ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [Gloomy Love] : Part 8
เราทั้งคู่นั่งนิ่งอยู่ภายในร้านแกแฟโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ ฉันทำได้แต่เงยหน้ามองผู้ชายที่เคยอารมณ์ดีตรงหน้าเป็นระยะๆ ตอนนี้สีหน้าของเขาดูแย่มาก เขาเริ่มรักแชรินตั้งแต่ตอนไหนกันนะ? เฮ้อ... ถ้ามัวแต่คิดไปเองแบบนี้ก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมาคงต้องลองกลั้นใจถามๆไปดูแล้วกัน
"เอ่อ... ยองเบคือนายเริ่มชอบแชรินตั้งแต่เมื่อไหร่" ฉันตัดสินใจถามผู้ชายตรงหน้าออกไปทั้งๆที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่าเขาคงไม่ตอบอะไรกลับมา
"ถ้าฉันเล่าเธอห้ามหัวเราะนะดาร่า" ยองเบเงยหน้าขึ้นมาฝืนส่งยิ้มให้ฉันบางๆก่อนจะหันหน้าไปทางหน้าต่างร้านแล้วเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟัง
"เธอคงจำได้ใช่มั้ย ตอนที่พวกเราเป็นเด็กฝึกน่ะ แชรินกับเธอชอบเอาซูชิที่ทำเองมาให้ฉันกับไอ้จีกินกันอยู่บ่อยๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะรู้อยู่แล้วก็เถอะว่าซูชิกล่องนั้นมันเป็นของสำหรับไอ้จีคนเดียว...." ยองเบเว้นช่วงไว้สักพักก่อนจะพูดต่อ
"เรื่องมันเกิดขึ้นวันนั้น ช่วงที่เธอไม่ได้มากับแชริน ตอนนั้นฉันซ้อมเต้นจนข้อเท้าแพลงล้มลงไปนอนกับพื้น ไอ้จีเป็นคนวิ่งไปเรียกพวกพี่ๆพนักงาน เหลือแต่แชรินที่ค่อยๆพยุงฉันขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ ในช่วงก่อนที่ไอ้จีจะกลับมานั้นคนที่ไปหาผ้ามาพันข้อเท้าให้ฉันไว้ก็คือแชริน
ในขณะที่เธอพันผ้าที่ข้อเท้าของฉันไปนั้นเธอก็เอาแต่พูดออกมาว่า
'ทำไมนายไม่ดูแลตัวเองเลย'
'ยองเบข้อเท้านายจะต้องหายดี'
'ฉันชอบนะเวลาที่นายเต้น'
คงเพราะอย่างนี้มั้ง มันก็เลยทำให้ผมตกหลุมรักแชรินขึ้นมา" ยองเบยิ้มออกมาอีกครั้งแต่ครั้งนี้มันดูแย่กว่าครั้งแรกมาก ฉันที่เห็นแบบนั้นก็เลยจะบอกให้เขาหยุดเล่ามันแค่นี้ แต่เขากลับยกมือขึ้นห้ามเอาไว้ก่อนจะเล่ามันต่อ
"แต่แล้วในวันที่ผมตั้งใจจะไปสารภาพรักเธอนั้น กลับเป็นวันที่เธอไปสารภาพรักเพื่อนซี้ของผมซะได้ มันดูหน้าตลกเนอะที่บังเอิญไปเห็นคนที่ต้วเองรักกำลังร้องห่มร้องไห้เพื่อขอความรักจากคนอื่นอยู่.... เรื่องมันก็มีเท่านี้แหละ ^^" ยองเบหันมาฉีกยิ้มให้ฉันก่อนที่เขาจะทำหน้าตกใจ
สภาพตอนนี้ของฉันมันคงดูแย่มาก ฉันนั่งน้ำตาไหลออกมาเป็นทางเพียงเพราะฟังเรื่องของคนตรงหน้า คำโกหกเพียงคำเดียวของแชรินมันไม่เพียงแต่ทำร้ายฉันเท่านั้น มันยังไปทำร้ายคนดีๆอย่างยองเบด้วย.... ตอนนี้ฉันไม่รู้จะพูดปลอบใจอะไรเขาทำได้เพียงแค่เช็ดน้ำตาของตัวเองและยิ้มให้กำลังใจเท่านั้น
"ขอโทษนะยองเบ แทนที่ฉันจะปลอบใจนายกลับกลายเป็นฝ่ายที่มานั่งร้องไห้แทนนายซะอย่างงั้น" ฉันก้มหัวขอโทษผู้ชายตรงหน้าหนึ่งครั้งก่อนที่จะได้ยินเสียงหัวเราะของเขาตามมา
"ฮ่าๆๆๆๆ มันก็ไม่ได้เศร้าขนาดนั้นสักหน่อย แถมอันที่จริงแล้วฉันนี่แหละที่ผิดเอง" ฉันทำหน้าสงสัยกับคำพูดของเขาเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาเบาๆและพูดประโยคสั้นๆที่ทำให้ฉันเข้าใจได้
"ผิดที่คิดไปเอง" พอยองเบพูดจบเขาก็ขอตัวกลับทันที โดยอ้างว่ามีงานที่บริษัท เหลือไว้เพียงแค่ฉันที่นั่งคิดถึงประโยคสุดท้ายที่เขาพูดออกมา
ฉันเดินออกมาจากร้านกาแฟด้วยจิตใจหดหู่ก่อนจะตัดสินใจไปเดินช็อปปิ้งเพื่อให้หายเศร้าจากเรื่องที่พึ่งฟังมา ถ้าอยู่ในที่ที่มีคนมากมายอาจจะช่วยทำให้หายเศร้าบ้างก็ได้ฉันคิดแบบนั้น แต่พอฉันมาถึงจุดหมายแล้วเดินเล่นไปได้สักพักเพื่อให้ความเศร้ามันคลายลง แต่ผิดถนันเมื่อความรู้สึกของฉันมันกลับหดหู่และแย่ลงยิ่งกว่าเดิม
ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายก็ตาม ทั้งอนาเขตและสถานที่มีเสียงเพลง เสียงคนคุยกันและเสียงหัวเราะ แต่การที่เราได้รับรู้ในสิ่งที่มันบั่นทอนจิตใจแล้วต้องเก็บความรู้สึกนี้ไว้เอาเพียงคนเดียว มันทั้งรู้สึกเศร้าและหดหู่ใจไปในเวลาเดียวกัน
ยองเบ.... นี่คือความรู้สึกที่นายเก็บมันไว้ตลอดเวลาสินะ
ฉันขับรถคันโปรดมาจอดยังหน้าบริษัท ใช่ฉันมาที่นี่เพื่อนมาคุยกับยองเบ ฉันอยากจะเป็นคนที่เขาจะสามารถปรับทุกข์ด้วยได้ ฉันไม่อยากให้คนที่ร่าเริงและหน้ารักอย่างเขาต้องมาเก็บความรู้สึกแย่ๆแบบน้ีเอาไว้
"เฮ้! ยองเบ" ฉันเดินเข้าไปในห้องอัดพลางทักทางยองเบและเท็ดดี้โอปป้า
"อ่าวดาร่าวันนี้วันหยุดนี่ เข้ามามีอะไรเหรอ" เท็ดดี้โอปป้าหันมาถามฉันก่อนจะทำหน้าตาตื่นเต้นเมื่อฉันยกถุงขนมขึ้นมา
"ซื้อขนมมาฝากค่ะ พอดีฉันไปช็อปมาแล้วซื้อของมาเยอะแยะกลัวกินไม่หมดเลยแวะเข้ามาคะ" ฉันพูดอธิบายพร้อมกับวางถุงขนมลงบนโต๊ะ แต่อยู่ๆเท็ดดี้โอปป้าก็ร้องขึ้นมาเสียดัง
"ย๊าาา ~ อดกินขนมเลยอ่า ที่รักส่งข้อความบอกให้ไปหา แต่ฉันจะรีบกลับมาเหลือขนมไว้ให้ด้วยล่ะ ถ้าไม่เหลือฉันจะแกล้งพวกเธอตอนทำเพลง!" เท็ดดี้โอ้ปป้าที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมากระทันหันก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากห้องพร้อมกับทิ้งคำขู่เอาไว้
"ดาร่าเธอมาที่นี่เพราะเรื่องที่ฉันเล่าให้ฟังเมื่อเช้าใช่รึเปล่า" ยองเบพูดขึ้นในขณะที่กำลังแกะห่อขนมในมือ
"อืมมม ฉันมาเพื่อที่จะบอกนายว่า... ถ้านายหนักใจหรือทนเก็บเรื่องพวกนี้ต่อไปไม่ไหว นายก็สามารถมาปรึกษาฉันได้นะ" ฉันพูดมันออกมาอย่างจริงใจ หวังว่าความจริงใจของฉันมันจะส่งไปถึงนายนะยองเบ
"ขอบใจนะ แต่ฉันว่าคนที่ควรจะรับฟังบ้างคือฉันมากกว่า" เขาพูดยิ้มๆออกมาก่อนจะมองมาที่ฉัน
"เอ๊ะ ! ฟังฉันเล่าเหรอ" เขาพยักหน้ามาให้ฉันแทนคำตอบ ก่อนที่ฉันจะเล่าเรื่องทั้งหมดที่ฉันรู้มาเกี่ยวกับจียงให้เขาฟัง
เวลาผ่านไปไม่นานทั้งฉันและยองเบต่างก็ช่วยกันให้คำปรึกษาและปลอบใจกัน ตอนนี้สีหน้าของยองเบดูดีขึ้นมากเลยหล่ะ ฉันก็รู้สึกดีขึ้นเหมือนกัน รู้สึกดีที่สามารถช่วยทำให้เพื่อนคนนี้ดีขึ้นได้
"จริงเหรอดาร่า ฉันว่าเธอต้องบ้าไปแล้วแน่เลย ฮ่าๆๆ" ฉันเล่าเรื่องตลกในตอนที่อยู่หอพักให้ยองเบฟัง เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น
"อ๊ะ ! แปปนึงนะโทรศัพท์มันแจ้งเตือน" ฉันล้วงมือลงไปในกระเป๋าสะพายใบโตก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
'ดาร่ามาหาฉันหน่อยสิ ฉันมีอะไรจะให้' -อูบิน-
ฉันขมวดคิ้วสงสัยกับข้อความของอูบินเล็กน้อยก่อนจะหันไปลายองเบเพื่อขอตัวไปทำธุระ
ฉันแกว่งโทรศัพท์ไปมาขณะเดินอยู่ภายในตึก พลางคิดถึงเรื่องที่อูบินส่งข้อความมาหา หมอนั่นจะให้อะไรน๊า ? หรือว่าหมอนั่นจะมาเปิดตัวแฟนกัน ! คิๆๆๆๆ ใครได้หมอนั่นเป็นแฟนคงซวยหน้าดู ในขณะเดียวกันกับที่ฉันเดินยิ้มอยู่คนเดียว ก็มีผู้หญิงผมสั้นเดินมาดักหน้าฉันไว้
"คอนนิจิวะ ดาร่าอนนี่" กิโกะก้มหัวทักทายฉันเป็นภาษาญี่ปุ่นพร้อมกับส่งยิ้มมาให้
"อ๊าววว กิโกะเธอมาทำอะไรที่นี่เหรอ" ฉันถามคนตรงหน้าออกไปด้วยความสงสัยละคนตกใจ
"ฉันมาถ่ายแบบน่ะคะ เอ่อ...ตอนนี้อนนี่พอมีเวลาว่างสักนิดหน่อยมั้ย คือกิโกะอยากจะปรึกษาอนนี่เรื่องแชรินจังน่ะคะ" เธอก้มลงมากระซิบข้างๆหูฉัน พลางทำท่าขอร้องให้ฉันอยู่คุยกับเธอ ฉันที่ไม่ค่อยอยากจะขัดใจอะไรเธอนักจึงพยักหน้าตกลงแล้วยอมเดินตามเธอไป เธอเดินนำฉันไปยังมุมที่ทุกคนในบริษัทไม่ค่อยเดินผ่านแถวนั้นกันเท่าไหร่ กิโกะเดินตรงเข้าไปเปิดประตูบันไดหนีไฟ ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้ฉันเดินตามเธอเข้าไปด้วยอีกคน
"ว่าไงดาร่า พอเลิกกับจีก็เล่นผู้ชายไม่เลือกเลยนะ" อยู่ๆแชรินที่ปรากฏตัวออกมา เธอค่อยๆเดินลงมาจากบันไดชั้นบนช้าๆพลางมองฉันด้วยสายตาเหยียดๆ กิโกะที่เห็นแชรินเดินออกมา เธอจึงรีบเดินกลับเข้าไปในตัวตึกทันทีพร้อมกับล็อกประตูจากด้านใน
"เธอพูดอะไรน่ะแชริน ฉันไม่ได้ไปเล่นกับใครอย่างที่เธอพูดนะ" ฉันรู้สึกว่าฉันคงต้องเถียงกลับบ้างแล้วล่ะ ทั้งเพื่อตัวเองและคนที่มาติดร่างแหกับเรื่องพวกนี้
"เฮ๊อะ ! ปากเก่งขึ้นเยอะนี่ เก่งขึ้นเหมือนกับตอนจับผู้ชายมั้ย ทั้งอูบินแล้วก็ยองเบอีกด้วย" แชรินเดินลงมายืนประจันหน้ากับฉันพร้อมกับหัวเราะออกมาจากลำคอเบาๆดุจนางพญา
"ต้องขอโทษด้วยนะที่ต้องพูดแบบนี้ แต่ไอ้การจับผู้ชายเนี่ย ! เธอจำสับสนจากนิสัยของตัวเองรึเปล่า ?" ฉันสวนกลับแชรินทันทีเมื่อมีโอกาส อันที่จริงฉันก็ไม่ได้อยากจะด่าแชรินกลับหรอกนะ แต่การที่จะให้ฉันยืนนิ่งๆแล้วให้เธอด่าอยู่ฝ่ายเดียวเนี่ย มันดูจะเป็นนางเอกเกินไปหน่อย
"ดาร่าา!!" แชรินที่ได้ยินฉันพูดแบบนั้นออกมาก็พุ่งเข้าใส่ฉันทันที
มือทั้งสองข้างของฉันพยายามแกะมือของแชรินที่จิกทึ้งผมของฉันอยู่ ฉันพยายามกดเล็บลงไปที่มือของเธอเพื่อนให้เธอคลายมือออกจากผทของฉันแล้วมันก็ได้ผล
"ดาร่า แกแย่งทุกอย่างไปจากฉัน แกมันนังผู้หญิงอ่อนแอไม่มีอะไรดี ทำไม ! ทำไมจีเขาถึงไม่เลือกฉันแต่กลับไปเลือกคนไม่ได้เรื่องอย่างแก ห๊ะ! ทำไม ฮึก ๆ... ๆ" แชรินที่ตอนนี้เสียสติไปแล้ว เธอตะคอกด่าฉันทั้งน้ำตา เธอยกมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นมาจับบริเวณไหล่ทั้งสองข้างของฉัน จนฉันสัมผัสได้ถึงความเจ็บที่เล็บของเธอจิกลงไปบนเนื้อของฉัน แต่มันไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อเธอเริ่มเขย่าตัวฉันแรงขึ้นเรื่อยๆ ฉันพยายามที่จะแกะมือเธอออกและดิ้นไปมาเพื่อให้ตัวเองหลุดจากพันธนาการของแชรินนั้นมันไม่ง่ายเลย ยิ่งพยายามแกะมันออกเท่าไหร่ ผู้หญิงตรงหน้าฉันก็ยิ่งจึกเข้ามาที่ไหล่ฉันแรงขึ้นเรื่อยๆ
"แชรินพอเถอะ ฉันเจ็บนะ" ฉันพูดขึ้นเสียงกับคนตรงหน้า แต่แทนที่เธอจะหยุดฟังฉันบ้างแต่มันกลับตรงกันข้าม เมื่อเธอหยุดจับตัวฉันกระแทกกำแพงแล้วเปลี่ยนมาเป็นเหวี่ยงฉันออกมาแทน แชรินหัวเราะออกมาเสียงดังแล้วเขย่าตัวฉันแรงขึ้นจนฉันเจ็บไปหมดทั้งตัว
"แกน่ะหัดเจียมตัวซะบ้าง จีน่ะเข้ามีดีกว่าแกตั้งเยอะ ไม่รู้จักอายบ้างเหรอที่เดินเคียงข้างเขาทั้งๆที่ตัวเองไม่มีอะไรดีเลยน่ะ !!" แชรินตะคอกก่นด่าฉันอย่างไม่หยุดหย่อน ตอนนี้ฉันทำได้แค่เพียงกัดฟันทนความเจ็บปวดจากคำพูดของแชรินที่มันทิ่มแทงเข้ามาภายในใจ
"ถึงแม้ว่าฉันจะไม่มีอะไรดีพอที่จะไปเดินเคียงข้างกับจีได้ แต่อย่างน้อยความรู้สึกรักที่ฉันมอบให้เขา สำหรับฉันแล้วมันคือสิ่งที่ดีที่สุด" ในช่วงจังหวะที่แชรินคลายมือทั้งสองข้างของเธออกจากไหล่ของฉันนั้น มันเป็นช่วงเดียวกับที่ฉันยืนอยู่ตรงขอบบันไดพอดี การที่อยู่ๆเธอก็คลายมือออกมันจึงทำให้ฉันเสียการทรงตัว
"อ๊ะ! แชริน" ฉันยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น ร่างกายของฉันก็ถูกแรงดึงดูดของโลก ผลักดันให้ตัวของฉันค่อยๆลอยลงมาจากบันไดขั้นบนสุดอย่างรวดเร็ว มือของแชรินที่พยายามจะเข้ามาความมือของฉันเอาไว้ กลับคว้าได้เพียงแค่อากาศ....
"ดาร่าาาาา !!" นี่คือคำพูดสุดท้ายที่ฉันได้ยินก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดลง
โทรศัพท์ที่กระเด็นหล่นลงมาจากกระเป๋าสะพายของร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น มันสั่นเตือนว่ามีข้อความเข้าก่อนที่มันจะหยุดสั่นไปและปรากฏเป็นข้อความฉบับหนึ่งเด้งขึ้นมาบนหน้าจอ
'ดาร่าเธออยู่ไหน ฉันรอฉลองวันเกิดของเธออยู่นะ บอมกับมินจีก็มารอนานแล้ว เธออย่าให้ฉันรอนานล่ะ พรุ่งนี้ฉันมีงานที่ต่างประเทศเลยจะมาขอฉลองก่อน รีบๆมานะ' -อูบิน-
...........................................
ชายหนุ่มร่างเล็กคว้ามือสะเปะสะปะไปบนที่นอน เขาค่อยๆเอื้อมมือข้างหนึ่งไปหยิบขวดน้ำที่วางตั้งไว้บนตู้โคมไฟข้างๆหัวเตียงอย่างยากลำบาก มือของเขาคว้าขวดน้ำเอาไว้ได้ แต่มันกลับไปเกี่ยวเอากรอบรูปที่ตั้งไว้ข้างๆตกลงมาแตกเสียงดัง
ชายหนุ่มร่างบางที่ทิ้งให้ตัวเองนอนโทรมอยู่บนเตียงรีบดันตัวเองลุกขึ้นมาดูของที่เขาทำตกลงมาทันที
กรอบรูปขนาดเล็กบรรจุรูปของคนรักเก่าเอาไว้ภายใน ใบหน้าสดใสที่ยิ้มแย้มดูเข้ากันได้ดีกับเรือนผมสีน้ำตาลช็อกโกแลต
"ดาร่า..."
ชายหนุ่มพูดออกมาเบาๆก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงเพื่อลงมาทำความสะอาดเศษแก้วที่แตกกระจายอยู่เต็มพื้น
โทรศัพท์ที่วางทิ้งไว้อยู่บนเตียงหน้าจอของมันได้กระพริบเป็นจังหวะเตือนว่ามีสายเรียกเข้า แต่ต่อให้กระพริบเป็นร้อยรอบเขาก็ไม่เห็นหรอก เพราะชายหนุ่มร่างเล็กคนนี้เอาแต่ก้มหน้ามองผู้หญิงที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขอยู่ภายในรูป
"ดาร่าผมคิดถึงคุณจัง อยากเห็นรอยยิ้มแบบนี้อีกครั้ง แค่อีกครั้งก็ยังดี" หยดน้ำใสๆค่อยๆหยดลงบนรูปภาพของหญิงสาว มือข้างที่ถือรูปภาพอยู่ค่อยๆสั่นเบาๆไปตามจังหวะของเสียงสะอื้นที่ราวกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ มันค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆภายในห้องสี่เหลี่ยมที่เงียบสงัด........
-To be continued-
โย่ว'ซัพ !!
คราวนี้กลับมาทีอัพสองเรื่องเลย คิๆๆๆๆ
ต้องรีบมาอัพค่ะ ไม่ใช่อะไรเดือนหน้าแอบยุ่งนิดหน่อย ^^
.......................
.......................
ดาร่าตกบันได / อูบินรอฉลองวันเกิด / จียงผู้ที่ไม่รู้เรื่องอะไร ?
ยองเบอาการกำลังดีขึ้น / แชรินกำลังคลั่งและสับสน / กิโกะคนที่โดนแชรินหลอกใช้?
งืมๆ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น