ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (GOT7) Your heart หัวใจพ่ายรัก JackBam feat. Mark [Mpreg]

    ลำดับตอนที่ #4 : 03 Your heart

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 58






    ตอนที่3 (Chapter Three)...



     
     
    แสงแดดยามเช้าส่องผ่านม่านเข้ามาถึงใบหน้าหวานที่กำลังหลับใหลปลุกให้คนตัวเล็กตื่นขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย เปลือกตาหวานค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนที่มุมปากจะถูกยกยิ้มเมื่อเจ้าของร่างนึกถึงความฝันแสนเร่าร้อนของตัวเอง





     
        ไอแบมแบมคนบ้า ทำไมถึงเป็นคนที่หื่นขนาดนี่นะ!!




     
    ถึงจะนึกแบบนั้นแต่มุมปากก็ยังยกยิ้มไม่หุบ




     
    “โอ้ย!!” ใบหน้าเปื้อนยิ้มเหยเกทันทีเมื่อรู้สึกว่าปวดร้าวไปทั้งร่างหลังจากจะพลิกตัว




     
    “ตื่นแล้วหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น เป็นเสียงที่แบมแบมคุ้นหูดีแต่ก็ไม่คุ้นเคย 




     
    ไม่ใช่เสียงพี่มาร์ค!!




     
    ร่างบางเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของเสียงทุ้มที่เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่มีเสื้อผ้าอยู่ครบ(จะบอกเพื่อ?)ก่อนที่ดวงตากลมโตจะเบิกกว้างอยากตกใจ




     
    “แจ็คสัน!!!” ให้ตายเถอะไอดอลในดวงใจทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ ไม่ใช่สิต้องบอกว่าทำไมพี่แบมถึงมาอยู่ในห้องนี่กับแจ็คสันได้ ก็ในเมื่อ....




     
    จะว่าไปความฝันเมื่อคืนมันก็เหมือนจริงอยู่นะ ไหนจะอาการเจ็บสะโพกนี่อีก ไม่นะถึงจะเป็นไอดอลที่รักก็เถอะแต่เวอร์จิ้นพี่แบมก็ไม่ได้หมายความว่าจะยกให้นะโว้ยยย




     
    “นายโอเครึเปล่า?” ประโยคภาอังกฤษที่ถูกเปล่งออกมาบวกกับสีหน้ากังวลของร่างสูงยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้ร่างบางมากขึ้นไปอีก




     
    มั่นใจว่าเมื่อคืนพี่แบมโดนพรากความบริสุทธิ์ไปแล้ว ฮรืออออ




     
    “คุณทำอะไรผม!?” ถามออกไปเป็นภาษาเดียวกันแม้ว่าใจจะรู้คำตอบดี ดวงตากลมก้มลงสำรวจร่างกายตัวเองถึงแม้ว่าจะมีเสื้อผ้าสวมใส่อยู่แต่มันก็ไม่ใช่ของพี่แบมเลยสักชิ้นเดียวแม้กระทั้งอันเดอร์แวร์




     
    “ฉันขอโทษ คือว่าเมื่อคืน....”




     
    “เดี๋ยวก่อนขอเวลาผมทำใจแป๊ปนึง....โอเคเริ่มเล่าได้” ร่างบางสูดหายใจเข้าออกยาวๆสองสามทีก่อนจะหันกลับไปตั้งใจฟังร่างสูงต่อ




     
    “เมื่อคืนนายเมามากแล้วนายก็ลากฉันออกมาจากผับ ฉันไม่รู้ว่าจะพานายไปที่ไหนก็เลยพากลับมาที่โรงแรมด้วย”



     
    “แล้วคุณก็ทำมิดีมิร้ายกลับผมเนี่ยนะ!!”




     
    “ฟังก่อนสิ มันไม่ใช่อย่างนั่น เอ่อ...นายเห็นไวท์ขวดนั้นมั้ย” แบมแบมมองไปตามมือของร่างสูงแล้วเจอเข้ากับไวท์ยี่ห้อดังที่เขาเคยอยากลิ้มลองแต่ไม่มีโอกาส




     
    “ทำไม?”




     
    “มันเป็นของขวัญที่ถูกส่งมาจากผู้ว่าจ้างของฉันเอง ฉันดื่มมันเข้าไปโดยที่ไม่รู้ว่ามันผสมยาปลุกเอาไว้”




     
    “นี่คุณจะบอกว่าคุณโดนยาปลุกเซ็กส์อย่างนั้นหรอ!?”




     
    “ใช่”




     
    “แล้วทำไมคุณไม่ควบคุมตัวเองล่ะ ทำไมคุณถึง.....” เสียงหวานชะงักกึก เมื่อสมองเริ่มประมวลภาพเหตุการณ์เมื่อคืน




     
    “ฉันพยายามแล้ว แต่....”




     
    “พอ! หยุด!! ไม่ต้องเล่าแล้ว”




     
    “ฉันขอโทษ” เสียงทุ้มเอ่ยคำสุดท้ายก่อนจะนิ่งเงียบไป มือบางทึ้งหัวตัวเองอย่างเจ็บใจเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน 




     
    จะให้โวยวายก็ทำไม่ได้ก็ในเมื่อตอนนั้นคนที่เริ่มก่อนก็คือแบมแบมเองนี่นา แบมแบมเป็นคนดึงแจ็คสันเข้ามาจูบก่อนแต่นั่นก็เป็นเพราะว่าพี่แบมนึกว่าว่ามันเป็นความฝันนี่!




     
    “ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้อง”




     
    “ว่ามาสิ ผมคงไม่เสียอะไรไปมากกว่านี้แล้วล่ะ”




     
    “ช่วยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับได้มั้ย ฉันรู้ว่าเวอร์จิ้นของนายมัน....แต่ฉันยินดีจะจ่ายตามที่นายต้องการ”




     
    “เก็บเงินของคุณไว้เหอะผมไม่ได้ต้องการ อีกอย่างถึงคุณไม่บอกให้ผมปิดเรื่องนี้ผมก็ไม่คิดจะบอกใครอยู่แล้ว เพราะผมละอายใจเกินกว่าจะบอกให้ใครรู้” ไม่รู้ทำไมแบมแบมถึงรู้สึกว่าน้ำเสียงของตัวเองช่างดูตัดพ้อและผิดหวังอะไรเช่นนี้ เขาก็ไม่ได้หวังว่าแจ็คสันจะมารับผิดชอบอะไรแต่เขาแค่รู้สึกเสียใจที่แจ็คสันใช้เงินในการแก้ปัญหา




     
    “ถ้างั้นก็ช่วยรักษาสัญญาด้วยนะ”




     
    “อืม งั้นผมขอตัวนะ...เสื้อผ้าผมอยู่ไหนอ่ะ” พยายามพยุงร่างกายของตัวเองเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะพาร่างที่แทบไร้ซึ่งเรี่ยวแรงเดินอกมาจากห้องพักสุดหรูของคุณซุป’ตาร์หนุ่ม




     
    ก็แค่ผู้ชายกับผู้ชายหน่า อย่าคิดมากเลยแบมแบม
     




     
    -----Your heart-----





     
     
        “แบมแบม”




     
    “พี่มาร์ค” ทันทีที่เจอหน้าพี่ชายร่างสูงแบมแบมก็โผกอดอย่างเต็มรัก




     
    “หายไปไหนทั้งคืนครับพี่ตามหาเราแทบแย่นึกว่าเป็นอะไรไปซะอีก” มาร์คโอบกอดร่างบางตอบ มือหนาลูบกลุ่มผมนุ่มอย่างอ่อนโยน พอได้รับสัมผัสแบบนั้นน้ำตาที่พยายามกลั้นมานานก็ไหลอาบแก้มยุ้ยอย่างง่ายดาย




     
    “พี่มาร์ค ฮึก แบมขอโทษครับแบมขอโทษ ฮืออ” แขนเล็กกระชับเอวสอบแน่นขึ้น ซุกหน้าเข้ากับอกแกร่ง




     
    “ไม่เป็นไรนะครับไม่ร้องนะ น้องแบมปลอดภัยก็ดีแล้วครับพี่ก็แค่เป็นห่วงไม่ได้โกรธนะครับ” พอเห็นหน้าของคนตัวเล็กความคุกรุ่นในใจมาร์คก็หายไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น ยิ่งเห็นน้ำตาของน้องแล้วมาร์คก็ยิ่งกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น รู้สึกขอบคุณพระเจ้าที่น้องยังปลอดภัย



     
    “ขอโทษนะครับ แบมขอโทษที่ทำให้พี่มาร์คเป็นห่วง ฮึก”




     
    “ไม่เอานะเด็กขี้แยไปอาบน้ำนะเดี๋ยวพี่โทรไปสั่งอะไรให้กินคงจะหิวล่ะสิท่า อ๊ะ...น้องแบม” เสียงทุ้มขาดห้วงไปในทันทีเมื่อตาคมเหลือบไปเห็นร่องรอยบนซอกคอขาวที่โผล่พ้นผ้าพันคอออกมา




     
    “พี่มาร์ค ฮือออ TT” แบมแบมเงยหน้าขึ้นมามองร่างสูงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลนองหน้า




     
    “ใครทำอะไรน้องแบมครับ” ร่างสูงตาโต จับไหล่บางอย่างเค้นหาคำตอบ




     
    “แบมโง่เองอ่ะ แบม...”




     
    “บอกพี่มาว่ามันเป็นใคร”




     
    “ช่างมันเถอะครับ แบมเองที่...” ยิ่งพูดน้ำตาก็ยิ่งไหล ยิ่งน้องร้องไห้หัวใจของมาร์คก็ยิ่งเจ็บ




     
    “ไม่เป็นไรนะพี่อยู่ตรงนี้แล้วนะ” ร่างสูงดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดอีกครั้ง แต่คราวนี้แน่นกว่าครั้งก่อน จนแบมแบมรู้สึกถึงหัวใจของมาร์ค...ว่ามันกำลังเจ็บปวดแค่ไหน




     
    “แบมขอโทษ”




     
    “พี่ผิดเอง พี่ไม่น่าพาแบมมาเลย พี่ตางหากที่ต้องขอโทษ ขอโทษที่ไม่สามารถดูและแบมได้ พี่....”




     
    “พี่มาร์ค” ร่างบางเงยหน้าขึ้นมามองสบตาร่างสูงที่กำลังประคองกอดตัวเองอย่างทะนุถนอมด้วยสายตาที่สื่อว่ามีบางอย่างจะพูดแต่ใจมันก็ไม่กล้าพอ




     
    “ครับ ว่าไงหื้ม?” พี่มาร์คก็ยังคงเป็นพี่มาร์ค เป็นผู้ชายที่มองเขาด้วยสายตาที่อ่อนโยนในทุกๆครั้งไม่ว่าเขาจะทำอะไรมา




     
    “พี่ไม่รังเกียจแบมใช่มั้ย แบมจะยังเป็นเจ้าสาวของพี่อยู่ได้ใช่มั้ย?” ได้ยินอย่างนั้นแล้วมาร์คก็ผุดยิ้มออกมาน้อยๆ




     
    “แน่นอนสิครับ ตำแหน่งเจ้าสาวของพี่มันรอแบมมาตลอดเลยนะ แม้กระทั่งตอนนี้...ก็ยังรอ” สายตาที่จริงจังบวกกับคำพูดที่จริงใจของมาร์คสะกดแบมแบมไว้ จนไม่สามารถละสายตาไปไหนได้นอกจากดวงตาคมของพี่ชายร่างสูง “พี่ไม่สนว่าน้องแบมจะไปเจออะไรมา แต่พี่สนแค่ว่า.....หัวใจของน้องแบมให้พี่เป็นคนดูแลได้มั้ยครับ”




     
    “พี่มาร์ค”




     
    “…..”




     
    “ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่ไม่รังเกียจคนสกปรกอย่างแบม”




     
    “ไม่เอานะครับ ไม่พูดแบบนั้นนะ ร่างกายสกปรกเรายังทำความสะอาดได้ ไปครับไปอาบน้ำก่อนนะเดี๋ยวพี่จะสั่งไก่ขึ้นมาให้กินดีมั้ย กินให้มันลืมเรื่องร้ายๆไปเลยเนอะ^^” ส่งยิ้มให้หนึ่งทีก่อนจะดันหลังร่างบางให้เดินเข้าห้องน้ำ 




     
    แต่ทำไมแบมแบมจะไม่รู้ว่าพี่มาร์คกำลังฝืน...ฝืนยิ้มเพื่อให้เขารู้สึกดี




     
    -----Your heart-----





     
     
         ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่มีเสื้อผ้าครบบนร่างกายก่อนจะมานั่งลงที่โต๊ะกินข้าวที่ตอนนี้มีพี่มาร์คนั่งรออยู่ก่อนแล้ว โดยไม่ลืมที่จะหยิบผ้าพันคอมาพันคอไว้ด้วย
        



     
    ตากลมโตมองไปที่พี่ชายร่างสูงที่ส่งยิ้มให้ก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าให้มานั่งได้แล้ว ร่างบางมองอาหารบนโต๊ะที่ปริมาณมากมายเกินกว่าที่สองคนจะกินหมด ไม่ว่าจะเป็นสเต็กเนื้อทีโบน สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า สลัดไก่ทอด ผักโขมอบชีส ไหนจะพวกของทานเล่นอย่างไส้กรอกกับเบค่อนทอดเนยอีก นี่ยังไม่นับรวมปีก น่อง สะโพก หน้าอก สารพัดร่างกายไก่ทอดที่วางตั้งเป็นถังๆ คิดคร่าวๆแล้วแบมแบมสามารถกินอาหารพวกนี้คนเดียวได้ถึงสามวันอ่ะ
        



     
    ไหนตอนแรกบอกจะสั่งแค่ไก่ไง -..-




     
    “โอโห เยอะแยะเชียวพี่มาร์คสั่งมาขนาดเนี้ยกะจะให้แบมเป็นหมูเลยใช่มั้ย” แบมแบมพูดกลั้วหัวเราะ พยายามไม่นึกถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ก็ในเมื่อพี่มาร์คยังยิ้มได้ทั้งที่ข้างในเจ็บเจียนตายแต่เพื่อไม่อยากให้เขาคิดมาก เพราะฉะนั้นแบมแบมก็ต้องทำได้เหมือนกัน




     
    “ฮ่าๆๆ ก็ดีสิครับน้องแบมน่ะผอมไปรู้รึเปล่า นี่ถ้าไม่รู้จักกันพี่นึกว่าที่บ้านไม่ให้กินข้าวนะเนี่ย”




     
    “พี่มาร์คก็พูดซะ ถ้าแบมกินหมดนี่นะมีหวังชั่งกิโลขายได้หลายตังค์อ่ะ”




     
    “ใครว่าพี่จะขายล่ะ ตัวกลมๆกอดอุ่นดีจะตาย^^” พูดพร้อมกับยิ้มตาหยีให้น้อง ทั้งสองยิ้มให้กันอยู่อย่างนั้นก่อนทั้งคู่จะเริ่มลงมือกวาดอาหารที่อยู่บนโต๊ะลงท้อง
     







    #20นาทีผ่านไป

     
     
    “ฮ้า~ อิ่มจัง” มือบางลูบท้องที่ขยายกว้างขึ้นเบาๆหลังจากที่เขาสวมวิญญาชูชกกินอาหารจนพุงกาง




     
    “ก็สมควรอิ่มนะครับ คนเดียวกวาดเกือบหมดโต๊ะเลย” ร่างสูงแซวยิ้มๆมองคนตัวเล็กขำๆ นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าตัวเล็กแค่นี้แต่กินเยอะขนาดนั้นจะเอาไปเก็บไว้ที่ไหนหมดเนี้ย สงสัยไปรวมกันอยู่ที่แก้มหมดแน่เลย




     
    “ก็พี่มาร์คสั่งมาเยอะเองนี่ แบมก็แค่เสียดายหรอกหน่า” คนโดนแซวยู่ปากส่งไปให้คนเป็นพี่ก่อนจะย้ายสารร่างตัวเองมานั่งที่โฟซา หยิบรีโมทขึ้นมาเปิดทีวีดู




     
    “ฮ่าๆๆ ครับๆพี่เชื่อๆ^^” มาร์คเดินตามมาหย่อนก้นลงข้างๆแบมแบม หัวเราะน้อยๆกับคำพูดของคนตัวเล็กที่อ้างเหตุผลว่าแค่เสียดายแต่ถ้าใครมาอยู่ในสถานการณ์เดียวกับมาร์คตอนที่เห็นแบมแบมกินละก็ จะต้องพูดเหมือนกันแน่ว่า 



     
    ’แบมแบมน่ะหิวโซ’




     
    “พี่มาร์ค” นั่งเงียบดูหนังได้ไม่นานคนตัวเล็กก็เอ่ยเรียกทำลายความเงียบ



     
    “ครับ มีอะไรหื้ม?” มาร์ครับคำแต่ตาคมก็ยังไม่ละไปจากหน้าจอทีวี




     
    “คือ...” เสียงหวานเอ่ยมาแค่นั้นแล้วก็หยุดไปเรียกสายตาของมาร์คที่จดจ่ออยู่ที่หนังในจอให้หันมามอง



     
     
    “.....” ร่างสูงเงียบ เลิกคิ้วมองร่างบางอย่างรอคอยว่าอีกคนจะพูดอะไร




     
    “เรื่องเมื่อคืน...แบม...”




     
    “เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว ไม่ต้องไปคิดถึงมันหรอกนะครับ พี่รู้ดีว่าตัวเล็กของพี่เป็นคนยังไงเรื่องแค่นี้พี่รับได้ครับ” ไม่รอให้แบมแบมพูดจบมาร์คก็เอ่ยแทรกขึ้นมาซะก่อน เพราสีหน้าของแบบมันแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าไม่อยากพูดแต่ก็ต้องพูด




     
    “เรื่องนั้นแบมรู้ครับและแบมก็ขอบคุณมากๆด้วย แต่ยังไงแบมก็ยังกลัวอยู่ดี”




     
    “ไม่ต้องกลัวนะ พี่อยู่ตรงนี้แล้ว พี่สัญญาไม่ว่ายังไงพี่ก็จะอยู่ข้างน้องแบมนะครับ” มือหนายกขึ้นมาลูกหัวกลมเบาๆอย่างอ่อนโยน




     
    “พี่มาร์คอย่าบอกแม่ได้มั้ย แบมกลัวว่าถ้าแม่รู้แล้วแม่จะเสียใจ แบมกลัวแม่ผิดหวังในตัวแบม แบม...”




     
    “ด้วยเกียรติของลูกผู้ชายเลย” เป็นอีกครั้งที่มาร์คเอ่ยแทรกแบมแบมขึ้นมา ถ้าเป็นคนอื่นทำมันคงจะเป็นการกระทำที่เสียมารยาทมากๆเลยแต่สำหรับแบมแบมแล้วสิ่งที่มาร์คทำมันเปรียบเสมือนเครื่องช่วยชีวิต ยิ่งดวงตาคมที่สบลงมายิ่งสร้างความเชื่อมั่นให้แบมแบม เชื่อ100%เลยว่าสิ่งที่พี่มาร์คของเขาพูดนั้นออกมามาจากใจจริงๆและเขาก็สามารถฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนนี้ได้อย่างแน่นอน
     




     
    -----Your heart-----




     

    #สองเดือนผ่านไป





     
    “แบมแบมยังเวียนหัวอยู่หรอลูกไปหาหมอหน่อยมั้ย” หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยออกมาอย่างเป็นห่วงหลังจากที่เธอพยุงลูกชายให้มานั่งบนโซฟาก่อนที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนจะล้มพับไปซะก่อน




     
    หลายวันมานี้แบมแบมมีอาการไม่ค่อยดีพร้อมจะเป็นลมตลอดเวลา วันก่อนยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ก็เป็นลมไปเฉยเลย วันนี้ก็เหมือนกันยืนทำกับข้าวอยู่ดีๆก็ทรุดลงไปกองที่พื้นซะงั้น ดีนะที่แม่ยืนอยู่ใกล้ๆไม่งั้นมีหวังหน้าทิ่มลงหม้อสตูว์เนื้อแน่




     
    “ไม่ต้องหรอกครับแม่ สงสัยจะเป็นเพราะช่วงนี้แบมนอนดึกมั้งครับหน้าเลยมืดนั่งพักสักนิดก็คงจะหาย” ลูกชายตอบพร้อมกับรับยาดมจากมือแม่มาถือไว้




     
    “งั้นไม่ต้องมาช่วยแม่ละเดี๋ยวแม่ทำต่อเอง หนูก็นั่งพักไปนะลูก”




     
    “ครับแม่” หญิงสาวมองหน้าลูกชายอย่างอดห่วงไม่ได้ก่อนจะหันหลังเดินเข้าครัวไปทำอาหารต่อ ส่วนแบมแบมพอแม่เดินลับไปก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ 



     
     
    ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าร่างกายตัวเองผิดปกติ เขาไม่ใช่คนอ่อนแอที่แค่นอนดึกก็จะหน้ามืดหรอกนะ เมื่อก่อนตอนที่ขึ้นปีหนึ่งรับน้องดึกๆทุกวันไม่เห็นจะเป็น ผิดกับตอนนี้ที่เขาเข้านอนปกติด้วยซ้ำแต่กลับรู้สึกมึนหัวอยู่ตลอดเวลาที่ตื่น บางครั้งก็คลื่นไส้ เบื่ออาหารอีกตางหาก กินอะไรก็ไม่อร่อยขมคอไปหมด




     
    “เอ๊ะ...ใครมานะ” แบมแบมชะเง้อคอมองเมื่อได้ยินเสียงเหมือนมีคนจอดรถอยู่หน้าบ้าน ร่างบางลุกขึ้นเตรียมจะเดินไปดูแต่ก็ต้องชะงักเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาก่อนโดยไม่ต้องรอให้เขาไปเปิดประตูให้



     
     
    “อ้าวพี่มาร์ค มาได้ยังไงครับเนี้ย”




     
    “ก็น้าพิมน่ะสิโทรมาบอกพี่ว่าน้องแบมไม่สบายพี่ก็เลยว่าจะมารับไปโรงพยาบาลให้หมอฉีดยาสักหน่อยจะได้หายดื้อ” มาร์คพูด มือก็ยีหัวน้องอย่างหมั่นเขี้ยว




     
    “แบมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยแม่ก็พูดโอเวอร์ไปงั้นแหละ”



     
    “งั้นหรอจ๊ะ วันก่อนที่ลงไปนอนคุยกับพื้นหญ้าที่สวนนี่คงเป็นเพราะง่วงสินะ” หญิงสาวที่เพิ่งเดินออกมาจากครัวได้ยินลูกชายพูดก็อดแขวะไม่ได้




     
    “แม่อ่ะ” ร่างเล็กปากบึนทันที เถียงไม่ออก




     
    “สวัสดีครับน้าพิม…นี่ถึงขนาดเป็นลมเลยหรอเนี้ย ฮึ?” ทำความเคารพผู้ใหญ่เสร็จก็หันมาถามคนตัวเล็กที่หน้างอเพราะโดนแฉ




     
    “ก็แค่หน้ามืดหน่า ช่วงนี้แบมนอนดึกนี่นา” โกหกคำโตเลยล่ะ อย่างที่บอกว่าแบมแบมเข้านอนปกติ และไอที่ปกติก็คือสามทุ่มครึ่ง คงไม่มีใครบอกหรอกใช่มั้ยว่าสามทุ่มครึ่งนี่ดึก




     
    “พี่ว่าก็ไปให้หมอตรวจหน่อยก็ดีนะ วัดความดันแล้วเอายามากินจะได้ดีขึ้น เกิดเป็นลมเป็นแล้งไปอีกจะทำยังไง” มาร์คพูดสีหน้าจริงจังจนแบมแบมไม่กล้าเถียงเลยได้แค่ยืนเงียบๆไม่พูดอะไร




     
    “งั้นน้าฝากมาร์คหน่อยละกันนะจ๊ะ ลูกชายน้าน่ะดื้อพูดเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง น้าถึงต้องโทรตามมาร์คอย่างนี้ไง” 




     
    “ยินดีครับน้าพิม ผมจะพาไปให้หมอตรวจอย่างละเอียดเลย น้าพิมไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” มาร์ครับคำก่อนที่แบมแบมจะเดินขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้องและลงมาในอีกสิบห้านาทีหลังจากนั้น 




     
    เพิ่งไปตัดผมมาใหม่ก็ต้องใช้เวลาเซ็ตหน่อยล่ะนะ ;)




     
    -----Your heart-----




     
        “นี่น้องแบมมีอาการมาตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วครับเนี้ย” มาร์คถามขึ้นขณะอยู่บนรถเพื่อที่บรรยากาศจะได้ไม่เงียบ
        



     
        “กำลังสวมบทเป็นคุณหมออยู่หรอครับคุณหมอมาร์ค~” ร่างบางพูดอย่างล้อๆกับอาการเป็นห่วงเขาเกินเหตุของพี่ชายร่างสูง




     
        “ก็ซ้อมไว้ก่อนไง ยังไงคุณหมอก็ต้องถามน้องแบมเหมือนที่พี่ถามอยู่แล้ว แล้วสรุปว่าไงครับ”



     
     
        “อืม...ก็ตั้งแต่วันศุกร์มั้งครับที่เป็นลมไปตอนกำลังรดน้ำต้นไม้” แบมแบมทำท่านึกก่อนจะตอบออกมา พอมาร์คได้ยินแบบนั้นก็ตาโตร้องโอโหออกมาทันที



     
     
        “ตั้งแต่วันศุกร์เลยหรอน้องแบม! แล้วทำไมน้องแบมไม่บอกพี่ครับปล่อยมาจนจะครบอาทิตย์แบบนี้ได้ยังไงห๊ะ!” มาร์คว่าอย่างฉุนเล็กๆนี่ก็วันพุธเข้าไปแล้วแต่แบมแบมก็ยังไม่ยอมบอกเขา นี่ถ้าน้าพิมไม่โทรบอกเขาคงไม่รู้ว่าน้องไม่สบาย



     
     
        “โหพี่มาร์คอ่ะ อย่าโอเวอร์ไปหน่อยเลย แบมไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย เนี่ยยังนั่งตอบคำถามพี่ได้อยู่เลยเห็นป่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกหน่าแบมถึกจะตาย^^” พอร่างบางพูดจบมาร์คก็ถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนใจ



     
     
        “จะไม่ให้พี่ห่วงได้ยังไง ถ้าเกิดน้องแบมเป็นอะไรไปแล้วพี่จะทำยังไงล่ะครับ” 




     
        “พี่มาร์ค” สีหน้าที่เป็นห่วงจนดูจริงจังของมาร์คทำให้แบมแบมอึ้ง ไม่คิดว่าแค่เขาไม่สบายนิดหน่อยจะทำให้ร่างสูงเป็นห่วงมากขนาดนี้



     
     
        “วันหลังถ้ามีอะไรรีบบอกพี่เลยนะครับ...น้องแบมก็รู้ว่าพี่รักน้องแบมมากนะ และพี่ก็คงทนไม่ได้ถ้าเจ้าสาวของพี่จะเป็นอะไรไปโดยที่พี่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย” แบมแบมมองสบสายตาร่างสูงที่หันมามองถึงจะแค่เวลาแป๊บเดียวแต่แบมแบมกลับเห็นมันอย่างชัดเจน 




     
    ความรักที่ฉายชัดอยู่ในดวงตาของพี่มาร์คแบมแบมรับรู้มันแล้วนะ....




     
    “อื้ม~ แบมสัญญาครับว่าไม่ว่าจะเรื่องอะไรแบมจะบอกพี่มาร์คเป็นคนแรกเลย...พี่มาร์คก็อย่าเพิ่งเบื่อแบมไปซะก่อนล่ะ” ร่างบางบู้ปากก่อนจะเอนตัวไปกอดแขนคนขับเอาไว้พร้อมกับถูหน้าไปมาอย่างขอคำตอบทั้งที่ในใจก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว




     
    “ไหน ใครบอกน้องแบมว่าพี่เบื่อน้องแบมครับ พี่เนี้ยนะจะเบื่อน้องแบม…ทำให้พี่หยุดรักน้องแบมให้ได้ก่อนเถอะ ทุกวันนี้พี่นึกภาพไม่ออกเลยว่าถ้าวันไหนที่ไม่ได้รักน้องแบมแล้วจะเป็นยังไง” เห็นมั้ย...พี่แบมรู้อยู่แล้วว่าพี่มาร์คไม่มีทางเบื่อพี่แบมหรอก ก็พี่มาร์คน่ะรักพี่แบมซะขนาดนี้.....พี่แบมเนี้ยรักผู้ชายถูกคนจริงๆ >/////<
     





     
    -----Your heart-----





     
        “ว่าไงนะครับหมอ! หมอโกหกผมใช่มั้ย! บอกมาดิหมอ!” ร่างบางกระชากคอเสื้อของคนที่ได้ชื่อว่ามีหน้าที่รักษาคนไข้และเป็นบุคคลที่มีจรรยาบรรณที่สุด แต่กลับมาโกหกเขาแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน




     
        “น้องแบมใจเย็นนะครับ” มาร์ครีบตรงเข้ามาดึงแบมแบมเข้ามากอดไว้ เพื่อกันไม่ให้ร่างบางดึงคุณหมอเข้ามาต่อย ถึงแม้ว่าเขาจะตกใจไม่แพ้กันกับสิ่งที่หมอบอกก็เถอะ



     
     
        “หมอพูดดิ!! หมอพูดผิดใช่มั้ย มันจะเป็นไปได้ยังไงอ่ะ ผมว่าต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ ตรวจใหม่เหอะหมอตรวจผมใหม่เหอะ...” น้ำเสียงที่กระโชกโฮกฮากในตอนแรกเริ่มแผ่วลงจนแทบไม่มีเสียง 




     
    คุณหมอถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อเห็นคนไข้ของตัวเองแทบขาดสติตอนที่ฟังผลตรวจจบ พูดก็พูดเถอะขนาดเขาเป็นคนตรวจเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อแต่ทำไงได้ในเมื่อผลมันออกมาเป็นแบบนั้นจริงๆ และอีกอย่างกรณีแบบนี้ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดแต่แค่มีน้อยมากๆเท่านั้นเอง เรียกได้ว่าแทบจะเป็นหนึ่งในล้านเลยก็ว่าได้



     
     
    “ผมขอยืนยันคำเดิมครับว่าไม่ได้พูดผิด ต่อให้จะตรวจอีกสิบครั้งหรือร้อยครั้งผลมันก็จะออกมาเป็นแบบเดิม”



     
     
    “เคยเกิดเคสแบบนี้รึเปล่าครับคุณหมอ” เป็นมาร์คที่ถามออกมาแทนร่างบางที่ตอนนี้ทรุดไปกับเก้าอี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว




     
    “แน่นอนครับว่าคุณกันต์พิมุกต์ไม่ใช่คนแรก แต่ก็ถือว่าเป็นส่วนน้อยมากๆที่เป็นแบบนี้ ยังไงหมอก็อยากให้คุณดูแลสุขภาพดีๆแล้วหมอจะนัดมาตรวจอีกทีนะครับ”




     
    “ครับ ขอบคุณนะครับคุณหมอ” มาร์คค่อยๆพยุงร่างที่แทบจะไร้สติของแบมแบมออกมาจากห้องตรวจก่อนจะพาไปนั่งพักสงบสติอารมณ์ที่เก้าอี้หน้าห้อง



     
     
    “น้องแบมนั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนนะครับเดี๋ยวพี่ไปรับยาก่อน” มาร์คเอ่ยหันหลังจะเดินไปรับยาแต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาก็ต้องหันมามองคนที่ดึงแขนเขาไว้เสียก่อน



     
     
    “ไม่จริงใช่มั้ยพี่มาร์ค บอกแบมที แบม.....มะ ไม่ได้ท้องใช่มั้ยครับ”




     
    “โธ่...น้องแบม” มาร์ครวบตัวแบมแบมเข้ามากอดพร้อมกับที่น้ำใสๆได้ไหลออกมาจากดวงตากลมโต ไม่ใช่แค่แบมแบมหรอกที่ไม่อยากเชื่อ เขาเองก็เหมือนกัน แต่ในเมื่อหมอบอกออกมาแบบนั้นจะไม่ให้เชื่อก็ไม่ได้



     
     
    ไม่ใช่แค่แบมแบมที่เจ็บปวดแต่เขาก็เจ็บไม่ต่างกัน 




     
    เจ็บ...เพราะว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะเขา เพราะมาร์คต้วนคนนี้คนเดียว

     

     
    Talk.ฮือออ พี่มาร์คอย่าโทษตัวเองนะคะไม่ใช่ความผิดของพี่มาร์คเลยมันเป็นความผิดของเค้าเองTT งืออ สงสารพี่มาร์คอ่า กลับไปแก้บทตอนนี้ทันมั้ยยย
     
    เอ้ยไม่ได้! ไม่แก้นะคะ บทมันมันถูกวางมาแบบนี้ก็ต้องเป็นแบบนี้ อยากจะบอกว่าพล็อตเรื่องนี้เดินหาตามคลองถมก็มีวางขายอ่ะ มันตลาดมาก (ก พันตัว) แต่ก็นะไม่มีอะไรแน่นอนขึ้นอยู่กับอารมณ์ของไรท์เตอร์ว่ามันจะเอายังไง ก็ดูต่อไปนะคะว่าจะเกิดอะไรต่อ ติดตามกันเรื่อยๆน้า^^

    ปล.เค้ายังไม่ได้อีดิทคำผิดอ่าเจอตรงไหนผิดแล้วอ่านไม่เข้าใจเเคปมาถามได้เน้อ

     
    #หัวใจพ่ายรัก
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×