ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผม(ฉัน)กลายเป็นลูกสาวของราชินีเเวมไพร์ [SS0-1]

    ลำดับตอนที่ #9 : นี่เราพูดอะไรผิดไปหรอ

    • อัปเดตล่าสุด 31 ส.ค. 67


    “นาน่าจัง นาน่าจัง”

     

    เอมิเลียนั้นก็รีบเข้ามาบอก

    “องค์หญิงสูญเสียมานาเยอะเกินไปค่ะ”

     

    “นี่ไม่ได้ให้นาน่าจังดื่มเลือดเลยหรอ”

     

    เอมิเลียนั้นก็ได้ส่ายหน้าเเละได้บอกไปว่า

    “องค์หญิงปฏิเสธการดื่มเลือดค่ะ”

     

    “เเบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยนะ เเบบนี้นาน่าจังสูญเสียมานาเเบบไม่มีที่สิ้นสุดเลยนะ นาน่าจะไม่รอดเอานะ”

     

    โคมารินั้นก็ได้ถอดเเขนเสื้อ เเละจะยื่นเเขนให้กับนาน่าจังให้ดื่มเลือด เเต่ว่าอาเนสนั้นก็ได้หยุดเอาไว้

     

    “ไม่ต้อง”

     

    “อาเนสนี่ทำบ้าอะไรของนายกัน นาน่าจังจะไม่รอดเอานะ”

     

    “ก็บอกว่าไม่ต้อง นาน่า ปฏิเสธการดื่มเลือดไม่ใช่รึไง เเล้วจะบังคับให้ดื่มทำไม ถ้าเธอเปลี่ยนใจที่อยากจะดื่มก็ให้ดื่มเถอะ”

     

    อาเนสได้ชี้ไปที่ห้องที่มีเซเลสเทียอยู่

    “ชั้น สังหรณ์ใจไม่ดีว่าท่านเเม่จะโดนลอบสังหารจากพวกมัน”

     

    พอได้ยินเเบบนั้นโคมาริก็มุ่งตรงไปที่ห้องนั้นทันที

     

    “ฝ่าบาท”

     

    “ท่านเเม่”

     

    ทั้งสองได้มาถึงห้องเเล้วก็เห็นว่าในห้องนั้นกำลังเปิดศึกกันอยู่นั้น โคมาริ ก็สามารถจับ สังเกตุจากอาเนสได้ จึงได้เปิดศึกกับอาเนส

     

    “เผยตัวออกมาได้เเล้ว นายมันไม่ใช่อาเนส”

     

    “หึ ไม่คิดว่าจะโดนจับได้โดยง่ายขนาดนี้”

     

    อาเนสได้เปลี่ยนกลานเป็นคนๆนึง

    ผู้บริหารอันดับที่8 ของฟอร์ดเทส

     

    “คนอย่างอาเนสไม่มีทางจะหยุดฉันหรอก”

     

    “การกวาดล้างเผ่าพันธุ์ที่ล้าหลังเป็นการปรับสมดุลของโลกใบนี้ ความลับที่เก็บซ่อนไว้ อาจะเป็นโชคชะตาที่ทำมาเกิดซึ่งความชะล้างเผ่าพันธ์ุ การที่ไม่ยอมรับข้อเสนอของ ฟอร์ดเทสเมื่อ500ปีก่อน นำมาซึ่งสู่การลบล้าง การที่โซลลันญ่า ปฏิเสธการร่วมมือของพวกเรานั้นนำซึ่งมาสู่ความขัดเเย้งของเผ่า เเล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ ในเมื่อตลอด500ปี ไม่มีการตอบรับจากที่นี่ งั้นพวกฉันจะต้องกำจัดพวกคุณเเล้วเอาดูดซับพลังของพวกคุณมาเเล้วทำตามเเผนของพวกเราที่วางเอาไว้ เพื่อจะปรับสมดุลของโลกใบนี้”

     

    “ปรับสมดุลโลกใบนี้ นี่มันหมายความว่ายังไง โลกใบนี้ก็ดีอยู่เเล้ว จะไปรับสมดุลเเล้วมันจะได้ประโยชน์อะไร”

     

    โคมารินั้นก็ได้เรียกดาบออกมา

    “ฉันไม่เข้าใจในเเผนของพวกคุณงั้นฉันจะขอ เเสดงจุดยืนว่าฉันจะไม่ขอเข้าร่วมเเผนการนี้”

     

    คนๆนั้นก็ได้เรียกดาบออกมา

     

    'ธาตุใบไม้งั้นหรอ เป็นธาตุที่เเปลกมากเเต่ว่าเราจะประมาท สิ่งที่อยู่ตรงข้ามเป็นถึงขั้นผู้บริหาร'

     

    ทั้งสองได้เปิดเผยออร่าปะทะกัน เเละทั้งสองนั้นก็ได้เปิดศึกปะทะกันของทั้งสอง ดาบของทั้งสองได้ประชันกันต่างคนนั้นก็ได้ใส่พลังไปเต็มที่เเต่ในขณะนั้น ผู้บริหารที่ไปใส่เดี่ยวกับเซเลสเทียก็ได้กระเด็นออกมาจากห้องนั้น

     

    “กล้ามานะที่มาหลอกว่าจะลงทุนกับเรา ถึงจะเราจะไม่สนใจก็เถอะ”

     

    เซเลสเทียนั้นั้นก็ได้เอาเคียวขู่เข้าไปที่คอของคนนั้น

     

    “ฝ่าบาท”

     

    “ยังไงพวกเราก็ไม่ให้ความร่วมมือ เเละอย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก ไม่งั้นเราจะลงมือขั้นเด็ดขาด”

     

    โคมาริเเละคนนั้นก็หยุดการปะทะกันลง
    ในขณะที่ทั้งสองนั้นเผลอตัวอยู่นั้นทั้งสองผู้บริหารนั้นก็ใช้โอกาสเปิดการโจมตี เซเลสเทียนั้นสามารถรู้ได้ทันเเละได้ปิดฉากนั้นลง เเต่โคมารินั้นได้โดนพลังเวทย์ที่มหาศาลซัดกระเด็ดออกไปที่หน้าต่าง

     

    'เราพลาดจนได้'

     

    โคมารินั้นพยายามจะเรียกปีกออกมาเเต่ว่าปีกนั้นเหมือนจะโดนคำสาปเอาไว้ทำให้เรียกออกมาไม่ได้ เเต่ว่าเอเทอร์นั้นก็ได้ปีกออกมาอย่างรวดเร็วเเละรับตัวของโคมาริเอาไว้

     

    “ไม่เป็นอะไรเเล้วนะ”

     

    เอเทอร์ได้พาโคมาริลงมาอย่างปลอดภัยพร้อมเเก้คำสาปให้

     

    “พวกนั้นมันคืออะไร ทำไมจู่ๆ ถึงโจทตีอย่างกระทันหันเเบบนั้น”

     

    “เป็นพวกฟอร์ดเทส”

     

    “ฟอร์ดเทส!!!”

     

    เอเทอร์ตกตะลึงเป็นอย่างมากเมื่อได้ชื่อเเบบนั้น

    “พวกนั้นมันยังตามไม่ล้มไม่เลิกสักที ผ่านมาตั้ง500ปีมันยังจะไม่ล้มเลิกอีก”

     

    เซเลสเทียนั้นั้นก็ได้บินตามลงมา

     

    “ไม่เป็นอะไรนะ โคมาริ”

     

    “ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ ฝ่าบาท ฉันประมาทเองค่ะ”

     

    “ไม่ต้องกังวล พวกเรามีความผิดพลาดเองได้เสมอ เเต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ไม่ได้เก่งกาจอะไรมากขนาดนั้น”

     

    “พวกนั้นมาเพื่อ จะดูดซับพวกเราสินะ ทำไมต้องเป็นที่นี่ที่เดียว รีบเข้าไปช่วยท่านเเม่กันเถอะ”

     

    ค้างคาวตัวใหญ่ได้บินออกมาจากคฤหาสน์ ผู้บริหารก็ได้กระเด็นออกมา เซเลสเทียนั้นก็ได้ตามมาโดยทันทีพร้อมจะปิดฉากได้โดยเร็วเเต่ว่า

     

    “ถึงเเกจะเก่งเเต่ว่าเรื่องจำนวนที่มากกว่าเเกจะรับมือไหวไหม”

     

    ผู้บริหารคนนั้นก็ได้เเบ่งร่างออกมาเป็น100ร่าง เเละยังจะเเบ่งร่างออกไปได้เรื่อยๆ

     

    “ท่านเเม่ ถึงพวกนั้นจะมีเยอะเเต่ว่าสิ่งที่เเบ่งไปมันก็หารครึ่งไปเรื่อยๆ ถึงจะจัดการได้โดยง่ายเเต่ก็เกะกะอยู่หรอก”

     

    “ฝ่าบาท ฉันจะเข้าร่วมด้วยอีกครั้งค่ะ”

     

    ร่างที่เเบ่งออกมานั้นก็ได้รุมเข้าไปโจมตีทั้งสาม ทั้งสามนั้นก็สามารถจัดการได้โดยง่ายเเต่จำนวนเเบ่งออกมาได้ไม่มีสุดทำให้รับมือค่อนข้างจะยากพอควร

     

    ร่างจริงก็มองเห็นนาน่าจังที่ไม่มีสติอยู่ก็รีบพุ่งตรงเข้าไปโดย

     

    “หึ สุดท้ายฝ่ายของฉันก็ฝ่ายที่เเบ่งชิงมาได้”

     

    เเต่ในขณะนั้น ตาของคนนั้นก็เหมือนจะขาดครึ่งเป็นท่อน เเละก็ได้หล่นตกลงมา หัวของคนนั้นก็ตัดครึ่ง

     

    “ดิฉันไม่ใช่สาวใช้ธรรมดาๆหรอกค่ะ”

     

    เอมิเลียเป็นคนที่ตัดหัวของผู้บริหารของคนนั้นไป ด้วยมีดที่ติดไว้อยู่ที่น่อง ร่างเเบ่งนั้นก็ได้หายไป

     

    “เอมิเลียสามารถจัดการร่างจริงได้หรอ”

     

    เอมิเลียถูกฝึกฝนมาอย่างดีเพื่อที่ต้องปกป้ององค์หญิงให้ปลอดภัยเเละจะต้องสามารถดูเเลได้เหมาะสม

    ทั้งสามนั้นได้บินลงมาที่เอมิเลีย

     

    “เเย่เเล้วค่ะ องค์หญิงไม่ยอมตื่นเลยค่ะ”

     

    “ไม่ต้องกังวลไป เอมิเลีย เราจะช่วยสิ่งนี้เอง”

     

    เซเลสเทียนั้นก็ได้ใช้มีดกีดไปที่มือของตัวเอง เเละป้อนเลือดให้นาน่าจัง

     

    “เท่านี้ก็น่าจะพอเเล้วละ”

     

    “ท่านเเม่ พวกฟอร์ดเทส มันจะอยากได้อะไรขนาดนั้นตลอด500ปี”

     

    “พวกนั้นต้องการ ร่างของจักรพรรดินีคนเเรกของเผ่าเลือด นั้นก็คือโซลลันญ่า บรรพบุรุษของพวกเราเอาละยังเป็นยายทวดของเรา”

     

    “ทั่วจักรวาลอันเเสนหลายจักรวาลได้ถือกำเนิดขึ้น เเต่ในเมื่อจักรวาลนั้นมีมากเกินจนไปนั้นก็ได้ถูกรีเซ็ตจักรวาลโดยที่ให้จักรวาลรวมตัวกันมากที่สุดเเล้วทำการระเบิดที่เรียกว่าบิงเเบง พลังงานมหาศาลจากการระเบิดก็ได้ถูกเเพร่กระจายออกมาได้ทั่วเอกภพ ทำให้จักราวลที่มีมากนั้นเหลือเพียงเเค่7จักรวาลเเละกาเลซี่นั้นขึ้นมาใหม่เเละได้รวบรวมทั้งสรรพสิ่ง เเละนั้นพลังงานที่มันเเพร่กระจายออกไป ก็ถูกรวบรวมจนเป็นพลังงานสสารที่มีความสามารถเเตกต่างออกไป เเบ่งออกมาเป็น7 พลังงานสสาร ”

     

    “พลังงานในอำนาจในการควบคุมความเหนือธรรมชาติ เกิดมาจากพลังงานที่ถูกควบคุมจักรวาล”

     

    “พลังงานที่มีความสามารถการควบคุมจิตใจ เกิดมาจากการสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาในจักรวาล”

     

    “พลังงานที่มีความสามารถในการควบคุมเวลา เกิดมาจากการเร่งเวลาของจักรวาล ทำให้เกิดวงเวียนของเวลา”

     

    “พลังงานที่มีความสามารถควบคุมความเป็นและความตายและถือ เกิดมาจากสิ่งมีชีวิตที่เสียชีวิตไปจากการรีเซ็ตจัดรวาล”

     

    “พลังงานที่มีความสามารถเปลี่ยนเเปลงความเป็นจริงหรือบิดเบือนความเป็นจริงทุกอย่างได้ตามที่ตัวเองต้องการ เกิดมาจากการรีเซ็ตจักรวาล”

     

    “เเละอีก2พลังงานที่ยังไม่มีการเปิดเผย”

     

    “ยายทวดของเรานั้นมีสิ่งที่เรียกว่า พลังงานที่เปลี่ยนความเป็นจริงได้ อยู่ในตัวของยายทวดของเรา เราไม่รู้หรอกว่าไปได้มายังไง เเละเเน่นอนว่าพวกนั้นต้องการเปลี่ยนเเปลงตามที่สิ่งที่มันต้อง ซึ่งนั้นเป็นที่เเน่นอนว่าต้องการไปทำไม”

     

    “เรื่องเเบบนี้เป็นใหญ่เลยสินะครับท่านเเม่ เเล้วท่านเเม่ได้รู้ไหมครับว่า บรรพบุรุษของพวกเราอยู่ที่ใคร”

     

    เซเลสเทียนั้นั้นได้หันไปมองที่นาน่าจังเเล้วก็หันกลับมา

    “ไม่มีใครได้รับรู้สิ่งนั้น”

     

    นาน่าจังนั้นกำลังได้กลับมามีสติอีกครั้ง เเละพยายามลืมตาขึ้นมา

     

    “ อรุณสวัสดิ์นาน่าเจ้าขี้เซา”

     

    “พี่เอเทอร์ เกิดอะไรขึ้นหรอคะ”

     

    “นาน่าได้ใช้นามาไปจนหมด จึงหมดสติไปค่ะ”

     

    “พี่โคมาริ”

     

    “นี่นาน่าจัง ลูกเเม่ ลูกไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมคะ”

     

    “หนูสบายดีค่ะ เเม่จ๋า ทำไมเเม่จ๋า มีรอยเเผลละคะ”

     

    เอเทอร์นั้นจะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นเเต่ก็โดนเซเลสเทียเอามือปิดปากไว้

     

    “เเม่กำลังจะเซ็นงานอยู่ค่ะ เเล้วระหว่างนั้นก็มีเกิดอุบัติเหตุเก้าอี้ เเม่ล้มลงพื้นเลยมีเเผลเเบบนี้น่ะค่ะ”

     

    “เอ๋ เรื่องเเบบนั้นทำให้เเม่จ๋ามีเเผลด้วยหรอคะ เเล้วของพี่โคมาริละนะ”

     

    “ฉันได้บินไปชนกับต้นไม้น่ะ ระหว่างที่กำลังบินโชว์น่ะ”

     

    “เเปลกๆ พี่โคมาริไม่น่าจะชนได้นะคะ ตามที่หนูได้เห็น”

     

    “ชั้นไม่ได้บาดเจ็บอะไร ชั้นเพิ่งออกมา”

     

    “อย่างงั้นหรอคะ”

     

    'พวกเขาพูดจริงหรอ ระหว่างที่ชั้นหลับไปไม่มีเหตุการณ์อะไรขึ้นหรอ ชั้นน่าจะคิดมากไป'

     

    'ใช่มันก็เเค่เรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้น ชั้นก็เเค่หมดสติไป ด้วยความเป็นห่วงพวกเขาก็เลยมาจุ่มดูมาเเบบนี้'

     

    “หนูไม่อยากจะบินเเล้วเเม่จ๋าอุ้มหน่อยได้ไหมค๊าา”

     

    “โคมาริ คุณได้ช่วยนาน่าจังบินหรอคะ ช่างวิเศษจังเลยนะคะ”

     

    “ใช่ค่ะ ฉันเป็นจะสอนเองค่ะ”

     

    “ได้สิคะ เราจะอุ้มตามที่นาน่าจังขอ เเล้วอยากจะไปที่ไหนเป็นพิเศษไหมคะ หรืออยากไปดูคลังสมบัติไหมคะ เผื่อจะได้เห็นสมบัติของที่นี่”

     

    “ไม่ค่ะ หนูขอไปที่เก็บร่างของบรรพบุรุษโซลลันญ่าได้ไหมคะ”

     

    “...”

    ทุกคนนั้นต่างก็เงียบลงเเละได้หยุดนิ่งลงไป

     

    'นี่ชั้นพูดอะไรผิดไปรึเปล่า'

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×