คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : รวบรัด
มาอัพแล้วเน้อ ติชม เม้นๆกันเยอะๆนะ จะได้มีกำลังใจ
.............................................................................................................................................................
“มากันแล้วเหรอ อ้าว นี่ตกลงว่าคุณหมอเป็นเพื่อนอาร์มใช่มั้ยลูก” ปรานียิ้มอย่างดีใจพลางถามลูกชาย
“ครับ อาร์มจำไม่ได้เลย ก็เล่นเปลี่ยนไปเยอะนี่” นราธรนั่งลงข้างๆมารดา
คุลิกานั่งตามนราธร เพราะทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน “สวัสดีค่ะ หนูชื่อจิ๊บ เป็นเพื่อนสมัยม.ปลายของอาร์มค่ะ” คุลิกาแนะนำตัวและก็ทักทายปรานี
“หนูจิ๊บ ไหนมะขอดูใกล้ๆหน่อยสิ” ปรานีขยับเข้าไปใกล้ๆคุลิกา มือที่เริ่มมีริ้วรอยปรากฏสัมผัสเส้นผมสีดำสนิทยาวสลวยที่นุ่มดุจใยไหม แก้มนิ่ม เธอจ้องมองดวงตาสีดำที่กลมโตและริมฝีปากสีชมพูเป็นธรรมชาติของคุลิกา
“หนูสวยจริงๆเลย น่ารักจังเลยลูกสาวของมะ” ปรานีกล่าวชมจนคุลิกาทั้งปลื้มและฉงนในคราวเดียวกัน นี่เป็นการพบกันแค่ครั้งที่สองเท่านั้น แต่ปรานีก็รู้สึกถูกชะตากับคุลิกาเป็นอย่างมาก
นราธรเห็นแบบนี้แล้วมันเกิดอาการอิจฉาริษยาขึ้นมาแล้วสิ ก็เขาเป็นลูกคนเดียวมาทั้งชีวิต แล้วอยู่ดีๆ แม่ของเขาก็แสดงออกว่ารักเด็กคนอื่นมากกว่า ก็เลยรู้สึกเหมือนถูกแย่งความรักจากแม่ไป แต่ก็แปลกที่เขาไม่โกรธหรือเกลียดคุลิกาเลยสักนิด
“มะ อาร์มอิจฉาแล้วนะ สนใจลูกสาวคนใหม่มากกว่าอาร์ม งอนแล้ว” นราธรทำจมูกย่นแบบเด็กไม่ได้ดั่งใจ มองดูแล้วก็น่ารักดี
ปรานีหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกับคุลิกา “คิดมากไปแล้วเรา มะก็สนใจเท่ากันนั่นแหละ” ปรานีหันมาโอ๋ลูกชายบ้าง เกรงว่าจะงอนจนเกิดอาการติ๊งต๊องอีก
“ไม่งอนแล้วก็ได้ แล้วพ่อกลับมาแล้วยังครับ” นราธรเปลี่ยนเรื่อง เขายังไม่ได้แนะนำคุลิกาให้บิดาของเขารู้จักเลย
“พ่อเหรอ กลับมาแล้ว อยู่ในสวนหลังบ้านโน่น” ปรานีตอบลูกชายแต่สายตายังคงมองคุลิกาอย่างชื่นชม
“งั้นอาร์มขอยืมตัวลูกสาวมะหน่อยนะ พาไปให้พ่อรู้จักก่อน” นราธรคว้าข้อมือของคุลิกาและพาหญิงสาวไปยังสวนหลังบ้านของเขา ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ แต่กล้วยไม้ดูท่าจะมีจำนวนเยอะที่สุด นั่นอาจเป็นเพราะอธิศ บิดาของนราธรชื่นชอบกล้วยไม้มากก็ได้
“พ่อ สวัสดีครับ อาร์มมีใครคนหนึ่งอยากจะให้พ่อรู้จักหน่อยครับ” นราธรส่งเสียงทักทายตามปกติของเขา
อธิศวางกรรไกรตัดแต่งกิ่งของกล้วยไม้ลงบนโต๊ะไม้ใกล้ๆ และหันมาทิศทางต้นเสียง “อ้าว อาร์มพาใครมาเหรอลูก” อธิศนั่งลงบนเก้าอี้ไม้
นราธรนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตัวตรงกันข้ามกับบิดาของเขา พร้อมทั้งกระตุกร่างของคุลิกาให้นั่งลงข้างๆเขา คุลิกาบิดมือเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมของนราธร แล้วเธอก็ยกมือไหว้อธิศ “สวัสดีค่ะ หนูชื่อจิ๊บ เป็น...”
“แฟนอาร์มครับ” คุลิกาไม่ได้พูดต่อเพราะนราธรแย่งเธอพูดต่อ หญิงสาวถึงกับออกอาการเหวอ เธอมองหน้านราธรอย่างต้องการคำตอบ สงสัยว่านราธรกำลังเล่นอะไรอยู่
“จริงเหรอ คนนี้จริงจังแน่นะ” อธิศมีสีหน้าสบายๆ แต่แววตาจริงจัง
“ถ้าไม่จริงจัง อาร์มไม่กล้าพามาหรอกครับ” นราธรยิ้มกับบิดาของเขา
คุลิกาตั้งใจฟัง เธอเดาไม่ออกเลยว่านราธรพูดจริงๆ หรือจะอำพ่อกับแม่ของเขาเล่น ไม่รู้เลยจริงๆ แต่ที่เธอรู้ก็แค่หัวใจเธอพองโตก็แค่นั้น มันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เธอก็รู้สึกดี
“งั้นก็พาแฟนไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วเดี๋ยวมาทานข้าวกัน สงสัยวันนี้เรามีเรื่องต้องคุยกันนานหน่อย” อธิศตอบลูกชายพร้อมรอยยิ้มแต้มใบหน้า
“งั้นเดี๋ยวเค้าพาจิ๊บจ๋าไปดูห้องนอนดีกว่านะ ขอตัวก่อนนะครับพ่อ” นราธรขออนุญาตบิดาแล้วก็ลากคุลิกาออกมาจากตรงนั้น
คุลิกาลังเลอยู่นานมาก แต่ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจได้ “อาร์ม ที่บอกพ่อไปเมื่อกี้ ล้อเล่นใช่มั้ย”
นราธรหยุดเดิน เขามองหญิงสาวพร้อมรอยยิ้ม “เปล่า เค้าพูดจริงๆ”
คุลิกาขมวดคิ้ว “หมายความว่าไง ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ”
“เค้าจะบอกอะไรให้นะ ถ้าตอนงานเลี้ยงอำลาจิ๊บจ๋าไม่รีบกลับบ้านก่อน ป่านนี้เราคงแต่งงานกันแล้วแหละ เพราะหลังจากนั้นก็ไม่มีใครติดต่อจิ๊บจ๋าได้เลย แต่ตอนนี้เค้าก็ดีใจนะที่ได้เจอจิ๊บจ๋าอีก เราจะได้เริ่มต้นกัน ถึงแม้มันจะช้าไปหน่อย แต่ก็ดีกว่าไม่ได้เจอกันไม่ใช่เหรอ” นราธรรู้สึกโล่งใจที่เขาได้บอกความในใจไปแล้ว
“ก็หมายความว่าอาร์ม... เฮ้ย ตั้งแต่เมื่อไหร่” คุลิกางงเสียยิ่งกว่างงอีก เพราะนราธรไม่เคยแสดงออก หรือมีท่าทางให้เธอระแคะระคายเลย
“เค้ารักจิ๊บจ๋า ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ แต่มารู้ตัวอีกทีก็ม.6แล้ว” มาถึงตอนนี้ดวงตานราธรไม่มีแววตาของความขี้เล่นอีกแล้ว เขาดูจริงจังมาก
“เฮ้ย เอ่อ ขอเวลาเดี๋ยวนะ” คุลิกาสับสนมาก เธอหันหลังให้เขาและเดินออกมาคนเดียว หญิงสาวมาหยุดอยู่ที่บ่อปลาของนราธรและนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ยาว
เธอกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง นราธรเดินตามหญิงสาวมา เขานั่งลงข้างๆเธออย่างเงียบๆ แต่แล้วเขาก็เอ่ยขึ้น “ถ้าจิ๊บจ๋าลำบากใจ เค้าขอเป็นแค่เพื่อนก็ได้ อย่าโกรธเค้าเลยนะ”
“ใครบอกว่าโกรธล่ะ กำลังงงอยู่ต่างหาก และก็ไม่ได้ลำบากใจด้วย” คุลิกาหันมายิ้มให้นราธรอย่างสดใส
“งั้นก็แปลว่าตกลงคบกับเค้าใช่มั้ย” นราธรแทบจะกระโดดด้วยความดีใจเมื่อหญิงสาวที่อยู่ข้างๆเขาพยักหน้าตอบ
“แต่ขออะไรอย่างนะ เลิกเรียกว่าจิ๊บจ๋าได้แล้ว เรียกจิ๊บเฉยๆก็พอ ตกลงมั้ย”
“ทำไมล่ะ ก็เรียกมาตั้งนานแล้วนี้ ตั้งแต่ม.4 ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่”
“ไม่ได้ ก็ตอนนั้นยังเด็กนี่ แต่ตอนนี้โตแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้วนะ ตกลงมั้ย”
“ได้ครับ เข้าใจแล้วครับ” นราธรกลับมาทำท่าทางทะเล้นอีกครั้ง
“ดูทำเข้าสิ น่าหมั่นไส้ ไปอาบน้ำดีกว่า” คุลิกาย่นจมูกแล้วก็เดินไปจากตรงนั้น
“รอด้วยสิ เดินอย่างกับเป็นเจ้าของบ้าน รู้แล้วเหรอว่าห้องตัวเองอยู่ไหนหนะ” นราธรเอ่ยถามเมื่อเขาเดินมาทันหญิงสาว
“ก็ไม่รู้หรอก เดี๋ยวไปถามมะก็ได้”
“ไม่ต้องเลย มานี่ เค้าพาไปเอง” นราธรจับมือหญิงสาวและพาเธอไปยังห้องที่เป็นห้องของเธอหมาดๆ
คุลิกาเดินสำรวจห้องของตัวเอง เธอชอบมากๆเลย การตกแต่งในห้องเหมาะที่จะเป็นห้องของหญิงสาว น่ารักมาก เต็มไปด้วยของกระจุกกจะจิกและของตกแต่งน่ารักๆ เอาเป็นว่าถูกใจคุลิกาเป็นที่สุด
“สวยกว่าห้องจิ๊บที่บ้านพักแพทย์อีก” คุลิกาบอกนราธรที่กำลังยืนมองเธอสำรวจห้องอยู่อย่างตั้งใจ
“ชอบใช่มั้ยล่ะ ถ้าชอบก็ย้ายมาอยู่ที่นี่ก็ได้ มาอยู่กับพ่อกับมะเวลาที่เค้าไม่อยู่ไง ท่านจะได้ไม่เหงา แล้วจิ๊บเองก็จะได้ไม่ต้องเหงาด้วยไง” นราธรชวนอย่างจริงจัง
คุลิกาดีใจในตอนแรก แต่ก็ต้องเปลี่ยนเป็นท่าทีหงอยๆ “ไม่ได้หรอก มันน่าเกลียด ไม่ได้ๆ ไม่ดี ไม่งาม ไม่ๆ” หญิงสาวเล่นบ่นออกมาเป็นชุด
“งั้นถ้ามีไอ้นี่ก็มาอยู่ได้แล้วใช่มั้ย” นราธรชูแหวนทองคำขาวฝังเพชรเม็ดเล็กๆน่ารักขึ้นมา
“นี่อาร์มจะทำทุกอย่างให้มันเสร็จภายในวันเดียวเลยเหรอ”
“ไม่หรอก วันนี้แค่นี้ก่อน อันนี้สุดท้ายแล้ว แต่พรุ่งนี้ก็ไม่แน่นะ เค้าก็ยังไม่รู้เหมือนกัน” ชายหนุ่มว่าพลางสวมแหวนเข้าไปที่นิ้วนางข้างซ้ายของหญิงสาว
“เรียบร้อยแล้ว งั้นพรุ่งนี้เค้าไปขนของให้จิ๊บเลยนะ จิ๊บรีบไปอาบน้ำดีกว่า เค้าไปก่อนนะ” นราธรหันหลังเดินออกจากห้อง
“เดี๋ยวก่อนสิ จิ๊บยืมเสื้อยืดกับกางเกงเลหน่อยสิ จิ๊บเอาชุดนอนมา แต่ว่ามันคงใส่นอนได้อย่างเดียว ใส่เดินในบ้านไม่ได้หรอก”
“อืม เดี๋ยวเค้าเอามาให้นะ” แล้วชายหนุ่มก็เดินยิ้มกลับห้องของตัวเองไป
คุลิกานั่งลงบนเตียงนุ่มสีหวาน เธอมองสำรวจรอบๆห้องอีกครั้งหนึ่ง แล้วหญิงสาวก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าสีชมพูหวานลายคิตตี้ แล้วก็จัดการเอาชุดทำงานที่จะใส่วันพรุ่งนี้ออกมาแขนไว้ในตู้ และก็ชุดนอนและชุดชั้นในพับไว้ในตู้เสื้อผ้าสีน่ากิน หญิงสาวหยิบผ้าเช็ดตัวสีชมพูผืนใหญ่ออกมา
คุลิกานั่งลงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เธอวางกระเป๋าอุปกรณ์ในการอาบน้ำลงบนโต๊ะเครื่องแป้งแต่สายตาก็เหลือบไปเห็นพวกขวดครีมบำรุงต่างๆ เธอหยิบมันมาดู มันเป็นครีมที่เพิ่งซื้อมาใหม่และยังไม่ได้แกะใช้เลย เธอยิ้มให้กับความน่ารักของมะที่อุตส่าห์เตรียมทุกอย่างไว้ให้เธอ หญิงสาวมองสำรวจตัวเองในกระจกแล้วก็ส่ายหน้าให้กับตัวเอง
“สารรูปดูไม่ได้เลยเรา แล้วเค้ารักเราตรงไหนเนี่ย เห้อ ชีวิตฉันวันนี้ มันอะไรกันนี่ ยิ่งกว่าฝันซะอีก” คุลิกาบ่นพึมพำแล้วก็หัวเราะหึๆกับตัวเอง
หญิงสาวล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มระหว่างรอชุดที่นราธรจะเอามาให้ เธอนอนคิดอะไรเพลินๆ อาจจะเป็นเพราะความเหนื่อยล้าจากการทำงานบวกกับความเงียบสงบทำให้หญิงสาวเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
ความคิดเห็น