ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gloomy Love

    ลำดับตอนที่ #10 : [Gloomy Love] : Part 10

    • อัปเดตล่าสุด 22 ธ.ค. 58


     

     

     

     

     

    “ฉันจะเอายังไงกับเธอดีแชริน” ชายวัยกลางคนที่ใครๆต่างก็นับหน้าถือตาใช้นิ้วเคาะโต๊ะเป็นจังหวะอย่างใช้ความคิด

    “ท่านประธานคะเรื่องทั้งหมดฉันผิดเองค่ะ ฉันมัวแต่คิดถึงความรู้สึกของตัวเองมากเกินไปจนลืมไปว่าฉันไม่สามารถบังคับให้จียงหันมารักฉันได้ และฉันยังเสียเพื่อนที่ฉันรักที่สุดไปเพราะความโง่ของตัวเอง” แชรินที่ทนความผิดบาปในใจของตัวเองไม่ได้จึงค่อยๆพูดหลายๆสิ่งหลายๆอย่างให้กับท่านประธานยางฮยอนซอกฟัง

    “ฉันเข้าใจเธอนะ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกผิดช้าไปหน่อยนะแชรินหรือไม่ก็แสดงละครตบตาฉัน.... เอาเป็นว่าช่วงนี้เธอก็เก็บตัวหน่อยแล้วกัน”

    “ค่ะ”

     

     

     

    ......................................................................

     

     

     

    “จียงอ่ากลับบ้านไปพักหน่อยเถอะ นี่นายนั่งเฝ้าดัลมาจะสองอาทิตย์แล้วนะ” บอมยืนเท้าสะเอวดุผมจากฝั่งตรงข้ามของเตียงผู้ป่วย

    “ดูจากสีหน้าของป้าแล้ว คงอยากจะจิกหัวผมแล้วกระชากผมกลับบ้านมากเลยสินะ” ผมมองคนตรงหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย หลายวันมานี้บอมมักจะมายืนบ่นผมทุกวัน ถึงแม้จะรู้ว่าเธอเป็นห่วงผมมากแต่ผมน่ะเป็นห่วงคนที่นอนบนเตียงมากกว่าตัวเองซะอีก

     

     

     

                    มือเล็กเรียวบางวางแน่นิ่งอยู่ข้างลำตัวของเจ้าของของมันที่นอนอยู่บนเตียง ทำไมไม่ขยับสักทีนะดาร่า นี่มันจะสองอาทิตย์แล้วนะช่วยขยับบ้างเถอะ ช่วยฟื้นขึ้นมาเพื่อผมได้มั๊ย แม้จะฟื้นขึ้นมาแล้วจะจำผมไม่ได้เพียงแค่คนเดียวผมก็ยอม ขอร้องเถอะดาร่า.............

    “อ...อื..ฮืมมมมม” เสียงแปลกประหลาดที่ดังออกมาจากทางเตียง ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องรีบเดินเข้ามามองดาร่าที่นอนแน่นิ่งอยู่

    “นั่นใช่เสียงดาร่ารึเปล่า” ท็อปพูดออกมาโดยที่ไม่ละสายตาออกจากดาร่า

    “เอ่ออ... ขอโทษนะที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง แต่ที่ดังมันคือเสียงท้องฉันเองอ่า” บอมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เอาให้ได้เมื่อทำให้ทุกคนเข้าใจผิดว่าดาร่าฟื้น

    “ดาร่าฟื้นแล้วๆ” เป็นเสียงผมเองที่ตะโกนขึ้นมา

    “เพ้อแล้วจียงฮยอง เสียงท้องบอมนูน่าต่างหาก” ซึงรีหันมาตบบ่าผมเบาๆเพื่อปลอบใจคิดว่าผมดีใจจนเพ้อเจ้อ

    “ไม่ๆๆๆ ดาร่าฟื้นจริงๆ ดูสิเธอกำลังบีบมือฉันอยู่” พอทุกคนเห็นว่าดาร่ากำลังขยับมืออยู่เท่านั้นแหละ เสียงดังลั่นเฮ ของทุกคนก็ดังขึ้น

    “ทะ ทะทะ ทำไงดีซึงรี ดาร่าจะฟื้นแล้ววววว” ผมดีใจจนควบคุมสติของตัวเองไม่ได้

    “เรียกหมอสิครับฮยองงง โอ๊ยย ตื่นเต้นเหมือนได้ลูกคนแรก” ซึงริพูดจาเหมือนคนได้สติที่สุดแต่กลับสติแตกที่สุด ปากก็บอกจะไปเรียกหมอแต่ตอนนี้วิ่งอ้อมห้องหาประตูทางออกเหมือนคนบ้าไร้สติ พอจะหันไปขอความช่วยเหลือจากป้าบอมและท็อปตอนนี้ทั้งคู่ก็ยืนแข็งทื่อเป็นรูปปั่น ผมเลยตัดสินใจวิ่งออกไปเรียกหมอและพยาบาลที่อยู่แถวนั้นให้มาดูอาการของดาร่าด้วยตัวเอง

     

     

     

                    หลังจากผ่านไปได้ไม่นานพยาบาลที่เข้าไปตรวจเช็คดูอาการของดาร่าเดินออกมาอนุญาตให้พวกเราเข้าห้องผู้ป่วยได้ ผมรู้สึกประหม่ามากที่จะเข้าไปพบกับดาร่าในตอนนี้ ตอนนี้ผมกลับรู้สึกกลัวแทนที่ผมควรจะดีใจที่เธอฟื้นขึ้นมาแท้ๆ

    ทำไมผมถึงรู้สึกกลัวแบบนี้ล่ะ แล้วตอนนี้ผมกำลังกลัวอะไรอยู่.................

    “อ่า....ก่อนอื่นเลยนะครับ คือคนไข้ฟื้นแล้ว แล้วเธอก็กำลังนั่งอยู่ด้านหลังม่านนี่” คุณหมอหยุดพูดไปพักหนึ่งก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้พวกผม

    “พวกคุณคงทราบกันดีว่าสมองของเธอได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง... จึงทำให้เธอมีภาวะความจำเสื่อมอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน” ผมใจหายทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่คุณหมอตรงหน้าบอกเกี่ยวกับอาการของดาร่า

    “แล้วเธอจะกลับมาจำได้อีกมั๊ยคะคุณหมอ” บอมถามคุณหมอด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือแต่เปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง

    “ผมอยากให้พวกคุณลองไปดูอาการของเธอก่อนดีกว่านะครับ เพราะถ้าผมบอกว่าความทรงจำของเธอจะกลับมาเปอร์เซ็นต์มันก็คงจะพอๆกับปาฏิหาริย์ที่หลายๆคนอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง” คุณหมอยิ้มให้กำลังใจพวกเราก่อนจะสั่งให้พยาบาลเปิดม่านออกแล้วขอตัวเดินออกไป

     

     

     

                    คนตัวเล็กนั่งมองพวกผมสลับกันไปมาทีละคนด้วยสายตาที่ว่างเปล่า เธอทำหน้าเหมือนกับเด็กน้อยตัวเล็กๆที่พลัดหลงจากผู้ใหญ่ที่มาด้วย ทำไมกันนะทั้งๆที่รู้อยู่แล้วแท้ๆ แต่ในใจลึกๆผมกลับอยากให้เธอจดจำผมได้แม้จะเป็นในด้านที่เลวร้ายก็ตาม

    “สวัสดี” บอมเป็นคนแรกที่พูดขึ้นทักทายดาร่า

    “สวัสดี” ดาร่ายิ้มตอบรับบอมเหมือนกับเด็กๆ

    “เธอจำชื่อตัวเองได้มั๊ย” บอมที่ตอนนี้เดินไปยืนอยู่ข้างๆดาร่า ค่อยๆถามคำถามออกมาเพื่อทดสอบระดับความจำของเธอ

    “ชื่อเหรอ อืมมมม... ไม่รู้สิ” เธอทำหน้าครุ่นคิดสักพักก่อนจะปฏิเสธออกมาอย่างไม่ใส่ใจ

    “แล้วจำอะไรได้บ้างมั๊ย” บอมพยายามถามคำถามดาร่าหลายอย่าง แต่เธอกลับจำอะไรไม่ได้เลยนอกจากภาษาเกาหลีที่พูดอยู่ในชีวิตประจำวัน

    “อื้อๆ หิวน้ำ” ดาร่าพูดออกมาเมื่อบอมเอาแต่ถามคำถามเธอไม่หยุด

    “เอ๋ จำคำว่าน้ำได้ด้วยเหรอ รู้รึเปล่ามันคืออะไร” ดาร่าพยายามคิดคำว่าน้ำก่อนจะส่ายหัวปฏิเสธออกมาอีกครั้ง

    “น้ำคืออะไรอ่า รู้แค่ว่าหิวเลยพูด” เธอเอียงคอ งงๆ ก่อนที่บอมจะอธิบายคำว่าน้ำให้เธอฟัง

     

     

     

                    พวกเรานั่งประชุมปรึกษาหาลือเกี่ยวกับอาการของดาร่าในช่วงที่เธอกำลังนอนหลับอยู่ ในวันนี้ที่บอมลองถามคำถามต่างๆกับดาร่าก็พอจะรู้เกี่ยวกับอาการของเธอมาบ้างแล้ว และรู้แล้วว่าเธอจำได้ถึงระดับไหน

    “ความทรงจำของดาร่าแย่มากรู้แค่ศัพท์ที่ใช้ประจำวัน แต่ก็ยังดีว่าภาษาที่จำได้เป็นภาษาเกาหลี” บอมนั่งส่ายหัวไปมาอย่างคิดมาก

    “แกไม่เป็นไรนะ” ท็อปที่เห็นผมเงียบมาตลอดหันมาถามอย่างเป็นห่วง

    “อืม”

    “มะรืนนี้ดัลต้องออกจากโรงพยาบาลแล้วเธอจะไปอยู่กับใคร ฉันต้องกลับเมกาส่วนมินจีต้องบินไปเรียนเต้น” บอมทำหน้าซีเรียสเข้าไปใหญ่เมื่อรู้ว่าไม่มีใครอยู่ดูแลดาร่าได้

    “เดี๋ยวผมดูเอง ช่วงนี้บิ๊กแบงก็ไม่ได้คัมแบคผมว่างตลอดแหละ” ผมอาสาที่จะดูแลดาร่าแทนทุกคน

    “ฮยองจะไหวเหรอ” ซึงริที่ทำหน้าตาเป็นห่วงผมอยู่แล้วกลับทำสีหน้าเป็นห่วงยิ่งกว่าเดิม

    “ไหวสิ ฉันเฝ้าดาร่ามาสองอาทิตย์ฉันยังไหวเลย” ผมทำท่าตบแขนให้ซึงริดูถึงความอึดของผม

    “เปล่า ผมหมายถึงใจฮยองตอนนี้อ่ะไหวเหรอ” ผมสะอึกไปกับคำพูดของน้องเล็กก่อนจะรีบปั้นสีหน้าให้กลับมาดูสดใสดังเดิม

    “แน่นอน ฉันนี่แหละจะสอนให้ดาร่าฉลาดกว่าไอสไตล์เอง” ผมพูดจาให้ดูสดใสขึ้นเผื่อว่าจะลดความกังวลของเพื่อนๆได้

    “ถ้างั้นฉันฝากดาร่าด้วยนะ” บอมส่งยิ้มให้ผมก่อนเราจะแยกย้ายกันไปอยู่ตามมุมของตัวเองภายในห้อง

     

     

     

                    เมื่อถึงวันที่ผมต้องพาดาร่าออกจากโรงพยาบาล ผมนึกว่าอะไรๆมันจะง่ายกว่านี้ซะอีก แต่กลับวุ่นวายจนผมแทบจะคลั้งตายเมื่อคนตัวเล็กกลับกลัวผมแล้วเอาแต่จะร้องหาบอมเอาให้ได้

    “บอมไม่อยู่นะ เดี๋ยวดาร่าไปกับจีแล้วจีจะพาดาร่าไปซื้อของใช้” ผมพยายามพูดปลอบและหลอกล่อเธอทุกวิถีทางเพื่อให้เธอกลับบ้านกับผมให้ได้

    “แล้วจีเป็นใคร เป็นอะไรกับดาร่าถึงได้จะพาไปนู่นนี่” นี่ถ้าไม่รู้ว่าจำไม่ได้นี้ผมคงนึกว่าเธอกวนผมซะอีกนะเนี่ย

    “จีเป็นคนที่รักดาร่ามากที่สุดไง” ผมพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปลูบหัวคนตรงหน้า

    “จีเป็นพ่อดาร่าเหรอ” ผมหลุดขำออกมาเพราะคำถามอันไร้เดียงสาของเธอ แบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบแฮะ....

    “เปล่าครับ จีเป็นแฟนดาร่า” ดาร่าทำหน้างุนงง ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้กับผม

    “ดาร่าพยักหน้านี่คือ?”

    “ดาร่ากับจีเป็นแฟนกัน ดาร่ามีเพื่อนชื่อบอมกับมินจี เพื่อนจีที่เป็นเพื่อนดาร่าชื่อท็อปกับซึงยี” ดาร่าร่ายยามอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแต่กลับมาตกม้าตายกับชื่อคนสุดท้าย

    “ซึงรีครับดาร่าพูดผิดแล้ว” ผมพูดคุยกับดาร่าอยู่สักพัก จนเธอยอมออกมาจากโรงพยาบาลพร้อมกับผมจนได้ ผมขับรถมุ่งหน้าเพื่อที่จะพาดาร่าไปซื้อเสื้อผ้าในห้าง ตอนขับรถไปผมก็ปรายสายตามองดูคนข้างๆเป็นระยะๆ ถึงแม้เธอจะจำอะไรไม่ได้แต่ความสดใสของเธอที่มีไม่เคยหายไปจริงๆ ผมยิ้มให้กับความคิดของตัวเองอย่างห้ามไม่ได้ก่อนจะดับเครื่องรถเมื่อมาถึงที่หมาย

    “เอ่อคือ..... มีอะไรให้ช่วยมั๊ยคะ” พนักงานขายประจำร้านชุดชั้นในแบรนด์ดังเดินมาถามผมอย่างอายๆ

    “ไม่หรอกครับ ผมจำของแฟนผมได้ อืมม.. เอาทั้งสิบตัวนี้เลยครับ” ผมเงยหน้าขึ้นไปบอกพนักงานสาวตรงหน้าก่อนจะเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์

    “ดาร่าหิวมั๊ย” ผมถามคนตัวเล็กข้างๆหลังจากที่เดินออกมาจากร้านขายชุดชั้นใน

    “หิวสิ” เธอเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมพร้อมกับกระพริบตาปริบๆ

    “ถ้างั้นเราไปซื้ออะไรกินกันดีกว่าเนอะ” เธอหันมาพยักหน้าให้กับผมอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะมองดูสิ่งแปลกใหม่ที่อยู่รอบๆตัวเธอแทน

    .

    .

    “นี่ๆจี ไอ้นี่มันคืออะไรเหรอ” ดาร่าชี้นิ้วไปที่สิ่งของบางอย่างด้วยท่าทีสนใจ

    “มันเรียกว่าพิซซ่าน่ะ ดาร่าอยากกินเหรอ” คนตัวเล็กข้างหน้าผมพยักหน้าช้าๆก่อนจะหันกลับไปมองยังจานพิซซ่าที่กำลังถูกเสิร์ฟโดยพนักงานร้าน

    “ผมเอาทั้งหมดนี่แหละครับ กลับบ้านนะครับ” ผมหันไปสั่งอาหารกับพนักงานร้านก่อนจะหันกลับมาสนใจคนตรงหน้าต่อ

     

     

     

    .........................................................

     

     

     

                    ชายรูปร่างสันทัดเดินวนไปมาอยู่ภายในห้องอัดเสียง สีหน้าที่ดูเคร่งเครียดกว่าปกติบ่งบอกได้ว่าเขากำลังครุ่นคิดเรื่องหนักใจอะไรบางอย่างอยู่ ส่วนสาเหตุของเรื่องหนักใจพวกนี้คงเป็นผลมาจากการที่ตัวเขาเองโดนท่านประธานเรียกไปพบแบบส่วนตัวเมื่อเช้านี้

    “ท่านประธานมีงานอะไรเร่งด่วนเหรอครับถึงเรียกมาซะเช้าเลย” พอผมเปิดประตูเข้ามาในห้องก็เปิดปากถามท่านประธานที่นั่งรอผมอยู่

    “ก่อนอื่นฉันก็ต้องขอบอกนายก่อนเลยนะว่า นายสามารถปฏิเสธงานนี้ได้” ท่านประธานชำเรืองมองหน้าผมก่อนจะหันกลับไปสนใจเอกสารบนโต๊ะต่อ

    “ฉันตัดสินใจจะส่งแชรินไปอยู่แอลเอสักพัก ฉันอยากให้เธอได้มีเวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นโดยไม่โดนแรงกดดันจากคนในบริษัท แต่ฉันก็ไม่อยากให้เธอไปอยู่ที่นั้นคนเดียวเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นดูเหมือนมันจะทำให้เธอเสียใจมากพอๆกัน ฉันเลยตัดสินใจจะส่งคนไปดูแล และคนแรกที่ฉันเลือกก็คือนาย..... แทยัง” ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคออย่างยากลำบากให้กับภารกิจที่ท่านประธานเสนอมาให้ ถึงแม้ในใจผมจะดีใจแค่ไหนก็ตามที่จะได้ไปอยู่กับแชรินแค่สองคน

    “ท่านประธานครับทำไมผมถึงเป็นคนแรก” ผมตัดสินใจถามคำถามที่ตัวเองสงสัยที่สุดออกไป ในเมื่อคนทั้งบริษัทมีเยอะแยะทำไมถึงเลือกผมล่ะครับ.....

    “นายคงต้องไปถามแชรินเอาเองนะ เพราะคนที่เลือกนายจริงๆไม่ใช่ฉันแต่เป็นเธอ” ท่านประธานตอบโดยไม่แม้แต่จะละสายตาออกจากเอกสารขึ้นมามองผมสักนิด

    “ผมขอเวลาคิดหน่อยได้มั๊ยครับ” ถึงแม้ในใจผมอยากตอบตงลงมากแค่ไหนแต่คำถามที่ผมสงสัยมันกับผุดขึ้นมาเรื่อยๆ จนผมเริ่มรู้สึกกังวล

    “อืมม.... ได้สิ แต่นายต้องให้คำตอบฉันไม่เกินบ่ายสองนะ” ท่านประธานวางเอกสารลงบนโต๊ะก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม

    “เพราะไฟท์บินคือวันนี้ตอนหนึ่งทุ่ม ฉันหวังว่านายจะตอบตกลงนะ”

     

     

     

                    เฮ้ออออออ... เสียงถอนหายใจของชายหนุ่มรูปร่างสันทัดบ่งบอกได้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดมากมากแค่ไหน ทั้งๆที่มันก็เป็นแค่มิชชั่นที่ง่ายมากแท้ๆ แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกกังวลและคิดมากขนาดนี้นะ สายตาที่มองไปยังหน้าปัดนาฬิกาอย่างอ้อนวอนขอเวลาให้เดินช้าลงกว่านี้หน่อย ขอให้เขาได้คิดหน่อยว่าทำไมคนที่หลงรักเพื่อนเขามานานถึงเลือกให้เขาไปอยู่ด้วย ถ้าคิดให้ดีหน่อยก็คือเธอไว้ใจ แต่ถ้าแย่.... มันก็คือเขาเป็นแค่ตัวแทนของเพื่อนรักตัวเองอย่างควอน จียง

    หลังจากที่เดินวนไปวนมาอยู่นานสองนานเขาก็ตัดสินใจได้และรีบมุ่งหน้าไปยังห้องของท่านประธานยางเพื่อให้คำตอบ ........

    “ผมมาให้คำตอบครับ คือผม ...ผม....”

    .
    .
    .
    .
    .
    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ไม่รับข้อเสนอครับ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    -To be continued-

     

     

    // กลับมาแล้วน๊า //

    ขอโทษที่ให้รอนะคะ แล้วก็ขอบคุณคนที่ยังรออยู่ด้วย

    จะพยายามมาอัพให้บ่อยขึ้นเดือนละสองครั้ง 5555 และก็สัญญาว่าจะไม่ทิ้งฟิคนะคะ

    หลังจากสอบเสร็จก็ติดเกมส์มาโดยตลอดเลยทำให้ดองเอาไว้นาน

    ยังไงก็ขอบคุณลีดทุกคนนะคะ ^^

    ช่วยมาเป็นกำลังใจให้จียง ดาร่า แทยัง และแชริน กันด้วยน๊า

    ขอบอกไว้ก่อนว่ายังไม่จบง่ายๆ หุๆๆๆๆ

    จุ๊บ






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×