ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : YB :11 - love to growth in heart
11
love to growth in heart
“แฮกๆๆๆ”
ร่างเล็กยืนหอบหายใจอยู่หน้าตึกๆหนึ่ง ใช้เวลาเพียงไม่นานเขาก็มาถึงที่นี่ โดยการวิ่ง มือบางดันประตูเข้าไปข้างในช้าๆ สอดส่ายสายตาหาบุคคลที่ตัวเองต้องการพบแล้วก็เจอเข้ากับร่างของผู้ชายสองคนกำลังซ้อมเต้นอยู่หน้ากระจก
สถานที่นี้คือห้องซ้อมของเด็กในค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของบริษัทเจวายพีที่มีคุณลุงปาร์คจินยองของแบมแบมเป็นประธานค่าย และคนที่แบมแบมมาพบในวันนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เด็กฝึกในค่ายที่กำลังจะเดบิวต์ในอีกไม่ช้าในฐานะคู่หูดูโอ้ ใต้ชื่อโปรเจคย่อยของเจวายพี เจเจโปรเจค หวังแจ็คสันกับชเวยองแจไงล่ะ
“อ้าวแบมแบม”
ยองแจเอ่ยทักเจ้าของชื่อหลังจากมองเห็นร่างเล็กผ่านกระจก ก่อนจะหันไปบอกคู่หูตัวเองให้ปิดเพลงและพากันเดินมานั่งที่โซฟาตรงมุมห้อง
“ไงเรา มาทำอะไรที่นี่เนี่ย ได้ข่าวว่าไปเป็นสไตล์ลิสให้จีโอทีนี่ นึกยังไงฮึ”
แจ็คสันเอ่ยถามเมื่อทรุดนั่งลงบนโซฟาตัวนุ่มแล้ว
“หวัดดีฮะยองแจฮยอง มิสเตอร์หวัง คือพอดีผมมีเรื่องจะให้ช่วยนิดหน่อยน่ะฮะ”
แบมแบมเอ่ย มองหน้าสองฮยองอย่างขอร้อง
นอกจากแทคยอนเมเนเจอร์แล้วก็มีสองคนนี้นี่แหละที่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของแบมแบมคือใคร เพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งตอนที่แบมแบมกลับมาอยู่เกาหลีใหม่ๆตอนนั้นพอดีกับที่มีการคัดเลือกคนที่จะเข้ามาเป็นเจเจโปรเจ็กซ์พอดี และก็เป็นแบมแบมนี่แหละที่เป็นคนชี้ตัวเลือกพวกเขาสองคนมาทั้งๆที่คาแรกเตอร์ต่างกันลิบลับ ดูไม่เข้ากันที่สุด แต่แบมแบมก็บอกเพียงแค่ว่า
‘นี่แหละคือจุดขาย’
และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ตอนที่ทางบริษัทปล่อยทีเซอร์แนะนำตัวของพวกเขาออกไปผลตอบรับดีเยี่ยมจนบอสเองยังตกใจ และเพราะเหตุนี้เลยทำให้พวกเขาทั้งสองคนสนิทกับแบมแบมมาก
“เรื่องอะไรหรอ เรื่องเงินรึเปล่า เฮียไม่มีให้หรอกนะ”
แจ็คสันพูดตลก ส่งยิ้มให้เจ้าตัวเล็กของพวกเขาที่นั่งแหง่วอยู่ตรงกลาง
“เปล่าฮะ..... ฮยองจำเรื่องทุนเรียนต่อโทที่ผมเคยบอกได้ป่ะ ที่ไปปารีสอ่ะฮะ”
“อ๋อ... จำได้ทำไมหรอ”
ยองแจร้องอ๋อเมื่อนึกขึ้นได้ว่าน้องเคยเล่าให้ฟังเมื่อสองเดือนก่อนว่าจะไปปารีสอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ
“คือตอนเนี้ยแบมกำลังทำโปรเจคพิเศษเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของเหล่าไอดอลน่ะฮะ”
“มิน่าล่ะ เพราะแบบนี้ใช่ป่ะถึงได้ไปเป็นสไตล์ลิสให้กับพวกจีโอที”
แจ็คสันพยักหน้าขึ้นลง พอเข้าใจแล้วว่าทำไมแบมแบมถึงต้องไปเป็นสไตล์ลิสของจีโอทีด้วย เหตุมันเกิดมาจากเรื่องนี้นี่เอง
“ใช่ฮะ.....แต่ตอนนี้มันเกิดปัญหาตรงที่ว่า กำหนดส่งโปรเจคมันเลื่อนจากอีกสามเดือนมาเป็นสิ้นเดือนหน้านี้แล้ว”
แบมแบมเอ่ยหน้าเครียด ตั้งแต่ที่เคยทำโปรเจคมาไม่มีครั้งไหนที่เขาลงทุนมากขนาดนี้เลย และก็ไม่มีครั้งไหนที่ยากและเร่งรัดมากเท่าครั้งนี้ด้วย คนแข่งขันกันก็มีเป็นพันเป็นหมื่น บอกเลย แบมแบมเครียด!!!
“งั้นก็เหลือเวลาทำแค่เดือนกว่าๆเองสิ”
ยองแจเอ่ยเสียงนุ่ม ก้มมองนาฬิกาข้อมือที่บอกวันที่เป็นวันที่18แล้ว
“เพราะแบบนี้แหละฮะผมก็เลยอยากให้พวกฮยองช่วย”
“แต่พวกเรายังไม่ได้เป็นไอดอลนะ คงยังให้ข้อมูลได้ไม่มากเท่าไหร่”
“ข้อมูลที่ผมต้องการ คือชีวิตก่อนที่จะมาเป็นไอดอลน่ะฮะ ส่วนข้อมูลหลังจากนั้นน่ะผมพอจะได้มาบ้างแล้ว”
“ฮยองแปลกใจ ทำไมแบมถึงไม่ไปถามข้อมูลจากพวกนั้นเลยล่ะ ในเมื่อก็อยู่บ้านเดียวกันพวกเขาน่าจะให้ข้อมูลได้เยอะกว่านะ ไม่เห็นต้องเหนื่อยมาหาพวกเราถึงที่นี่เลย”
แจ็คสันเอ่ยถามในสิ่งที่สงสัยหลังจากที่เงียบมาหลายประโยค
จะให้พูดก็พูดเถอะถ้าแบมแบมต้องการข้อมูลจริงๆก็แค่ขอสัมภาษณ์ตรงๆไปเลยก็ได้ ไม่เห็นจะต้องทำเรื่องให้ยุ่งยากขนาดนี้เลย แค่เอ่ยปากขอบอสคำเดียวพวกจีโอทีก็นั่งเรียงหน้ากระดานตรงหน้าแล้ว
หรือว่าแบมแบมชอบความลำบาก?
“จะพูดยังไงดีล่ะฮะ....คือ...พวกเขาไม่รู้ว่าผมเป็นใครน่ะ คุณลุงบอกให้ผมปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ มีแต่พวกฮยองเท่านั้นแหละที่รู้ว่าผมเป็นใคร เพราะฉะนั้นช่วยน้องหน่อยนะฮะ”
แบมแบมอธิบาย พรางทำหน้าอ้อนวอนสุดฤทธิ์ ถ้าเกิดฮยองสองคนนี้ไม่ช่วยแบมแบมก็ไม่รู้จะไปขอให้ใครช่วยแล้วล่ะ แล้วทีนี้ข้อมูลที่ต้องการก็จะไม่ครบ งานก็ทำต่อไม่ได้ โปรเจ็กซ์ก็ไม่เสร็จ สุดท้ายแบมแบมก็ไม่ได้ทุนแล้วก็ไม่ได้ไปปารีสด้วย แค่คิดน้ำตาก็จะไหลแล้วTT
“ก็ได้ แต่พวกเราคงมีเวลาให้ไม่นานนะเพราะเดี๋ยวบ่ายโมงต้องไปงานต่อ เสร็จก่อนเที่ยงได้มั้ย?”
แจ็คสันเอ่ยถามพร้อมกับก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงสี่สิบห้าแล้ว เหลือเวลาอีกสองชั่วโมงหน่อยๆ
“ฮะ แค่นั้นก็พอแล้วฮะ งั้นเริ่มเลยนะฮะ”
พอได้รับคำอนุญาตแบมแบมก็หยิบกล้องวิดีโอขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะใกล้ๆ ปรับมุมองศาให้เห็นหน้าสองดูโอ้อย่างชัดเจน วางเครื่องอัดเสียงไว้บนตัก ก่อนที่มือบางจะหยิบสมุดกับปากกาขึ้นมาเตรียมจดข้อมูลอีกที ถือว่าเป็นการทำงานที่เตรียมพร้อมและรอบคอบพอสมควรเลยล่ะ
เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง และแล้วแบมแบมก็สัมภาษณ์แจ็คสันกับยองแจเสร็จ ข้อมูลที่ได้มาถือว่าโอเคมากทีเดียว ความรู้สึกของเด็กผู้ชายที่มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นไอดอลจนวันหนึ่งได้มีโอกาสมาออดิชั่นและได้รับเลือกจนในที่สุดก็กำลังจะได้เดบิวต์ .....ให้อารมณ์นักล่าฝันสุดๆอ่ะ
หลังจากนั้นไม่นานเมเนเจอร์ของแจ็คสันกับยองแจก็มาตามให้ทั้งคู่ไปเตรียมตัวเพื่อที่จะไปงานบ่ายนี้ ส่วนแบมแบมก็กะว่าจะเอาของไปเก็บที่บ้านก่อนแล้วค่อยไปบริษัทแต่ก็ต้องพับความคิดนั้นเก็บไปทันทีเมื่อยกนาฬิกาขึ้นมาดูแล้วพบว่าเป็นเวลาเที่ยงสี่สิบห้าแล้ว
“ชิบ_าย!!!”
สองเท้าเล็กรีบวิ่งออกมาจากตึกไปโบกแท็กซี่ก่อนจะยัดตัวเองเข้าไปในรถแล้วบอกจุดหมายปลายทางให้กับโชเฟอร์ บ้านเบิ้นไม่ต้องกงต้องกลับมันละ
ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงแบมแบมก็มาถึงหน้าบริษัท JYP ของคุณลุงสุดที่รัก สองขารีบวิ่งเข้าไปที่ห้องแต่งตัวของ GOT ทันที
สาย.....แบมแบมกำลังสาย และสมาชิกวงนี้ก็เกลียดการมาสายที่สุดไม่ว่าใครก็แล้วแต่ ถึงจะเป็นศิลปินที่ดูเหมือนเรื่องมากไปหน่อย ซึ่งก็อาจจะไม่หน่อย แต่เรื่องเวลาถือว่าเป๊ะมาก นัดกี่โมงต้องมาให้ตรง สายแม้แต่นาทีเดียวก็เคืองแล้ว ละนี่แบมแบมสายไปจะยี่สิบนาทีแล้วเนี่ย
โดนเชือด! คำเดียวเลย
“แฮกๆๆ”
ร่างเล็กยืนหอบหายใจหน้าประตู มือบางค่อยเอื้อมไปจับลูกบิด สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วก็เปิดเข้าไป
“ขอโทษฮะที่ผมมาสาย ต่อไปจะไม่ให้เป็นแบบนี้อีกแล้วฮะ!”
เสียงใสพูดออกไปอย่างหนักแน่นแล้วก็ก้มโค้งรัวอย่างสำนึกผิด โดยมีสายตาของทุกคนมองมายิ้มๆ และก็เป็นมาร์คที่เดินเข้ามาหาแบมแบมก่อน
“ไม่เป็นไรแบมแบม แค่สิบกว่านาทีเองยังไงพวกเราก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรขนาดนั้นสักหน่อย ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะ (:”
มาร์คพูดแล้วก็ยิ้มหวาน มือหนาก็เอื้อมมาลูบหัวทุยๆอย่างเอ็นดู ทุกคนเองก็ยิ้มเว้นเสียแต่ยูคยอมที่นั่งมองด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจ
“ว่าแต่แทคยอนเมเนเจอร์ไปไหนหรอฮะ”
แบมแบมถามขึ้นขณะวางกระเป๋าและของในมือลงบนโต๊ะที่มีไว้รับรอง.....รีบขนาดจนลืมเก็บของอ่ะคิดดู
“ไปเอาของน่ะ เห็นบอกว่าอยากถ่าย GOT TV เล่นๆสักสามสี่ตอนไว้เรียกเรตติ้งสักหน่อย”
เป็นเจบีที่ตอบออกมาก่อนจะเดินไปแต่งหน้าเป็นคนที่สามต่อจากจูเนียร์ ตอนนี้ทุกคนทำผมเสร็จหมดแล้วเหลือแค่มาร์คที่ยังไม่ได้แต่งหน้าส่วนยูคยอมเสร็จไปตั้งแต่คนแรกแล้ว
แบมแบมพยักหน้ารับคำบอกเล่าก่อนจะเดินไปที่ราวแขวนเสื้อผ้าเลือกๆอยู่สักพักก็หยิบชุดของจูเนียร์ส่งให้คนร่างบางเอาไปเปลี่ยน ตามด้วยหยิบชุดของยูคยอมไปยื่นให้คนร่างสูงที่เอาแต่นั่งกดโทรศัพท์เล่นเกมอยู่ที่โซฟาไม่ยอมลุก ยูคยอมเงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะรับเอาเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนต่อจากจูเนียร์ที่เดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
ชุดของจูเนียร์เป็นเสื้อยีนส์สีเข้มแขนยาวกับกางเกงขาวยาวสีน้ำตาลอ่อน ของยูคยอมเป็นเสื้อยืดแขนสั้นสีขาวสวมทับด้วยกักยีนส์แขนกุดสีซีดกับกางเกงยีนส์สีเข้ม เจบีเป็นเสื้อยืดสีเทาสวมทับด้วยแจ็คเก็ทสีน้ำเงินเข้มแล้วกางเกงยีนส์สีเดียวกับของยูคยอม และมาร์คเป็นเสื้อสีขาวแขนกุดข้างในสวมทับด้วยแจ็คเก็ทยีนส์สีเข้ม กางเกงเป็นสีน้ำตาลอ่อนขาสามส่วน พอมารวมกันแล้วโคตรเพอร์เฟกซ์อ่ะ
ก็เงี้ย! ได้สไตล์ลิสดีอ่ะนะ ^^
(อวยตัวเองก็เป็น -..-)
“มาแล้วเด็กๆ”
แทคยอนส่งเสียงทันทีที่มาถึงจนทุกชีวิตในนี้ต้องหันไปมองเป็นทางเดียว
“ไหงกลับมามือเปล่าล่ะฮยอง”
จูเนียร์ถามเมื่อเห็นว่าอีกคนไม่มีของติดมือกลับมาเลยสักอย่าง
“กล้องวิดีโอที่ฉันจะไปยืมมาถ่ายถูกเบิกไปใช้หมดแล้วน่ะสิ......อ๊ะ!นี่กล้องใครน่ะ”
เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างตื่นเต้นเมื่อหันไปเห็นกล้องวิดีโอตัวหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ แบมแบมที่เห็นท่าไม่ดีรีบวิ่งไปหยิบกล้องขึ้นมากอดไว้อย่างหวงแหน
“ของผมเองฮะ ทำไมหรอ?”
“แบมแบมนา~”
มาเรียกกันเสียงหวานแบบนี้ไม่น่าไว้ใจเลยแฮะ กำลังคิดอะไรที่ไม่ดีอยู่แหงๆ
“ขอยืมกล้องมาถ่ายรายการทีวีหน่อยสิ”
“ไม่ได้นะ!”
เสียงใสรีบปฏิเสธทันทีพรางกระชับอ้อมแขนที่กอดกล้องตัวโปรดเอาไว้แน่นขึ้น
ก็ในนี้น่ะมีข้อมูลอะไรที่แบมแบมไม่อยากให้คนอื่นรู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอที่ถ่ายคู่กับคุณลุง หรือแม้แต่วิดีโอสัมพาษท์สองหนุ่มเจเจนั่นอีก ถึงแม้แทคยอนเมเนเจอร์จะรู้เรื่องตัวตนของเขาแต่คนอย่างแทคยอนฮยองน่ะไว้ใจไม่เคยได้เลยน่ะสิ ความรับผิดชอบติดลบยี่สิบเลยล่ะ!
“ทำไมล่ะ?”
“คือ...เอ่อ...เดี๋ยวผมถ่ายให้ฮะ คุณเมเนเจอร์น่ะไม่ค่อยระวังเดี๋ยวทำกล้องผมพังขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ”
แบมแบมบอก จริงๆก็ไม่ได้อยากให้หรอกแต่โดนสายตาสงสัยของอีกสี่คนมองมาแล้วก็เลยต้องยอมให้เพราะเดี๋ยวโดนสงสัย
“ได้ๆ ดีไปเลย งั้นนายเริ่มถ่ายที่มาร์คเลยนะ”
แทคยอนว่าอย่างตื่นเต้นก่อนจะเดินไปหย่อนก้นนั่งบนโซฟาที่จัดไว้รับรอง แบมแบมเลยต้องยอมหยิบกล้องออกมาถ่ายวิดีโออย่างจำใจ
เอาวะ! อย่างน้อยก็ไม่มีใครได้จับกล้องนอกจากเขาคนเดียว
“เฮ้ออ เหนื่อยเป็นบ้า”
คุณลีดเดอร์บ่นเสียงโหยหวนทันทีเมื่อกลับมาถึงบ้านเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน
ตั้งแต่บ่ายพวกเขาก็ไปขึ้นเวทีเปิดงานแถลงการณ์ของบริษัทเรื่องศิลปินหน้าใหม่ที่กำลังจะเดบิวต์ มันจะไม่เหนื่อยมากมายอะไรเลยถ้าเขาไม่ต้องมานั่งฟังเจ้าน้องเล็กร่างยักษ์โอดครวญเป็นหมีกินผึ้งแบบนี้ เพราะวงที่กำลังจะเดบิวต์ใหม่นั่นก็คือเจ้าพวกดูโอ้นรกแตก แจ็คสันหวังกับชเวยองแจนั่นแหละ
จริงๆเจบีกับสมาชิกในวงก็ไม่ได้แอนตี้อะไรเจ้าพวกนั้นนักหรอกนะ จะมีก็แต่ยูคยอมนั่นแหละที่ดูจะรังเกียจรังงอนแจ็คสันหวังมาก ถึงขนาดเอาชื่อเค้ามาตั้งเป็นชื่อหมาเลยล่ะ
ถามว่าตกใจมั้ย? ก็นิดนึงนะเพราะบอสไม่เคยบอกว่าสองคนนั้นเป็นศิลปินในค่าย และเขาก็เพิ่งรู้วันนี้แหละว่าทางค่ายมีโปรเจคย่อยด้วย
น่าตัดออกจากกองมรดกใช่มั้ยล่ะ 55555
“พวกคุณขึ้นไปอาบน้ำกันก่อนนะฮะ เดี๋ยวผมจะทำนมร้อนขึ้นไปให้ จะได้นอนหลับสบาย”
แบมแบมสั่งสมาชิกทุกคนหลังจากที่วางของเสร็จก่อนจะเดินเข้าครัวไป และสี่หนุ่มก็ว่าง่ายเดินขึ้นห้องแยกย้ายกันไปอาบน้ำในห้องของตัวเอง
มือบางจัดการยกถาดที่ใส่แก้วนมร้อนทั้งสี่แก้วขึ้นมาด้านบน แล้วก็ไล่เคาะประตูห้องแต่ห้องไปเรื่อยจนจบที่ห้องของมาร์คเป็นห้องสุดท้าย
“ขอบคุณนะแบมแบม ฝันดี (:”
“ฝันดีฮะมาร์คฮยอง”
เอ่ยจบทั้งสองก็แยกย้าย มาร์คถือแก้วนมกลับเข้าห้องไป ส่วนแบมก็เดินลงมาข้างล่างเพื่อจะเอาถาดมาเก็บ
แบมแบมสำรวจเตาแก๊สกับก๊อกน้ำอย่างละเอียดอีกครั้งว่าปิดสนิทดีแล้ว สองเท้าเตรียมจะก้าวออกจากครัวแต่ก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อมีใครอีกคนอื่นอยู่ข้างหลัง
“อุ๊ตะ!! โอ้มายก้อด พระเจ้าช่วยย!...มายืนทำอะไรตรงนี้เนี่ย!!”
เสียงหวานแหวขึ้นมาอย่างตกใจ มองคาดโทษร่างสูงที่ยืนถือแก้วนมร้อนที่ยังคงมีอยู่เต็มแก้วมองหน้าเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ไหนของนายล่ะ?”
ยูคยอมไม่ตอบคำถาม แต่มองผ่านหลังไปที่โต๊ะกับซิ้งล้างจานก็ไม่เห็นซากแก้วนมซักแก้ว
“อะไรฮะ?.....อ๋อ ผมไม่ดื่มนมหรอก”
แบมแบมตอบเสียงใสเมื่อเข้าใจประโยคคำถามแล้ว ร่างสูงย่นคิ้วเข้าหากันอย่างขัดใจก่อนจะเดินไปหยิบแก้วเปล่ามาแล้วเทนมอุ่นจากแก้วของตัวเองใส่ไปครึ่งนึงก่อนจะยื่นมันให้ร่างเล็ก
“อ่ะ”
“เห?”
แบมแบมมองหน้าอีกคนอย่างไม่เข้าใจ มือก็ยังคงอยู่ข้างตัวไม่ได้ยื่นออกไปรับแก้วจากร่างสูง จนยูคยอมต้องยัดใส่มือให้
“กินซะบ้างเถอะ จะได้สูงๆ”
ยูคยอมเอ่ยแล้วก็ยกแก้วนมขึ้นดื่ม แบมแบมที่พอได้ยินคำพูดสบประมาทก็ยอมไม่ได้ ยกแก้วนมขึ้นมากระดกรวดเดียวหมดแก้ว
“เชอะ! ผมไม่ได้เตี้ยสักหน่อย ยูคยอมต่างหากที่สูงเอง”
แบมแบมกระแทกเสียงนิดหน่อยอย่างไม่ค่อยพอใจ แต่มือก็ไม่วายฉกแก้วนมที่หมดแล้วของยูคยอม มาล้างที่ซิ้งล้างจาน
“ฉันหวังดีต่างหากล่ะ”
เสียงทุ้มเอ่ย แบมแบมรีบหันไปมองหน้าคนตัวสูงที่ชอบว่าเขาเตี้ยหมายจะค่อนอีกดอกแต่ก็ต้องชะงักเมื่ออีกคนเข้ามายืนประชิดตัวพร้อมกับโน้มหน้าเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
อะไรกัน? ทำไมหัวใจเต้นแรง?
บ้าจริง!
“ยะ...ยู..”
“กินเลอะเหมือนเด็กๆ”
ยูคยอมพูดหลังจากเช็ดคราบนมที่เปื้อนขอบปากของแบมแบมออกให้ด้วยนิ้วหัวแม่มือ ร่างสูงส่งยิ้มหวานให้หนึ่งครั้งก่อนจะเดินหันหลังออกจากครัวไป
“เฮ้อ....ตกใจหมดเลย”
แบมแบมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อไม่ได้ถูกทำในสิ่งที่คิด
แต่เดี๋ยว.....แบมแบมคิดอะไร?
ข้ามมันไปเถอะ!
มือบางจัดการปิดไฟห้องครัวหลังจากเช็คแก๊สกับน้ำอีกครั้งแล้วก็เดินกลับขึ้นห้องไปพักผ่อนบ้าง
วันนี้เหนื่อยเป็นบ้าเลย ตื่นตั้งแต่เช้ามาทำอาหาร กว่าจะเสร็จงานก็ปาไปห้าทุ่มแล้ว ดีนะที่วันนี้แวะทานมื้อเย็นจากข้างนอกก่อนกลับบ้านไม่งั้นแบมแบมอ่วมแน่ ไหนจะวิ่งไปสัมภาษณ์แจ็คสันฮยองกับยองแจฮยองอีก
ว่าแต่เขาไม่ได้เอากล้องกับสมุดโน้ตขึ้นห้องมาด้วยนี่นา ถ้าไม่พูดก็คงลืมไปแล้ว สงสัยลืมวางไว้ที่ห้องนั่งเล่น
ให้ตายเถอะแบมแบมขี้ลืมจริงๆ!
มือบางยกขึ้นมาขยี้หัวตัวเองก่อนจะเปิดประตูออกไปเอาของข้างล่าง
โป๊ก!
“โอ้ย!”
“โอ๊ะ!แบมแบมฉันขอโทษ”
มือบางถูกยกขึ้นมากุมหน้าผากตัวเองที่ถูกคนตัวสูงเคาะมาซะเต็มแรง โดยไม่ลืมมองด้วยสายตาคาดโทษกลับไปด้วย
“เจ็บนะ! ทำอะไรของยูคยอมเนี่ย?”
“คือฉันตั้งใจจะเคาะประตูแต่นายดันเปิดออกมาพอดี ฉันก็เลยยั้งมือไม่ทันอ่ะ แหะๆ”
ร่างสูงทำได้แค่ยิ้มแห้งๆแล้วส่งสายตารู้สึกผิดไปให้ ถึงก่อนหน้านี้จะกัดกันตลอดแต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้วนะ ยูคยอมเลิกแอนตี้แบมแบมแล้วด้วย
ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก.....ก็เห็นว่าแจ็คสันชอบหรอกนะ เลยไม่แอนตี้ (หืม? อ้างหมา??)
“ว่าแต่มีอะไรหรอฮะ ถึงมาเคาะประตูห้องผม”
“คือว่า.....เอ่อ....”
“หืม?”
ร่างเล็กเอียงคออย่างสงสัยเมื่ออีกคนเอาแต่อ้ำอึ้งไม่ยอมพูดออกมาสักที ยูคยอมเองที่ไม่รู้จะทำยังไงต่อเลยจับแบมแบมหันหลังแล้วดันร่างเล็กให้กลับเข้าห้องไป
“นายเดินไปอยู่ตรงนู้นก่อนนะ เดี๋ยวฉันเคาะใหม่อีกรอบแล้วนายค่อยเดินมาเปิด เข้าใจมั้ย”
พูดจบก็ปิดประตูห้องให้แบมแบมเสร็จสรรพ ร่างเล็กได้แต่มองบานประตูที่ปิดลงด้วยความงงงวย
“เล่นอะไรของเขา?”
เสียงเล็กบ่นพึมพำ ไม่นานประตูห้องของตัวเองก็ถูกเคาะขึ้นอีกครั้ง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ไม่รอช้า ร่างเล็กรีบสาวเท้าไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว มือบางหมุนลูกบิดประตูแล้วดึงเข้าตัวแต่ก็พบเพียงแค่ความว่างเปล่า ไร้ซึ่งเงาของคนเคาะ ตากลมหันซ้ายหันขวามองหาร่างของยูคยอมที่เขาคิดว่าคงจะแอบอยู่แถวๆนี้เพื่อแกล้งเขา แต่แล้วสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับกระดาษสีขาวขนาดเท่าเอสี่ที่ถูกแปะอยู่หน้าห้องตรงข้ามซึ่งเป็นห้องนอนของยูคยอม
สองขาค่อยก้าวเข้าไปอ่านข้อความที่เขียนอยู่บนกระดาษ มือบางดึงกระดาษแผ่นนั้นออกมาแล้วหยิบปากกาจากในห้องของตัวเองออกมาเขียนตอบข้อความนั้นกลับไป ก่อนจะเอากระดาษแผ่นนั้นมาติดที่หน้าประตูห้องของตัวเอง จัดการเดินไปเคาะประตูห้องฝั่งตรงข้ามแล้วก็รีบวิ่งกลับเข้าห้องของตัวเองอย่างเร็วที่สุด
เพราะกลัวน่ะสิ.....กลัวว่าคนตัวสูงขี้แกล้งนั่นจะเห็นหน้าของเขา
หน้าแดงๆที่ยิ้มกว้างไม่หุบจนเมื่อยแก้มไปหมดแล้วแบบนี้ >/////<
‘ที่ให้กินนม ไม่ได้อยากให้สูง แต่อยากให้หลับสบาย จะได้หลับฝันดี.........แล้วก็ฝันถึงฉัน (:'
‘คงจะเป็นฝันดีมากๆแน่เลย......ฝันดีเหมือนกันนะฮะ (:'
ยูคยอมยืนมองข้อความในกระดาษของตัวเองที่บัดนี้มันถูกติดอยู่ที่ประตูอีกบานและยังมีข้อความตอบกลับมาจากคนตัวเล็ก มุมปากหยักยกยิ้มขึ้นอย่างอารมณ์ดีเมื่ออ่านข้อความในนั้นจบ มือหนาดึงกระดาษใบนั้นออกมาแล้วก็เดินกลับเข้าห้องมานอน
รีบนอน.....รีบฝันดี^^
To be continued...
#แนะนำตัวละครตอนละคน
TAE YONG
อายุ 21 ปี
:: เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อของเตนล์
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Talk.ขอโทษที่หายไปนานนะคะ พอดีติดเรื่องแอดเข้ามหาลัยเลยไม่มีเวลามาลง
ว่าด้วยเรื่องของฟิค นั่นแน่ หวานเล็กๆน้อยๆจากคิมยูคยอม อ่านแล้วช่วยเขินตามกันด้วยนะคะ55555
ใกล้แล้วค่ะ ตอนนี้เค้าเริ่มปิ๊งกันแล้ว อีกนิดนึงใกล้จะรู้ความจริงละ
มารอดูปฏิกิริยาตอบรับจากพระเอกกันเถอะว่าจะเป็นยังไง
ถ้าชอบก็กดแชร์ กดโหวตก็ได้นะคะ^^
#ฟิคปมเด็กโข่ง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น