ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (BTS) 'อสงไขย' รักนี้ไม่สิ้นสุด...

    ลำดับตอนที่ #5 : A - S o n g - K a i : ท ร ย ศ

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 58






    A - S O N G - K A I
    5
    - ท ร ย ศ -
     
     
     
     
     
    “ไม่ใช่.............................ไม่ใช่ชเวโฮ...ใช่มั้ย?”
     
     
     
     
     
    “อ๊ะ! อะ...อาจารย์ฮิมชาน!!”
     
     
     
     
     
    และคำตอบของอาจารย์หนุ่มก็ถูกตอบทันทีที่เด็กนักเรียนคนนั้นหันหน้ามาเห็นเขา
     
     
     
     
     
    ชเวโฮ...
     
     
     
     
     
    เป็นนายจริงๆสินะ
     
     
     
     
     
    “ไอ้ชั่ว!!!”
     
     
     
     
     
    พลั๊ก!!!
     
     
     
     
     
    “กรี๊ด!!!”
     
     
     
     
     
    ร่างของชเวโฮกระเด็นไปกองที่พื้นสนามหญ้าพร้อมกับเลือดสีแดงค่อยๆไหลออกมาจากมุมปากช้าๆโดยฝีมือของนักเรียนรุ่นเดียวกัน หญิงสาวหนึ่งเดียวในที่นี้ก็ได้แต่กรีดร้องอย่างทำอะไรไม่ถูก พอหันไปเห็นหน้าอาจารย์หนุ่มก็พูดอะไรไม่ออก
     
     
     
     
     
    พลาด! เธอพลาดมาก
     
     
     
     
     
    “ไอ้เชวโฮ ไอ้สารเลว”
     
     
     
     
     
    ผลัว!!
     
     
     
     
     
    หมัดหนาพุ่งเข้าชนใบหน้าหล่ออีกครั้ง โดยที่เจ้าตัวไม่มีเวลาได้ตอกกลับเลย
     
     
     
     
     
    ครูสาวหันรีหันขวางอย่างทำอะไรไม่ถูก จะวิ่งไปเรียกคนมาช่วยก็กลัวความจะแตกเรื่องที่ตัวเองแอบเคลมเด็ก วิธีทางเดียวตอนนี้ก็คือให้อาจารย์หนุ่มเป็นคนห้ามศึกนี้
     
     
     
     
     
    “อาจารย์ฮิมชานคะ ทำอะไรสักอย่างสิคะ ชเวโฮจะตายอยู่แล้วนะ!”
     
     
     
     
     
    “แก!!”
     
     
     
     
     
    “พอเถอะคิมซอกจิน” มือเรียวเดินเข้าไปจับแขนแกร่งเอาไว้ก่อนที่อีกหมัดจะพุ่งเข้าชนใบหน้าของชเวโฮอีกเป็นครั้งที่สาม
     
     
     
     
     
    เจ้าของชื่อสะบัดมือที่กำคอเสื้อคนโดนต่อยออกพรางสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับอารมณ์
     
     
     
     
     
    “ชเวโฮเป็นยังไงบ้าง” ครูสาวรีบวิ่งไปพยุงร่างของคนถูกกระทำขึ้นโดยไม่ลืมหันมามองคาดโทษคนทำที่ยังคงจ้องใบหน้าเปื้อนเลือดนั้นไม่วางตา
     
     
     
     
     
    “รีบพาเค้าไปห้องพยาบาลซะ....แล้วก็อย่าลืมล่ะว่าเค้าแค่เดินชนต้นไม้” อาจารย์หนุ่มพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
     
     
     
     
     
    “นี่คุณ! หน้าช้ำขนาดเนี้ยใครดูก็รู้ว่าโดนต....”
     
     
     
     
     
    “ไม่ใช่แอบโดดเรียนมาพลอดรักกับอาจารย์สาวจนโดนเพื่อนร่วมชั้นต่อย” คำพูดเรียบๆของอาจารย์หนุ่มหยุดคำด่าทอที่กำลังจะออกมาจากปากอาจารย์สาวได้อย่างทันที หญิงสาวกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะค่อยๆพยุงร่างของศิษย์ตัวเองออกไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไรต่อ
     
     
     
     
     
    “อาจารย์มาห้ามผมทำไมครับ” เด็กหนุ่มหันหน้ามาถามผู้เป็นอาจารย์อย่างหัวเสีย นี่เขายังซัดไอ้หมอนั่นไม่สะใจเลยนะ
     
     
     
     
     
    “แล้วนายไปต่อยเค้าทำไม”
     
     
     
     
     
    “คนเลวอย่างมันสมควรโดนแล้วครับ” ไม่พูดเปล่ามือหนายังชกไปที่ฝ่ามือตัวเองแรงๆอย่างเก็บกด จริงๆสิ่งที่ควรจะมารองรับหมัดของเขาควรจะเป็นหน้าของไอ้คนทรยศนั่นต่างหาก
     
     
     
     
     
    “แต่คนดีๆอย่างเธอ ไม่ควรจะมาเสียประวัติเพราะเรื่องพวกนี้หรอกนะ” เด็กหนุ่มหันไปมองอาจารย์หนุ่มที่เดินหันหลังไปแล้ว
     
     
     
     
     
    ทั้งๆที่ก็เจ็บใจไม่แพ้กัน แต่อาจารย์ฮิมชานก็เลือกที่จะปกป้องเขาโดยการอยู่เฉยๆ
     
     
     
     
     
    และทั้งที่อาจารย์ก็แสนดีอย่างนี้แต่ทำไมนะไอ้เลวนั่นถึงกล้าหักหลังอาจารย์แบบนี้
     
     
     
     
     
    เพียงเพราะแค่คำว่า ‘ไม่ตั้งใจ’ อย่างงั้นเหรอ
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    *****
     
     
     
     
     
     “นึกถึงตอนนั้นแล้วผมยังเจ็บใจไม่หาย อาจารย์น่าจะปล่อยให้ผมซัดมันไปอีกซักสองสามหมัดนะครับ”
     
     
     
     
     
     “คิดว่าต่อยหมอนั่นแล้วอะไรๆจะดีขึ้นรึไง ขอบอกไว้เลยนะแอร์ห้องปกครองไม่ได้เย็นอย่างที่พวกเธอคิดหรอก”
     
     
     
     
     
     อาจารย์ฮิมชานพูดสีหน้าเรียบๆตามสไตล์จองแทคอุน*
     
     
     
     
     
     ตอนนี้สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ผมและพี่จินกลับเข้ามาในห้องและอาจารย์ฮิมชานก็เหมือนจะอารมณ์เย็นลงแล้วด้วย
     
     
     
     
     
     พออารมณ์กลับมาปกติอาจารย์ฮิมชานก็เริ่มเล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อน เพราะกลัวผมจะสงสัยถึงพฤติกรรมที่ดูเหมือนว่าจะมีแค่สองคนนี้ที่เข้าใจ
     
     
     
     
     
     หลังจากที่ได้ฟังแล้วผมก็อดที่จะขึ้นไม่ได้ คนอะไรเลวจนไม่อยากจะบรรยายทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายเลย ผู้หญิงก็นะตัวเองเป็นครูแท้ๆแต่ไร้จรรยาบรรณเป็นที่สุด มีอย่างที่ไหนเคลมเด็กนักเรียนไปเป็น(ผอสระอัว)เพื่อน(พ้องท้องติดกัน) ผมว่าผมต้องระวังยัยครูคนนี้ซะแล้วสิ
     
     
     
     
     
     “ว่าแต่หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นกับพวกนั้นบ้างมั้ยครับ” ผมถามขึ้นมาอย่างสงสัย จะว่าไปแล้วผมก็ไม่เคยได้ยินชื่อครูเอมมี่นมโตนั่นด้วยสิ
     
     
     
     
     
     “ก็หลังจากนั้นยัยครูเอมมี่นมโตนางก็ลาออกไปไง..._)&^$#!#&@(W*W)@_)(*W^@&%...”
     
     
     
     
     
     และพี่จินก็เริ่มเล่าอย่างออกรสออกชาตส่วนอาจารย์ชิมชานก็นั่งฟังอย่างไม่หยี่ระ จะมีเข้ามาแทรกบ้างเวลาที่พี่จินพูดผิด กว่าจะจบก็เล่นเอาซะเย็นเลย และก็ได้ความมาว่าหลังจากที่ครูเอมมี่พารุ่นพี่ชเวโฮไปที่ห้องพยาบาล ก็ดันไปทำตัวไม่เหมาะสมจนโดนเด็กนักเรียนที่แอบโดดเรียนไปนั่งเม้าส์ที่นั่นถ่ายคลิปไว้ไปลงเว็บข่าวโรงเรียน กลายเป็นที่ฮือฮาจนโดนเรียกตัวไปสอบสวนสุดท้ายทั้งครูเอมมี่และรุ่นพี่ชเวโฮก็ทนความอับอายไม่ไหวจนต้องลาออกไปทั้งคู่
     
     
     
     
    18.35 น.
     
     
     
     
     “กลับบ้านดีๆนะเด็กๆและอย่าลืมไปทำตัวอย่างคำถามที่ครูให้ไปด้วยล่ะ”
     
     
     
     
     
     “ค้าบบบบบ” ผมและพี่จินเอ่ยออกมาพร้อมกันก่อนที่เราทั้งสองจะโค้งให้คนเป็นครูและพากันเดินออกมาจากตัวอาคารเพื่อที่จะกลับบ้าน
     
     
     
     
     “เออ จองกุกวันนี้รีบไปไหนรึเปล่าอ่ะ ไปหาอะไรกินก่อนกลับมั้ยกันมั้ย” พอเดินมาถึงหน้าประตูโรงเรียนพี่จินก็เอ่ยถามขึ้น ผมก้มลงไปมองนาฬิกาก็พบว่ามันหกโมงกว่าแล้วถ้าขืนไปต้องยาวชัวร์ คงอาจจะต้องเกินสองทุ่มและถ้าเป็นเช่นนั่นหูผมคงไม่ปลอดภัยจากเสียงของพี่ชายเป็นแน่
     
     
     
     
     
     “ไม่ได้อ่ะพี่ วันนี้ผมต้องรีบกลับไม่งั้นโดนบ่นหูชาแน่” เอ่ยปฏิเสธไปและก็เห็นคนถามทำหน้าหงอยๆอย่างเสียดาย ซึ่งพอผมเห็นแล้วก็อดใจหายไม่ได้
     
     
     
     
     
     “ว้าแย่จัง งั้นพี่คงต้องไปคนเดียวแล้วล่ะ ยังไงก็กลับบ้านดีๆนะน้อง” พี่จินโบกมือลาก่อนจะหันเดินไปอีกทางที่เป็นคนละทางกับผม
     
     
     
     
     
     ทำไมแผ่นหลังของพี่เค้าดูเศร้าจัง ไม่อยากเลย ไม่อยากเห็นภาพแบบนี้เลย...
     
     
     
     
     
     “เดี๋ยวพี่!”
     
     
     
     
     
     “หื้อ?” ร่างสูงหันมามองอย่างสงสัย ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมตะโกนเรียกพี่เค้า ก็แค่ไม่อยากเห็นพี่เค้าเศร้าก็แค่นั้น ตอนนี้ปัญหามันก็เลยอยู่ที่ว่าผมจะพูดอะไรต่อไปดีน่ะสิ
     
     
     
     
     
     “ว่าไง?” คนโดนเรียกถามย้ำอีกครั้ง
     
     
     
     
     
    เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน!
     
     
     
     
     
     “เอ่อ...ถ้าไม่รังเกียจ ไปบ้านผมมั้ยครับ”
     
     
     
     
     
     “ได้หรอ จริงอ่ะ*o*” คนตัวสูงพุ่งมาเขย่าแขนผมทันทีที่ผมพูดจบ ไม่พอยังทำหน้าดีใจโอเว่อร์จนผมถึงกับพูดไม่ออก อะไรจะดีใจปานนั้น
     
     
     
     
     
     “ไปกันเลยมั้ยครับ?”
     
     
     
     
     
     “ไปสิๆ ไปเลยๆ^o^” พี่จินทำตัวเหมือนเด็กเพิ่งได้ของเล่น ระหว่างทางที่เดินไปบ้านผมก็เอาแต่ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ก็แค่จะมาบ้านผม ดีใจขนาดนั้นเลยหรอ?
     
     
     
     
     
     “กลับมาแล้วค้าบบ”
     
     
     
     
     
     “หนึ่งทุ่มสิบห้านาทีไม่เกินเวลาดีมาก อ้าว...แล้วนั่นใครอ่ะ?” ซูก้าที่เพิ่งเดินออกมาจากในครัวเอ่ยถามเมื่อหันไปเห็นคนที่เดินตามผมเข้ามา
     
     
     
     
     
     “อ่อ นี่..”
     
     
     
     
     
     “หวัดดีครับผมคิมซอกจินเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนของจองกุกครับ ผมดีใจมากเลยที่ได้มาเจอพี่ ผมเป็นเอฟซีพี่นะครับ^^” ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรรุ่นพี่ตัวสูงก็วิ่งถลาไปเกาะแขนพี่ชายตัวขาวของผมและก็แนะนำตัวอย่างออกนอกหน้า จนซูก้ายังหันมามองหน้าผมอย่างงงๆ ก่อนจะหันไปยิ้มแหยๆให้เอฟซีตัวเอง
     
     
     
     
     
     นี่สินะ คำตอบของคำถามที่ผมสงสัยมาตลอดทาง ผมก็ลืมไปว่าพี่แกปลื้มพี่ชายผมขนาดไหน
     
     
     
     
     
     “งั้นตามสบายเลยนะเดี๋ยวพี่ไปทำกับข้าวเพิ่มก่อน จองกุกนี่ก็จริงๆเลยจะพาเพื่อนมาบ้านก็ไม่โทรบอกพี่ก่อนจะได้ทำกับข้าวไว้เผื่อ” หันมาบ่นกระปอดกระแปดก่อนจะเดินเข้าครัวไปทำกับข้าวต่อ ส่วนพี่จินก็ไม่รอช้าเดินไปวางกระเป๋าแล้วรีบเดินตามพี่ชายผมเข้าครัวไปในทันที ผมก็ได้แต่มองตามอย่างเนือยๆและก็เดินเข้าไปสมทบด้วยอีกคน
     
     
     
     
     
     “ผมช่วยครับ”
     
     
     
     
     
    “อ่า ขอบใจ” ซูก้าตอบแล้วก็ละมือจากผักที่กำลังล้างให้คนตัวสูงทำแทนแล้วหันไปหยิบหัวหอมมาหั่น จินที่พอเห็นแบบนั้นก็กวักมือให้จองกุกมาล้างผักแทนส่วนตัวเองก็รีบทำคะแนนแย่งมีดมาถือไว้ซะเอง คนตัวขาวก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ หันไปมองหน้าน้องชายที่ไหวไหล่อย่างเซ็งๆ
     
     
     
     
     
    “พี่ซูก้าทำอาหารเองทุกวันเลยหรอครับ”
     
     
     
     
     
    “ก็ส่วนมากน่ะ ว่าแต่เรากินเผ็ดได้มั้ย” ซูก้าตอบก่อนจะถามต่อไป มือก็ละจากเขียงไปหยิบกระทะมาตั้งไว้บนเตา
     
     
     
     
     
    “ได้ครับ” ร่างสูงเอ่ย
     
     
     
     
     
    จองกุกที่ล้างผักเสร็จแล้วก็ยกมาวางไว้บนโต๊ะเดียวกันกับที่จินหั่นหอมอยู่ พอหันไปเห็นหน้าคนตัวสูงที่จู่ๆก็เงียบไปแล้วก็อดที่จะขำไม่ได้
     
     
     
     
     
    “พรืดด นี่แค่หั่นหอมนิดเดียวพี่ถึงกับร้องไห้เลยหรอพี่จิน ฮ่าๆๆ” คนตัวเล็กหัวเราะอย่างออกนอกหน้าจนคนโดนหัวเราะต้องรีบยกแขนขึ้นมาเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ
     
     
     
     
     
    ”ฉันไม่ได้ร้องซะหน่อย มันไหลเองตางหาก หยุดขำเดี๋ยวนี้นะ!”
     
     
     
     
     
    “โอเคๆ ฮ่าๆๆ โอ้ยปวดท้องไปหมดแล้ว ฮ่าๆๆ” ไม่ว่าเปล่ายังลงไปนั่งกุมท้องขำต่อที่พื้น ไม่วายคนเป็นพี่ต้องเดินมาตีน้องตัวเองเบาๆให้หยุดขำสักที
     
     
     
     
     
    “พอได้แล้วจองกุก มารีบๆช่วยกันทำจะได้รีบๆกิน เดี๋ยวดึกไปกว่านี้แล้วรุ่นพี่เราจะกลับบ้านลำบาก”
     
     
     
     
     
    “ไม่เป็นไรครับพี่ผมไม่รีบ” จินรีบตอบแบบไม่ต้องคิด ก็แหมโอกาสที่จะได้เจอมินซูก้าตัวเป็นๆแบบนี้มันมีบ่อยซะที่ไหน ล่าสุดที่ได้เจอกันก็สองปีมาแล้ว เป็นไงล่ะ เอฟซีคงกะพัน
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    *****
     
     
     
     
     
    “อ้า~ อิ่มจัง”
     
     
     
     
     
    “เป็นไงบ้างรสชาตพอกินได้มั้ย”
     
     
     
     
     
    “ไม่ใช่แค่พอกินได้ครับพี่แต่มันอร่อยเลยตางหาก”
     
     
     
     
     
    “ ฮะๆ งั้นหรอ” ซูก้าหัวเราะออกมาน้อยๆตอนที่เอฟซีของเขาชมว่าฝีมือการทำกับข้าวของเขาอร่อยแม้ได้กินครั้งแรก ทั้งๆที่น้องชายตัวดีของเขาที่กินฝีมือเขาแทบจะทุกวันกลับบอกว่ากินกันตายไปงั้น
     
     
     
     
     
    “กินเสร็จแล้วใช่ป่ะพี่ งั้นก็กลับได้แล้วมั้ง” จองกุกหันไปพูดกับรุ่นพี่ตัวสูงที่เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้พี่ชายหน้าแป๊ะของเขา
     
     
     
     
     
    “เดี๋ยวก่อนสิ ฉันยังไม่ได้คุยกับพี่ซูก้าเลยนะ” หันไปป้องปากกระซิบกับรุ่นน้องแล้วหันกลับมาส่งยิ้มให้ไอดอลของตัวเองต่อ
     
     
     
     
     
    “ว่าแต่เราอ่ะ จบไปแล้วอยากเป็นอะไรล่ะ”
     
     
     
     
     
    “ผมอยากเป็นเหมือนพี่ครับ พี่รู้มั้ยผมปลื้มพี่มากเลยนะ จนบางครั้งผมเคยคิดว่าอนาคตจะไปเป็นนักการเมืองเผื่อจะได้เจอพี่บ่อยๆ”
     
     
     
     
     
    “ฮ่าๆ ขนาดนั้นเชียว วันหลังถ้าอยากเจอพี่ก็แวะมาที่นี่ได้เสมอนะ บ้านนี้ยินดีต้อนรับ”
     
     
     
     
     
    “จริงหรอครับ ผมมาได้ตลอดเลยหรอครับ *o*”
     
     
     
     
     
    “อื้ม ^^” ซูก้าขานตอบในลำคอ ส่วนจองกุกนี่กลายร่างเป็นอากาศไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
     
     
     
     
     
    กูไม่น่าพามาเลยจริงๆ นี่คือสิ่งที่เขากำลังคิดในตอนนี้
     
     
     
     
     
    “นี่ก็ดึกแล้วพี่ว่าเราก็กลับบ้านได้แล้วนะ ดึกๆมันอันตราย”
     
     
     
     
     
    “ครับผม”
     
     
     
     
     
    แหม่ ที่กูบอกไม่เห็นจะเชื่อฟังกันอย่างนี้เลย ดูเถอะคนเรา -..-
     
     
     
     
     
     
    “กลับบ้านดีๆนะพี่” ผมพูดหลังจากเดินออกมาส่งพี่จินที่หน้าบ้าน
     
     
     
     
     
    “อื้ม นายก็อย่าลืมทำแบบข้อสอบนะ พรุ่งนี้เจอกัน บาย”
     
     
     
     
     
    “บายครับ.....อุ้ย! ตกใจหมด” ผมโบกมือลาให้รุ่นพี่ก่อนจะปิดประตูเดินเข้าบ้าน แต่ก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อเจอเจ้าพี่ชายตัวขาวยืนพิงขอบประตูพร้อมกับยิ้มมุมปากอย่างมีเลศใน
     
     
     
     
     
    “หึๆ นายชอบหมอนั่นหรอ?” เอียงคอถามอย่างคนไร้เดียงสา แต่สำหรับจองกุกนี่มันเจ้าเล่ห์สุดๆ
     
     
     
     
     
    “อะไรเล่า” คนโดนถามเลี่ยงที่จะไปตอบก่อนจะแทรกตัวเดินเข้าบ้าน โดยไม่ลืมหยิบกระเป๋านักเรียนวิ่งขึ้นห้องอย่างเร็วจี๋
     
     
     
     
     
    โธ่ จองกุก ไอ่อ่อนเอ้ย!!!
     
     
     
     
     
    TBC.
     
    อะไรกัน น้องกุกหนูชอบเค้าแล้วหรอลูก? ไม่รู้ค้าบบ
    แลดูตัวละครน้อยๆ ยังค่ะ บังทันยังออกไม่ครบเลยเหลือใครบ้างน้า เรียงคิวกันมาซะดีๆ
    พาร์ทนี้เป็นพาร์ทสำหรับพี่จินโดยเฉพาะ เป็นไงล่ะแกฟินป่ะล่ะได้เจอไอดอล เดี๋ยวจะได้ฟินกว่านี้อีกแน่
    ปล.*สไตล์จองแทคอุนที่ว่านี่ก็คือ แทคอุนจากวงVixxนะคะหรือที่เรารู้จักกันในนามพ่อเสือเลโอนั่นเอง
     
    ปล2.เนื้อหาเดิมไม่ได้รีไรท์ค่ะ แค่เอามาลงใหม่เพราะมีบางคนบอกว่ามันอ่านในโทรศัพท์ลำบากเค้าก็เลยลงให้ใหม่ ไม่ได้ลงธีมแล้วนะ อ่านแบบโล่งๆไม่ว่ากันนะคะ พอดีลงในโทรศัพท์อ่า ผิดพลาดยังไงก็บอกด้วยนะคะ
     
    Thank u for reading.
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×