คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : 4/1 ||30%||
ผมนั่งมองคนที่บอกว่าจะตั้งใจทำงานแต่นั่งเล่นเกมส์มาแล้วไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงอย่างอ่อนใจ สุดท้ายก็ล้วงมือถือขึ้นมากดอย่างไม่รู้จะทำอะไรให้ดีไปกว่านี้ ไอ้วินกับไอ้กันต์ออกไปข้างนอกยังไม่กลับเข้ามาเลยไม่มีคนมากดดันให้พวกมันทำงานกัน
หน้าจอปรากฏข้อความที่ยังไม่ได้อ่านจากคนที่ผมไม่ได้คาดคิดว่าจะส่งมาทำให้ผมขมวดคิ้ว เบลล์ส่งข้อความมาเมื่อสิบนาทีก่อน ผมมีเบอร์ของเบลล์แต่ไลน์เนี่ยผมไม่น่าจะมีนะ
Beauty_BELL : สวัสดี เราเบลล์นะ
Beauty_BELL : เรื่องครั้งที่แล้วขอโทษอีกทีนะ
เรื่องไหนละ เรื่องโทรศัพท์ ร้านเหล้าหรือล่าสุดอย่างในร้านข้าว เยอะจนผมไม่อยากอยู่ใกล้ผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว
Beauty_BELL : เสื้อที่นายให้ยืมให้ฉันเอาไปคืนที่ไหนดี
Beauty_BELL : ฉันซักเรียบร้อยแล้วนะ
เสื้อตอนร้านเหล้าสินะ ฝากไอ้เบสมาคืนก็ได้มั้งผมคงไม่มีโอกาสได้เจอเธอหรอก
Kiim_Kung : ฝากไอ้เบสมา
Kiim_Kung : รู้จักไอ้เบสใช่มั้ยที่เรียนสาขาเดียวกับเธอ
Beauty_BELL : ได้ๆ
Kiim_Kung : ขอบคุณ
ผมตอบแล้วกดออก เข้าไอจีดูรูปไปเรื่อย
Beauty_BELL : เดี๋ยวๆ ขออีกเรื่อง
Beauty_BELL : ซ่อมหน้าจอรึยัง
ยังไม่ได้ตอบกลับไปไอ้เฟรมก็ชวนผมออกไปหาอะไรกิน ร้านหลังมอที่ผมเคยชวนพวกมันไปตอนนี้กลายเป็นร้านประจำอีกร้านของพวกผมไปแล้ว
“งานมึงจะเสร็จรึยัง”
ผมถาม ไอ้เฟรมที่งานยังไม่เสร็จคนเดียวในกลุ่มไม่ใช่งานกลุ่มด้วยเลยต้องกระตุ้นให้มันทำงาน
“อีกนิดเดียว”
“กูได้ยินประโยคนี้ตั้งแต่สองวันที่แล้ว”
“เออน่า กูไม่รีบ”
“อย่ากองงานจนใกล้ถึงวันส่งดิวะ”
“ครับครับ”
“ไอ้ห่า”
ผมอดด่ามันไม่ได้ ไม่อยากต้องมาฟังคำบ่นของมันตอนที่จะสอบแล้วงานมันยังไม่เสร็จ ไหนจะต้องอ่านหนังสือสอบอีก
“นั่นพวกเครื่องกลปะ”
มองตามสายตาของไอ้เฟรมแล้วก็พบกับกล่มคนเกือบสิบคนที่กำลังเดินเข้าร้านอาหาร ร้านที่พวกผมจะมากันนี้แหละ หนึ่งในนั้นมีคนที่ผมคุ้นหน้าอยู่ด้วยพอเห็นหน้าผมถึงนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ตอบข้อความของเบลล์เลย
“ปกติพวกมันไปหน้ามอกันนี่หว่า”
“มึงจะใส่ใจเขาทำไม” ผมตอบแล้วเดินนำหน้าไอ้เฟรมเข้าไปในร้าน ไอ้กันต์ที่นั่งจองโต๊ะไว้แล้วทำให้ผมไม่ต้องรอคิวแบบคนอื่น
“ไอ้วินละ”
“ไปกับแฟนแล้ว”
“เชี่ยวิน แม่งติดแฟนมาก” ไอ้เฟรมบ่นแล้วนั่งลงตรงข้ามไอ้กันต์ ผมนั่งลงแล้วหยิบเมนูขึ้นมาเปิด
“มองอะไรนักหนา” เสียงถามของไอ้เฟรมทำให้ผมเงยหน้าไปมองตาม ไอ้กันต์มองกลุ่มเครื่องกลไม่ละสายตา
“เปล่า”
ปกติพวกผมก็คุยกันบ้างแหละ เพราะถึงจะไม่ได้เรียนสาขาเดียวกันแต่ก็อยู่คณะเดียวกันมีกิจกรรมได้ทำด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้สนิทกันยิ่งเมื่อไม่กี่วันไอ้กันต์เพิ่งมีเรื่องกับพวกมันมาแต่ไม่ยอมเล่าให้พวกผมฟังด้วย
“สรุปวันนั้นมีเรื่องอะไร” ผมถามไอ้เฟรมพยักหน้าแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้น
“ไม่มีอะไร”
“เห็นๆอยู่ว่ามี”
“เออ”
“พวกมึงอย่าขี้เสือกดิวะ”
“ไอ้กันต์/กันต์”
“พอ รีบแดกรีบกลับ”
อาหารที่มาเสิร์ฟพอดีทำให้ไอ้กันต์รีบตัดบทแล้วก็ไม่สนใจพวกผมอีก ผมได้แต่มองหน้าไอ้เฟรมแล้วเลิกสนใจเรื่องของไอ้กันต์
หลังจากจัดการอาหารตรงหน้าเสร็จผมก็เลือกที่จะกลับห้องมากกว่าไปขลุกตัวอยู่กับไอ้เฟรมเพื่อนั่งดูมันทำงาน
“มึงกลับห้องใช่มั้ย” ไอ้เฟรมเอ่ยถามผมกดเรียกรถในแอปแล้วพยักหน้าให้มัน ขามาผมติดรถไอ้เฟรมมาตอนจะกลับเลยต้องหารถกลับเอง
“คิม”
เสียงเรียกชื่อทำให้ผมกับไอ้เฟรมหันไปมอง เบลล์กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางผมในมือมีถุงกระดาษสีน้ำตาล
“ไหนๆก็เจอกันแล้ว” เบลล์ยื่นถุงกระดาษมาให้ผม ผมยื่นมือไปรับพลางพยักหน้าให้
“ไปละ” เบลล์บอกแค่นั้นแล้วเดินไป ไอ้เฟรมสะกิดผมทันที
“มึงไปรู้จักเขาได้ไงวะ”
“กูไม่ได้รู้...” ยังพูดไม่จบประโยคดีคนที่เดินไปแล้วก็กลับมา
“ลืม” เบลล์ยกมือถือขึ้นมา “ซ่อมหน้าจอยัง ฉันไม่เห็นนายทวงค่าซ่อม”
“ยัง” ถึงมันจะร้าวแต่มันก็ยังใช้งานได้ผมเลยไม่เอาไปซ่อมซักที
“อ้าว”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าเอาไปซ่อมฉันให้เธอจ่ายแน่” คิดรวมค่าซักรองเท้าไปด้วยน่าจะดี
“โอเค แล้วไลน์มาบอกนะ”
“เดี๋ยว” ผมรั้งคนที่กำลังจะเดินหนีไปไว้ “เธอเอาไลน์ฉันมาจากไหน”
“ก็เมมเบอร์แล้วไลน์มันก็เด้งขึ้นมาอะ”
“อ๋อ”
“ทำไม”
“เปล่า”
เบลล์ทำหน้างงพอเห็นผมไม่พูดอะไรต่อก็เดินจากไป ผมลืมตั้งค่าในไลน์เหรอถึงได้แอดเพื่อนขึ้นมาให้แบบนี้
“โอโห้ มีเบอร์ มีไลน์กันด้วย”
เสียงไอ้เฟรมดังขึ้นมาทำให้ผมเพิ่งรู้ตัวว่ามันยังไม่ได้เดินจากไปไหนแต่ยืนเงียบแล้วเก็บข้อมูลอยู่
“รู้จักเบลล์เครื่องกลได้ไง”
ผมไม่ตอบพอดีกับรถที่เรียกไว้มาถึง ผมเดินหนีทันทีโบกมือลาให้มันแล้วขึ้นรถ นั่งออกมาซักพักไอ้เฟรมยังส่งข้อความมาถามต่ออ ผมปิดเสียงแจ้งเตือนแล้วนั่งมองไปนอกรถไม่ได้สนใจที่จะตอบข้อความใครทั้งสิ้น
ความคิดเห็น