขาก็อิจฉาขึ้นมาซะงั้น
แค่คิดว่าถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นเขาเองก็คงจะดี
“คุณเป็นของคุณแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วนี่ เป็นตัวเราเองน่ะดีจะตายไป ขนาดผมยังชอบที่ได้เป็นแบมแบมเลย” แบมแบมพูดขึ้น มือบางจับไหล่หนาเป็นการปลอบใจ ถึงแม้แบมแบมจะไม่รู้ก็เถอะว่าแจ็คสันจะอิจฉาพี่มาร์คเรื่องอะไร
อาจจะเรื่องการแสดงออก แจ็คสันคงจะเบื่อการที่ต้องทำอะไรหลบๆซ่อนแบบนี้ก็ได้
“ฮ่าๆ มันไม่เหมือนกันซะหน่อย” พอเห็นหน้าของคุณแม่พูดแบบนั้นแล้วคุณซุป’ตาร์ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ไม่เหมือนยังไงอ่ะ?”
“ช่างเถอะ รีบกินเถอะเดี๋ยวซุปจะเย็นหมด” พูดเสร็จก็ยัดแซนวิสใส่มือบางไป
แบมแบมรับเซนวิสมาก่อนจะกัดเข้าไปคำโตและไม่ลืมตักซุปกิมจิเข้าปากตากคำแนะนำของอีกคน ซึ่งมันก็ให้รสชาติแบบแปลกๆ
แต่ก็ยังถือว่าอร่อยอยู่นะ แบบแปลกๆนั่นแหละ
:ต่อ:
:ต่อ:
อึก!!
เคร้ง!!!
“แบมแบมเป็นอะไร!” แจ็คสันรีบตรงเข้าไปประชิดตัวแบมแบมที่อยู่ก็ปล่อยช้อนหลุดมือจนเกิดเสียงดัง มือบางยกขึ้นมากำเสื้อที่หน้าอกก่อนจะทุบเบาๆไปสองทีอย่างรู้สึกทรมาน
“ผะ...ผมแน่นหน้าอก”
“ทำไมอยู่ดีๆถึงแน่นหน้าอกล่ะ” แจ็คสันถามตาโตอย่างตกใจ หันรีหันขวางอย่างหาตัวช่วยแต่เขาก็ลืมไปว่าที่นี่มีแค่ตัวเองกับแบมแบมแค่สองคนนี่นา
“คุณเอา....อะไรให้ผมกิน” มือบางดึงชายเสื้อของแจ็คสันไว้ ช้อนสายตากลมที่กำลังจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ขึ้นไปมองสบตาคมที่สั่นระริกด้วยความกลัว
แม้จะเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆในละคร แต่สำหรับชีวิตจริงแล้วมันน่าตกใจยิ่งกว่าละครทุกเรื่องที่แจ็คสันเคยเล่นมาเสียอีก
“กะ..ก็ซุปกิมจิกับแซนวิสไง” เสียงทุ้มตอบไปอย่างสั่นๆทั้งที่พยายามควบคุมแล้วแต่ความกลัวก็มากซะเหลือเกิน
กลัวว่าแบมแบมกับลูกจะเป็นอะไรไป
“ถั่ว...มีถั่วรึเปล่า” ร่างบางถามออกมาอย่างสงสัย ตากลมย้ายตำแหน่งไปที่อาหารบนโต๊ะที่เขาเพิ่งกินเข้าไป
ทำไมเขาจะไปไม่รู้ว่านี่คืออาการของอะไร
“เปล่านี่ จะมีได้ยะ.........................เนย...ฉันใส่เนยถั่วลงไปในแซนวิสอ่ะ” แจ็คสันชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะโพล่งออกมาอย่างนึกขึ้นได้
แล้วมันยังไงล่ะ มีถั่วแล้วมันยังไง
“ผมแพ้...”
สิ้นเสียงแบมแบมคุณซุป’ตาร์ก็เบิกตากว้างอีกครั้ง ตาคมมองสำรวจร่างกายบางที่ตอนนี้เริ่มมีผื่นแดงขึ้นบดบังผิวสีน้ำนมของแบมแบมแทน
“นายมียารึเปล่า”
“มี อยู่ในห้องตรงลิ้นชักหัวเตียง”
“นายนั่งดีๆนะเดี๋ยวฉันขึ้นไปหยิบให้” พูดจบ แจ็คสันก็จับคนท้องให้นั่งพิงกับพนักโซฟาดีๆก่อนจะรีบวิ่งตรงขึ้นบันไดไป ตาคมมองห้องทางซ้ายกับทางขวาสลับกันอย่างครุ่นคิด
ห้องไหนล่ะวะ?!
“ทะ..ทางซ้าย” เสียงตะโกนอย่างอ่อนแรงของแบมแบมบอกให้คุณซุป’ตาร์เดินไปตามทาง
มือหนากระชากประตูออกอย่างแรง และเพียงไม่ถึงสามวิแจ็คสันก็มาหยุดอยู่ที่โต๊ะตรงหัวเตียงแล้ว
ไม่รอช้าตลับยาสีชมพูถูกหยิบขึ้นมาทันทีเมื่อลิ้นชักถูกดึงออก มันถูกเขียนไว้ตัวอย่างใหญ่ว่า ‘ยาแก้แพ้’
พอได้ยาแล้วแจ็คสันก็รีบเด้งตัวลุกจะเอายาไปให้คนท้องที่กำลังรอยาอยู่ข้างล่าง แต่แล้วขาทั้งสองข้างของคุณซุป’ตาร์ก็หยุดชะงัก
‘คิดจะเป็นซุป’ตาร์ ก็อย่ามีพันธะ’
อยู่ๆคำพูดของท่านประธานก็ลอยเข้ามาในหัว....ภาพเหตุการณ์เก่าๆถูกฉายขึ้นอีกครั้งราวกับลำน้ำเชียวที่กำลังไหลไปสู่หน้าผา
มือหนากำตลับยาแน่นจนแทบจะแหลกคามือ.....ใบหน้าหวานของผู้ชายคนหนึ่งที่อุ้มเด็กชายอายุเพียงแค่หนึ่งขวบไว้ในอ้อมแขนพร้อมๆกับหน้าตาที่ไหลนองหน้าคนอุ้ม ท่ามกลางสื่อมวลชนที่กดชัตเตอร์มือเป็นระวิง
เพียงแค่ชายคนนั้นเอ่ยปากพูดขึ้นทุกสิ่งอย่างในตอนนั้นก็เปลี่ยนไป แจ็คสันยังคงจำได้ดีไม่มีวันลืม
คำพูดที่เปลี่ยนชีวิตของผู้ชายคนหนึ่งจากหน้ามือเป็นหลังมือ
‘เด็กคนนี้คือลูกของคุณ!’
ตุบ!!
“อ้ากกกกกก!!!!”
“แบมแบม!”
เสียงร้องของแบมแบมที่ดังขึ้นเรียกสติของแจ็คสันให้กลับคืนมาก่อนที่ร่างสูงจะรีบวิ่งลงบันไดมาหาคนท้อง และพอมาถึงภาพตรงหน้าที่เห็นก็ทำเอาแจ็คสันแทบทรุด
“แบมแบม!!!!!”
ร่างสูงของคุณซุป’ตาร์รีบวิ่งเข้ามาประชิดตัวคนท้องที่นอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น มือหนาข้างหนึ่งถูกส่งไปช้อนใต้ข้อพับหวังจะอุ้มอีกคนในท่าเจ้าสาว แต่ความชื้นหนืดที่ฝ่ามือก็ทำให้แจ็คสันต้องยกมือข้างนั้นขึ้นมาดู
เลือด!
“ไม่จริง.....มะ ไม่จริง” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาราวกับคนที่กำลังจะหมดแรง....ตาคมมองมือเปื้อนเลือดของตัวเองที่สั่นเทาอย่างคนไร้เรี่ยวแรง
ไม่สิ... มันต้องไม่เป็นแบบนี้
“มันต้องไม่เป็นแบบนี้สิ........ม่ายยยยย!!!”
-----Your heart-----
@Hotpitol , ICU
“แบมแบม แบมแบม!!”
“คุณมาร์ค เข้าไปไม่ได้นะครับ”
“ทำไม ผมอยากเข้าไปคนรักของผมอยู่ในนั้น แบมแบมอยู่ในนั้น!”
“ใจเย็นก่อนนะครับ ตอนนี้คุณแบมแบมอยู่ในมือหมอแล้ว คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วล่ะครับ”
“มีสิ ลูก...ไม่รู้ว่าแบมแบมกับลูกจะเป็นยังไงบ้าง ผมไม่อยากเสียพวกเค้าไป ไม่อยาก.. ฮึก..” มาร์คทรุดตัวลงนั่งกับพื้นหน้าห้องไอซียูอย่างคนหมดแรง น้ำตาลูกผู้ชายค่อยไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยที่แบมแบมเคยบอกว่าชอบมันเวลาที่เขายิ้ม แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถออกมาได้อีกแล้ว ถ้าเกิดคนที่พูดมันยังนอนอยู่ในห้องไอซียูอยู่แบบนี้
มาร์คไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น อยู่ๆดีคุณโบมีก็เข้ามาบอกว่าแบมแบมเข้าโรงพยาบาล ได้ยินแค่นั้นมาร์คก็แทบจะพุ่งออกจากห้องประชุมทันที ดีที่คุณคริสเข้าใจเลยยอมยกเลิกการระชุมไปก่อนและยังใจดีขับรถพามาร์คมาโรงพยาบาลอีก เพราะคริสรู้ไงว่าถ้าให้มาร์คขับเองมันจะเป็นยังไง
คนที่เป็นห่วงคนรักจนแทบจะเป็นจะตายแบบมาร์คน่ะ คงไม่มีกระจิตกระใจจะขับรถดีๆหรอก คงจะปาดซ้ายปาดขวาแถมเหยียบเกินกำหนดแน่ๆ เขาทำงานกับมาร์คมานานทำไม่เขาจะไม่รู้ว่ามาร์คเป็นคนยังไง
“คุณแบมแบมต้องปลอดภัยเชื่อผมสิครับ” คริสทรุดนั่งยองๆข้างๆผู้บริหาร BBM Group มือหนาเอื้อมไปจับไหล่มาร์คอย่างให้กำลังใจ
ท่าทางของมาร์คตอนนี้ดูไม่โอเคเอามากๆ แม้จะไม่ได้โวยวายเหมือนในตอนแรก แต่ก็ยังคงนั่งร้องไห้เงียบๆแต่หนัก
ไม่มีใครพูดอะไรอีกจนเวลาร่วงเลยมาเกือบยี่สิบนาที มาร์คก็ยอมลุกขึ้นมานั่งรอที่เก้าอี้ดีๆ แต่ก็ยังไม่เอื้อนเอ่ยอะไร มีแค่มือหนาที่กำเข้าหากันแน่นจนเส้นเลือดปูด
“ผมไม่รู้
.”
“ครับ?” คริสหันมองคนข้างๆที่อยู่ก็พูดขึ้นมาอย่างสงสัย
“ผมไม่รู้เลยว่าแบมแบมเป็นอะไร...ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแบมแบม ผม...มันเป็นคู่หมั้นที่โคตรเฮงซวยอ่ะ! ฮึก..” พูดจบมาร์คก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง เขาโกรธที่ไม่สามารถปกป้องแบมเบมกับลูกได้ และเขาก็เจ็บใจตัวเองที่ไม่สามารถรู้อะไรได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนรักของเขา เขารู้แค่แบมแบมเจ็บซึ่งเขาทนไม่ได้ เขาทนเห็นแบมแบมเจ็บไม่ได้!
คริสตบไหล่หนาเบาๆอย่างให้กำลังใจ ถึงเขาจะไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทมาร์คแต่เขาก็ร่วมงานกับมาร์คมานานจนสนิทกันในระดับหนึ่ง อย่างน้อยๆก็ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมงานกัน เขาอยากให้กำลังใจมาร์คเพราะเขารู้ว่าตอนนี้มาร์คไม่มีใคร มาร์คมีแค่แบมแบม...
แค่นั้นจริงๆ
“ผมนี่ขี้แยจังนะครับ ไม่เอาดีกว่าไม่ร้องแล้วดีกว่า เดี๋ยวแบมแบมเห็นแล้วจะไม่สบายใจ.....แบมแบมต้องปลอดภัย ใช่มั้ยครับ” มือหนายกขึ้นมาปาดน้ำตาลวกก่อนจะหันมาพูดเรียกกำลังใจให้ตัวเองกับคริส
“ครับ คุณแบมแบมจะปลอดภัย” คริสตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนๆส่งไปให้มาร์คที่พยายามยิ้มส่งกลับมาให้เหมือนกัน
ผ่านไปร่วมสองชั่วโมง และเวลาที่มาร์ครอคอยก็มาถึง คุณหมอในชุดผ่าตัดเดินออกมาข้างนอกด้วยใบหน้าที่เรียบตึงแต่ก็ไม่ได้ดูเครียดไปจนมาร์คใจหาย แต่ยังไงก็ยังหวั่นๆอยู่ดีนั่นแหละถ้าเขายังไม่ได้ยินจากปากหมอว่าคนรักของเขาปลอดภัย
“หมอครับแบมแบมเป็นยังไงบ้างครับ เมียผมเป็นยังไงบ้าง” ร่างสูงรีบตรงเข้าไปจับมือคุณหมอหนุ่มอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ
“คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ......แต่..” มาร์คแทบจะกระโดดดีใจอยู่แล้วถ้าคุณหมอไม่พูดคำว่าแต่ออกมา
“แต่อะไรครับหมอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามพยายามควบคุมน้ำเสียงตัวเองไม่ให้สั่น ใจก็ภาวนาขออย่าให้เป็นสิ่งที่เขากลัว
“เด็กในท้อง....หมอช่วยชีวิตไว้ไม่ได้ครับ” พูดจบคุณหมอหนุ่มก็เดินออกไปเหลือแค่มาร์คที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น
คริสเองก็ตกใจไม่แพ้กันกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ถึงจะตกใจมากขนาดไหนก็ทำได้เพียงเดินเข้าไปหามาแล้วบีบไหลหนาเพื่อปลอมประโลมอีกคนที่กำลังยืนน้ำตาไหลอยู่เงียบๆ ไร้แม้กระทั้งเสียงสะอื้นด้วยซ้ำ
ปึก!
เสียงกระแทกบางอย่างเข้ากับกำแพงยังไม่สามารถเรียกมาร์คให้หลุดจากภวังค์ได้ แต่มันสามารถเรียกสายตาของคริสให้หันไปมองได้ และสิ่งที่เห็นก็ทำเอาร่างสูงใจกระตุก
ภาพของใครบางคนที่เขาคุ้นตากำลังยืนมองมาทางห้องไอซียูด้วยสายตาว่างเปล่า ถึงแม้ว่าจะมีหมวกกับแมสปิดปากปกปิดใบหน้าอยู่ แต่คริสก็จำได้ทันทีว่าคนๆนั้นเป็นใคร
น้องชายสัญชาติเดียวกันกับเขา
หรือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นฝีมือของหมอนั่นกันนะ
Talk.
ครบตอนนี้แล้ว จงด่าและสาปแช่งไรท์เตอร์ได้ตามสบายค่ะ
จากที่มีคนถามว่าเรื่องนี้คู่ใคร? ตอนแรกก็ไม่อยากเฉลยหรอกอยากให้รอลุ้นกันไปเรื่อยๆดีกว่า แต่รู้สึกว่าต้องลุ้นกันอีกยาว เฉลยตอนนี้เลยละกัน เรื่องนี้เป็นเป็นคู่แจ็คแบมค่ะ
ส่วนพี่มาร์คนั้น....ขอบอกไว้เลยว่าเรื่องนี้ดราม่ากว่าที่ทุกคนคิดนะ แต่ม่าไม่นานสัญญา เพราะเค้าก็ไม่ใช่สายม่าเท่าไหร่กลัวแต่งไม่อิน หลังจากนี้จะเป็นช่วงรู้สึกผิดของพระเอก
พูดก็พูดเถอะตอนแรกไรท์วางพล็อตให้แจ็คสันตั้งใจเอายาขับเลือดมาให้แบมกินด้วยแหละ แต่ไม่อยากให้พระเอกดูเลวไปเลยออกมาเป็นแบบนี้ อย่าโกรธพี่แจ็คนะนางไม่รู้จริงๆค่ะ ดูเหมือนพี่แจ็คจะมีปมให้ต้องแก้ ติดตามเรื่อยๆนะคะ
#หัวใจพ่ายรัก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น