ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (YugBam feat.MarkBam) You're beautiful Ver.GOT7

    ลำดับตอนที่ #16 : YB :15 - Manly tears

    • อัปเดตล่าสุด 25 มี.ค. 60











    15
    Manly tears






                   “ยูคยอมไหวมั้ย อดทนก่อนนะจะถึงโรงพยาบาลแล้ว…..ขับเร็วอีกนิดได้มั้ยฮะมาร์คฮยอง”





                   “นี่ก็แทบจะเหินแล้วจูเนียร์ เร็วกว่านี้ก็ได้คว่ำทั้งคันหรอก”





                   “แต่ยูคยอมไม่ไหวแล้วนะฮะเจบีฮยอง”





                        “ใจเย็นก่อนนะจูเนียร์ เดี๋ยวฉันจะขับเร็วให้กว่านี้”





                        “ยูคยอมอย่าเป็นอะไรนะ”





                        ร่างสูงได้แต่นอนฟังเสียงของสมาชิกทั้งสามพูดคุยกันโดยที่เขาไม่อาจรู้เลยว่าพวกนั้นคุยอะไรกัน รู้แค่ว่าไม่มีเสียงของแบมแบม






                   แบมแบมหายไปไหน








                        #MA Hospital , Room 407





                   “ย๊า! วันหลังถ้าไม่สบายก็กินยาสิวะ ฉันคิดว่าจะต้องหาสมาชิกเพิ่มแล้วรู้มั้ย!!” 





                   “เออรู้แล้ว ขอโทษได้ป่ะล่ะ” 





                   ยูคยอมเอ่ยเสียงเหนื่อยๆมือก็จับจูเนียร์ที่กำลังโวยวายให้นั่งลงดีๆ หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาร่างบางก็เอาแต่โวยวายลั่น ก็แค่เป็นไข้ปะวะไม่ได้จะตายสักหน่อย (แต่เคสแกขนาดต้องหามส่งโรงพยาบาลไม่เรียกว่าแค่นะยูคยอม)





                        “รู้มั้ยว่ามันเสียการเสียงานขนาดไหน จะทำอะไรก็นึกถึงใจคนอื่นที่ต้องมาเดือดร้อนมั่งสิยูคยอม!!”





                   “ก็บอกว่าขอโทษไง ใครจะไปรู้ว่าจะเป็นหนักขนาดนี้” 





                      ก็หลังจากที่เขาติดหวัดมาจากแบมแบมก็นอนซมอยู่ที่บ้านตั้งหลายวันกว่าจะมีคนหามส่งโรงพยาบาล รวมๆกันแล้วก็เกือบสองอาทิตย์เห็นจะได้
     





                   “ทำอะไรกันอยู่เด็กๆเสียงดังไปถึงข้างนอกเชียว” 





                   แทคยอนฮยองที่เปิดประตูเข้ามาเหมือนเทวดาที่มาช่วยชีวิตแก้วหูของยูคยอมเอาไว้ ตามมาด้วยร่างสูงของเจบีฮยองและมาร์คฮยอง แต่ไร้ซึ่งวี่แววของใครบางคนที่เขาไม่เห็นหน้ามาหลายวันแล้ว





                    “มองหาใครอ่ะยูคยอม” 





                   แทคยอนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคนป่วยเอาแต่ชะโงกมองผ่านพวกเขาไปข้างหลัง





                   “เปล่านี่ ผมจะมองหาใครล่ะฮยอง” 





                   ยูคยอมแถ ตีหน้าไม่รู้ไม่ชี้แต่ตาก็ยังไม่เลิกชะเง้อหาคนตัวเล็ก





                   “มองหาแบมแบมรึไง” 






                   เจบีที่พูดขึ้นมาจี้จุดจนยูคคยอมถึงกับไปต่อไม่ถูก ใบหน้าหล่อเหลอหลา ยกมือขึ้นมาเกาแก้มแก้เก้อ






                   “ก็แค่สงสัยว่าทำไมถึงไม่มาก็แค่นั้น คนอยู่บ้านเดียวกันแท้ๆป่วยเข้าโรงพยาบาลแทนที่จะมาเยี่ยม ก็ไม่มา ไม่มีน้ำใจเลยสักนิด!” 





                      เสียงทุ้มอย่างตัดพ้อ ฟังดูก็รู้ว่ากำลังน้อยใจ ก็แหงสิที่เขาเป็นไข้หนักขนาดนี้ก็เพราะใครล่ะ แล้วดูสิตัวต้นเหตุก็ไม่เคยจะโผล่มาให้เห็นหน้าเลยสักนิด มันน่าโมโหมั้ยล่ะ!





                   “แบมแบมไปแล้วนะ”






                      “ห๊ะ?” 






                   ยูคยอมถามเสียงหลงที่อยู่ดีๆจูเนียร์ก็พูดอะไรบางอย่างออกมา ร่างบางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เดินไปทรุดนั่งข้างบนเตียงผู้ป่วยก่อนจะเริ่มเปิดปากพูดต่อ





                     “เพราะนายป่วยเอาแต่นอนซมเลยไม่รู้ว่าแบมแบมไม่ได้อยู่บ้านเราแล้ว.....เค้ากลับไปอยู่บ้านเค้าแล้วล่ะยูคยอม”





                        ช็อคสิครับ พอได้ยินแบบนี้.....นี่อย่าบอกนะว่าที่แบมแบมย้ายออกไปก็เพราะคำพูดโง่ๆของยูคยอมวันนั้นน่ะ





                        โธ่เว้ย!! บ้าที่สุด!!





                        “เหอะ! งั้นหรอ ฮะๆ” 





                        จะว่ายูคยอมเสียสติไปแล้วก็ได้ที่เอาแต่นั่งหัวเราะสมเพชตัวเองอยู่แบบนั้น แต่จะให้เขาไปทำอะไรได้ล่ะ ก็ในเมื่อเป็นคนออกปากไล่เค้าไปเองนี่ มันก็สมควรแล้วที่จะต้องเป็นฝ่ายนั่งคิดถึงเค้าอยู่ฝ่ายเดียว





                   “ขำอะไรอ่ะยูคยอม” 





                        จูเนียร์มองหน้าน้องเล็กอย่างงงๆที่เอาแต่หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ ถ้าไม่รู้จักกันก็จะคิดว่าเป็นบ้าแล้วนะเนี่ย ไม่ใช่ว่ายูคยอมเป็นไข้หนักจนช็อคประสาทกลับหรอกนะ






                        “ก็แค่ดีใจอ่ะจูเนียร์ ต่อไปนี้ฉันจะได้ไม่ต้องทนอึดอัดอยู่ร่วมบ้านกับคนแบบนั้นอีก” 





                        ไม่เลย ไม่ได้ดีใจสักนิด ยูคยอมมันก็แค่ผู้ชายงี่เง่า ปากแข็งไปวันๆก็เท่านั้น แต่แล้วไงล่ะ แบมแบมหนีเขาไปแล้วนี่ หมอนั่นคงจะเกลียดขี้หน้าเขามากจนไม่อยากเห็นกันอีก คงอยากจะเห็นแต่หน้ามาร์คฮยองคนเดียวสินะ





                        “นายพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง”





                        “ก็ไม่ได้หมายความว่ายังไง ดีซะอีกที่หมอนั่นเข้าใจและทำตามที่ฉันพูดด้วย” 





                           ไม่พูดเปล่ายังปรายตาไปมองหน้าพี่รองที่ตอนนี้ยืนกำมือแน่นอย่างเหลืออด 





                        “นายว่าอะไรนะ?”





                        “ฮยองเป็นคนหูหนวกตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”





                         “นายบอกให้แบมแบมไปอย่างนั้นหรอ”






                           “ใช่”





                        “ไอเลว!” 





                        “มาร์ค!! ใจเย็น!”





                        จนสุดท้ายมาร์คก็ทนไม่ไหวตรงเข้ามากระชากคอคนป่วยที่นั่งอยู่บนเตียงคนไข้ทันที โชคดีที่เจบีดึงตัวไว้ทันไม่งั้นยูคยอมอาจจะโดนซัดสักหมัดสองหมัดไปแล้ว





                        “นายทำแบบนี้ได้ยังไงวะ! นายรู้มั้ยว่าแบมแบมยอมสละสิทธิ์ ทิ้งความฝันของตัวเองที่จะไปปารีส เพื่อที่จะได้อยู่กับคนงี่เง่าแบบนาย! แล้วนายตอบแทนเค้าแบบนี้หรอวะ” 





                        “มาร์คฮยองใจเย็นก่อนนะฮะ”





                        “เย็นไม่ไหวแล้วจูเนียร์.......ฉันไม่น่าโง่ยอมหลีกทางให้นายง่ายๆเลย เพราะฉันคิดว่านายจะไม่ทำให้แบมแบมเสียใจ แต่ฉันเพิ่งรู้เนี่ยแหละว่าฉันคิดผิด เพราะนายมันงี่เง่า!!” 





                        พี่รองชี้หน้าด่าน้องเล็กที่ตอนนี้สติหลุดไปแล้ว เมื่อมาร์คพูดจบ อะไรกัน? มาร์คฮยองพูดอะไร?





                     “ฮยองว่ายังไงนะ”





                        “ฉันบอกว่านายมันงี่เง่า นายมันโง่!!”





                        “แบมแบมยอมทิ้งความฝันเพราะผมหรอ…” 





                        น้ำตาแทบไหลเมื่อประมวลคำพูดของพี่รองได้ บ้าไปแล้วจริงๆด้วย ยูคยอมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ





                        เป็นลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้ดิวะ จะร้องไห้ออกมาไม่ได้นะเว้ย จะร้องออกมาได้ยังไง!!






                        ต้องห้ามไว้สิ! อย่าให้น้ำตามันไหลออกมา นายต้องห้ามมันไว้สิคิมยูคยอม ห้ามไว้!!





                   “อึก!”





                   ไม่ทันแล้ว...... ตอนนี้ยูคยอมเหมือนนางเอกละครหลังข่าวที่นั่งเอามือปิดหน้าร้องไห้น้ำตาไหลพรากเพราะโดนพระเอกทิ้ง แต่สิ่งที่ทำให้ยูคยอมเสียใจไม่ใช่เพราะแบมแบมทิ้งเขาไป แต่เขากำลังเสียใจให้กับความโง่งี่เง่าของตัวเองที่ไม่เคยคิดที่จะถามหรือรับฟังอะไรจากแบมแบมเลย






                   นายมันโง่ที่สุด!! คิมยูคยอม!!!





                   “แบมแบม....ฉันขอโทษ....”













                   #บ้านประธานปาร์ค





                   “แทคยอนเมเนเจอร์ฮะวันนี้ไปโรงพยาบาลมาเป็นยังไงบ้าง” 





                   เสียงใสเอ่ยถามคุณเมเนเจอร์ที่ถูกเขาส่งตัวให้ไปดูอาการของยูคยอมแทน ตอนนี้แบมแบมย้ายกลับมาอยู่บ้านแล้วล่ะ ตั้งแต่วันที่โดนยูคยอมไล่เขาก็ออกมาจากบ้านหลังนั้นในวันถัดไปเลย ไม่อยากอยู่นานกลัวว่าอีกคนจะรำคาญใจ แต่ออกมาได้ไม่ถึงสามวันก็ได้ข่าวว่าคนร่างยักษ์ถูกหามส่งโรงพยาบาลเพราะไข้ขึ้นสูง





                   พอรู้แบบนั้นแบมแบมก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันทีเพราะรู้ตัวว่าเป็นคนทำให้ยูคยอมเป็นไข้ เลยส่งแทคยอนเมเนเจอร์เอาของไปเยี่ยมทุกๆวัน จริงๆก็อยากไปด้วยตัวเองนะ แต่กลัวว่าจะถูกเมินใส่น่ะสิ ถ้าเป็นแบบนั้นมันคงเจ็บน่าดูเลยนะ





                   “อาการดีขึ้นมากแล้วล่ะ ลุกขึ้นมาทะเลาะกับเจ้ามาร์คได้แล้ว”





                   แบมแบมตาโตขึ้นมาทันทีที่ได้ฟังคำบอกเล่าจากแทคยอนเมเนเจอร์ มาร์คฮยองกับยูคยอมทะเลาะกันมันต้องเรื่องใหญ่มากแน่ๆ เพราะคนอย่างมาร์คฮยองคงไม่ทะเลาะด้วยหรอกถ้ามันเป็นเรื่องไร้สาระ





                   “ทะเลาะกับมาร์คฮยองหรอฮะ รุนแรงรึเปล่า”





                   “นี่แบมแบม ถ้านายอยากรู้ทำไมนายไม่ไปเยี่ยมเองล่ะ มันดีกว่าให้ฉันไปแทนเป็นไหนๆเลยนะ” 





                   แทคยอนถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ไม่ใช่ว่าเขาเบื่อหรือว่าขี้เกียจที่จะต้องค่อยเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านท่านประธานกับโรงพยาบาลหรอกนะ แต่เขาเหนื่อยใจที่จะต้องมาคอยเห็นอาการซึมเศร้าของแบมแบมเวลาที่ได้ยินเรื่องของยูคยอมกับท่าทีของเจ้าเด็กยักษ์ที่เอาแต่ชะโงกหาคนตัวเล็กคนนี้อยู่ทุกครั้งที่เขาไปเยี่ยม





                   “ผมไปไม่ได้หรอกฮะ เขาไม่อยากเห็นหน้าผม ถ้าผมไปเขาอาจจะโกรธเอาได้”





                   “เฮ้ออ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าพวกนายทะเลาะเรื่องอะไรกันแต่ถ้าไม่หันหน้ามาปรับความเข้าใจกันแบบนี้มันจะดีแล้วแน่เหรอ”





                   “มันดีที่สุดแล้วฮะ ขอบคุณแทคยอนเมเนเจอร์มากนะฮะ สิ้นปีนี้ผมจะบอกให้คุณลุงเพิ่มโบนัสให้อีกยี่สิบเปอร์เซ็นนะฮะ”





                   “คิดให้ดีละกันนะแบมแบม ฉันคงบอกนายได้เท่านี้” 





                   พูดจบคนตัวสูงก็เดินจากไป ปล่อยให้แบมแบมได้คิดทบทวนตัวเองดีกว่าว่าจะทำยังไงต่อไป เขาคงทำเพียงให้คำแนะนำเท่านั้น ส่วนเรื่องมันจะเป็นยังไงต่อไปก็ขึ้นอยู่กับเจ้าตัวนั่นแหละ





                   แบมแบมไม่ใช่คนโง่ กลับกันยังเป็นคนที่ฉลาดมากคนหนึ่งเพราะฉะนั้นแค่เรื่องเล็กๆที่ทะเลาะกับยูคยอมคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาทางแก้ไข ยกเว้นเสียแต่ว่าการทะเลาะกันครั้งนี้จะมีเรื่องของหัวใจเข้ามาเกี่ยวด้วย อันนี้ก็ต้องคิดดูอีกที













                   “กาแฟฮะคุณลุง”





                   “อ่าขอบใจมากนะแบมแบม” 





                   จินยองเงยหน้าขึ้นมาพูดก่อนจะก้มลงไปอ่านเอกสารตรงหน้าต่อสีหน้าเครียด แบมแบมที่เห็นแบบนั้นเลยเดินเข้ามาหาญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวของตัวเองอย่างเป็นห่วง





                   “ช่วงนี้ดูคุณลุงเครียดๆ มีอะไรรึเปล่าฮะ”





                   “อ๋อ เปล่าหรอกแค่ลุงกำลังวางแผนจะเปิดตัวศิลปินคนใหม่น่ะ” 





                   “ใครหรอฮะ?”





                   “เป็นเด็กต่างชาติน่ะ ลุงว่าจะจับมาเดบิวต์วงเดียวกับสองเจนั้นเลย ที่นี้นะสนุกแน่” 





                   คนเป็นลุงพูดโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองคนเป็นหลานเลยสักนิด แบมแบมชั่งใจอยู่ว่าจะพูดธุระของตัวเองกับคุณลุงตอนนี้ดีหรือเปล่า มือบางกำกางเกงแน่น สุดท้ายก็ตัดสินใจเอ่ยปากพูดธุระของตัวเองขึ้น






                   “คุณลุงฮะ”





                   “ว่าไงหลานรัก”





                   “คือ....แบมอยากเปิดตัวแล้ว คุณลุงจัดงานเปิดตัวให้แบมได้มั้ยฮะ”





                   ท่านประธานเจวายพีเงยหน้าขึ้นมามองหลานชายคนเดียวที่กำลังยืนรอคำตอบจากเขาอย่างใจจดใจจ่อ ร้อยวันพันปีแบมแบมไม่เคยคิดที่จะอยากเปิดเผยต่อสาธาณะชนว่าตัวเองเป็นใคร จะมีแค่ชื่อปาร์คแบมแบมเท่านั้นที่คนทั่วไปรู้จักว่าเป็นหลานของเขา แต่ไม่เคยมีใครเคยรู้ว่าใบหน้าค่าตาของหลานชายเขาเป็นยังไง แล้วอยู่ๆวันนี้แบมแบมก็มาบอกกับว่าอยากเปิดตัวแบบนี้ แสดงว่ามันต้องมีเหตุผลที่ยิ่งใหญ่แน่ๆ





                   “เอางั้นหรอ ไม่กลัวชีวิตวุ่นวายแล้วใช่มั้ย” 





                   ลองถามหยั่งเชิงก่อนและคำตอบที่ได้ก็คือการพยักหน้ารัวๆของร่างเล็ก





                   “ฮะ แบมคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่แบมจะต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริงสักที”






                   “ถ้าอย่างนั้นก็ได้ งั้นจัดพร้อมกับงานแถลงข่าวเรื่องสมาชิกใหม่ของเจเจเลยละกัน”





                   “ขอบคุณฮะคุณลุง”





                   มันถึงเวลาแล้วที่แบมแบมจะเผชิญหน้ากับความเป็นจริง ใช้ชีวิตภายใต้ชื่อปาร์คแบมแบม หลานชายคนเดียวของปาร์คจินยอง และก็เลิกปลอมตัวเป็นสปายสักที





                   แบมแบมคนที่เป็นสไตล์ลิสให้กับจีโอทีจะต้องไม่มีอีกแล้ว













                   “ตอนบ่ายมีงานแถลงข่าวเรื่องสมาชิกคนใหม่ของเจเจโปรเจคที่โรงแรม15& ส่วนตอนเย็นมีอีเว้นท์เปิดตัวสินค้าตัวล่าสุดของ บลาๆๆ แล้วก็ตอน....”





                   “จะไปโรงแรมเมื่อไหร่ก็ขึ้นไปเรียกผมด้วยนะ ขอไปงีบสักแปปนึง” พูดจบยูคคยอมก็เดินหายขึ้นไปบนห้องปล่อยให้คุณเมเนเจอร์อ้าปากพะงาบๆเพราะโดนพูดแทรกเป็นปลาขาดน้ำ





                   “ฮยองฮะ ถ้างานนี้ยูคยอมไม่ไปจะเป็นอะไรมั้ยฮะ ผมว่าเจ้านั่นอาการหนักขึ้นทุกวันๆแล้วนะฮะ” 





                   จูเนียร์เอ่ยถามเมเนเจอร์อย่างเห็นใจน้องเล็กที่ถูกอาการซึมเศร้าเข้าแทรก เห็นแล้วก็สงสารเพราะยูคยอมไม่เคยเงียบขนาดนี้มาก่อน ขนาดตอนที่มีเรื่องกับเขาตอนนั้นยังไม่เป็นขนาดนี้เลย (ปล.โปรดอย่าถามว่าเรื่องอะไร คิดเอาเองแล้วกันโตๆกันแล้ว.....อ่าว-..-)





                   “ใช่ฮยอง มันซึมเป็นหมาหงอยแบบนี้ให้ไปออกงานไม่ไหวหรอก” 





                   เจบีช่วยพูดเสริม เขาก็ไม่ค่อยเห็นด้วยหรอกนะกับการเอาเปรียบเมมเบอร์ในวงคนอื่นๆ แต่ในกรณีของยูคยอมนี่มันเข้าขั้นโคม่าแล้วล่ะ นี่ถ้าไม่บอกก่อนว่าอกหักก็จะคิดว่าหมามันตายแล้วนะ





                   #แจ็คสันร้องไห้ทำไมTT






                   “เดี๋ยวพวกเราคุยกับบอสเองว่าหมอนั่นไม่สบาย ฮยองจะได้ไม่โดนดุ” 





                   มาร์คเองก็ช่วยพูด แม้จะยังเคืองๆเรื่องที่ยูคยอมไล่แบมแบมออกจากบ้านไป แต่ตอนที่เห็นเจ้าน้องเล็กนั่งร้องไห้ที่โรงพยาบาลแล้วต่อมขี้สงสารของเขาก็ทำงานขึ้นมาทันที





                   แทคยอนที่เจอทั้งสามคนอ้อนวอนใส่ก็ต้องรีบส่ายหน้าโบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน





                   “ไม่ได้นะ ไม่ได้ ยังไงยูคยอมก็ต้องไปงานนี้”






                   “ทำไมล่ะฮะฮยอง ฮยองก็เห็นว่ายูคยอมไม่โอเคมากๆเลยนะ”






                   “นั่นแหละ ยิ่งไม่โอเคก็ยิ่งต้องไป” 





                   แทคยอนยืนยันเสียงหนักแน่นไม่ยอมใจอ่อนง่ายๆหรอก ถึงจะเห็นด้วยว่ายูคยอมไม่ไหวแล้วจริงๆ แต่ถ้ายูคยอมไม่ไปงานครั้งนี้ไออาการซึมเศร้านี่อาจจะรักษาไม่หายเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นต่อให้หัวเด็ดตีนขาดยังไงเขาก็ต้องลากยูคยอมไปงานนี้ให้ได้!!






                   “งานวันนี้มีอะไรหรอ ฮยองถึงอยากให้ยูคยอมไปนัก” 





                   เจบีถามออกมาอย่างสงสัย มองหน้าเมเนเจอร์อย่างขอคำตอบ





                   “แบมแบมจะไปงานนี้ด้วย.... และถ้าพวกนายอยากให้เจ้ายักษ์หายเศร้าก็ต้องให้สองคนนั้นเจอกัน”





                   “จริงหรอ!!!”





                   “เฮ้ย!!!” 





                   แทคยอนร้องเสียงหลงที่โดนเจ้าน้องเล็กของวงที่เพิ่งบอกว่าขอขึ้นไปงีบกระโจนใส่





                   “แบมแบมไปงานนี้จริงๆหรอฮยอง!!” 





                   มือหนาเขย่าร่างของเมเนเจอร์หนุ่มจนปากคอสั่นไปหมด  ถ้าใครไม่รู้ก็คงจะคิดว่าแทคยอนเป็นหุ่นยนต์อาลาเล่เวอร์ชั่นสั่นได้ไปแล้ว.....ถุ้ย!!!






                   “ละ..เลิก..ขะ ยะ...เขย่า ฉัน สะ สักที!!”





                   แทคยอนตะโกนสุดเสียง มือหนาหยุดเขย่าร่างของเมเนเจอร์แต่ก็ยังคงจับไหล่หนาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยไปไหน






                   “ฮยองพูดจริงใช่มั้ยที่ว่าแบมแบมจะไปงานนี้น่ะ”





                   “ก็เออดิวะ ฉันจะโกหกพวกแกหาพระแสงอะไรล่ะ ได้ตังค์มั้ย ถามหน่อย?”





                   “รักฮยองที่สุดเลย!!” 





                   ไม่พูดเปล่ายูคยอมยังดึงตัวเมเนเจอร์ร่างยักษ์เข้ามากอดอย่างเต็มรัก จนสมาชิกในวงอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้กับท่าทางของเมเนเจอร์สุดหล่อของตัวเอง






                   อะไรจะทำหน้าขยะแขยงขนาดนั้น55555





                     “เฮ้ย!! ทำอะไรวะปล่อยฉันนะเว้ย!!”





                   “ไปกันเถอะฮยอง”





                   “ไปไหน???” 






                   แทคยอนทำหน้างงที่จู่ๆไอมักเน่ก็ปล่อยกอดเขาแล้วก็ยืนขึ้นฉุดให้เขาลุก





                   “ก็ไปโรงแรมไง”





                   “แต่นี่มันเพิ่งสิบโมงแกจะรีบไปทำไม”





                   “ก็ไปเตรียมตัวไง ผมแต่งหน้านานจะตาย...ไปเร็วฮยองงง” 





                     สุดท้ายแทคยอนก็ต้องลุกเดินตามเจ้ายักษ์ออกไปเพราะแรงลากที่มหาศาล นี่มึงคิดว่าตัวเองเป็นเดอะฮักใช่มั้ย.....ตอบกูมา!





                   เจบี มาร์ค แล้วก็จูเนียร์ ช่วยกันเช็คน้ำกับไฟก่อนจะเดินตามอีกสองคนไปที่รถอย่างรวดเร็ว เพราะไอเจ้าน้องเล็กมันจะกินหัวแทคยอนฮยองแล้วน่ะสิ





                   อะไรของมันวะ? ไหนบอกจะขึ้นไปงีบ ไหงมาลากทุกคนไปโรงแรมเลยแบบนี้ล่ะ





                   ชราไลน์งงครับ บอกเลย!








                   To be continued...

      #แนะนำตัวละครตอนละคน



    CHOA
    อายุ 28 ปี
    :: สไตล์ลิสของจีโอที ที่ลาไปคลอดลูก

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    Talk.
    หากเธอก็รัก เธอก็รู้สึกดีๆเหมือนกัน แต่เธอก็เขินอายอย่างนั้นที่จะต้องพูดมา แค่ร้องว่า อ๊า อี ยา อียา อ๊า อี ยา อียา ก็พอ~~
    อะไรคือมาร้องเพลง55555 ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาเลยค่ะ ใกล้จบแล้วค่ะ สำหรับพาร์ทของยูคแบม แต่มันจะต่อด้วยพาร์ทของอีกคู่ที่เหลือ ใครหนอ? รักเราเท่าชีวี (คุณพ่อ คุณแม่) #ใช่เรอะ!!
    กะไว้ว่าสักประมาณยี่สิบตอนจบ สำหรับคู่นี้นะ อีกห้าตอนเนอะ อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่านั้น ก็เป็นแค่ประมาณแหละ อยู่ที่ว่าไรท์จะดำเนินเรื่องเก็บปมได้ไวแค่ไหน แต่มันก็ไม่มีปมแล้วนะ งั้นก็จบซะเถอะเนอะ ฮิฮิ 
     
    #ฟิคปมเด็กโข่ง 
    ชอบแชร์ต่อน้า ขอบคุณทุกคอมเม้นคะ เป็นกำลังใจให้ได้มากเลย^^


    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×