คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : 4/3 ||100%||
“ลืมแนะนำไปเลยค่ะ” เบลล์บอกแล้วเลื่อนมือที่เกาะแขนของผมลงไปจับมือผมโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
ตึกตัก ตึกตัก
แค่เขาจับมือแล้วผมจะใจเต้นแรงทำไม
“นี่คิม แฟน ‘ใหม่’ ค่ะ”
แล้วประโยคนี่อีก ใจเต้นแรงกว่าเดิมเลยกู
ทั้งสองคนที่ยืนอยู่ทำสีหน้าที่แตกต่างกันไป ผู้หญิงที่ยืนอยู่ในอ้อมกอดทำสีหน้าเหมือนจะโล่งใจที่คนที่บอกว่าเป็นแฟนเก่าไม่ได้มีทีท่าว่ารู้สึกอะไรกับคนที่เคยคบด้วย ส่วนอีกคนตัวต้นเรื่องก็ยืนมองด้วยสายตาของความชิงชัง อะไรจะหวง...อ๋อ เสียหน้า ผู้ชายที่เป็นฝ่ายบอกเลิกคงจะรู้สึกแบบนี้ละมั้งที่โดนคนที่บอกเลิกไปแล้วดันมีแฟนใหม่ได้เร็วแล้วทำท่าไม่อาลัย ไม่เสียใจเหมือนอย่างที่คิด
“มีใหม่เร็วดีนะ”
“ค่ะ” เบลล์ตอบ “ก็เหมือนพี่แหละเนอะ” เสียงหวานๆที่พูดประโยคเชือดเชือนแต่ใช้น้ำเสียงหวานเหมือนไม่รู้สึกอะไรยิ่งทำให้สีหน้าของเขาย่ำแย่ลง
ผมชักมือออกจากเบลล์อย่างนุ่มนวลไม่ให้เป็นที่สังเกต พอจับไปนานๆเข้าแล้วเหมือนพลังงานอะไรบางอย่างที่ผมก็บอกไม่ถูกวนเวียนไปทั่วร่างทำให้หายใจติดขัด ใจเต้นแรง รู้สึกอากาศร้อนจนต้องยกมือขึ้นจับหน้าผากดูว่ามีไข้รึเปล่า
“พี่เอกไปตรงโน้นดีกว่าค่ะ” ก่อนที่จะได้คุยอะไรกันต่อแฟนของผู้ชายคนนั้นก็ดึงแขนให้เดินไปอีกทาง เบลล์ยักไหล่แล้วดึงแขนผมไปอีกทางเช่นกัน ผมเดินตามไปอย่างที่คนไม่มีสตินักพอเดินมาได้ระยะที่พ้นสายตาของคนทั้งคู่เบลล์ก็ปล่อยแขนผม
“ขอโทษทีนะ”
“...” ความอุ่นที่ยังไม่จางหาย กลิ่นน้ำหอมที่เหมือนได้กลิ่นชัดกว่าเดิมตอนที่เบลล์เข้ามาใกล้ทำให้ผมยังล่องลอย เหมือนโดนสะกดจิต
“นี่”
“หืม อะ...อะไร” พอดึงสติกลับมาได้ก็เห็นมือเล็กโบกไปมา ผมถามแล้วขยับออกห่างโดนไม่รู้ตัว เมื่อกี้มันอะไร เคลิ้มอะไร
“เป็นอะไรไป”
“เปล่า”
“ขอโทษที่ลากมายุ่งเรื่องไม่เป็นเรื่องนะ”
“เรื่องไม่เป็นเรื่องคือ”
“ที่บอกว่านายเป็นแฟนใหม่น่ะ”
“ไม่เป็นเรื่องจริงๆนะแหละ”
“เอ้า”
“หมดเรื่องแล้วใช่มั้ย”
เบลล์พยักหน้าให้ ผมเลยหันหลังเดินกลับไปเหมือนจะอยู่ใกล้ผู้หญิงคนนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว โดนของอะไรรึเปล่าเนี่ยกู
“นาย ระ...วัง”
ไม่ทันจะเดินไปได้ไกลแค่หันหลังผมก็เดินชนเข้ากับสิ่งก่อสร้างที่เรียกว่าเสา เสาต้นใหญ่ที่ดันมาอยู่ตรงที่ผมกำลังจะเดินไปพอดีผมล้มลงไปกองที่พื้นเจ็บจนเหมือนจะเห็นดาวลอยไปมา
“เป็นยังไงบ้าง”
เจ็บสิ แล้วผมไม่รู้ตัวจนไม่รู้ว่าเบลล์พาเดินมาหลบอยู่หลังเสาต้นใหญ่เลยเหรอแล้วทำไมเธอไม่เตือนให้เร็วกว่านี้
“หัวโนเลย”
เบลล์ชี้มาที่กลางหน้าผากของผมที่ยังมีความรู้สึกปวดตุบๆอยู่
“เออ”
“ลุกไหวมั้ยน่ะ” เบลล์ทำท่าเข้ามาประคองผมรีบลุกขึ้นเองแล้วถอยหลังไปแต่ก็ชนเข้ากับเสาต้นเดิมนั่นแหละ
“เป็นอะไร” เบลล์ถามสีหน้าเป็นห่วง
“เจอเธอแล้วมีเรื่องทุกที”
“ขอโทษ” เบลล์หน้าเจื่อนทันทีที่ผมเอ่ยแบบนั้น
พูดแรงไปมั้ยวะ
“เหี้ย” เบลล์ร้องขึ้นมาจนผมตกใจตามไปด้วย นี่ด่ากลับว่าเหี้ยเลยเหรอ
“นี่เธอ...” ผมยังพูดไม่จบเบลล์ก็แทรกขึ้นมา
“ฉันลืมเพื่อน” เปลี่ยนจากหน้าเจื่อนเป็นหน้าตาตกใจเบลล์บอกลาผมแล้วรีบเดินออกไปทันที “ไปก่อนนะ”
ผมมองตามหลังคนที่กำลังวิ่งหน้าตาตื่นไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย โมโห ฉุน ตลก รวมถึงเอ็นดู ต้องขี้ลืมขนาดไหนถึงลืมกระทั่งเพื่อนที่มาด้วยกัน
แล้วจมูกจะจดจำกลิ่นได้ดีเกินไปแล้วมั้ง เจ้าตัวไม่อยู่กลิ่นน้ำหอมที่ทำเอาผมเคลิ้มไปเมื่อกี้ยังได้กลิ่นลอยอบอวลให้รู้สึกจั๊กจี้หัวใจแบบแปลกๆเนี่ย
ความคิดเห็น