คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : 9/2 ||100%||
KIM PART
ผมมองข้อความตอบกลับจากเบลล์นิ่งรอว่าจะมีอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกหรือเปล่า รอซักพักก็ไม่มีอะไรตอบกลับมาจึงวางโทรศัพท์ไว้เหมือนเดิม
หลังจากที่กลับมาถึงบ้านผมก็ออกไปช่วยงานที่สวนเพิ่งได้หยิบโทรศัพท์มาดูเมื่อกี้จึงเพิ่งเห็นข้อความของเบลล์พอตอบกลับไปเบลล์ก็เงียบไปแค่นั้นอีกผมก็เลยไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรรึเปล่า
“ทำหน้าเครียดอะไรอะ”
เสียงของเค้กดังขึ้นขัดความคิดของผม หันไปมองคนที่ถามก็พบว่าน้องกำลังมองมาที่ผมด้วยสายตาสงสัยเพราะผมเอาแต่จ้องโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ
“รอสายจากใครเปล่า” เค้กขยับเข้ามาใกล้ผมแล้วกระซิบถามแถมทำหน้าล้อเลียนอีก
“ไม่มี”
“จริงเหรอ ทะเลาะกับแฟนเหรอ” แฟนอะไรละ
“เกี่ยวอะไรด้วยละ”
“ชิ” เค้กขยับออกไปนั่งข้างหยิบรีโมตเปิดทีวี “มีอะไรก็ถามได้น้า ให้คำปรึกษาได้ตลอด”
“พูดแบบนี้อย่าบอกว่ามีแฟน” ผมถามเสียงเข้ม น้องสาวผมเพิ่งเรียนมอห้าถึงจะไม่ได้ห้ามให้มีแฟนตอนเรียนแต่ถ้าได้ยินว่ามีแฟนแล้วผมคงต้องนั่งปรับทัศนคติกันซักหน่อย
“ไม่มี”
ผมมองคนที่ปฏิเสธเสียงใสแล้วหันกลับไปจ้องโทรศัพท์ต่อ ยังไม่มีข้อความใหม่จากเบลล์เข้ามาคงไม่มีอะไรหรอก ผมกับเธอไม่ได้สนิทกันขนาดที่ต้องคุยกันยาวๆหรือเปล่า
“เค้ก” เค้กหันหน้ามามองผมเป็นเชิงถาม “ถ้ามีคนชวนไปกินข้าวแปลว่าอะไร” สุดท้ายก็อดถามออกไปไม่ได้
“เขาหิวข้าวไง”
ผมยกมือไปเขกหัวน้องสาวไปหนึ่งทีแต่พอคิดตามคำพูดของเค้กมันก็จริงนะ เบลล์ก็บอกอยู่ว่าหิวตอนที่ส่งมาชวนก็เป็นตอนเที่ยง
“ใครอะ”
“เพื่อน”
“เพื่อนจริงเหรอ”
ผมถอนหายใจหยิบโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นจะเดินกลับเข้าไปในห้องเพราะไม่อยากคุยกับน้องต่อ แต่เดินไปไม่กี่ก้าวผมก็เดินกลับมานั่งที่เดิมแล้วถามต่อ
“แล้วถ้าเราไม่ว่างเขาจะโกรธเรามั้ย”
“โกรธทำไมอะ”
“ไม่รู้สิ ก็เขาไม่ตอบอะไรกลับมาอีก”
“แล้วได้บอกเขามั้ยว่าทำไมไม่ว่าง ติดธุระอะไร”
“ไม่ได้บอก”
“ก็บอกเขาไปสิว่าติดอะไร”
“เขาก็ไม่ได้ถามว่าทำไมไม่ว่าง”
“เขารอให้พี่บอกเองรึเปล่า” เค้กบอกผม “ถ้าอยากรู้ก็ทักไปถามไม่ก็โทรไปถามเขาสิ”
นั่นสินะ ทำไมผมไม่ทักไปถามให้มันจบละจะมานั่งคิดมากทำไมผมยกมือขึ้นลูบหัวของเค้กแล้วเดินกลับเข้าห้องจริงๆ ในมือกดเข้าหน้าแชตของเบลล์รอไว้ในหัวก็คิดประโยคที่จะส่งกลับไป
“ดีกันแล้วอย่าลืมของรางวัลนะ” เค้กตะโกนไล่หลังผมมา
ผมพิมพ์ๆลบๆอยู่อย่างนั้นไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นประโยคยังไง สุดท้ายก็เลือกส่งสติกเกอร์ไปก่อนแล้วเฝ้าหน้าจอ หนึ่งนาทีผ่านไป สองนาที ห้านาที สิบนาทีผ่านไปเบลล์ก็ยังไม่ตอบยังไม่อ่านด้วยซ้ำ
“โกรธเหรอวะ” ผมพูดกับตัวเอง เมื่อวานผมเป็นคนบอกว่าไว้คราวหน้าแต่ไม่ได้หมายความว่าวันนี้นี่นา บางทีเบลล์อาจจะไม่ว่างเหมือนผมก็ได้มั้ง
แต่เบลล์ก็ไม่น่าจะใช่คนที่โกรธกับเรื่องนี้ ความเป็นจริงผมกับเธอไม่ได้สนิทกันขนาดถึงจะมาโกรธแค่ไม่ว่างไปกินข้าวด้วย
ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงมือก็ยกโทรศัพท์มาดูอีกรอบ สุดท้ายก็กดเบอร์ของเบลล์แล้วโทรออกไป ผมไม่อยากปล่อยให้มันคาใจอยู่อย่างนี้ ใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ระหว่างที่รอเบลล์รับสาย รอสายไม่นานเบลล์ก็รับสาย
“ฮัลโหล” เสียงเบลล์เหมือนคนเพิ่งตื่น
“เธอ” ผมส่งเสียงออกไป
“ใครอะ” เสียงแหบๆที่ส่งเสียงตอบกลับมาพร้อมคำถาม ทำให้ภาพที่อยู่ในหัวผมคือคนตัวเล็กนอนอยู่บนเตียงแล้วเอื้อมมือมาหยิบโทรศัพท์ไปรับไม่มองกระทั่งชื่อคนโทรเข้าแล้วตอนที่ถามว่าใครก็ยังหลับตาอยู่แน่ๆ
ผมหัวเราะเสียงเบาหลังภาพนั้นเข้ามาในหัว “เธอไม่ตอบไลน์เพราะนอนเหรอ”
“ไลน์” เสียงเธอหายไปแปปนึง “คิม”
“ใช่ ฉันเอง” ผมตอบแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียง
เบลล์กระแฮ่มเสียงหนึ่งรอบ “แล้วมีอะไรอะ” เสียงที่ดูสดชื่นขึ้นของเบลล์เอ่ยถาม เหมือนนี่จะเป็นครั้งแรกที่ผมโทรคุยกับเบลล์ เสียงที่ดังอยู่ข้างหูไม่ค่อยเหมือนเสียงที่ได้ยินจากตัวจริงเท่าไหร่นัก
“ฉันไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ”
“อาหะ แล้ว?”
“เลยไม่ว่างไปกินข้าวกับเธอ”
“อ๋อ”
“ฉันคิดว่าเธอโกรธ”
“ฉันจะโกรธนายทำไม”
“ก็เธอไม่ถามอะไรอีก”
“ฉันอยากถามแต่กลัวว่านายหาว่าฉันเสือก”
ผมหัวเราะทันทีที่ได้ยินเบลล์บอกแบบนั้น เสียงของเบลล์ไม่ได้วี่แววว่าจะโกรธเลยซักนิด
“อย่ามาหัวเราะ” เบลล์บอกเสียงขุ่น เสียงกุกกักที่ดังมาจากอีกฝั่งทำให้ผมเงียบเพื่อฟังว่าเธอกำลังทำอะไร
“ทำอะไรอยู่” ผมอดถามออกไปไม่ได้ ระหว่างที่คุยกับเบลล์ผมก็เดินไปเดินมาในห้อง
“หาอะไรกิน” เบลล์ตอบ
“เพิ่งตื่นไม่ใช่เหรอ”
“ก็หิวอะ”
“กินเก่งขนาดนี้แล้วเอาไปเก็บไว้ที่ไหน ตัวก็เล็กแค่นั้น”
“ไม่บอกหรอก”
ผมนั่งเก้าอี้ข้างหน้าต่างแล้วเริ่มต้นถามคำถามกับเบลล์ไปเรื่อยๆ เบลล์ตอบผมบ้างถามคำถามผมบ้าง รู้ตัวอีกทีเราก็คุยกับไปเกือบหนึ่งชั่วโมง ถ้าไม่ได้เสียงเคาะประตูจากเค้กผมก็คงไม่รู้ตัวว่าคุยกันนานขนาดนี้
“นายกลับตอนเย็นวันอาทิตย์ใช่มั้ย”
“ใช่”
“ชลบุรีมีอะไรเด็ด”
“ฉันไง”
เบลล์เงียบไปเลยหลังจากผมตอบแบบนั้นไป
“ล้อเล่น”
“เด็ดจริงเหรอ” เบลล์ถามเสียงล้อเลียน
“อยากลองมั้ยละ” ใครจะยอมกันละ
ทั้งผมและเบลล์เงียบไปซักพักก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกันกับประโยคเพี้ยนๆที่พวกเราคุยกันไปเมื่อกี้
“พอแล้วๆ” เบลล์พูดขึ้นมาก่อน เสียงเคาะประตูจากน้องของผมดังขึ้นมาอีกครั้งทำให้รู้ว่าผมต้องวางสายแล้วจริงๆ
“เธอว่างวันไหนละ จะได้ไปทานข้าวกัน” ผมเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองจะโทรมาถามเรื่องนี้ด้วย
“ว่างตอนเย็นทุกวันแหละ”
“โอเค ค่อยนัดอีกนะ”
“ได้เลย”
“เธอบอกว่าจะเลี้ยงนะ”
“จำได้หรอกน่า”
ผมรอให้เบลล์วางสายแล้วค่อยกดวางบ้าง รอยยิ้มยังติดอยู่ที่ริมฝีปากเมื่อนึกถึงการคุยโทรศัพท์กับเบลล์เมื่อกี้นี้ เดินไปเปิดประตูให้เค้กส่งสายตาถามว่ามีอะไร
“ป้าชวนไปตลาดปลา”
“ตอนนี้เหรอ”
“ใช่” เค้กหรี่ตามองผม “หน้าระรื่นเชียว ดีกันแล้วใช่มั้ย”
“ไม่ใช่เรื่องของเด็ก” ผมยกมือเคาะหัวเค้กแล้วเดินผ่านลงไปข้างล่างเตรียมตัวไปตลาดอย่างที่เค้กบอก
“แหมๆ” เค้กยังตามมาล้อผมแต่ผมก็อารมณ์ดีเกินกว่าจะเถียงอะไรด้วยเลยได้แต่ส่งยิ้มไปให้แล้วเดินหนีแทน
ตอนที่คุยกันกับเบลล์ผมไม่ได้ใจเต้นแรงเหมือนอย่างวันนั้น มันเต้นปกติแต่เต้นในจังหวะที่ผมรู้สึกถึงความอ่อนหวานในนั้น เต้นในจังหวะที่ทำให้ผมมีความสุขจนต้องยิ้มออกมาแบบนี้
อาการหนักแล้วจริงๆ
ความคิดเห็น