ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : YB :14 - Do not love
14
Do not love
แบมแบมเดินลงมาจากข้างบนอย่างร่าเริง ผิดกับอีกคนที่ตอนนี้เหมือนจะโดนหวัดกินเข้าให้แล้ว
ให้ตายเถอะ!! แค่ไปนอนกอดมาคืนเดียวดันเอาไข้มาเป็นของแถมด้วยซะงั้น
“แบมแบมโอเคขึ้นยัง”
มาร์คเงยหน้าจากหม้อข้าวต้มขึ้นมาถามร่างเล็กที่เดินเข้ามาในครัวด้วยสีหน้าที่ดูสดใสขึ้น เห็นแบบนี้มาร์คก็ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย
“ดีขึ้นแล้วฮะ ดูเหมือนหวัดก็จะหายแล้วด้วย”
แบมแบมตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินเลยพี่รองไปที่ตู้เย็น
“แค่กๆ”
เสียงไอของร่างยักษ์เรียกสายตาของทั้งพี่รองและก็คู่รักบีจูที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้านหลังจากไปช่วยกันรดน้ำต้นไม้มาได้เป็นอย่างดี
ร่างสูงเดินมาทรุดนั่งที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งแล้วก็ฟุปหน้าไออย่างเอาเป็นเอาตาย
“ดื่มน้ำก่อนสิฮะ”
ตาคมมองแก้วน้ำตรงหน้าสลับกับคนที่ยื่นมาให้แล้วก็ยกมันขึ้นมาดื่มอย่างไม่ลังเล
“ขอบใจ”
แบมแบมอมยิ้มให้กับคำขอบใจห้วนๆของยูคยอมแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เดินไปหยิบถ้วยมาตักข้าวต้ม(ที่มาร์คทำ) ก่อนจะยกมาให้ร่างสูงที่กลายเป็นคนป่วยไปแล้ว
ทุกการกระทำตกอยู่ในสายตาของสมาชิกที่เหลือทั้งหมด เจบีกับจูเนียร์มองหน้ากันอย่างสงสัยว่าสองคนนี้ไปคืนดีกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ส่วนมาร์คก็ได้แต่ยืนข่มใจตัวเองอยู่หน้าเตา ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะเอายาถ่ายใส่ไปในชามข้าวต้มให้ยูคยอมกินไปซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
น่าแปลกที่คนที่จิตใจดีเยี่ยงพระเพิ่งสึกแบบมาร์คจะคิดทำร้ายคนอื่นแล้วยิ่งคนนั้นเป็นน้องในวงก็ยิ่งแล้วใหญ่
นี่มาร์คกลายเป็นคนขี้อิจฉาขนาดนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน.....ยิ่งรู้ว่ายูคยอมกับแบมแบมสนิทสนมกันมากเกิน และยูคยอมก็หายโกรธแบมแบมแล้วทั้งๆที่ยังไม่ได้คุยกันเลยมันก็ยิ่งทำให้ความคิดริษยาในใจมาร์ครุนแรงขึ้น
“แบมแบมวันนี้มีธุระจะไปไหนรึเปล่า ฉันอยากชวนนายไปที่ที่หนึ่งน่ะ”
เขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อรักษาหัวใจดวงนี้ให้อยู่กับเขา แม้ว่าจะต้องแย่งชิงมาก็ตาม....
“ใส่อะไรต่อหรอแบมแบม”
“เดี๋ยวบดโอรีโอ้ผสมลงไปแล้วเอาเข้าไมโครเวฟได้เลยฮะ”
แบมแบมหันไปบอกจูเนียร์เสร็จแล้วก็หันมาจัดการผสมนมกับช็อกโกแลตในแก้วของตัวเอง วันนี้แบมแบมตัดสินใจปฏิเสธคำชวนของมาร์คฮยองเพื่อจะทำเค้กขอโทษให้กับทุกคนเรื่องที่เขาโกหกโดยมีคุณจูเนียร์เป็นลูกมือช่วยทำ
เค้กที่เขาทำมีชื่อว่า ‘Cookies N’ Cream Mug Cake’
มีวัตถุดิบเป็น
-ช็อกโกแลตนม 1/4 ถ้วย
-นม 3 ช้อนโต๊ะ
-แป้งอเนกประสงค์ 4 ช้อนโต๊ะ
-ผงฟู 1/4 ช้อนโต๊ะ
-น้ำมันพืช 1/2 ช้อนโต๊ะ
-คุกกี้โอรีโอ้
ขั้นตอนการทำมีดังนี้
-ผสมนมกับช็อกโกแลตในแก้วกาแฟ(ทนความร้อนสูงได้)จนช็อกโกแลตละลาย
-ใส่แป้ง น้ำมันพืช ผงฟู ผสมจนเข้ากัน จากนั้นบดคุกกี้โอรีโอ้จนละเอียด ผสมลงไปด้วย
-นำไปใส่ในไมโครเวฟประมาณ 1 นาที ด้วยความร้อนสูง รอจนเย็นก็กินได้เลย^^
รายการทำอาหารบายปาร์คแบมแบมขอลาเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ!
ไม่ใช่แล้ว!!
จูเนียร์กับแบมแบมช่วยกันยกของว่างที่ช่วยกันทำไปที่ห้องนั่งเล่นที่ตอนนี้มีอีกสามหนุ่มกำลังนั่งดูรายการเพลงกันอยู่ เดี๋ยวนี้จูเนียร์ไม่เคร่งเรื่องเอาขนมมากินบนโซฟาแล้วนะเพราะมีแบมแบมเป็นคนทำความสะอาดส่วนนั้นแทนแล้วไง ฮิฮิ^^
“ผมขอโทษนะฮะ สำหรับทุกสิ่งแล้วก็ขอบคุณทุกคนที่ให้อภัยผม”
แบมแบมวางเค้กลงก่อนจะเอ่ยออกมาแล้วกวาดตามองทุกคนอย่างจริงใจ
“ใครจะไปโกรธนายลงทำอาหารอร่อยขนาดนี้ เกิดฉันโกรธนายไปฉันก็อดกินของอร่อยสิ”
เจบีพูดติดตลกแล้วก็หยิบเค้กที่แบมแบมกับแฟนสุดที่รักของเขาช่วยกันทำ
“ช่ายย พวกเราไม่โกรธนายหรอกนะ ถ้าเจบีฮยองไม่โกรธก็ไม่มีใครโกรธนายหรอก จริงมั้ยยูคยอม”
จูเนียร์พูด จงใจหันไปถามยูคยอมที่นั่งมองหน้าคนตัวเล็กไม่ละสายตาไปไหน เพราะดูจากอาการเมื่อวานแล้วดูท่าเจ้าน้องเล็กจะโกรธที่สุด แต่ก็ไม่รู้ว่าไปทำอีท่าไหนกันถึงดูเหมือนจะดีกันแล้วแบบนี้ แต่ช่างมันเถอะจูเนียร์จะไม่เผือกเรื่องนี้สักเรื่องก็แล้วกัน
“ไม่ต้องขอโทษฉันหรอกนะ เพราะว่าฉันอยู่ข้างนายมาตั้งแต่แรกนายก็รู้”
มาร์คพูดแล้วก็ยิ้มละมุน มือหนาถือวิสาสะเอื้อมไปจับมือเล็กขึ้นมากุมเอาไว้ จนทุกคนถึงกับตกใจในการกระทำของพี่รอง แม้แต่แบมแบมเองก็ยังอึ้ง
มาร์คฮยองไม่เคยเป็นแบบนี้นี่ ถึงจะอ่อนโยนกับแบมแบมมาตลอดแต่ก็ไม่เคยมองแบมแบมด้วยสายตาแบบนั้นเลยสักครั้ง
แบมแบมค่อยๆดึงมือตัวเองออกมาช้าๆ ไม่อยากให้มาร์คฮยองรู้สึกเสียหน้า ตากลมหันไปมองยูคยอมที่เบือนหน้าหนีไปทางอื่นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจแรงๆกับตัวเองในใจ
คงไม่ดราม่าเหมือนเอเอ็นเจล*หรอกใช่มั้ย
(*เอเอ็นเจล คือชื่อวงในเรื่อง You’re beautiful ในภาคปกติ เนื่อเรื่องในนั้นเป็นรักหลายเส้า ในที่นี่แบมแบมกำลังคิดในใจว่ามาร์คคงไม่ได้รักเขาอีกคนหรอกนะ ไม่เช่นนั้นมันจะยุ่งเหยิงมากๆเลย แต่น้องแบมแบมคิดช้าไปแล้วค่ะ พี่เค้ารักหนูนานแล้วลูก)
“มาร์คฮยองฮะ ผมขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ย?”
แบมแบมเดินมาหาพี่รองที่นั่งกินลมยามหัวค่ำ อยู่ที่ม้านั่งหน้าบ้าน ซึ่งมันเป็นกิจวัตรที่เขามักจะทำทุกวันเพราะได้พักสมองก่อนเข้านอน
“มีอะไรหรอ หน้าเครียดเชียว”
มาร์คเอ่ยถามคนตัวเล็กที่สีหน้าไม่สู้ดีนัก ร่างสูงยืนขึ้นเผชิญหน้ากับแบมแบมเพราะดูท่าแล้วคงจะไม่ยอมนั่ง
“มาร์คฮยองไม่ได้ชอบผมใช่มั้ยฮะ”
คำถามที่ตรงประเด็นและจี้จุดทำเอามาร์คเงิบไปชั่วขณะแต่ก็ดึงสติกลับมาได้ ร่างสูงมองหน้าคนตัวเล็กที่ก็มองหน้าเขานิ่งอย่างต้องการคำตอบ
“ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ”
เปลี่ยนคำถามเป็นคำถามกลับไป เขาไม่รู้หรอกว่าทำไมแบมแบมถึงมาถามกันตรงๆแบบนี้ มันคงจะเป็นนิสัยของเจ้าตัวที่ไม่ชอบเก็บความสงสัยไว้กับตัวนานๆเลยต้องมาถามเอาคำตอบ
แต่เปล่าเลย มาร์คคิดผิด แบมแบมไม่ได้ถามเพราะสงสัยแต่ที่ถามเพราะมั่นใจยังไงล่ะ ถึงจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่เขาก็สัมผัสได้ว่าพี่รองรู้สึกดีกับเขา แต่ตัวเขานี่สิรู้สึกดีกับคนอื่นไปแล้วและคงจะรู้สึกแบบนั้นกับใครอีกคนพร้อมๆกันไม่ได้หรอก ทางเดียวที่ทำได้ก็คือรีบตัดสัมพันธ์ที่ยังไม่เกิดนี่ซะ
“เพราะผมคิดว่ามันคงจะไม่ดีแน่ถ้าเกิดเป็นแบบนั้น”
“ว๊า...แย่จัง ทำไงดีล่ะฉันชอบนายไปแล้วซะด้วย.....ไม่สิ รักแล้วต่างหาก”
มาร์คพูดแล้วก็เสหน้ามองไปทางอื่น ไม่อยากมองใบหน้าหวานนั่นที่พูดอย่างแน่วแน่ กลัวว่าจะกลั้นไว้ไม่อยู่น่ะสิ น้ำตาที่อยู่ข้างในน่ะ
ยอมรับเลยนะว่าเสียใจ ถามว่าเจ็บมั้ย ก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา แต่มาร์คเตรียมใจไว้แล้วล่ะ ตั้งแต่รู้ว่ายูคยอมเองก็ชอบแบมแบมเหมือนกัน แต่ถึงจะเตรียมใจมาแล้วแต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้เขาไม่รู้สึกอะไรเลย
“มาร์คฮยอง.....”
แบมแบมเอ่ยเสียงพี่ชายตรงหน้าเสียงแผ่ว ใจกระตุกวูบที่เห็นใบหน้าของพี่รองเศร้าไปทันทีที่เขาพูดจบ
“ใครกันหรอ ที่นายชอบน่ะ....มีใช่มั้ยล่ะ ไม่อย่างนั้นนายไม่มาตัดความสัมพันธ์กับฉันแบบนี้หรอก”
ใบหน้าหล่อเหลาหันกลับมามองหน้าหัวใจดวงใหม่ของตัวเอง พยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่น เดี๋ยวจะหลุดมาดพระเอกเอาได้ ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจแต่ก็ยังจะถาม
แบมแบมรู้สึกเหมือนกำลังโดนบีบด้วยสายตาที่แสนเศร้านั่นของพี่รอง ความเจ็บปวดที่ฉายออกมามันมากเหลือเกินจนแบมแบมสัมผัสได้ มันดูมากมายเกินกว่าจะเป็นความรู้สึกของผู้ชายคนหนึ่งที่มีให้เขามาตลอดระยะเวลาแค่สองเดือน
คงจะเคยมีสินะ เหตุการณ์รักหลายเส้าแบบนี้.....ทำไมมาร์คฮยองถึงน่าสงสารแบบนี้ล่ะ
“คือ....อ๊ะ!”
ยังไม่ทันที่แบมแบมจะได้อ้าปากพูดอะไรก็ถูกแขนแกร่งของพี่รองดึงเข้าไปกอด ตอนแรกก็ว่าจะขัดขืนนะแต่พอได้ยินน้ำเสียง กับความรู้สึกเปียกชื้นที่หัวไหล่เลยทำได้แค่ยืนนิ่งๆและกอดปลอบพี่ชายกลับไป
“อย่าเพิ่งตอบนะ......ขอฉันกอดนายแบบนี้ก่อน แค่ห้านาทีนะแบมแบม”
“ขอโทษนะฮะ.....ที่ผมรับรักฮยองไม่ได้ แต่ผมรักเขามากจริงๆ จนผมเองยังตกใจตัวเองเลยที่รักเขาได้มากขนาดนี้”
พูดไปก็นึกถึงใบหน้าของร่างยักษ์อีกคนที่นอนกอดเขาเมื่อคืนจนตัวเองติดไข้ มันน่าขำดีเหมือนกันนะที่สุดท้ายแล้วคนที่เคยไม่ชอบหน้ากันจะรักกันได้
“น่าอิจฉาเนอะ คิมยูคยอมน่ะ”
“ฮยองรู้?”
จู่ๆมาร์คฮยองก็พูดขึ้นมาเล่นเอาแบมแบมตาโตไปเลย ไม่คิดว่าพี่รองจะรู้เรื่องนี้ด้วย หรือว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาแสดงออกชัดเกินไปหรอ
“ฉันมองนายมาตลอดทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะ ทั้งๆที่คิดจะสู้กับเจ้านั่นตรงๆเลยแท้ๆแต่ก็โดนนายปฏิเสธซะก่อน....ฉันนี่มันอาภัพรักจริงๆเลยว่ามั้ย”
“ไม่หรอกฮะ.....ผมเชื่อว่าสักวันฮยองจะต้องเจอคนที่ใช่ คนที่เค้าจะรักแค่มาร์คฮยองคนเดียว”
แบมแบมพยายามพูดปลอบไม่อยากให้พี่ชายคนนี้รู้สึกแย่ไปมากกว่านี้แล้ว ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าทำไมคนที่แสนดีอย่างมาร์คฮยองถึงไม่สมหวังความรักกับเค้าสักที แต่ก็อย่างว่าแหละขนาดแบมแบมเองที่รู้ว่ามาร์คฮยองแสนดีขนาดไหน ยังไปรักคนงี่เง่าที่วันๆเอาแต่หาเรื่องอย่างคิมยูคยอมได้เลย
“แต่ก็ไม่ใช่นายใช่มั้ยล่ะ”
“ใครว่าล่ะ ผมก็รักมาร์คฮยองนะฮะ”
แบมแบมพูดด้วยรอยยิ้มกระชับกอดพี่ชายแน่นขึ้นอย่างหยอกล้อ รู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อยที่มาร์คฮยองทำใจยอมรับได้ไว
“อย่ามาให้ความหวังกับฉันหน่อยเลย”
มาร์คพูดตัดพ้อ แต่ก็แฝงไปด้วยน้ำเสียงติดตลก เพราะเขาไม่อยากให้แบมแบมคิดมาก ถึงคนที่แบมแบมเลือกจะไม่ใช่เขาแต่อย่างน้อยมันคงจะดีกว่าถ้าความรักในครั้งนี้จะเปลี่ยนไปเป็นความรักระหว่างพี่น้องไม่ใช่ความเกลียดชังและความรู้สึกผิด
“แบบพี่ชายที่แสนดีไงฮะ”
“ใจร้ายจัง.....แต่ก็ดีกว่าไม่รักล่ะเนอะ”
มาร์คพูดอย่างปลงๆ ดูน้ำเสียงที่ผ่อนคลายลงแล้วทำให้แบมแบมหัวเราะออกมาได้ ยังไงซะมาร์คก็ยังชอบที่แบมแบมหัวเราะมากกว่าร้องไห้อยู่ดี
หวังว่าเจ้ายูคยอมมันจะทำให้แบมแบมหัวเราะแบบนี้ได้ทุกวันนะ
#สองวันผ่านไป (เพราะเป็นฟิคใช่มั้ยถึงเร็วแบบนี้)
[ขอบใจแกมากนะแบมแบม]
“อืม ยังไงกลับมาคราวนี้ฉันต้องได้ยินข่าวดีของพวกแกสองคนนะแทยง ไม่อย่างนั้นฉันจะขัดขวางแกให้ถึงที่สุดเลย แล้วก็จะแนะนำหนุ่มหล่อๆให้ไอเตนล์ด้วย โทษฐานที่แกมันป๊อดไม่เข้าเรื่อง”
[รู้แล้วหน่า เลือกไว้เลยดีกว่าว่าจะเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวหรือเพื่อนเจ้าสาว]
“อื้อหือออ เพื่อนฉัน รอให้ถึงวันนั้นก่อนเหอะแกแล้วค่อยมาให้ฉันเลือก”
[เออ ไปแล้ว บายนะแก]
“บาย”
แบมแบมกดวางสายแทยงแล้วก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างมีความสุข สงสัยใช่มั้ยล่ะแต่ยังไม่บอกหรอกนะ คิกคิก^^
“อารมณ์ดีอะไรมาฮึ ยิ้มกว้างเชียว”
มาร์คที่เพิ่งเดินเข้ามาเห็นถามขึ้น เดี๋ยวนี้แบมแบมชอบออกมานั่งแย่งที่สูดอากาศเขานั่งดูดาวข้างนอกตอนหัวค่ำทุกวัน แต่ก็ดีนะจะได้มีเพื่อนคุย
“ก็ผมมีความสุขนี่ฮะ เพื่อนผมมันจะได้ลงมาจากคานสักที”
“งั้นหรอ....แล้วเรื่องโปรเจคทุนของนายล่ะไปถึงไหนแล้ว”
มาร์คถามอย่างเป็นห่วง นี่ก็ผ่านมาสองเดือนแล้ว เขาก็อยากรู้ว่าคนตัวเล็กเก็บข้อมูลได้มากน้อยแค่ไหน
“ผมสละสิทธิ์ไปแล้วล่ะฮะ”
และนี่แหละคือเหตุผลที่แทยงโทรมาขอบคุณเขา เรื่องโปรเจคทุนที่เขาตั้งใจทำมาตลอดสองเดือนนี้น่ะ เขาส่งไปตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว และผลที่ได้ก็ไม่เสียแรงที่เขาอุตส่าห์ลงทุนมาปลอมตัวเป็นสไตล์ลิสที่นี่ด้วย
โปรเจคของแบมแบมได้รับการคัดเลือกและอีกที่นั่งหนึ่งก็คือเตนล์เพื่อนรักของเขายังไงล่ะ ตอนที่รู้เรื่องนี้เมื่อสองวันก่อนที่บ้านเตนล์นะดีใจแทบตาย แต่พอหันไปเห็นหน้าแทยงที่เศร้าลง มันก็ทำให้แบมแบมไม่ลังเลเลยที่จะสละสิทธิ์นั้นให้กับแทยง
แทยงแอบรักเตนล์มาจะสิบปีได้แล้วมั้ง ตั้งแต่เรียนมอต้นนู้นแหละ แต่ก็ป๊อดไม่ยอมบอกรักสักทีเอาแต่หวงก้างทำตัวเป็นไม้กันหมาอยู่ได้ แต่อย่างว่าแหละเมื่อก่อนแทยงมันก็ไม่ได้หล่อขนาดนี้ ทุกวันนี้ที่ดูดีขึ้นมาได้ก็ฝีมือเตนล์ล้วนๆ โดยไอเตนล์ให้เหตุผลว่า ถ้าแทยงหล่อขึ้นจะได้มีแฟนสักทีแล้วก็จะได้ไม่มาคอยเกาะติดมันอยู่แบบนี้
แต่คนอย่างไอเตนล์มันจะไปรู้อะไร นี่ถ้าไม่เห็นว่าเก่งจนชิงทุนไปปารีสได้ก็จะนึกว่าเป็นควายแล้วกินหญ้าเป็นอาหารนะเนี่ย ไอแทยงมันแสดงออกขนาดนั้นยังไม่รู้อีกว่ามันรัก
ถ้าจะไม่ให้เรียกว่าโง่แล้วจะให้เรียกว่าอะไร.....ถามหน่อย
“อ้าว ทำไมล่ะ”
พี่รองทำหน้างงกับคำตอบของสไตล์ลิสตัวเล็ก
“ก็ผมผมเจอความฝันใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าอยู่ที่นี่แล้วนี่ฮะ ฮยองจะให้ผมไปไหนล่ะ”
แบมแบมพูดแล้วก็มองหน้าขึ้นไปบนฟ้า มาร์คที่ได้ยินก็ถึงกับเบะปากอย่างหมั่นไส้
“แหวะ หมั่นไส้! นี่ฉันมานั่งฟังนายบอกรักคนอื่นแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย”
“ก็ฮยองเป็นพี่ชายที่แสนดีไงฮะ^^”
“ย้ำจังเลยนะ”
และทั้งสองก็เม้าท์มันส์บันเทิงพูดคุยกันตามประสาน้องชายกับพี่ชายที่แสนดีด้วยเรื่องสัพเพเหระทั่วๆไป โดยที่ไม่มีใครสังเกตเลยว่า สองสามวันที่ผ่านมานี้มีใครบางคนที่เปลี่ยนไป
ร่างสูงนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงนุ่ม ถ้าเป็นเวลาปกติมันคงจะแสนสบายแต่มันไม่ใช่กับเวลาที่เขากำลังป่วยแบบนี้
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูเรียกสายตาของยูคยอมให้หันไปมองได้แต่ก็ไร้เรี่ยวแรงที่จะลุกไปเปิดให้ ได้แต่นอนรอให้คนที่มาเคาะรู้เองว่าประตูห้องเขาไม่ได้ล็อก
แอ๊ด~
“ยูคยอมทานข้าวหน่อยนะฮะ”
เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นไปมองร่างเล็กที่ถือถาดข้าวต้มเข้ามา ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปอีกทาง
“เอาออกไป ฉันไม่อยากกิน”
“ทานข้าวแล้วจะได้ทานยานะ อาการยูคยอมแย่มากเลย”
นอกจากจะไม่สนใจคำพูดของยูคยอมแล้วแบมแบมยังเดินเอาข้าวต้มมาวางไว้ที่โต๊ะหัวเตียงแล้วถือวิสาสะนั่งลงข้างๆคนป่วยก่อนจะยกมือขึ้นมาอังหน้าผากอีกคนที่ตอนนี้ร้อนฉ่าเพราะพิษไข้
ยูคยอมติดไข้ไปจากแบมแบมตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะหายเลยเพราะร่างสูงไม่ยอมลงไปกินข้าวและก็กินยาเลยสักอย่าง หมอก็ไม่ไปหา เช็ดตัวก็ไม่เช็ด เอาแต่นอนซมจนไข้โหมหนักแบบนี้
“บอกว่าไม่กินไง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ!!”
แบมแบมหน้าชาไปเลยเมื่อโดนยูคยอมหันมาตะคอกใส่ แม้เสียงจะแหบพร่าแต่แววตาและสีหน้าของยูคยอมดูก็รู้แล้วว่าไม่พอใจ
แต่เพราะอะไรล่ะ แบมแบมทำอะไรผิดอย่างนั้นหรอ
“ยูคยอมเป็นอะไรอ่ะ ทำไมต้องเย็นชากับผมด้วย ผมไปทำอะไรให้ยูคยอมไม่พอใจหรอ”
ยูคยอมแสยะยิ้มให้กับคำพูดของคนตัวเล็ก ที่ยังคงทำหน้าตาไม่เข้าใจอยู่อย่างนั้น
อย่ามาทำเป็นใสซื่อไปหน่อยเลยแบมแบม ถึงมันจะเข้ากับภาพลักษ์นายแต่มันไม่เข้ากับตัวตนจริงๆของนายเลยสักนิด คนที่ยอมให้ผู้ชายสองคนกอดในเวลาใกล้ๆกันน่ะ มันไม่ใสหรอก รู้ไว้ด้วย!!!
“ออกไป และอย่ามายุ่งกับฉันอีก”
ถ้าสุดท้ายคนที่นายเลือกคือมาร์คต้วน ไม่ใช่คิมยูคยอม……….
ประโยคหลังร่างสูงได้แต่คิดในใจไม่ได้พูดออกไป ใจคนฟังถึงกับกระตุกวูบ
“และถ้าเป็นไปได้ก็ออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ มันจะดีกับฉันมาก!!”
พูดจบก็หันหลังให้กับแบมแบมทันที ไม่อยากมอง ไม่อยากใจอ่อนให้กับน้ำตาโง่ๆของคนๆนั้นอีกแล้ว ไม่ว่าจะตอนนี้หรือเมื่อสองเดือนก่อนคิมยูคยอมก็ไม่เคยเป็นผู้ถูกเลือก เพราะฉะนั้นก็ไปซะเถอะ ฉันทนเห็นหน้านายต่อไปไม่ได้หรอก
มือเล็กกำเข้าหากันแน่นจนเส้นเลือดที่มือปูดขึ้นมา นี่น่ะหรอผลตอบแทนที่เขายอมสละความฝันแล้วอยู่ที่นี่ ความเสียใจแบบนี้ใช่มั้ยที่แบมแบมควรจะได้รับ ถ้าเป็นอย่างนั้นละก็....ได้ เขาจะไป.......
“อย่าลืมทานข้าวทานยาด้วยนะฮะ”
พูดแค่นั้นแล้วก็เปิดประตูออกไปเลย น่าเสียดายที่แบมแบมไม่ยืนต่ออีกสักนิด ถ้าแบมแบมอยู่นานกว่านี้อีกสักนาที ยูคยอมคงจะเป็นฝ่ายที่ทนไม่ไหวและรั้งร่างเล็กเข้ามากอดแล้ว แต่มันสายไปแล้วไง แบมแบมเดินออกไปแล้ว ไปแล้วจริงๆ
To be continued...
#แนะนำตัวละครตอนละคน(?)
ยองงี่
อายุ 3 ปี
:: หมาของแบมแบม
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Talk.
ดราม่ามากมั้ยถามใจอีกที ไม่ม่าหรอกเดี๋ยวพระเอกมันก็ใจอ่อนอีก
ไรท์ก็แค่สร้างสถานการณ์ให้แบมแบมกลับบ้านบ้างไง จะได้มีฉากไปสู่ขอกับลุงปาร์ค แอ๊แฮ่!! สปอยอีกแล้ว55555
แต่งตอนนี้แล้วอยากให้มีสเปเชี่ยวแทเตนล์ ใครเห็นด้วยยกมือค่ะ แต่ถึงไม่มีคนเห็นด้วยก็จะแต่งนะ แต่อาจจะได้อ่านตอนไรท์อายุแปดสิบ55555 บ้าเรอะ!!
เอาเป็นว่าชอบก็แชร์ต่อนะคะ^^
#ฟิคปมเด็กโข่ง
รู้สึกอนาจใจทุกครั้งที่พิมพ์แท็กนี้ ไม่ต้องไปสกรีมกันนะคะ มันมีไว้เก๋ๆแค่นั้นแหละ55555
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น