คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : [Gloomy Love] : Part 10
“ฉันจะเอายังไงกับเธอดีแชริน”
ชายวัยกลางคนที่ใครๆต่างก็นับหน้าถือตาใช้นิ้วเคาะโต๊ะเป็นจังหวะอย่างใช้ความคิด
“ท่านประธานคะเรื่องทั้งหมดฉันผิดเองค่ะ ฉันมัวแต่คิดถึงความรู้สึกของตัวเองมากเกินไปจนลืมไปว่าฉันไม่สามารถบังคับให้จียงหันมารักฉันได้
และฉันยังเสียเพื่อนที่ฉันรักที่สุดไปเพราะความโง่ของตัวเอง”
แชรินที่ทนความผิดบาปในใจของตัวเองไม่ได้จึงค่อยๆพูดหลายๆสิ่งหลายๆอย่างให้กับท่านประธานยางฮยอนซอกฟัง
“ฉันเข้าใจเธอนะ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกผิดช้าไปหน่อยนะแชรินหรือไม่ก็แสดงละครตบตาฉัน....
เอาเป็นว่าช่วงนี้เธอก็เก็บตัวหน่อยแล้วกัน”
“ค่ะ”
......................................................................
“จียงอ่ากลับบ้านไปพักหน่อยเถอะ นี่นายนั่งเฝ้าดัลมาจะสองอาทิตย์แล้วนะ”
บอมยืนเท้าสะเอวดุผมจากฝั่งตรงข้ามของเตียงผู้ป่วย
“ดูจากสีหน้าของป้าแล้ว คงอยากจะจิกหัวผมแล้วกระชากผมกลับบ้านมากเลยสินะ”
ผมมองคนตรงหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย หลายวันมานี้บอมมักจะมายืนบ่นผมทุกวัน
ถึงแม้จะรู้ว่าเธอเป็นห่วงผมมากแต่ผมน่ะเป็นห่วงคนที่นอนบนเตียงมากกว่าตัวเองซะอีก
มือเล็กเรียวบางวางแน่นิ่งอยู่ข้างลำตัวของเจ้าของของมันที่นอนอยู่บนเตียง
ทำไมไม่ขยับสักทีนะดาร่า นี่มันจะสองอาทิตย์แล้วนะช่วยขยับบ้างเถอะ ช่วยฟื้นขึ้นมาเพื่อผมได้มั๊ย
แม้จะฟื้นขึ้นมาแล้วจะจำผมไม่ได้เพียงแค่คนเดียวผมก็ยอม ขอร้องเถอะดาร่า.............
“อ...อื..ฮืมมมมม” เสียงแปลกประหลาดที่ดังออกมาจากทางเตียง
ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องรีบเดินเข้ามามองดาร่าที่นอนแน่นิ่งอยู่
“นั่นใช่เสียงดาร่ารึเปล่า” ท็อปพูดออกมาโดยที่ไม่ละสายตาออกจากดาร่า
“เอ่ออ... ขอโทษนะที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง
แต่ที่ดังมันคือเสียงท้องฉันเองอ่า” บอมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เอาให้ได้เมื่อทำให้ทุกคนเข้าใจผิดว่าดาร่าฟื้น
“ดาร่าฟื้นแล้วๆ” เป็นเสียงผมเองที่ตะโกนขึ้นมา
“เพ้อแล้วจียงฮยอง เสียงท้องบอมนูน่าต่างหาก” ซึงรีหันมาตบบ่าผมเบาๆเพื่อปลอบใจคิดว่าผมดีใจจนเพ้อเจ้อ
“ไม่ๆๆๆ ดาร่าฟื้นจริงๆ ดูสิเธอกำลังบีบมือฉันอยู่” พอทุกคนเห็นว่าดาร่ากำลังขยับมืออยู่เท่านั้นแหละ
เสียงดังลั่นเฮ ของทุกคนก็ดังขึ้น
“ทะ ทะทะ ทำไงดีซึงรี ดาร่าจะฟื้นแล้ววววว”
ผมดีใจจนควบคุมสติของตัวเองไม่ได้
“เรียกหมอสิครับฮยองงง โอ๊ยย ตื่นเต้นเหมือนได้ลูกคนแรก”
ซึงริพูดจาเหมือนคนได้สติที่สุดแต่กลับสติแตกที่สุด
ปากก็บอกจะไปเรียกหมอแต่ตอนนี้วิ่งอ้อมห้องหาประตูทางออกเหมือนคนบ้าไร้สติ
พอจะหันไปขอความช่วยเหลือจากป้าบอมและท็อปตอนนี้ทั้งคู่ก็ยืนแข็งทื่อเป็นรูปปั่น
ผมเลยตัดสินใจวิ่งออกไปเรียกหมอและพยาบาลที่อยู่แถวนั้นให้มาดูอาการของดาร่าด้วยตัวเอง
หลังจากผ่านไปได้ไม่นานพยาบาลที่เข้าไปตรวจเช็คดูอาการของดาร่าเดินออกมาอนุญาตให้พวกเราเข้าห้องผู้ป่วยได้
ผมรู้สึกประหม่ามากที่จะเข้าไปพบกับดาร่าในตอนนี้ ตอนนี้ผมกลับรู้สึกกลัวแทนที่ผมควรจะดีใจที่เธอฟื้นขึ้นมาแท้ๆ
ทำไมผมถึงรู้สึกกลัวแบบนี้ล่ะ
แล้วตอนนี้ผมกำลังกลัวอะไรอยู่.................
“อ่า....ก่อนอื่นเลยนะครับ คือคนไข้ฟื้นแล้ว
แล้วเธอก็กำลังนั่งอยู่ด้านหลังม่านนี่” คุณหมอหยุดพูดไปพักหนึ่งก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้พวกผม
“พวกคุณคงทราบกันดีว่าสมองของเธอได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง...
จึงทำให้เธอมีภาวะความจำเสื่อมอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน” ผมใจหายทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่คุณหมอตรงหน้าบอกเกี่ยวกับอาการของดาร่า
“แล้วเธอจะกลับมาจำได้อีกมั๊ยคะคุณหมอ”
บอมถามคุณหมอด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือแต่เปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง
“ผมอยากให้พวกคุณลองไปดูอาการของเธอก่อนดีกว่านะครับ
เพราะถ้าผมบอกว่าความทรงจำของเธอจะกลับมาเปอร์เซ็นต์มันก็คงจะพอๆกับปาฏิหาริย์ที่หลายๆคนอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง”
คุณหมอยิ้มให้กำลังใจพวกเราก่อนจะสั่งให้พยาบาลเปิดม่านออกแล้วขอตัวเดินออกไป
คนตัวเล็กนั่งมองพวกผมสลับกันไปมาทีละคนด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
เธอทำหน้าเหมือนกับเด็กน้อยตัวเล็กๆที่พลัดหลงจากผู้ใหญ่ที่มาด้วย
ทำไมกันนะทั้งๆที่รู้อยู่แล้วแท้ๆ
แต่ในใจลึกๆผมกลับอยากให้เธอจดจำผมได้แม้จะเป็นในด้านที่เลวร้ายก็ตาม
“สวัสดี” บอมเป็นคนแรกที่พูดขึ้นทักทายดาร่า
“สวัสดี” ดาร่ายิ้มตอบรับบอมเหมือนกับเด็กๆ
“เธอจำชื่อตัวเองได้มั๊ย” บอมที่ตอนนี้เดินไปยืนอยู่ข้างๆดาร่า
ค่อยๆถามคำถามออกมาเพื่อทดสอบระดับความจำของเธอ
“ชื่อเหรอ อืมมมม... ไม่รู้สิ”
เธอทำหน้าครุ่นคิดสักพักก่อนจะปฏิเสธออกมาอย่างไม่ใส่ใจ
“แล้วจำอะไรได้บ้างมั๊ย” บอมพยายามถามคำถามดาร่าหลายอย่าง
แต่เธอกลับจำอะไรไม่ได้เลยนอกจากภาษาเกาหลีที่พูดอยู่ในชีวิตประจำวัน
“อื้อๆ หิวน้ำ” ดาร่าพูดออกมาเมื่อบอมเอาแต่ถามคำถามเธอไม่หยุด
“เอ๋ จำคำว่าน้ำได้ด้วยเหรอ รู้รึเปล่ามันคืออะไร”
ดาร่าพยายามคิดคำว่าน้ำก่อนจะส่ายหัวปฏิเสธออกมาอีกครั้ง
“น้ำคืออะไรอ่า รู้แค่ว่าหิวเลยพูด” เธอเอียงคอ งงๆ
ก่อนที่บอมจะอธิบายคำว่าน้ำให้เธอฟัง
พวกเรานั่งประชุมปรึกษาหาลือเกี่ยวกับอาการของดาร่าในช่วงที่เธอกำลังนอนหลับอยู่
ในวันนี้ที่บอมลองถามคำถามต่างๆกับดาร่าก็พอจะรู้เกี่ยวกับอาการของเธอมาบ้างแล้ว
และรู้แล้วว่าเธอจำได้ถึงระดับไหน
“ความทรงจำของดาร่าแย่มากรู้แค่ศัพท์ที่ใช้ประจำวัน
แต่ก็ยังดีว่าภาษาที่จำได้เป็นภาษาเกาหลี” บอมนั่งส่ายหัวไปมาอย่างคิดมาก
“แกไม่เป็นไรนะ” ท็อปที่เห็นผมเงียบมาตลอดหันมาถามอย่างเป็นห่วง
“อืม”
“มะรืนนี้ดัลต้องออกจากโรงพยาบาลแล้วเธอจะไปอยู่กับใคร
ฉันต้องกลับเมกาส่วนมินจีต้องบินไปเรียนเต้น”
บอมทำหน้าซีเรียสเข้าไปใหญ่เมื่อรู้ว่าไม่มีใครอยู่ดูแลดาร่าได้
“เดี๋ยวผมดูเอง ช่วงนี้บิ๊กแบงก็ไม่ได้คัมแบคผมว่างตลอดแหละ”
ผมอาสาที่จะดูแลดาร่าแทนทุกคน
“ฮยองจะไหวเหรอ” ซึงริที่ทำหน้าตาเป็นห่วงผมอยู่แล้วกลับทำสีหน้าเป็นห่วงยิ่งกว่าเดิม
“ไหวสิ ฉันเฝ้าดาร่ามาสองอาทิตย์ฉันยังไหวเลย”
ผมทำท่าตบแขนให้ซึงริดูถึงความอึดของผม
“เปล่า ผมหมายถึงใจฮยองตอนนี้อ่ะไหวเหรอ”
ผมสะอึกไปกับคำพูดของน้องเล็กก่อนจะรีบปั้นสีหน้าให้กลับมาดูสดใสดังเดิม
“แน่นอน ฉันนี่แหละจะสอนให้ดาร่าฉลาดกว่าไอสไตล์เอง” ผมพูดจาให้ดูสดใสขึ้นเผื่อว่าจะลดความกังวลของเพื่อนๆได้
“ถ้างั้นฉันฝากดาร่าด้วยนะ”
บอมส่งยิ้มให้ผมก่อนเราจะแยกย้ายกันไปอยู่ตามมุมของตัวเองภายในห้อง
เมื่อถึงวันที่ผมต้องพาดาร่าออกจากโรงพยาบาล
ผมนึกว่าอะไรๆมันจะง่ายกว่านี้ซะอีก
แต่กลับวุ่นวายจนผมแทบจะคลั้งตายเมื่อคนตัวเล็กกลับกลัวผมแล้วเอาแต่จะร้องหาบอมเอาให้ได้
“บอมไม่อยู่นะ เดี๋ยวดาร่าไปกับจีแล้วจีจะพาดาร่าไปซื้อของใช้”
ผมพยายามพูดปลอบและหลอกล่อเธอทุกวิถีทางเพื่อให้เธอกลับบ้านกับผมให้ได้
“แล้วจีเป็นใคร เป็นอะไรกับดาร่าถึงได้จะพาไปนู่นนี่”
นี่ถ้าไม่รู้ว่าจำไม่ได้นี้ผมคงนึกว่าเธอกวนผมซะอีกนะเนี่ย
“จีเป็นคนที่รักดาร่ามากที่สุดไง”
ผมพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปลูบหัวคนตรงหน้า
“จีเป็นพ่อดาร่าเหรอ” ผมหลุดขำออกมาเพราะคำถามอันไร้เดียงสาของเธอ
แบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบแฮะ....
“เปล่าครับ จีเป็นแฟนดาร่า” ดาร่าทำหน้างุนงง
ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้กับผม
“ดาร่าพยักหน้านี่คือ?”
“ดาร่ากับจีเป็นแฟนกัน ดาร่ามีเพื่อนชื่อบอมกับมินจี
เพื่อนจีที่เป็นเพื่อนดาร่าชื่อท็อปกับซึงยี”
ดาร่าร่ายยามอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแต่กลับมาตกม้าตายกับชื่อคนสุดท้าย
“ซึงรีครับดาร่าพูดผิดแล้ว” ผมพูดคุยกับดาร่าอยู่สักพัก
จนเธอยอมออกมาจากโรงพยาบาลพร้อมกับผมจนได้
ผมขับรถมุ่งหน้าเพื่อที่จะพาดาร่าไปซื้อเสื้อผ้าในห้าง
ตอนขับรถไปผมก็ปรายสายตามองดูคนข้างๆเป็นระยะๆ
ถึงแม้เธอจะจำอะไรไม่ได้แต่ความสดใสของเธอที่มีไม่เคยหายไปจริงๆ
ผมยิ้มให้กับความคิดของตัวเองอย่างห้ามไม่ได้ก่อนจะดับเครื่องรถเมื่อมาถึงที่หมาย
“เอ่อคือ..... มีอะไรให้ช่วยมั๊ยคะ” พนักงานขายประจำร้านชุดชั้นในแบรนด์ดังเดินมาถามผมอย่างอายๆ
“ไม่หรอกครับ ผมจำของแฟนผมได้ อืมม.. เอาทั้งสิบตัวนี้เลยครับ”
ผมเงยหน้าขึ้นไปบอกพนักงานสาวตรงหน้าก่อนจะเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์
“ดาร่าหิวมั๊ย”
ผมถามคนตัวเล็กข้างๆหลังจากที่เดินออกมาจากร้านขายชุดชั้นใน
“หิวสิ” เธอเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมพร้อมกับกระพริบตาปริบๆ
“ถ้างั้นเราไปซื้ออะไรกินกันดีกว่าเนอะ” เธอหันมาพยักหน้าให้กับผมอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะมองดูสิ่งแปลกใหม่ที่อยู่รอบๆตัวเธอแทน
.
.
“นี่ๆจี ไอ้นี่มันคืออะไรเหรอ”
ดาร่าชี้นิ้วไปที่สิ่งของบางอย่างด้วยท่าทีสนใจ
“มันเรียกว่าพิซซ่าน่ะ ดาร่าอยากกินเหรอ”
คนตัวเล็กข้างหน้าผมพยักหน้าช้าๆก่อนจะหันกลับไปมองยังจานพิซซ่าที่กำลังถูกเสิร์ฟโดยพนักงานร้าน
“ผมเอาทั้งหมดนี่แหละครับ กลับบ้านนะครับ” ผมหันไปสั่งอาหารกับพนักงานร้านก่อนจะหันกลับมาสนใจคนตรงหน้าต่อ
.........................................................
ชายรูปร่างสันทัดเดินวนไปมาอยู่ภายในห้องอัดเสียง
สีหน้าที่ดูเคร่งเครียดกว่าปกติบ่งบอกได้ว่าเขากำลังครุ่นคิดเรื่องหนักใจอะไรบางอย่างอยู่
ส่วนสาเหตุของเรื่องหนักใจพวกนี้คงเป็นผลมาจากการที่ตัวเขาเองโดนท่านประธานเรียกไปพบแบบส่วนตัวเมื่อเช้านี้
“ท่านประธานมีงานอะไรเร่งด่วนเหรอครับถึงเรียกมาซะเช้าเลย”
พอผมเปิดประตูเข้ามาในห้องก็เปิดปากถามท่านประธานที่นั่งรอผมอยู่
“ก่อนอื่นฉันก็ต้องขอบอกนายก่อนเลยนะว่า นายสามารถปฏิเสธงานนี้ได้”
ท่านประธานชำเรืองมองหน้าผมก่อนจะหันกลับไปสนใจเอกสารบนโต๊ะต่อ
“ฉันตัดสินใจจะส่งแชรินไปอยู่แอลเอสักพัก
ฉันอยากให้เธอได้มีเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นโดยไม่โดนแรงกดดันจากคนในบริษัท
แต่ฉันก็ไม่อยากให้เธอไปอยู่ที่นั้นคนเดียวเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นดูเหมือนมันจะทำให้เธอเสียใจมากพอๆกัน
ฉันเลยตัดสินใจจะส่งคนไปดูแล และคนแรกที่ฉันเลือกก็คือนาย..... แทยัง”
ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคออย่างยากลำบากให้กับภารกิจที่ท่านประธานเสนอมาให้
ถึงแม้ในใจผมจะดีใจแค่ไหนก็ตามที่จะได้ไปอยู่กับแชรินแค่สองคน
“ท่านประธานครับทำไมผมถึงเป็นคนแรก”
ผมตัดสินใจถามคำถามที่ตัวเองสงสัยที่สุดออกไป
ในเมื่อคนทั้งบริษัทมีเยอะแยะทำไมถึงเลือกผมล่ะครับ.....
“นายคงต้องไปถามแชรินเอาเองนะ
เพราะคนที่เลือกนายจริงๆไม่ใช่ฉันแต่เป็นเธอ”
ท่านประธานตอบโดยไม่แม้แต่จะละสายตาออกจากเอกสารขึ้นมามองผมสักนิด
“ผมขอเวลาคิดหน่อยได้มั๊ยครับ”
ถึงแม้ในใจผมอยากตอบตงลงมากแค่ไหนแต่คำถามที่ผมสงสัยมันกับผุดขึ้นมาเรื่อยๆ
จนผมเริ่มรู้สึกกังวล
“อืมม.... ได้สิ แต่นายต้องให้คำตอบฉันไม่เกินบ่ายสองนะ”
ท่านประธานวางเอกสารลงบนโต๊ะก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม
“เพราะไฟท์บินคือวันนี้ตอนหนึ่งทุ่ม ฉันหวังว่านายจะตอบตกลงนะ”
เฮ้ออออออ...
เสียงถอนหายใจของชายหนุ่มรูปร่างสันทัดบ่งบอกได้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดมากมากแค่ไหน
ทั้งๆที่มันก็เป็นแค่มิชชั่นที่ง่ายมากแท้ๆ
แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกกังวลและคิดมากขนาดนี้นะ
สายตาที่มองไปยังหน้าปัดนาฬิกาอย่างอ้อนวอนขอเวลาให้เดินช้าลงกว่านี้หน่อย
ขอให้เขาได้คิดหน่อยว่าทำไมคนที่หลงรักเพื่อนเขามานานถึงเลือกให้เขาไปอยู่ด้วย
ถ้าคิดให้ดีหน่อยก็คือเธอไว้ใจ แต่ถ้าแย่....
มันก็คือเขาเป็นแค่ตัวแทนของเพื่อนรักตัวเองอย่างควอน จียง
หลังจากที่เดินวนไปวนมาอยู่นานสองนานเขาก็ตัดสินใจได้และรีบมุ่งหน้าไปยังห้องของท่านประธานยางเพื่อให้คำตอบ
........
“ผมมาให้คำตอบครับ คือผม ...ผม....”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ไม่รับข้อเสนอครับ”
-To be continued-
// กลับมาแล้วน๊า //
ขอโทษที่ให้รอนะคะ
แล้วก็ขอบคุณคนที่ยังรออยู่ด้วย
จะพยายามมาอัพให้บ่อยขึ้นเดือนละสองครั้ง 5555 และก็สัญญาว่าจะไม่ทิ้งฟิคนะคะ
หลังจากสอบเสร็จก็ติดเกมส์มาโดยตลอดเลยทำให้ดองเอาไว้นาน
ยังไงก็ขอบคุณลีดทุกคนนะคะ
^^
ช่วยมาเป็นกำลังใจให้จียง
ดาร่า แทยัง และแชริน กันด้วยน๊า
ขอบอกไว้ก่อนว่ายังไม่จบง่ายๆ
หุๆๆๆๆ
จุ๊บ
ความคิดเห็น