คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ความสำคัญของมิตรภาพ
DreamChaser's Note "ถ้าให้เลือกระหว่างชีวิตตัวเองกับชีวิตคนอื่น พวกนายจะเอาอย่างไหน?" คำถามสั้นๆ ของเพื่อนร่วมห้อง ทำให้ไอล์และรูมเมทคนใหม่หันขวับไปหาคนถาม
เอามาลงให้แทนเจ้าของเรื่อง เพราะมีคนไปถามที่บอร์ดมา ขออนุญาตเจ้าตัวแล้วนะ
ถ้ามีคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ถามเราก็ได้ คงตอบได้มากพอสมควรเพราะเราก็เป็นหนึ่งในทีมผู้แต่งแต่ง
--- GreatWizard_Es, Necro Abyss, DreamChaser ---
ตอนที่ 7 ความสำคัญของมิตรภาพ
ตั้งแต่ครั้งที่เห็นภาพจำลองของเจ้าสัตว์ประหลาด C-0 นั่น ทั้งเจคและไอล์ก็ไม่ได้เข้าไปเรียนหรือทำงานอะไรอีกเลย ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใดเออร์วินกับอิริคถึงเชื่อเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าในอนาคตอันใกล้พวกเขาสามคนจะกลายเป็นกำลังสำคัญในการรบไปได้ จากวิชาเรียนก็กลายเป็นวิชารบซะได้ ที่สำคัญก็คือ... วิชานี้เจคเป็นครู และลูกศิษย์คือไอล์กับลูอิส! ลูอิสยังไม่รู้จักเจคดึจึงคิดแค่ไม่อยากให้คนนิสัยเสียแบบหมอนี่เป็นครูของเขา ส่วนไอล์ได้แต่หวังว่าวิชานี้จะไม่กลายเป็นวิชาฆาตกรรมสิ่งมีชีวิตสปีชี่ย์เดียวกับพวกเขา(เรียกห้วนๆว่า "วิชาฆ่าคน")
"ถ้าให้เลือกระหว่างชีวิตตัวเองกับชีวิตคนอื่น พวกนายจะเอาอย่างไหน?" คำถามสั้นๆ ของเพื่อนร่วมห้อง ทำให้ไอล์และรูมเมทคนใหม่หันขวับไปหาคนถาม
"เลือกยากแฮะ" ใจจริงอยากให้รอดให้หมด แต่บางสถานการณ์มันก็คงทำไม่ได้ ไอล์คิดหนัก เจคแอบขำ คนที่เขาตั้งใจให้คิดมากกับคำถามนี้คือลูอิสต่างหาก ไอล์ดันเป็นคนคิดมากแทน แต่เจคไม่รู้หรอกว่าคนที่ทำเป็นเมินกับคำถามของเขาก็กลุ้มใจจนปวดหัวเหมือนกัน
เลือกยากแฮะ" ใจจริงอยากให้รอดให้หมด แต่บางสถานการณ์มันก็คงทำไม่ได้ ไอล์คิดหนัก เจคแอบขำ คนที่เขาตั้งใจให้คิดมากกับคำถามนี้คือลูอิสต่างหาก ไอล์ดันเป็นคนคิดมากแทน แต่เจคไม่รู้หรอกว่าคนที่ทำเป็นเมินกับคำถามของเขาก็กลุ้มใจจนปวดหัวเหมือนกัน"................." ถ้าถามเมื่อสมัยที่ชีวิตเขายังเป็นปกติ เขาคงตอบได้หน้าตาเฉยว่า ตัวเอง ก็แค่คำถามเล่นๆ นี่นา แต่มาถึงตอนนี้ ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ ถ้าขอแลกชีวิตของตัวเองกับดีน่าและลิซได้... "ฉันขอตัวไปสงบสติเดี๋ยว" แล้วก็เดินดุ่มๆ ออกนอกห้องไป เจคไม่ห่วงรายนี้เพราะทักษะการเอาตัวรอดของลูอิสสูงกว่าไอล์หลายขุม และอีกอย่างหนึ่งชีวิตของลูอิสอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของเขา ถึงหมอนี่ตายไปเขาก็ไม่เดือดร้อน
ถ้าถามเมื่อสมัยที่ชีวิตเขายังเป็นปกติ เขาคงตอบได้หน้าตาเฉยว่า ตัวเอง ก็แค่คำถามเล่นๆ นี่นา แต่มาถึงตอนนี้ ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ ถ้าขอแลกชีวิตของตัวเองกับดีน่าและลิซได้... "ฉันขอตัวไปสงบสติเดี๋ยว" แล้วก็เดินดุ่มๆ ออกนอกห้องไป เจคไม่ห่วงรายนี้เพราะทักษะการเอาตัวรอดของลูอิสสูงกว่าไอล์หลายขุม และอีกอย่างหนึ่งชีวิตของลูอิสอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของเขา ถึงหมอนี่ตายไปเขาก็ไม่เดือดร้อน "เฮ่อ..." ไอล์ถอนหายใจ "...ค่อยยังชั่วหน่อย..."
"อยู่กับหมอนั่นแล้วมันหนักใจขนาดนั้นเลยเหรอไอล์" เจคเดาใจเพื่อนได้ตรงเผง
"อยู่กับหมอนั่นแล้วมันหนักใจขนาดนั้นเลยเหรอไอล์" เจคเดาใจเพื่อนได้ตรงเผง
อยู่กับหมอนั่นแล้วมันหนักใจขนาดนั้นเลยเหรอไอล์" เจคเดาใจเพื่อนได้ตรงเผง"ก็หมอนั่นเอาแต่เคร่งเครียดตลอดเลยนี่นา คุยด้วยก็ยาก มันจะกลายเป็นทะเลาะกันทุกที" ชีวิตเขาก็มีเรื่องให้เครียดตั้งเยอะ แต่ไม่เห็นจำเป็นต้องอารมณ์เสียทุกวินาทีแบบนั้นเลย
ก็หมอนั่นเอาแต่เคร่งเครียดตลอดเลยนี่นา คุยด้วยก็ยาก มันจะกลายเป็นทะเลาะกันทุกที" ชีวิตเขาก็มีเรื่องให้เครียดตั้งเยอะ แต่ไม่เห็นจำเป็นต้องอารมณ์เสียทุกวินาทีแบบนั้นเลย"ช่างหมอนั่นเถอะ เรามาฝึกกันต่อดีกว่า" เจคแสยะยิ้ม
ช่างหมอนั่นเถอะ เรามาฝึกกันต่อดีกว่า" เจคแสยะยิ้ม"ดะ เดี๋ยว! ไม่เอา!! ฉันขอเวลาทำใจก่อนนะ สามสิบนาที สิบนาทึก็ยังดี ไม่สิ แค่ห้านาทีก็ได้" ไอล์วิงวอน
ดะ เดี๋ยว! ไม่เอา!! ฉันขอเวลาทำใจก่อนนะ สามสิบนาที สิบนาทึก็ยังดี ไม่สิ แค่ห้านาทีก็ได้" ไอล์วิงวอน"ขอโทษทีนะเพื่อน แต่อิริคกับคุณเออร์วินขอให้ฉันช่วยฝึกให้นาย" จะว่าสงสารเพื่อนก็สงสาร จะว่าสนุกก็สนุก
ขอโทษทีนะเพื่อน แต่อิริคกับคุณเออร์วินขอให้ฉันช่วยฝึกให้นาย" จะว่าสงสารเพื่อนก็สงสาร จะว่าสนุกก็สนุก "จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!" ไอล์ร้องลั่น เมื่อสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่หลอกหลอนเขาให้เขาหวาดกลัวได้วิ่งออกมาจากกรงขังแล้วคลอเคลียที่หน้าขาของเขา
"เอามันออกไปนะเจค!! ฉันกลัว!!!!" ยิ่งวิ่งหนีมันก็ยิ่งตามเพราะคิดว่าไอล์เล่นกับมัน ทางเลือกคือกระโดดขึ้นเตียงเพราะเจ้าลูกหมาตัวน้อยยังไม่มีปัญญาปีนขึ้นไปถึง
"เอามันออกไปนะเจค!! ฉันกลัว!!!!" ยิ่งวิ่งหนีมันก็ยิ่งตามเพราะคิดว่าไอล์เล่นกับมัน ทางเลือกคือกระโดดขึ้นเตียงเพราะเจ้าลูกหมาตัวน้อยยังไม่มีปัญญาปีนขึ้นไปถึง
"นายเหมือนสาวๆ ที่กระโดดขึ้นเก้าอี้เพราะกลัวหนูเลยนะ" เจคแซว แค่ลูกอัลเซเชี่ยนเพิ่งหย่านมไม่นานมันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเรอะ
นายเหมือนสาวๆ ที่กระโดดขึ้นเก้าอี้เพราะกลัวหนูเลยนะ" เจคแซว แค่ลูกอัลเซเชี่ยนเพิ่งหย่านมไม่นานมันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเรอะ"ไอ้เพื่อนเลว!! ไอ้เพื่อนชั่ว!!! ฮือๆๆๆๆๆ" ปกติก็เป็นเพื่อนที่ดีหรอก แต่รู้สึกเวลาที่ได้แกล้งเขาเจคจะสนุกมากเลยนะ มันน่าเตะจริงๆ
ไอ้เพื่อนเลว!! ไอ้เพื่อนชั่ว!!! ฮือๆๆๆๆๆ" ปกติก็เป็นเพื่อนที่ดีหรอก แต่รู้สึกเวลาที่ได้แกล้งเขาเจคจะสนุกมากเลยนะ มันน่าเตะจริงๆ"โถๆ นี่ฉันทำเพื่อนายนะ เจ้าตัวนี้ก็ซื้อมาเพื่อนายโดยเฉพาะเลย อาการกลัวสุนัขจะได้หายดีไง" เวลาพูดถึงหรือดูหนังเกี่ยวกับสุนัขก็ไม่เห็นเป็นไร แต่เจอตัวเป็นๆ ทีไรเห็นเพื่อนสติแตกอยู่ร่ำไป ข้อเท็จจริงนี้เพิ่งปรากฎขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี่เอง ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าหมาขี้อ้อนของพนักงานคนหนึ่งในปราสาทดิสนี่ย์(วันหยุดเลยไปเที่ยวกันมา) วิ่งเข้ามาหาพวกเขาเพราะอยากเล่นด้วยแม้แต่เจ้าตัวก็คงยังไม่รู้ว่าตัวเองกลัวสิ่งมีชีวิตประเภทนี้
โถๆ นี่ฉันทำเพื่อนายนะ เจ้าตัวนี้ก็ซื้อมาเพื่อนายโดยเฉพาะเลย อาการกลัวสุนัขจะได้หายดีไง" เวลาพูดถึงหรือดูหนังเกี่ยวกับสุนัขก็ไม่เห็นเป็นไร แต่เจอตัวเป็นๆ ทีไรเห็นเพื่อนสติแตกอยู่ร่ำไป ข้อเท็จจริงนี้เพิ่งปรากฎขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี่เอง ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าหมาขี้อ้อนของพนักงานคนหนึ่งในปราสาทดิสนี่ย์(วันหยุดเลยไปเที่ยวกันมา) วิ่งเข้ามาหาพวกเขาเพราะอยากเล่นด้วยแม้แต่เจ้าตัวก็คงยังไม่รู้ว่าตัวเองกลัวสิ่งมีชีวิตประเภทนี้ "หึหึ..." ไอล์หัวเราะเสียงแปลกๆ แล้วรีบกระโดดลงจากเตียง วิ่งไปเอากรรไกรในลิ้นชัก แล้ววิ่งต่อไปที่ตุ๊กตามิกกี้เม้าส์ขนาดสองเมตรที่อิริคสั่งทำให้เจคตามสัญญา เจ้าตัวนี้ทำให้ห้องดูแคบไปถนัดตา "เจค ถ้าไม่อยากให้ไอ้ตัวนี้ไส้ทะลักก็เอาเจ้าหมานั่นไปเก็บซะ"
"เฮ้ย อย่านะ!!" ไม่อยากให้ของสะสมมีริ้วรอย จึงต้องทำใจเอาเจ้าอัลเซเชี่ยนน้อยที่เขาตั้งชื่อให้ว่า ‘ริกกี้’ เก็บเข้ากรง ไม่น่าพลาดท่าให้ไอล์จับจุดอ่อนเขาได้เลย ต่างฝ่ายต่างรู้จุดอ่อนกันแบบนี้ กลืนกันไม่ลง
"เฮ้ย อย่านะ!!" ไม่อยากให้ของสะสมมีริ้วรอย จึงต้องทำใจเอาเจ้าอัลเซเชี่ยนน้อยที่เขาตั้งชื่อให้ว่า ‘ริกกี้’ เก็บเข้ากรง ไม่น่าพลาดท่าให้ไอล์จับจุดอ่อนเขาได้เลย ต่างฝ่ายต่างรู้จุดอ่อนกันแบบนี้ กลืนกันไม่ลง
เฮ้ย อย่านะ!!" ไม่อยากให้ของสะสมมีริ้วรอย จึงต้องทำใจเอาเจ้าอัลเซเชี่ยนน้อยที่เขาตั้งชื่อให้ว่า ‘ริกกี้’ เก็บเข้ากรง ไม่น่าพลาดท่าให้ไอล์จับจุดอ่อนเขาได้เลย ต่างฝ่ายต่างรู้จุดอ่อนกันแบบนี้ กลืนกันไม่ลงหัวเราะทีหลังดังกว่า ไอล์พอจะเข้าใจความรู้สึกของเจคที่ได้แกล้งเขาแล้วล่ะ พอได้แกล้งเจคบ้างเขาก็รู้สึกสนุกเหมือนกัน
"แหม กำลังสนุกกันเลยนะเด็กๆ" มาธีน่าถือวิสาสะเข้ามา เพราะไม่ได้ล็อคประตูห้องไว้ "ฉันเอาบัตรเชิญงานแต่งงานมาให้"
แหม กำลังสนุกกันเลยนะเด็กๆ" มาธีน่าถือวิสาสะเข้ามา เพราะไม่ได้ล็อคประตูห้องไว้ "ฉันเอาบัตรเชิญงานแต่งงานมาให้"เจคไม่สนใจจะรับบัตรเชิญ มาธีน่าจึงส่งบัตรเชิญสองใบถึงมือไอล์แล้วรีบกลับห้องตัวเอง ถึงจะเป็นเธอก็ไม่ค่อยอยากวุ่นวายกับเจคตอนที่อารมณ์ไม่ดีสักเท่าไหร่หรอก
"ฉันยังไม่ได้ทำอะไรกับของสะสมของนายเลยนะ" ไอล์ร้อนตัว คิดว่าที่เจคอารมณ์เสียเป็นเพราะเขาจะเอากรรไกรเสียบตุ๊กตามิกกี้เม้าส์นุ่นทะลัก
ฉันยังไม่ได้ทำอะไรกับของสะสมของนายเลยนะ" ไอล์ร้อนตัว คิดว่าที่เจคอารมณ์เสียเป็นเพราะเขาจะเอากรรไกรเสียบตุ๊กตามิกกี้เม้าส์นุ่นทะลัก "ฉันไม่ได้โกรธนายซะหน่อย"
"เพราะเรื่องงานแต่งงานของคุณมาธีน่าน่ะเหรอ?" ยังงอนไม่เลิกอีก ก็บอกเองว่าไม่ได้ชอบคุณมาธีน่าแล้วจะงอนทำไม
"เพราะเรื่องงานแต่งงานของคุณมาธีน่าน่ะเหรอ?" ยังงอนไม่เลิกอีก ก็บอกเองว่าไม่ได้ชอบคุณมาธีน่าแล้วจะงอนทำไม
เพราะเรื่องงานแต่งงานของคุณมาธีน่าน่ะเหรอ?" ยังงอนไม่เลิกอีก ก็บอกเองว่าไม่ได้ชอบคุณมาธีน่าแล้วจะงอนทำไม"นายช่วยอย่าพูดอะไรกับฉันสักชั่วโมงนะ ขอฉันคิดอะไรเงียบๆ สักพัก"
นายช่วยอย่าพูดอะไรกับฉันสักชั่วโมงนะ ขอฉันคิดอะไรเงียบๆ สักพัก"เขาอุตส่าห์ไม่เครียดเรื่องแม่ อุตส่าห์ไม่เครียดเรื่องคุณครอฟอร์ด อุตส่าห์ไม่เครียดเรื่อง C-0 แต่ทำไมคนรอบข้างเขามีแต่คนเครียดๆ กันทั้งนั้นเลย ว้อย เดี๋ยวก็เครียดตามอีกคนหรอก! ไอล์ตะโกนในใจ เก็บไว้คนเดียวเดี๋ยวจะเป็นโรคประสาทตายซะก่อน เขาพอจะคุยเรื่องเพื่อนกับใครได้บ้างนะ คุณมาธีน่ากับคุณอิริคไม่ต้องพูดถึงเพราะเป็นต้นเหตุให้เจคกลายเป็นคนขี้งอนแบบนี้ไปได้... คุณครอฟอร์ดยังอยู่ที่นี่... ไอล์ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเขายังมีผู้ปกครองคนนี้อยู่อีกคน
"ฉันไปหาคุณครอฟอร์ดนะ" ไอล์บอกเพื่อน
ฉันไปหาคุณครอฟอร์ดนะ" ไอล์บอกเพื่อน"ฉันไปด้วย" ก็อิริคสั่งไว้ไม่ให้คลาดสายตา
ฉันไปด้วย" ก็อิริคสั่งไว้ไม่ให้คลาดสายตา ถ้าเจคไปด้วย แล้วเขาจะคุยกับคุณครอฟอร์ดเรื่องเจคได้ยังไงล่ะ "เอ่อ ฉันมีเรื่องอยากจะคุยเป็นการส่วนตัวน่ะ"
"งั้นก็รีบกลับมานะ" พูดไปงั้นแหละ เขาตั้งใจจะสะกดรอยตามไอล์ไปต่างหาก
"งั้นก็รีบกลับมานะ" พูดไปงั้นแหละ เขาตั้งใจจะสะกดรอยตามไอล์ไปต่างหาก
เป็นไปตามคาด พ่อบุญธรรมของเขายังไม่ได้กลับไป ไอล์ขอปรึกษาเรื่องส่วนตัว เขาไม่คิดว่าผู้ปกครองที่เขายังไม่รู้จักดีพอคนนี้จะเป็นที่ปรึกษาหรือที่พึ่งที่ดีได้ เพียงแต่เขาต้องการให้ใครสักคนรับฟังความไม่สบายใจของเขาเท่านั้นเอง
"ฉันดีใจนะ ที่เธอนึกถึงฉันนะ" เป็นครั้งแรกที่ไอล์เป็นฝ่ายมาหาเขา ในฐานะพ่อ(บุญธรรม)คนหนึ่งก็อดดีใจไม่ได้
ฉันดีใจนะ ที่เธอนึกถึงฉันนะ" เป็นครั้งแรกที่ไอล์เป็นฝ่ายมาหาเขา ในฐานะพ่อ(บุญธรรม)คนหนึ่งก็อดดีใจไม่ได้"ฉันไม่รบกวนล่ะนะ" เจ้าของห้องปลีกตัวอย่างรู้กาลเทศะ เขาก็มีเรื่องต้องคุยกับเจ้าเด็กงี่เง่าที่แอบฟังอยู่ข้างนอกเหมือนกัน
ฉันไม่รบกวนล่ะนะ" เจ้าของห้องปลีกตัวอย่างรู้กาลเทศะ เขาก็มีเรื่องต้องคุยกับเจ้าเด็กงี่เง่าที่แอบฟังอยู่ข้างนอกเหมือนกัน"เจค แอบฟังคนอื่นคุยกันน่ะ มันไม่ดีนะ" อิริคลากตัวเจคไปห่างพอที่จะไม่ได้ยินเสียงจากในห้อง และไม่ให้คนในห้องได้ยินเสียงพวกเขาแม้ว่าจะพูดเสียงดังก็ตาม
เจค แอบฟังคนอื่นคุยกันน่ะ มันไม่ดีนะ" อิริคลากตัวเจคไปห่างพอที่จะไม่ได้ยินเสียงจากในห้อง และไม่ให้คนในห้องได้ยินเสียงพวกเขาแม้ว่าจะพูดเสียงดังก็ตาม".................." เจคไม่ต่อล้อต่อเถียงด้วยอารมณ์ทะลึ่งทะเล้นตามปกติ
เจคไม่ต่อล้อต่อเถียงด้วยอารมณ์ทะลึ่งทะเล้นตามปกติ"เป็นอะไรไปอีกล่ะ?" เวลาเจคเงียบสนิทแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องปกติแน่ๆ
เป็นอะไรไปอีกล่ะ?" เวลาเจคเงียบสนิทแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องปกติแน่ๆ"..............................." เจคเงียบ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มีอารมณ์จะพูดกับใคร
เจคเงียบ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มีอารมณ์จะพูดกับใคร"แม่ขอตัวเจคเดี๋ยวนะ" ไม่ใช่แค่เออร์วินที่ยังไม่กลับ คุณแม่ของอิริคก็ยังไม่กลับเช่นกัน ไปเดินเล่นเดี๋ยวเดียวกลับมาก็เจอบรรยากาศอึมครึม จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็ไม่ใช่วิสัย "ไอล์อยู่กับลูกกับเออร์วินคงไม่เป็นไรนะ" แล้วคุณเธอก็ดึงเจคไปโดยไม่รอคำอนุญาตจากลูกชาย
แม่ขอตัวเจคเดี๋ยวนะ" ไม่ใช่แค่เออร์วินที่ยังไม่กลับ คุณแม่ของอิริคก็ยังไม่กลับเช่นกัน ไปเดินเล่นเดี๋ยวเดียวกลับมาก็เจอบรรยากาศอึมครึม จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็ไม่ใช่วิสัย "ไอล์อยู่กับลูกกับเออร์วินคงไม่เป็นไรนะ" แล้วคุณเธอก็ดึงเจคไปโดยไม่รอคำอนุญาตจากลูกชาย"...คุณไลนาร์ ลากผมมาทำไม?!" คงไม่ได้คิดจะลวนลามเขานะ ไม่น่าไว้ใจมาตั้งแต่เจอกันอีกครั้งแล้ว
คุณไลนาร์ ลากผมมาทำไม?!" คงไม่ได้คิดจะลวนลามเขานะ ไม่น่าไว้ใจมาตั้งแต่เจอกันอีกครั้งแล้ว"เห็นเธอทำหน้าไม่อยากคุยกับอิริคนี่ ช่วยไว้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?" ชื่อจริงของเธอไม่ใช่ไลนาร์ แต่ให้เข้าใจแบบนั้นไปก่อน ก็ชื่อจริงเธอออกเสียงยากจะตาย คนประเทศนี้ออกเสียงภาษาจีนไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่
เห็นเธอทำหน้าไม่อยากคุยกับอิริคนี่ ช่วยไว้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?" ชื่อจริงของเธอไม่ใช่ไลนาร์ แต่ให้เข้าใจแบบนั้นไปก่อน ก็ชื่อจริงเธอออกเสียงยากจะตาย คนประเทศนี้ออกเสียงภาษาจีนไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่"........" ก็ดีนะที่ช่วย แต่ที่เขาไม่ชอบก็คือการที่มีคนอื่นมารู้ความรู้สึกในใจของเขานี่ล่ะ
ก็ดีนะที่ช่วย แต่ที่เขาไม่ชอบก็คือการที่มีคนอื่นมารู้ความรู้สึกในใจของเขานี่ล่ะระหว่างที่เจคโดนไลนาร์(ชื่อสมมุติ)กักตัวไว้ เออร์วินที่มีโอกาสสนทนากับลูกชายตามลำพังก็ได้ให้คำตอบที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ไอล์สบายใจขึ้นที่พ่อบุญธรรมของเขาเต็มใจเป็นที่ปรึกษาให้... ถ้าเจคกำลังคิดเรื่องเดียวกับที่เขาเคยคิด... อีกไม่นานก็คงทำใจได้เอง...
ไอล์กลับมาที่ห้องก็เห็นเจคอยู่ข้างใน ส่วนลูอิสไม่รู้ไปถึงไหนต่อไหนป่านนี้ก็ยังไม่กลับมา แต่ยังไงซะหมอนั่นก็ออกไปนอก 1047 ไม่ได้แน่นอนเป็นที่สุด
"เจค ฉันพูดกับนายได้แล้วใช่มั้ย?" บอกว่าอยากคิดอะไรเงียบๆ คนเดียว อยากรู้ว่าคิดเสร็จหรือยัง
เจค ฉันพูดกับนายได้แล้วใช่มั้ย?" บอกว่าอยากคิดอะไรเงียบๆ คนเดียว อยากรู้ว่าคิดเสร็จหรือยัง"ได้" เจคตอบห้วน
ได้" เจคตอบห้วน "อย่าคิดมากเลยน่าเจค ถึงจะแต่งงานแล้วคุณอิริคเขาก็ไม่เห็นนายสำคัญน้อยลงหรอกน่า"
"นายจะมาเข้าใจอะไร" ถ้าเจคแสดงความหัวเสียออกมาสักนิดเขาคงไม่กล้าพูดโต้ตอบไป แต่นี่...
"นายก็มีส่วนน่ารักเหมือนกันนะเจค" นึกว่ากวนตีนเป็นอย่างเดียว ไอล์หยุดหัวเราะหลังจากหัวเราะมากไปจนแทบหายใจไม่ทัน "โอย... ปวดท้อง..." เจคทำหน้าเขินแล้วน่ารักชะมัด
"นายจะมาเข้าใจอะไร" ถ้าเจคแสดงความหัวเสียออกมาสักนิดเขาคงไม่กล้าพูดโต้ตอบไป แต่นี่...
"นายก็มีส่วนน่ารักเหมือนกันนะเจค" นึกว่ากวนตีนเป็นอย่างเดียว ไอล์หยุดหัวเราะหลังจากหัวเราะมากไปจนแทบหายใจไม่ทัน "โอย... ปวดท้อง..." เจคทำหน้าเขินแล้วน่ารักชะมัด
"นายก็มีส่วนน่ารักเหมือนกันนะเจค" นึกว่ากวนตีนเป็นอย่างเดียว ไอล์หยุดหัวเราะหลังจากหัวเราะมากไปจนแทบหายใจไม่ทัน "โอย... ปวดท้อง..." เจคทำหน้าเขินแล้วน่ารักชะมัด
นายก็มีส่วนน่ารักเหมือนกันนะเจค" นึกว่ากวนตีนเป็นอย่างเดียว ไอล์หยุดหัวเราะหลังจากหัวเราะมากไปจนแทบหายใจไม่ทัน "โอย... ปวดท้อง..." เจคทำหน้าเขินแล้วน่ารักชะมัด"ไอล์!" เขาให้ความสำคัญกับคำสั่งของอิริคเสมอ แต่ความอดทนมีขีดจำกัดนะ วันดีคืนดีเผลอเชือดไปจะทำไง
ไอล์!" เขาให้ความสำคัญกับคำสั่งของอิริคเสมอ แต่ความอดทนมีขีดจำกัดนะ วันดีคืนดีเผลอเชือดไปจะทำไง"ขอโทษที... แต่ฉันว่าฉันเข้าใจนายนะ..." ไอล์เล่าเรื่องแม่ของเขาให้เพื่อนฟัง
ขอโทษที... แต่ฉันว่าฉันเข้าใจนายนะ..." ไอล์เล่าเรื่องแม่ของเขาให้เพื่อนฟัง "แล้วนายไม่คิดกลุ้มใจบ้างเหรอ?"
"กลุ้มสิ แทบบ้าเลยล่ะ แต่มันก็เป็นความจริงที่ต้องยอมรับให้ได้ เทียบกับฉันแล้วนายยังโชคดีกว่าเยอะเลยน่า คุณมาธีน่าเขาก็เอ็นดูนายออก"
"ฉันยอมรับก็ได้" จริงๆ การแต่งงานของอิริคกับมาธีน่ามันก็ไม่เลวร้ายนักหรอก มานั่งนึกดูอีกทีเขาก็แค่ไม่พอใจที่อิริคไม่เคยบอกกับเขาเรื่องนี้มาก่อน ทั้งๆ ที่เรื่องสำคัญกว่านี้ยังบอกได้
"กลุ้มสิ แทบบ้าเลยล่ะ แต่มันก็เป็นความจริงที่ต้องยอมรับให้ได้ เทียบกับฉันแล้วนายยังโชคดีกว่าเยอะเลยน่า คุณมาธีน่าเขาก็เอ็นดูนายออก"
"ฉันยอมรับก็ได้" จริงๆ การแต่งงานของอิริคกับมาธีน่ามันก็ไม่เลวร้ายนักหรอก มานั่งนึกดูอีกทีเขาก็แค่ไม่พอใจที่อิริคไม่เคยบอกกับเขาเรื่องนี้มาก่อน ทั้งๆ ที่เรื่องสำคัญกว่านี้ยังบอกได้
"ฉันยอมรับก็ได้" จริงๆ การแต่งงานของอิริคกับมาธีน่ามันก็ไม่เลวร้ายนักหรอก มานั่งนึกดูอีกทีเขาก็แค่ไม่พอใจที่อิริคไม่เคยบอกกับเขาเรื่องนี้มาก่อน ทั้งๆ ที่เรื่องสำคัญกว่านี้ยังบอกได้
ฉันยอมรับก็ได้" จริงๆ การแต่งงานของอิริคกับมาธีน่ามันก็ไม่เลวร้ายนักหรอก มานั่งนึกดูอีกทีเขาก็แค่ไม่พอใจที่อิริคไม่เคยบอกกับเขาเรื่องนี้มาก่อน ทั้งๆ ที่เรื่องสำคัญกว่านี้ยังบอกได้แกร่ก
"กลับมาแล้วเหรอลู" เจคเรียกชื่อย่อของเพื่อน ชื่อย่อนี้มีแต่เจคคนเดียวเท่านั้นที่เรียกเป็นการแสดงความสนิทสนม แต่อีกฝ่ายดูไม่อยากสนิทสนมด้วยแม้แต่เศษเสี้ยว "ฉันเริ่มสอนพวกนายจริงๆ จังๆ ซะทีดีกว่า อีกไม่นานก็ต้องลงสนามรบจริงแล้ว"
"สอน?" ประโยคเมื่อครู่หมายถึง ที่ผ่านนี่ยังไม่ได้สอนอะไรจริงๆ จังๆ สักอย่างน่ะสิ ไอล์ถึงกับอึ้ง
"สอน?" ประโยคเมื่อครู่หมายถึง ที่ผ่านนี่ยังไม่ได้สอนอะไรจริงๆ จังๆ สักอย่างน่ะสิ ไอล์ถึงกับอึ้ง
สอน?" ประโยคเมื่อครู่หมายถึง ที่ผ่านนี่ยังไม่ได้สอนอะไรจริงๆ จังๆ สักอย่างน่ะสิ ไอล์ถึงกับอึ้ง "ถ้านายอยากเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าโดยไม่รู้ข้อมูลอะไรเลยนายก็โง่กว่าที่ฉันคิดนะ" เจคพูดกับคนที่ทำท่าว่าจะออกไปข้างนอกอีก ไอล์ไม่แน่ใจว่าเจคพูดด้วยความเป็นห่วงเพื่อนอีกคน หรือเพราะแค่อยากพูดแดกดัน "นายยิ้มอะไรน่ะไอล์?"
"เห็นนายสบายใจขึ้นแล้วฉันก็หายห่วงซะทีน่ะ" นิสัยกวนๆ กับปากไม่มีหูรูด นี่แหละเอกลักษณ์ของเจค
"เห็นนายสบายใจขึ้นแล้วฉันก็หายห่วงซะทีน่ะ" นิสัยกวนๆ กับปากไม่มีหูรูด นี่แหละเอกลักษณ์ของเจค
เห็นนายสบายใจขึ้นแล้วฉันก็หายห่วงซะทีน่ะ" นิสัยกวนๆ กับปากไม่มีหูรูด นี่แหละเอกลักษณ์ของเจค"ห่วง? ห่วงฉันเนี่ยนะ? ทำไมต้องห่วง?" เจคไม่ค่อยคุ้นเคยกับการที่มีใครมาเป็นห่วงเขานัก
ห่วง? ห่วงฉันเนี่ยนะ? ทำไมต้องห่วง?" เจคไม่ค่อยคุ้นเคยกับการที่มีใครมาเป็นห่วงเขานัก"อ้าว ก็นายเป็นเพื่อนฉัน ฉันก็ต้องห่วงสิ" เรื่องแค่นี้ไม่น่าถาม
อ้าว ก็นายเป็นเพื่อนฉัน ฉันก็ต้องห่วงสิ" เรื่องแค่นี้ไม่น่าถาม อีกฝ่ายคิดจริงจังว่าเขาเป็นเพื่อนไปแล้วรึ?! เขาก็แค่คอยดูแลไอล์ตามที่ได้รับคำสั่งเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดว่ามิตรภาพมันจะสำคัญอะไร "ถ้านายรู้จักฉันดีพอ นายคงไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉันหรอก"
"ใช่ ฉันคนหนึ่งล่ะที่ไม่อยากเป็นเพื่อนกับนาย!" ลูอิสไม่ไว้ใจเจคสักนิด ไม่คิดจะเชื่อใจ และไม่คิดจะเป็นเพื่อนด้วย กับไอล์ก็ไม่ถึงกับเกลียดขี้หน้า แต่กับเจคความระแวงของเขามีมากถึงขีดสุด
"ใช่ ฉันคนหนึ่งล่ะที่ไม่อยากเป็นเพื่อนกับนาย!" ลูอิสไม่ไว้ใจเจคสักนิด ไม่คิดจะเชื่อใจ และไม่คิดจะเป็นเพื่อนด้วย กับไอล์ก็ไม่ถึงกับเกลียดขี้หน้า แต่กับเจคความระแวงของเขามีมากถึงขีดสุด
"แหม ฉันออกจะถูกใจนายนะ โดนรังเกียจซะแล้วหรือนี่" พูดทะเล้นใส่ แต่ในใจคิดว่าลูอิสสัญชาตญาณดีใช่ย่อย การเป็นเพื่อนกับเขาก็เหมือนเอาระเบิดเวลาที่ปลดชนวนแล้วไว้กับตัว "เรื่องมิตรภาพหรืออะไรเทือกนั้นพักไว้ก่อน สิ่งสำคัญอันดับแรกที่ฉันอยากให้พวกนายเรียนรู้คือเรื่องจุดอ่อนของC-0 ฟังแล้วก็จำไว้ให้ดี"
แหม ฉันออกจะถูกใจนายนะ โดนรังเกียจซะแล้วหรือนี่" พูดทะเล้นใส่ แต่ในใจคิดว่าลูอิสสัญชาตญาณดีใช่ย่อย การเป็นเพื่อนกับเขาก็เหมือนเอาระเบิดเวลาที่ปลดชนวนแล้วไว้กับตัว "เรื่องมิตรภาพหรืออะไรเทือกนั้นพักไว้ก่อน สิ่งสำคัญอันดับแรกที่ฉันอยากให้พวกนายเรียนรู้คือเรื่องจุดอ่อนของC-0 ฟังแล้วก็จำไว้ให้ดี"ไอล์กับลูอิสนิ่งฟัง และจำไว้ให้ขึ้นใจ
ระเบิด... เป็นอาวุธที่ไม่ควรใช้เป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นเป้าสายตาได้ง่ายแล้ว ยังไม่ระคายผิวมันเลยด้วย
ปืน... กระสุนพิษที่สกัดมาเป็นพิเศษจากแล็บลับของรัฐบาลก็พอไหว อย่างน้อยก็ทำให้มันหยุดเคลื่อนไหวได้ชั่วคราวแม้จะไม่นาน กระสุนตะกั่วอย่าไปหวัง กระสุนเงินที่ฆ่ามนุษย์หมาป่าในหนังได้ยิ่งหมดสิทธิ์
มีดและของมีคมอื่นๆ... แม้ในสายตามนุษย์จะเป็นอาวุธที่ดูกระจอกกว่าสองอย่างแรกเป็นไหนๆ แต่ก็เป็นผลร้ายกับเจ้าสัตว์นรกนั่นได้มากกว่า เพราะสามารถทะลวงเข้าไปในผิวหนังของมันได้
ลูอิสนึกถึงตอนที่เขาฆ่าไอ้หมาเวรนั่น สิ่งที่เขาใช้ก็เป็นอาวุธประเภทของมีคม
"ฟังดูแล้วก็ไม่น่าจะยาก แต่ปัญหาคือ..." เจคเว้นช่วงประโยค แล้วพริบตาเดียวเท่านั้นเขาก็ไปยืนข้างหลังลูอิส และเอาปลายมีดพอจ่อที่คอ "พวกนายที่แค่ความเร็วของฉันยังตามไม่ทัน ยังมองไม่เห็นมันก็คงตายก่อนแล้ว เจ้าC-0 น่ะเร็วกว่าฉันหลายขุม"
ฟังดูแล้วก็ไม่น่าจะยาก แต่ปัญหาคือ..." เจคเว้นช่วงประโยค แล้วพริบตาเดียวเท่านั้นเขาก็ไปยืนข้างหลังลูอิส และเอาปลายมีดพอจ่อที่คอ "พวกนายที่แค่ความเร็วของฉันยังตามไม่ทัน ยังมองไม่เห็นมันก็คงตายก่อนแล้ว เจ้าC-0 น่ะเร็วกว่าฉันหลายขุม" หมอนี่เร็วกว่าเจ้าหมานรกที่ฆ่าลิซกับดีน่า แล้วตัวแม่ของไอ้หมานั่นยังเร็กกว่านี้อีกอย่างงั้นรึ?!! "ล้อเล่นน่า แล้วพวกเราจะมีปัญญาฆ่ามันได้ยังไง?!"
"ยังไม่ถึงเวลายังไม่ต้องร้อนใจมากหรอกน่า" เจคตอบ "แล้วสิ่งที่ฉันอยากจะเตือนพวกนายก็คือ..."
"ยังไม่ถึงเวลายังไม่ต้องร้อนใจมากหรอกน่า" เจคตอบ "แล้วสิ่งที่ฉันอยากจะเตือนพวกนายก็คือ..."
เจคปรายตาไปทางเพื่อนรูมเมททั้งสอง แล้วให้คำเตือนที่ชวนกระอักกระอ่วน
"ถ้าอยู่ในสถานการณ์คับขัน ให้ห่วงชีวิตตัวเองก่อนห่วงคนอื่น ถ้าคนอื่นอยู่ในอันตราย และการเข้าไปช่วยจำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตก็ไม่ต้องช่วย ถ้าอยากจะช่วยคนๆ นั้น ต้องแน่ใจก่อนว่าภายภาคหน้าคนๆ นั้นจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะมีประโยชน์กับพวกนายในอนาคต"
ถ้าอยู่ในสถานการณ์คับขัน ให้ห่วงชีวิตตัวเองก่อนห่วงคนอื่น ถ้าคนอื่นอยู่ในอันตราย และการเข้าไปช่วยจำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตก็ไม่ต้องช่วย ถ้าอยากจะช่วยคนๆ นั้น ต้องแน่ใจก่อนว่าภายภาคหน้าคนๆ นั้นจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะมีประโยชน์กับพวกนายในอนาคต"ในนครเล็กๆ ที่ไร้แสงอาทิตย์ส่องก็ยังรับรู้ได้ถึงวันและคืน เวลาค่ำมาถึงอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างเงียบสงัดยกเว้นในห้องๆ หนึ่ง ลูอิสนอนหลับได้ไม่ค่อยเต็มตานัก เพราะหลับทีไรก็จะมองเห็นเพื่อนสาวกับน้องสาวตายไปต่อหน้าต่อตาเขาทุกครั้ง ส่วนสองคนที่เหลือยังไม่ได้หลับตานอนเลยสักครั้ง
"ทำไมนายไม่ขึ้นไปนอนบนเตียงล่ะ?" ไอล์ถาม เจคเป็นเจ้าของห้องตัวจริงนะ ปล่อยให้รูมเมทหน้าใหม่ยึดเตียง แล้วตัวเองมานอนพื้นได้ไง
ทำไมนายไม่ขึ้นไปนอนบนเตียงล่ะ?" ไอล์ถาม เจคเป็นเจ้าของห้องตัวจริงนะ ปล่อยให้รูมเมทหน้าใหม่ยึดเตียง แล้วตัวเองมานอนพื้นได้ไง"ถ้านายอยากนอนเตียง นายก็ไปนอนกับลูก็ได้" เจคดึงหมอนให้เข้าที่ แต่ยังไม่คิดจะหลับ
ถ้านายอยากนอนเตียง นายก็ไปนอนกับลูก็ได้" เจคดึงหมอนให้เข้าที่ แต่ยังไม่คิดจะหลับ "ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันน่ะตรงไหนก็ได้"
"ฉันก็ตรงไหนก็ได้เหมือนกัน ที่จริงนอนพื้นฉันรู้สึกสบายกว่ากันเยอะ"
"ฉันก็ตรงไหนก็ได้เหมือนกัน ที่จริงนอนพื้นฉันรู้สึกสบายกว่ากันเยอะ"
ฉันก็ตรงไหนก็ได้เหมือนกัน ที่จริงนอนพื้นฉันรู้สึกสบายกว่ากันเยอะ"เตียงมันก็พอสำหรับนอนสามคนหรอก แต่... ลำบากใจที่จะนอนกับลูอิส... พวกเขาสามคนคงเป็นทีมเวิร์คยอดแย่ล่ะมั้ง
ลูอิสเกลียดเจค แต่รู้สึกจะเฉยๆ กับเขา ...น่าจะเป็นอย่างนั้นนะ
กับเจคเขาก็คิดว่าตัวเองสนิทสนมด้วยพอสมควร แต่ไม่ค่อยชอบลูอิสเท่าไหร่
เจคไม่รู้ว่าเกลียดหรือชอบลูอิสกันแน่ ปฏิกิริยามันเป็นไปได้ทั้งสองทาง
‘ถ้านายรู้จักฉันดีพอ นายคงไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉันหรอก’ ไอล์นึกถึงคำพูดที่เจคเคยพูดไว้ ทำไมเจคถึงคิดว่าเขาจะไม่อยากเป็นเพื่อนด้วย บางทีเรื่องของเจคในส่วนที่เขาไม่เคยรู้มันอาจจะเป็นอะไรที่แย่มาก
ถ้านายรู้จักฉันดีพอ นายคงไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉันหรอก’ ไอล์นึกถึงคำพูดที่เจคเคยพูดไว้ ทำไมเจคถึงคิดว่าเขาจะไม่อยากเป็นเพื่อนด้วย บางทีเรื่องของเจคในส่วนที่เขาไม่เคยรู้มันอาจจะเป็นอะไรที่แย่มาก"เจค... พ่อฉันเคยบอกไว้ว่า แม้จะใช้เวลาทั้งชีวิตในการรู้จักใครสักคน บางครั้งก็อาจจะไม่รู้จักคนนั้นดีพอก็ได้" ไอล์พยายามพูดเสียงเบาไม่ให้คนยึดเตียงไปตื่นขึ้นมา
เจค... พ่อฉันเคยบอกไว้ว่า แม้จะใช้เวลาทั้งชีวิตในการรู้จักใครสักคน บางครั้งก็อาจจะไม่รู้จักคนนั้นดีพอก็ได้" ไอล์พยายามพูดเสียงเบาไม่ให้คนยึดเตียงไปตื่นขึ้นมา"นายพูดเรื่องอะไรน่ะ" ไม่เข้าใจประเด็นของเรื่อง
นายพูดเรื่องอะไรน่ะ" ไม่เข้าใจประเด็นของเรื่อง "ที่ฉันอยากพูดคือ ฉันไม่รู้ว่าทำไมนายถึงคิดว่าฉันจะไม่อยากเป็นเพื่อนนาย แต่ถ้าฉันเลือกใครสักคนเป็นเพื่อนแล้วฉันก็ไม่ทิ้งเพื่อนหรอก ไม่ว่าเพื่อนคนนั้นจะเป็นยังไงก็ตาม"
"สักวันนายอาจจะนึกเสียใจทีหลังก็ได้นะ" เจคพึมพัม ตัวตนของเขาที่ไอล์เห็นในตอนนี้ มันห่างไกลกับตัวตนจริงของเขามากมายนัก
"สักวันนายอาจจะนึกเสียใจทีหลังก็ได้นะ" เจคพึมพัม ตัวตนของเขาที่ไอล์เห็นในตอนนี้ มันห่างไกลกับตัวตนจริงของเขามากมายนัก
สักวันนายอาจจะนึกเสียใจทีหลังก็ได้นะ" เจคพึมพัม ตัวตนของเขาที่ไอล์เห็นในตอนนี้ มันห่างไกลกับตัวตนจริงของเขามากมายนัก"นายน่ะอยากเป็นเพื่อนกับฉันรึเปล่าเจค?" ไอล์ถาม
นายน่ะอยากเป็นเพื่อนกับฉันรึเปล่าเจค?" ไอล์ถาม"อยากมั้ง" เจคตอบอย่างไม่ใส่ใจ
อยากมั้ง" เจคตอบอย่างไม่ใส่ใจ"พูดให้มันดีๆ หน่อยได้มั้ย อยากหรือไม่อยากก็บอกมาตรงๆ" ไอ้ ‘มั้ง’ น่ะไม่ต้องเติมมา
พูดให้มันดีๆ หน่อยได้มั้ย อยากหรือไม่อยากก็บอกมาตรงๆ" ไอ้ ‘มั้ง’ น่ะไม่ต้องเติมมา‘เพื่อน’ ที่ผ่านมาเขามีเพื่อนกี่คนกันนะ เอ... ไม่มีเลยนี่หว่า อย่างอานิต้าเขาก็ไม่ได้นับเป็นเพื่อนตั้งแต่จ้วงเจ้าหล่อนตายแล้วล่ะ นอกจากสถานภาพ ‘เพื่อน’ จะอันตรธานไป ยังได้ตำแหน่ง ‘แม่ของลูก’ ไปซะอีก
เพื่อน’ ที่ผ่านมาเขามีเพื่อนกี่คนกันนะ เอ... ไม่มีเลยนี่หว่า อย่างอานิต้าเขาก็ไม่ได้นับเป็นเพื่อนตั้งแต่จ้วงเจ้าหล่อนตายแล้วล่ะ นอกจากสถานภาพ ‘เพื่อน’ จะอันตรธานไป ยังได้ตำแหน่ง ‘แม่ของลูก’ ไปซะอีก "เจค!" เสียงเรียกของคนที่นอนอยู่ใกล้ๆ ปลุกเขาให้ตี่นจากภวังค์ "นายฟังฉันอยู่รึเปล่าน่ะ?... ช่างเถอะ นายไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉันก็ไม่เป็นไร"
"...ไอล์... ฉันอยากเป็นเพื่อนกับนายนะ แค่นี้ล่ะ ราตรีสวัสดิ์" เอาเถอะ มีไว้สักคนสองคนก็ไม่เสียหาย
"...ไอล์... ฉันอยากเป็นเพื่อนกับนายนะ แค่นี้ล่ะ ราตรีสวัสดิ์" เอาเถอะ มีไว้สักคนสองคนก็ไม่เสียหาย
ไอล์... ฉันอยากเป็นเพื่อนกับนายนะ แค่นี้ล่ะ ราตรีสวัสดิ์" เอาเถอะ มีไว้สักคนสองคนก็ไม่เสียหาย บทจะว่าง่ายก็ง่ายนะเจ้าเพื่อนคนนี้ "ราตรีสวัสดิ์"
"ฮ้าวววว---------- เจค เป่ายิ้งฉุบกันว่าใครจะได้ใช้ห้องน้ำก่อน" ไอล์ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียพร้อมกับเพื่อนที่ลงมานอนพื้นด้วยกัน
"ฮ้าวววว---------- เจค เป่ายิ้งฉุบกันว่าใครจะได้ใช้ห้องน้ำก่อน" ไอล์ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียพร้อมกับเพื่อนที่ลงมานอนพื้นด้วยกัน
ปัง! ใครไวกว่าคนนั้นชนะ ระหว่างที่สองคนกำลังงัวเงีย ลูอิสก็เข้าไปใช้ห้องน้ำอย่างถือวิสาสะราวกับเป็นห้องของตัวเองก็ไม่ปาน
"นายต่อลูไปเถอะ ฉันว่าจะงีบต่อ ถ้าจะออกไปไหนก็ปลุกฉันด้วยนะ อย่าไปไหนคนเดียวล่ะ ในนี้มันอันตราย" เจคล้มตัวลงนอนต่อด้วยความเพลีย ความจริงคือตั้งแต่เมื่อคืนเขายังไม่ได้หลับเลย แค่ปิดตาไว้เฉยๆ เท่านั้น ได้ยินใครต่อใครเขาพูดกันว่า ‘มิตรภาพ’ เป็นสิ่งที่ดี แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกลำบากใจนักนะ ความกังวลนี่มันคืออะไร?
นายต่อลูไปเถอะ ฉันว่าจะงีบต่อ ถ้าจะออกไปไหนก็ปลุกฉันด้วยนะ อย่าไปไหนคนเดียวล่ะ ในนี้มันอันตราย" เจคล้มตัวลงนอนต่อด้วยความเพลีย ความจริงคือตั้งแต่เมื่อคืนเขายังไม่ได้หลับเลย แค่ปิดตาไว้เฉยๆ เท่านั้น ได้ยินใครต่อใครเขาพูดกันว่า ‘มิตรภาพ’ เป็นสิ่งที่ดี แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกลำบากใจนักนะ ความกังวลนี่มันคืออะไร?ลูอิสจัดการกับสารรูปตัวเองหลังตื่นนอนเรียบร้อยแล้ว ไอล์ก็รีบเข้าไปต่อทันที
"ไหนๆ ก็ตื่นแล้ว นายช่วยให้อาหารแล้วก็พาเจ้าริกกี้มันไปเดินเล่นทีนะ" เจคตื่นขึ้นมาพูดแค่นี้ แล้วก็หลับต่อโดยไม่สนใจว่าคนที่เขาใช้จะยอมทำตามที่เขาบอกหรือไม่
ไหนๆ ก็ตื่นแล้ว นายช่วยให้อาหารแล้วก็พาเจ้าริกกี้มันไปเดินเล่นทีนะ" เจคตื่นขึ้นมาพูดแค่นี้ แล้วก็หลับต่อโดยไม่สนใจว่าคนที่เขาใช้จะยอมทำตามที่เขาบอกหรือไม่"แกชื่อริกกี้เหรอ?" เจ้าหมาน้อยส่งเสียงร้องงี้ด แลบลิ้น ทำหน้าแป้น เหมือนจะตอบว่า ‘ใช่ฮะ’
แกชื่อริกกี้เหรอ?" เจ้าหมาน้อยส่งเสียงร้องงี้ด แลบลิ้น ทำหน้าแป้น เหมือนจะตอบว่า ‘ใช่ฮะ’น่ารัก... เขานึกว่าตัวเองจะเกลียดหมาไปตลอดชีวิตซะแล้ว แต่กับหมาธรรมดาเขาก็ยังรู้สึกเอ็นดูอยู่ เพราะงั้นจะช่วยดูแลให้ก็ได้
ถึงเวลาเที่ยงไอล์ก็พยายามปลุกเพื่อนที่วันนี้ขี้เซาผิดปกติให้ตื่น "นี่มันเที่ยงแล้วนะเจค ตื่นได้แล้ว"
"หือ? นายจะออกไปข้างนอกเหรอ?" เจคถาม
"หือ? นายจะออกไปข้างนอกเหรอ?" เจคถาม
"เปล่า ฉันเห็นนายหลับไม่ตื่นซะที กลัวจะไปไม่กลับหลับไม่ตื่นน่ะสิ"
"ถ้ายัยนั่นไม่โผล่มาฉันก็ตื่นได้เองเสมอแหละ"
"ยัยนั่น?" พูดถึงใครน่ะ
"ถ้ายัยนั่นไม่โผล่มาฉันก็ตื่นได้เองเสมอแหละ"
"ยัยนั่น?" พูดถึงใครน่ะ
"ยัยนั่น?" พูดถึงใครน่ะ
ยัยนั่น?" พูดถึงใครน่ะ"ไม่มีอะไรหรอก" พลั้งปากไปแล้วสิ แต่ไอล์ไม่มีทางรู้เรื่องของอานิต้าได้หรอก ถ้าเขาไม่เป็นคนบอกเอง
ไม่มีอะไรหรอก" พลั้งปากไปแล้วสิ แต่ไอล์ไม่มีทางรู้เรื่องของอานิต้าได้หรอก ถ้าเขาไม่เป็นคนบอกเอง"มันต้องมีสิน่า" เจคลนลานขนาดนี้ ใครเชื่อว่าไม่มีอะไรจริงก็สมองกลวงแล้ว
มันต้องมีสิน่า" เจคลนลานขนาดนี้ ใครเชื่อว่าไม่มีอะไรจริงก็สมองกลวงแล้ว "...เอาไว้สักวัน ฉันจะบอกกับนาย" เจคตัดบท
-โปรดติดตามตอนต่อไป-
-โปรดติดตามตอนต่อไป-
ความคิดเห็น