ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reality Diary ชีวิตจริงของฉันเน่ากว่านิยาย

    ลำดับตอนที่ #4 : สุขและทุกข์

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 49


    ฮือๆๆ เจร้องไห้มาเป็นร้อยครั้งแล้ว เจกลายเป็นคนขี้แยไปอีกแล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่แย่ที่สุดในชีวิตเลย ตอนนี้เจจบออกมาจากอีพีแล้ว ทิ้งไว้แต่ความทรงจำอันเจ็บปวดไว้กับเจ ดูสิค่ะปี 2548 เจเจออะไรมาบ้าง

    มกราคม - เตรียมตัวไปสิงคโปร์ ซื้อเสื้อผ้า รองเท้า ของที่ระลึกไปแลกกับเพื่อนที่สิงคโปร์ หมดไปหลายตังค์

    กุมภาพันธ์ – สอบปลายปี เตรียมใบผ่านแดน วันที่27 เข้าโรงพยาบาลไม่รู้ว่าเป็นอะไร 4 วันก่อนไปสิงคโปร์

    มีนาคม - เพื่อนๆไปเที่ยวสิงคโปร์ มาเลเซียกัน ส่วนเจนอนร้องไห้อยู่ที่โรงพยาบาลอีก 15 วัน เป็นเบาหวาน

    เมษายน- ต้องลากสังขารไปเรียนพิเศษตอนปิดเทอม ทั้งๆที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล

    พฤษภาคม- ไม่ได้ไป English Camp กับเพื่อนๆเพราะยังไม่หายป่วย

    มิถุนายน- ทำกิจกรรมทดแทนโดยการเขียนรายงานให้ยาวที่สุดเป็นภาษาอังกฤษ ว่าด้วยเหตุผลที่ไม่ได้ไปcamp

    กรกฎาคม – เผชิญหน้ากับอาจารย์มอสตัวต่อตัวในการประกวดร้องเพลง แล้วก็แห้วได้ที่สุดท้ายหน้าแตกยับเยิน ต้องแสดงละคร 1 เรื่อง เป็นภาษาอังกฤษ เพราะอาจารย์ไม่พอใจกับรายงานความยาว 2 หน้ากระดาษของเจ ซึ่งเจเขียนยาวที่สุดแล้ว เลยโดนทำโทษกันหมดเลย ประมาณ10 คนได้ แต่ที่สำคัญเจเป็นผู้หญิงคนเดียวอีก ตายแน่ๆ

    สิงหาคม – สอบสัมภาษณ์AFS อาจารย์มอสเป็นกรรมการสอบสัมภาษณ์ แน่นอนไม่ผ่านตามเคย แสดงละครที่เจเป็นนางเอกเอง เพราะพวกเพื่อนบ้ามันอ้างว่าเจเป็นผู้หญิงคนเดียว พระเอกนะเหรอ ก๊อตน่ะ มันเป็นกระเทย เจเลยซวยโดนกระเทยกอดบ้างหอมแก้มบ้าง ตอนซ้อมไม่ค่อยเท่าไร แต่พอแสดงจริงนี่สิ มันเล่นกอดจริงหอมแก้มจริงต่อหน้าอาจารย์ จนอาจารย์หลายคนถึงกับตาค้าง แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่โดนทำโทษรอบสาม แล้วก็งานคืนสู่เหย้าของโรงเรียน ป้าของเจก็เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเดียวกับเจ แล้วแถมยังสนิทกับผู้อำนวยการอีก ป้าก็มาบังคับให้เจทำอะไรก็ได้ที่เป็นการแสดง 1 ชุด สรุปก็คือ ต้องไปร้องเพลงกับอาจารย์มอสแล้วก็นายบาส ลำบากใจจัง แต่ก็ผ่านมาได้แล้วนี่

    กันยายน – ป้าอยากพาทุกคนที่เล่นดนตรีคืนนั้นรวมถึงอาจารย์มอสด้วยไปเที่ยวทะเลกัน แต่โชคดีที่มันอยู่ในช่วงสอบและอาจารย์มอสก็ไม่ว่าง สอบกลางปีแล้วก็ปิดเทอม

    ตุลาคม – เปิดเทอมแล้ว สอบกลางปีวิชาคณิตเสริมไม่ผ่าน ต้องสอบแก้ ตกจากคานงัดตอนที่กำลังนำเสนอเกี่ยวกับมันอยู่ เลยได้แผลไปเล็กน้อย ในวิชาวิทยาศาสตร์ของอาจารย์เจมส์

    พฤศจิกายน - ประชุมผู้ปกครอง โดนด่าเละ เพราะคะแนนรวมยังไม่ถึงครึ่ง ส่วนอาจารย์เจมส์อาจารย์ที่ปรึกษาก็ชมซะตัวเลย แต่แม่ก็ยังไม่เลิกด่า อาจารย์ก็ได้แต่สงสารเจ อาจารย์ทั้งหลายเริ่มประชุมกันและเริ่มโต้แย้งว่าจะเอาเจไปเชียงใหม่ด้วยรึเปล่า ส่วนเจนะเหรอ น้ำตาท่วมบ้านไปเรียบร้อยแล้ว ห้องของเจไปทะเลาะกับอาจารย์แคเรน อาจารย์วิชาภาษาอังกฤษ มองหน้ากันไม่ติดเลย จนพวกเรากลายเป็นเด็กนรกสำหรับอาจารย์ ถ้างั้นอาจารย์ก็เป็นซาตานของพวกเรา เข้ากันดีมั้ย

    ธันวาคม – อาจารย์มอสลาออกและกลับแคนาดาไปอย่างเงียบๆ ไม่มีนักเรียนคนไหนรู้ว่าทำไม ท่านรองผู้อำนวยการมีมติอย่างเป็นทางการว่าไม่ให้เจไปเชียงใหม่ ถึงแม้เสียงของอาจารย์ส่วนใหญ่จะให้เจไปก็ตาม แล้วมาบอกเจว่าเป็นห่วงในความปลอดภัยของเรา บอกมาตามตรงเถอะ แต่ไม่บอกเจก็รู้ว่ากลัวเจไปตายใส่ และไม่อยากดูแลเจ ไม่อยากรับภาระใช่ไหมล่ะ ถึงเจจะอายุ 15 เจก็รู้นะ ก็คิดดูซิ เรียกเจมาพบ 2 ครั้ง ลากเจออกมาจากห้องเรียนไปพบพวกอาจารย์ตามลำพัง 3 ครั้ง ให้เจมาพร้อมแม่อีก 2 ครั้ง เอาเป็นว่าเจกับแม่วุ่นวายกันทั้งเดือนแล้วกัน เขาพยายามกล่อมให้เจไม่อยากไป แต่ขอโทษนะ ไม่สำเร็จหรอก แต่ผลสุดท้ายเขาก็ใช้อำนาจสั่งห้าม เล่นสกปรกนี่หว่า ขณะที่เพื่อนๆกำลังเตรียมการแสดงของห้อง แต่เจก็ได้แค่นั่งดูกับทำอุปกรณ์ให้เท่านั้น บทที่เคยเป็นของเจก็ต้องหาคนอื่นมาเล่นแทน เจ็บปวด เจ็บใจ

    มกราคม 49 - วันที่ 5- 12 นอนอยู่บ้าน พร้อมกับงานกองโตในฐานะที่ไม่ได้ไปเที่ยวเชียงใหม่ นี่เจผิดด้วยเหรอเนี่ย น้ำตามันไหลทุกครั้งที่โทรหาหรือคิดถึงเพื่อน ก็คิดดูสิ เพื่อนไปเที่ยวกันทุกคน เจอยู่บ้านพร้อมกับงานกองโต มันน่าไหมล่ะ ทนกับสายตาของรุ่นน้องที่มองมาแปลกๆ พร้อมกับเสียงกระซิบที่พอจับใจความได้ว่า “ ดูพี่พวกนั้นสิ เด็กม.3น่ะ ที่อาจารย์แคเรนบอกหน่ะ gramma ก็ห่วย ศัพท์ก็ไม่ท่อง ทำงานก็ห่วยแตก พูดภาษาอังกฤษก็ยังไม่คล่อง โชคดีนะที่อาจารย์แคเรนสอนพวกเราตั้งแต่ตอนแรก ไม่งั้นคงต้องเป็นเหมือนพี่พวกนี้แน่เลย” มันเจ็บจี๊ดๆ เลยนะ ว่าเจ ไม่ค่อยเท่าไร นี่กล้าว่าถึงอาจารย์ที่เคยสอนเจด้วย แล้วยังมาสอนรุ่นน้องให้แบบนี้อีก มันน่าเอาระเบิดไปปาบ้าน แถมด้วยขึ้นblack list ห้ามเข้าประเทศซะเลย ถึงจะสาสม

    กุมภาพันธ์ 49 – สอบปลายปี วันที่18 งานเลี้ยงส่งที่ชายหาด ถ่ายรูป กิน แล้วก็เล่นน้ำ ก่อนกลับบ้านเจวิ่งไปกอดอาจารย์เจมส์แล้วก็ดันร้องไห้ออกมาซะงั้นแหละ อาจารย์สะดุ้งเลย แต่ก็ปลอบเจนะ เขาบอกว่าถ้ามีปัญหาหรืออยากเจอก็ไปหาได้ทุกเมื่อ แต่อีกสัก 2-3 ปี เขาจะกลับออสเตรเลียแล้ว เอาเข้าไป เจร้องไห้ใหญ่เลยพร้อมกับกอดอาจารย์ไม่ยอมปล่อย เพื่อนๆบางคนก็ร้องไห้ตาม บางคนก็หัวเราะทั้งน้ำตา คนที่ไปเที่ยวแถวนั้นเขามองกันใหญ่เลย อาจารย์เลยลากเจไปขึ้นรถในสภาพนั้น (กอดไปเดินไป) และก็จบกันสักที หวังว่าช่วงเวลาร้ายคงจะจบไปด้วยนะ ไม่งั้นเจคงต้องเป็นบ้าเข้าสักวันแน่ๆ

    ถึงแม้เจจะจบม.3แล้ว แต่สิ่งที่ได้ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียว แต่เป็นมิตรภาพของความเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมา ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ขอบใจนะทุกๆคน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×