ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : A - S o n g - K a i : อ า จ า ร ย์
A - S O N G - K A I
4
- อ า จ า ร ย์ –
“ย้อนกลับไปเมื่อหกร้อยปีที่แล้วอันที่จริงคนที่ควรจะได้ครองราษฎร์ต่อจากกษัตริย์แทจุนนั้นควรจะเป็นองค์รัชทายาทแทโฮมากกว่า แต่เพราะความมักใหญ่ใฝ่สูงขององค์แทกุกผู้ที่เป็นพี่ชายต่างมารดาขององค์รัชทายาทแทโฮ ทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวายเป็นอย่างมากในตอนนั้น สุดท้ายแล้วองค์รัชทายาทแทโฮก็ยอมสละบัลลังก์ให้องค์แทกุกได้ขึ้นครองราษฎร์แทนแต่มีข้อแม้ว่า ‘หากในอนาคตถ้าท่านได้ให้กำเนิดบุตรที่เป็นบุรุษเพศ องค์แทกุกจะต้องยอมให้บุตรขององค์แทโฮขึ้นครองราษฎร์เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป’ “
“….”
“ซึ่งในตอนนั้นองค์แทกุกก็ยอมตกลงแต่โดยดีแล้วก็ดูเหมือนว่าทุกๆอย่างจะผ่านพ้นไปได้อย่างไม่มีอะไร แต่แล้วหลังจากนั้นเพียงแค่สิบปีเหตุก็เกิดเมื่อพระชายาขององค์แทโฮได้ให้กำเนิดบุตรที่เป็นบุรุษเพศออกมา ด้วยความที่กลัวว่าบุตรของน้องชายจะมาแย่งราชสมบัติไปจากตนก็ได้เกิดการสั่งฆ่าบุตรขององค์แทโฮขึ้น”
“….”
“แต่ดูเหมือนว่าองค์แทโฮจะอ่านเกมออกตั้งแต่แรกแล้วเลยได้ก่อตั้งกลุ่มทหารขึ้นมากลุ่มหนึ่งอย่างลับๆซึ่งเป็นกลุ่มที่ต่อต้านการปกครองของกษัตริย์แทกุก แต่เนื่องจากว่าระยะเวลาเพียงแค่สิบปีเลยมีจำนวนประชากรไม่มากพอที่จะต่อกรกับกับกษัตริย์แทกุกได้”
“.....”
“ท้ายที่สุดแล้วกลุ่มขององค์แทโฮก็พ่ายแพ้ไป...มีอะไรสงสัยมั้ย?”
“ผมสงสัยครับ อย่างงี้จะเรียกว่ากบฏได้มั้ยอ่ะ”
“จากที่ครูได้บอกไปในตอนแรกว่าเป็นกลุ่มที่องค์แทโฮตั้งขึ้นมาอย่างลับๆก็แปลว่ากษัตริย์แทกุกไม่ได้รับรู้และยิ่งกลุ่มที่จัดตั้งขึ้นเป็นกลุ่มที่ต่อต้านการปกครองของกษัติรย์แทกุกด้วย จะเรียกว่ากบฏก็ไม่ผิดนะ”
“อ่า เป็นอย่างนี้นี่เอง แต่ว่าอาจารย์ครับนี่มันเป็นประวัติศาสตร์ไม่ใช่หรอครับ ไม่เห็นเกี่ยวกับการเมืองตรงไหน”
“เกี่ยวสิ เพราะว่าเราไม่รู้ว่าคนจัดการแข่งขันเค้าจะถามคำถามแบบไหนกับเราบ้าง เพราะฉะนั้นเราก็ต้องเตรียมพร้อมในทุกๆด้าน” เสียงทุ้มหวานหูอธิบาย
“โห อย่างงี้ถ้าเค้าถามว่า ทฤษฎีของ ชาร์ล ดาร์วิน เรื่องแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตคืออะไร แล้วผมจะตอบว่ายังไงล่ะครับ?”
“อันนั้นก็เว่อร์ไปมั้ยเราจะแข่งขันตอบปัญหาวิชาการวิชาสังคมศึกษานะ ไม่ใช่ ไบโอโลจี อย่าเข้าใจผิด”
“มันก็คือๆกันนั้นแหละอาจารย์ ถ้าเค้าเกิดถามว่า ในอนาคตจะมีการเลือกตั้งผู้นำของเกาหลี คุณคิดว่าใครจะได้มาดำรงตำแหน่งอย่างงี้อ่ะ”
“ถ้าเกิดมีคำถามแบบนั้นครูจะยอมให้เธอแพ้ได้” อาจารย์ฮิมชานพูดสีหน้าเรียบๆ ดูไม่สะทกสะท้านตามสไตล์นาง ก็แหงสิอาจารย์ไม่ใช่คนที่จะต้องไปแข่งนี่ ไม่ใช่คนที่ถูกบังคับให้เซ็นสัญญาบ้าบอนั่นด้วย
ฮึ่ย! นึกแล้วก็เจ็บใจตัวเอง ไม่หน้าไปพลาดท่าให้อาจารย์จับไต๋ได้เลย
วันนี้ผมกับพี่จินถูกอาจารย์ฮิมชานเรียกตัวมาให้มานั่งติวเข้ม เตรียมตัวสำหรับการแข่งขันในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอาจารย์ถึงต้องรีบนักให้ผมนอนพักผ่อนหลังสอบเสร็จสักวันสองวันก่อนไม่ได้รึยังไง แต่ก็นั่นแหละ ผมกล้าโต้แย้งออกไปซะที่ไหน กลัวคอขาดครับ ไม่รู้ชีวิตผมนี้มันยังไงต้องมาประสบพบเจอกับคนที่เล่นสายโหดทุกคนเลย อย่างเช่นพี่ชายผมเป็นตัวอย่าง นี่ๆๆ ผมไม่อยากจะฟ้องแต่รู้มั้ยว่าผมโดนอะไรบ้าง เมื่อคืนก็เหมือนจะไปได้ดีและผมจะรอดตัวที่กลับบ้านดึก แต่เปล่าเลยครับ พอตอนเช้ามาไอ้พี่ชายตัวขาวมันพูดกับผมว่ายังไงรู้มั้ย
‘วันนี้เลิกเรียนก็รีบกลับบ้านะครับน้องชาย ห้ามกลับเกินสองทุ่ม เข้าใจ๊?’
เหมือนจะเป็นประโยคคำพูดธรรมดาๆแต่มันไม่ใช่อ่ะ นี่มันเคอร์ฟิลด์ชัดๆ พ่อจ๋าแม่จ๋าซูก้ามันแกล้งหนู ฮือๆ...
“คิมซอกจินได้ฟังอยู่รึเปล่า” จู่ๆอาจารย์ฮิมชานก็หันไปเรียกพี่ชายตัวสูงที่นั่งอยู่ข้างๆผม ผมเลยหันไปมองตามและก็แอบเห็นว่าพี่เขาเพิ่งจะสติเข้าร่างเมื่อกี้นี้เลยด้วย ใจลอยไปไหนกันนะ หรือว่าจะเป็นเพราะเรื่องเมื่อวาน...
“อ...เอ่อ ครับฟังอยู่” เสียงทุ้มตอบมาอย่างตะกุกตะกัก พอได้ยินแบบนั้นผมก็หันไปมองหน้าอาจารย์ฮิมชานทันทีซึ่งเจ้าตัวก็ยังคงสีหน้าเรียบเฉยคงคอนเซ็ปต์
“งั้นไหนลองตอบมาสิว่าผู้นำคนตอบไปของเกาหลีคือใคร”
“อาจา....” ผมเตรียมจะแย้ง ก็ไอคำถามเมื่อกี้ผมเพิ่งถามอาจารย์ฮิมชานไป แม้แต่ตัวอาจารย์ยังให้คำตอบไม่ได้แล้วพี่จินจะไปรู้ได้ยังไงกัน แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร คำตอบของพี่ตัวสูงก็ทำเอาทั้งห้องถึงกับ กริบ!
“ชาร์ล ดาร์วินครับ”
ปึง!!
“นี่เธอ!!!” มือบางทุบโต๊ะเสียงดังสะหนั่นไม่แพ้เสียงที่ตวาดออกมาจากทางปาก
“ซวยแล้ว” ผมได้แต่พึมพำกับตัวเองเบาๆเพราะตอนนี้ดูเหมือนอารมณ์ของอาจารย์ฮิมชานจะเดือดขึ้นมาจริงๆแล้วล่ะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ยังดูอารมณ์ดีอยู่แท้ๆ
เปลือกตาสีส้มปิดลง มือบางกำเข้าหากันแน่นเพื่อข่มอารมณ์โกรธที่กำลังประทุอยู่ในอก
ร่างบางสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วก็ผ่อนออกมา ทำอย่างนั้นอยู่สามสี่ครั้ง เปลือกตาที่ปิดลงก็เปิดขึ้น
“ออกไปจากห้องซะ! มีสติเมื่อไหร่ค่อยกลับมา” ไม่พูดเปล่านิ้วเรียวยังชี้ไปที่ประตูห้องเรียนที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่นอกจากเราสามคน และอีกไม่นานกำลังจะเหลือสอง
“ครับ...ขอโทษนะครับอาจารย์” ร่างสูงลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ประตูก่อนจะเปิดออกไปอย่างว่าง่ายราวกับว่าเมื่อกี้แค่โดนสั่งให้ไปหยิบของให้อะไรทำนองนั้น
ผมหันไปมองประตูสลับกับอาจารย์ฮิมชานที่ตอนนี้เดินไปนั่งที่โต๊ะสำหรับอาจารย์แล้ว
“อาจารย์ครับ....” ผมลุกเดินเข้าไปหาอาจารย์ที่นั่งหลับตาอยู่อย่างเป็นห่วง
“พักสักสิบห้านาทีละกันนะ ครูขอออยู่คนเดียวสักพัก” คนอายุมากกว่าเอ่ยโดยที่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมามองหน้าผม แต่ฟังจากน้ำเสียงและรูปประโยคแล้วก็พอจะเดาได้ว่าให้ผมออกไปก่อน
“อะ ครับ” ผมค่อยๆเดินถอยหลังมาที่ประตูก่อนจะเปิดออกไปอย่างเงียบๆ พอออกมาแล้วสายตาก็เริ่มสอดส่องหาเจ้าของร่างสูงอีกคนที่โดนไล่ออกมาเมื่อครู่ และก็ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลเลย
ผมรีมจ้ำอ้าวเข้าไปหาพี่จินที่ยืนหลับตาพิงประตูห้องเรียนที่ถัดออกไปอีกสองห้อง
“ศิษย์พี่ทำไม...”
“สิ่งที่อาจารย์ฮิมชานเกลียดที่สุด ก็คือคนที่ไม่ตั้งใจ” ยังไม่ทันที่ผมจะถามจบ คนโดนถามก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน อย่างกะนกรู้แหนะ ว่าผมจะถามอะไร
“แต่ก็ไม่เห็นต้องโกรธขนาดนี้เลยนี่ครับ” ผมพูดออกไปอย่างไม่เข้าใจ ก็มันจริงนี่นา กะอีแค่เด็กไม่ตั้งใจฟังไม่เห็นจะต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนั้นเลย
“คงเป็นเพราะเป็นฉันมั้ง...”
“ฮึ?” ผมทำหน้าสงสัยไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกคนพูด
พี่จินถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอธิบายให้ผมฟัง
“อาจารย์คงไม่คิดว่าจะเป็นฉันที่ไม่ตั้งใจ ถ้าเป็นนายอาจารย์อาจจะไม่โกรธขนาดนี้ เค้าคงจะแค่ผิดหวังในตัวฉันน่ะ”
“แต่ก็นั่นแหละ ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่า...”
“แล้วสักวันนายจะเข้าใจเองแหละว่าทำไม...เข้าไปกันเถอะตอนนี้อาจารย์คงจะใจเย็นลงแล้วล่ะ” ไม่พูดเปล่าคนเป็นพี่ยังเดินมากอดคอผมให้เดินตามไปด้วย ก็เลยกลายเป็นว่าตอนนี้หูของผมแนบชิดติดกับหน้าอกข้างซ้ายจนได้ยินเสียงหัวใจของร่างสูงชัดเจน
ตึกตัก.....ตึกตัก.....ตึกตัก.....
มันก็เป็นแค่เพียงเสียงหัวใจเต้นธรรมดาๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกหน้าร้อนแปลกๆ
อยากรู้จังว่าเวลาที่หัวใจของพี่จินเต้นแรง เสียงมันจะเป็นยังไงนะ
*****
#เบื้องหลังของอาจารย์หน้าโหด
@สองปีก่อน , โรงเรียนซังนัม
“ถ้าครั้งนี้คุณพาเด็กไปแข่งแล้วได้รางวัลกลับมาผมจะพิจารณาเรื่องการย้ายคุณไปบรรจุที่มหาวิทยาลัยซัมดงให้”
“จริงหรอครับผู้อำนวยการ” อาจารย์หนุ่มถามน้ำเสียงตื่นเต้น สายตาลุกวาว
“ผมไม่เคยพูดเล่น แต่มีข้อแม้ว่าคุณจะต้องได้รางวัลที่หนึ่งกลับมาเท่านั้นนะอาจารย์ฮิมชาน”
“แน่นอนครับ ผมจะไม่ทำให้ผู้อำนวยการผิดหวังเลยครับ” เสียงทุ้มตอบรับอย่างภาคภูมิ เขามั่นใจเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเขาจะต้องสร้างชื่อเสียงกลับมาให้โรงเรียนได้แน่ และเรื่องการบรรจุของเขาก็จะใกล้ความจริงมากขึ้นไปอีก
ถามว่าทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนั้น?....
สำหรับครูหนุ่มวัยยี่สิบสี่ปี ที่เพิ่งเรียนจบมาหมาดๆ การได้บรรจุเข้าเป็นครูสอนที่มหาวิทยาลัยซัมดงเป็นอะไรที่ยากมาก ยิ่งกว่าฝึกผู้ชายถึกๆให้เย็บปักถักร้อยซะอีก เพราะฉะนั้นเมื่อโอกาสมาถึงแล้วเขาก็จะไม่มีวันปล่อยให้หลุดมือไปเป็นอันขาด
หลังจากจบการแข่งขันปรากฏว่าทีมของโรงเรียนซังนัมแพ้อย่างฉิวเฉียด เป็นเหตุให้ที่หนึ่งตกเป็นของโรงเรียนคู่แข่งอย่างโรงเรียนฮวางโจไปส่วนโรงเรียนซังนัมก็ได้ที่สองมาครอง
“ฮือๆ... พวกผมขอโทษครับอาจารย์พวกผมไม่ได้ตั้งใจ...” เด็กหนุ่มทั้งสองร้องไห้ออกมาเป็นเผาเต่าอย่างเสียดาย อีกแค่นิดเดียวแท้ๆพวกเขาก็จะชนะอีกทีมอยู่แล้ว
“ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องร้องพวกเธอทำดีที่สุดแล้ว ลีชิน ชเวโฮ” ครูหนุ่มลูบหลังปลอบคนร้องไห้ทั้งคู่อย่างอ่อนโยน ตัวเขาเองก็เสียดายเหมือนกันที่ต้องชวดการบรรจุที่มหาวิทยาลัยซัมดงไป แต่เอาเถอะอย่างน้อยเขาก็ทำเต็มที่แล้ว
“ผมว่ามันแปลกนะครับอาจารย์ คำถามข้อสุดท้ายก็ง่ายแสนง่ายทำไมสองคนนั้นถึงแพ้ล่ะครับ” หลังจากจบการแข่งขัน อาจารย์หนุ่มก็ถูกผู้อำนวยการเรียกไปพบเพื่อบอกให้รู้ว่าข้อตกลงยังไงก็เป็นข้อตกลง ในเมื่อเขาไม่สามารถทำให้ทีมได้ที่หนึ่งการไปบรรจุที่มหาวิทยาลัยซัมดงของเขาก็เป็นอันโมฆะไปด้วย พอออกมาจากห้องผู้อำนวยการก็เจอกับคนตั้งคำถามที่ตั้งข้อสังเกตไม่หยุด ตั้งแต่หน้าห้องผู้อำนวยการจนบัดนี้พวกเขาเดินมาถึงสวนหลังโรงเรียนแล้ว
“อีกฝั่งกดปุ่มเร็วกว่าน่ะสิ ก็เลยได้สิทธิ์ตอบคำถามไป เฮ้อ...” อาจารย์หนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ไม่ได้เหนื่อยหรือเซ็งอะไรขนาดนั้นหรอกนะแต่มันก็ยังเสียดายไม่หายนี่นา โอกาสแบบนี้มีกันบ่อยๆที่ไหน
“แต่ผมว่ามันก็ยังแปลกอยู่ดี มีตั้งหลายข้อนะครับที่ผมว่ามันง่ายและอาจารย์ก็เคยพูดแล้ว แต่สองคนนั้นดันตอบผิดซะได้”
“คิดมากน่า สองคนนั้นก็เสียดายไม่แพ้เธอหรอกนะคิมซอกจิน” อาจารย์หนุ่มหันไปยิ้มบางๆให้กับคนขี้สงสัยที่ยังคงสงสัยไม่หยุด
“โห นี่ขนาดผมไม่ได้ตั้งใจตอบนะครับยังได้คะแนนเยอะขนาดนี้ นี่ถ้าผมตั้งใจผมชนะไปนานแล้วครับอาจารย์ ไม่เอาหน่าอย่างอนผมเลยนะ” เสียงออดอ้อนของชายหนุ่มอีกคนทำให้บทสนทนาของทั้งคู่หยุดลง ทั้งสองหันมามองหน้ากันก่อนที่ขาทั้งสองคู่ค่อยๆก้าวเข้าไปใกล้จุดเกิดเหตุมากยิ่งขึ้น และก็เห็นชายหญิงคู่หญิงกำลังง้องอนกันอยู่ โชคดีที่ตรงนี้มีต้นไม้ต้นใหญ่พอจะบังตัวทั้งสองไว้ไม่ให้อีกสองคนสังเกตเห็น
ถ้าจำไม่ผิดผู้หญิงคนนั้นมันยัยครูเอมมี่นมโตนี่นา นี่แอบมีซัมติงรองกับเด็กนักเรียนอีกแล้วหรือเนี้ย ส่วนเด็กผู้ชายคนนั้นก็เห็นหน้าไม่ชัดเพราะยืนหันหลังอยู่ แต่ไม่รู้ทำไมรู้สึกว่าเสียงมันคุ้นๆนะ
“ก็ดีแล้วที่เธอไม่ได้ตั้งใจน่ะ เพราะว่าถ้าเธอตั้งใจ ฉันจะไม่ยุ่งกับเธออีก” หญิงสาวสะบัดหน้าไปอีกทาง ไม่นานนักเรียนชายคนนั้นก็เดินตามไปกอดเอวแล้วก็หอมไปที่แก้มขาว(เพราะแป้ง)นั่นฟอดใหญ่ เรียกรอยยิ้มจากคนโดนหอมได้เป็นอย่างดี
“ถ่ายคลิปไว้ดีมั้ยครับอาจารย์”ซอกจินหันมาถามผู้เป็นอาจารย์ที่ยืนอยู่ข้างๆ มือถือสมาร์ทโฟนแกว่งไปมารอคำบัญชาจากคนอายุมากกว่า
“อย่าไปยุ่งกับเค้าเลย เรารีบไปกันเถอะ” อาจารย์หนุ่มหันไปบอกลูกศิษย์ ทำท่าจะเดินออกจากตรงนั้นเพราะไม่อยากเห็นบทรักลับๆของใครให้เสียสายตา แต่แล้วขาทั้งสองข้างก็ต้องชะงัก
“ไม่เอาน่าชเวโฮ เดี๋ยวใครก็มาเห็นหรอก”
เหมือนถูกฟ้าผ่า ร่างทั้งร่างหยุดนิ่งราวกับถูกตรึงไว้กับที่ ใบหน้านิ่งเฉยให้ตอนแรกค่อยๆหันกลับไปมองยังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง คิ้วคู่สวยค่อยๆเคลื่อนที่เข้าหากันจนกลายเป็นปมขมวด
ชเวโฮ? อย่างงั้นหรอ
‘ไม่หรอหน่า คงไม่ใช่คนเดียวกันหรอกคนชื่อซ้ำกันเยอะจะตาย’ ได้แต่คิดเข้าข้างตัวเองอยู่แบบนั้น แต่ทั้งๆที่คิดว่าคงจะไม่ใช่คนเดียวกัน แต่ขาทั้งสองข้างกลับไม่ยอมขยับไปไหนราวกับว่าต้องการคำตอบที่แน่ชัดว่า นักเรียนของเขาคงจะไม่มาทำอะไรที่เสียหายกับครูสาวคนนี้
“ไม่มีใครเห็นหรอกครับ นี่ไม่ใช่เวลาพักไม่มีใครมาเดินแถวนี้หรอกหน่า”
“แต่ว่า...” ครูสาวพยายามปฏิเสธฉากเลิฟซีนที่กำลังถูกเด็กหนุ่มมอบให้ แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งปฏิเสธยิ่งเหมือนว่าเธอกำลังยั่วอยู่เลยล่ะ
คิมซอกจินที่เห็นเหตุการณ์คิดแบบนั้น และอาจารย์ฮิมชานของเขาก็คงจะคิดเช่นเดียวกัน(มั้ง?)
“ผมอุตส่าห์แข่งของอาจารย์ฮิมชานแพ้นะครับจะไม่ให้รางวัลกันหน่อยเหรอ?”
อีกครั้งที่ทำให้อาจารย์หนุ่มรู้สึกว่าถูกตรึงไว้กับที่ แต่คราวนี้เหมือนว่ากำลังมีค้อนหลายสิบอันกระหน่ำตีหัวเขาไม่หยุด
คิมซอกจินหันไปมองหน้าอาจารย์หนุ่มสลับกับคู่สนทนาอีกคู่ที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากำลังมีใครอีกสองคนได้รับรู้เรื่องของพวกเขาไปด้วย
“ไม่จริง....” เสียงทุ้มแหบพร่าถูกเปล่งออกมาจากริมฝีบางของอาจารย์หนุ่มอย่างแผ่วเบา
“อาจารย์....”
“ไม่ใช่.............................”
“…..”
“ไม่ใช่ชเวโฮ...ใช่มั้ย?”
TBC.
โอ๊ะโอว ฮัลโหล เกิดอะไรขึ้น ชเวโฮแกทรยศใช่มั้ย? พาร์ทนี้กำลังเล่าถึงความหลังว่าทำไมอาจารย์ฮิมชานถึงต้องบังคับให้น้องกุกมาแข่งตอบปัญหาบ้าบอ(ในความหมายน้องกุก)นี้ด้วย แล้วก็ในพาร์ทหน้ากำลังจะเฉลยเหตุผลที่ทำให้อาจารย์หนุ่มหัวใจอ่อนไหวของเราเกลียดคนที่ไม่ตั้งใจเป็นที่สุด(เพราะไอ้คุณชเวโฮนั่นแน่ๆ)ว่าเพราะอะไร แอบมีประวัติศาสตร์มาเอี่ยวนิดๆด้วยแหละ พาร์ทนี้ใช้เวลาแต่งนานกว่าพาร์ทอื่นๆเลย และก็รู้สึกว่ามันป่วงๆด้วย เหมือนว่าอารมณ์ยังไม่ถึงอ่ะ(ทำหน้าเซ็ง) มีใครรู้สึกว่าเป็นอย่างนั้นบ้างมั้ย ช่วยเม้นบอกเค้าหน่อยนะ
ปล.เนื้อหาเดิมไม่ได้รีไรท์ค่ะ แค่เอามาลงใหม่เพราะมีบางคนบอกว่ามันอ่านในโทรศัพท์ลำบากเค้าก็เลยลงให้ใหม่ ไม่ได้ลงธีมแล้วนะ อ่านแบบโล่งๆไม่ว่ากันนะคะ พอดีลงในโทรศัพท์อ่า ผิดพลาดยังไงก็บอกด้วยนะคะ
Thank u for reading.
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น