คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ป่วนที่ 02 : ไร้สามัญสำนึก by มากาเร็ต
โรงเรียนเวทย์มนต์อิสตัล ประกอบไปด้วยบ้านหลัก 3 บ้าน อันได้แก่ บ้านแอดเลอร์ บ้านออร์ก้าและบ้านแลงค์ ซึ่งจะคัดสรรจากบุคลิกและอุปนิสัยของนักเรียนคนนั้น ๆ ผ่านการจับเขายูนิคอร์นซึ่งทำหน้าที่ในการคัดแยกบ้านของนักเรียนแต่ละคน
บ้านออร์ก้าคือจุดรวมอัจฉริยะและคนแปลกประหลาดเข้าด้วยกัน หนึ่งในนั้นมีทั้งคนดีและคนนิสัยเสีย ที่ควรโดนจับดัดนิสัยก่อนที่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นไปมากกว่านี้ หนึ่งในนั้น
การ์ปัชโช่ หลัวหยาง
เด็กหนุ่มผู้ถือครองไม้กายสิทธิ์มาสเตอร์เคน 1ใน13 ไม้กายสิทธิ์ชั้นยอด เป็นนักเรียนชั้นปี1ที่เทียบโอนเข้ามาและถูกเขายูนิคอร์นเลือกเข้าสู่บ้านออร์ก้า เข้าเรียนวันแรกก็ก่อเรื่องให้พรีเฟ็คบ้านปวดเศียรเวียนกล้าวจนอยากเอาเท้ากายหน้าผากวันละหลายรอบกันเลยทีเดียว ปัจจุบันเลยโดนจับแยกให้อยู่คนเดียวเพราะทำรูมเมทร่วมห้องเข้าห้องพยาบาลเป็นว่าเล่น
เป็นคนอีโก้สูงเทียมฟ้าที่มองคนอ่อนแอไม่ต่างไปจากเศษสวะที่ตนจะทำอะไรยังไงก็ได้และพร้อมจะน้อมรับคนแข็งแกร่ง ไม่ใช่ไม่มีใครไม่อยากจัดการดัดนิสัยเสีย ๆ นั่น แต่เพราะเวทย์พิเศษของการ์ปัชโช่ที่ถ่ายโอนบาดแผลและควาเจ็บปวดของตัวเองมอบให้คนอื่น เพราะแบบนี้เจ้าตัวเลยไม่เคยรู้สึกและสัมผัสถึงความเจ็บปวดเลยสักครั้ง นอกจากจะมีคนที่แก้ทางได้ ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยไงละ
"การ์ปัชโช่ หลังหยาง?"
ร่างเล็กอย่างกับเด็กปฐมวัยเอียงคออย่างใคร่รู้เมื่ออยู่ ๆ พรีเฟ็คบ้านออร์ก้าย่างมากาเร็ตดันเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางบทสนทนาของเพื่อนต่างขนาดทั้งสอง
"ใช่แล้ว ถือว่าเป็นเด็กที่น่าสนใจเลยละ แต่ก็น่าปวดหัวไม่ต่างกัน เลยจัดให้พักอยู่ห้องใกล้ฉันละ" ร่างหนากุมแก้มถอดถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน
"ขนาดนั้นเลย?" เลิกคิ้วถามก่อนจะหยิบคุ้กกี้ที่ทำตั้งไว้เข้าปากหงุบหงับ
"เธอต้องเจอกับตัวถึงจะรู้ซึ้งถึงความแสบสันต์ของเด็กนั่น เฮ้อ~ แล้วเมื่อไหร่เธอจะมาประลองเวทย์กับฉันอีกละเดียจัง" ไหงลากเข้าเรื่องนี้ได้เนี่ยเจ๊!
"ไม่อยากสู้กับคนที่เป็นเพื่อนกันสักหน่อย นอกรอบจากพวกวิชาบังคับขอผ่านจ้า"
"โธ่~ เเค่ประลองเวทย์เองนะ ไม่ได้สู้กันถึงขั้นเลือดตกยางออกสักหน่อย ทั้งที่ตอนกวัดแกว่งไม้กายสิทธิ์เธองดงามขนาดนั้นแท้ ๆ"
ดวงตาสีดอกวิสทีเรียหรี่มองคนตรงหน้าอย่างเหนื่อยใจ แต่ก็ส่ายหน้าอย่างคนปฏิเสธหนักแน่น ไม่คิดต่อบทสนทนาเรื่องนี้อีก ประลองกันแต่ละทีลานประลองเละเป็นโจ๊กอะคิดดู
คนโดนปฏิเสธทำหน้างอง้ำก่อนจะหยิบกุ้งทอดและซอสครีมจากแขนเสื้อมานั่งกินบ้าง(เจ๊เก็บในไหนนะ?!) ร่างหนาแอ่นหลังพิมเก้าอี้ในสวนสมุนไพรของรุ่นน้องแสนจืดจาง วันนี้เป็นนัดดื่มน้ำชายามบ่ายสำหรับสาว ๆ เพราะงั้นหนุ่มฝาแฝดซึ่งเป็นผู้ติดตามสุดน่ารักจึงไม่ได้เข้าร่วมด้วย ถึงส่วนใหญ่จะพูดถึงเรื่องสัพเพเหระก็ตามที
สำหรับมากาเร็ต มาการอง ใช่ว่าจะยอมรับใครง่าย ๆ อีกฝ่ายต้องแข็งแกร่งพอสมควร แม้จะไม่มากแต่ต้องมีท่วงทำนองที่งดงาม เพราะงั้นผู้หญิงด้วยกันที่พูดคุยกันได้จึงมีน้อย ที่สนิทที่สุดตั้งแต่เข้าปี 1 มาคือ ดิโอน่า โรซซี่ เด็กสาวตัวเล็กที่ปริมาณพลังเวทย์ไม่ธรรมดา ทั้งเธอทั้งอีกฝ่ายเคยประลองเวทย์มาหลายต่อหลายครั้งแต่ไม่มีครั้งไหนที่ร่างเล็กจะใช่พลังถึงขีดสุดของตน จะบอกว่าไม่เอาจริงก็ไม่ใช่อีกนั่นละ น่าจะเรียกได้ว่ายังไม่หยิบไพ่ตายของตัวเองมาใช้เลยเสียมากกว่า เธอเองก็เหมือนกัน
ส่วนเด็กสาวแสนจืดจางนั้น..
นัยน์ตาคมหรี่มองร่างซีดเซียวแสนจืดจางที่โผล่ตรงสมุนไพรแปลงนั้นทีแปลงนี้ทีอย่างกับวิญญาณ เป็นคนที่ทำให้เธอแพ้ทางที่สุดเท่าที่เคยสู้ด้วยมา เพราะรูปแบบเวทย์มนต์ของอีกฝ่ายมันพิเศษด้วยแหละเลยยากที่จะแก้ทาง
"..รุ่น...พี่.." เสียงเอื่อย ๆ ดังขึ้นใกล้ ๆ จนคนทั้งสองละความสนใจจากบทสนทนาและของว่างตรงหน้า
"มีอะไรเหรอจ๊ะเซจัง" เสียงทุ่มของมากาเร็ตเอ่ยถามมือข้างหนึ่งถือซ่อมที่เสียบกุ้งชุบแป้งทอดเอาไว้ส่วนอีกข้างก็ถือถ้วยใส่ซอสครีม
"วันนี้...เจ้าหนูมัช...มีแข่งดูเอลโล่...ละ"
"เจ้าหนูมัช? น้องของเดียจังนะเหรอ?" คิ้วหนาเลิกขึ้น นึกถึงชื่อที่ได้ยินเพื่อสาวพูดถึงบ่อย ๆ น้องชายของอาจารย์ที่ตัวเองรักไม่ต่างจากน้องแท้ ๆ คนนั้นนะเหรอ?
"ใช่แล้วมาร์จัง ไปดูด้วยกันไหม? มาร์จังต้องตกใจมากแน่ ๆ เชื่อเค้าสิ" ร่างเล็กยิ้มกว้างอย่างสนุกสนานเมื่อนึกถึงปฏิกิริยาที่จะแสดงออกมาของอีกฝ่าย
"เดี๋ยวนะ.." พรีเฟ็คสาวเริ่มฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้
"เด็กคนนั้น น้องชายหล่อนไม่ใช่ว่า.."ไม่มีเวทย์มนต์.. ได้แต่กลืนคำลงท้ายไปในคอเพราะไม่อยากเอ่ยกระทบจิตใจเพื่อนสาว โลกเวทย์มนต์ที่ให้ค่ากับพลังเวทย์เป็นที่สุดแบบนี้ คนที่ไร้เวทย์มนต์ไม่ต่างไปจากตราบาปที่โดนกระทรวงเวทมนตร์ตามล่าเลยนะ! เพราะงั้นถึงพูดออกมาไม่ได้ไงละ
"ม่า กระทรวงเวทมนตร์ไม่ใช่สิ่งที่เค้าควรกังวลหรอกนะ ระบบห่วย ๆ แบบนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงสิ จริงไหม?" ในสักวัน..
"ถือว่าฉันไม่รับรู้เรื่องนี้แล้วกันนะ เฮ้อ ~ หล่อนหาเรื่องให้ฉันปวดหัวอีกแล้วนะยัยตัวดี" คนตัวโตไหวไหล่ ปล่อยเบลอเรื่องที่เกินคาดนั้นไปละกันส่วนเรื่องน้องชายของดิโอน่า คนธรรมดาในโรงเรียนเวทย์มนต์งั้นเหรอ? น่าสนใจดีนี่..
"แล้วมาร์จัง จะไปด้วยกันไหม?"
รอยยิ้มพริ้มพรายแต่งแต้มบนริมฝีปากหนา
"แน่นอนว่าไปจ้ะ"
.......
ดุเอลโล่คือการแข่งขันที่ขี่ไม้กวาดแล้วคว้างบอลลงห่วง เป็นกีฬาที่ฮอตพอสมควรในโลกเวทย์มนต์แห่งนี้เนื่องจากต้องใช้ทักษะของเวทย์มนต์การบินค่อนข้างสูง การแข่งขันในครั้งนี้คือการปะทะกันของสองบ้านอย่างบ้านแอดเลอร์และบ้านแลงค์ ซึ่งบ้านออร์ก้าไม่ได้เข้าร่วม หลัก ๆ คือไม่มีใครสนใจเรื่องพวกนี้ด้วยนั่นแหละ
แล้วทำไมบ้านออร์ก้าสองคนถึงมาโผล่อยู่กลางดงบ้านแอดเลอร์ได้กันฟะ?! แถมหนึ่งในนั้นยังเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบ้านออร์ก้าอย่างมากาเร็ต มาการองคนนั้นอีกด้วย! (ไม่มีใครเห็นเซโร่..)
"ยะโฮ ฟินน์จัง" เสียงมาพร้อมกับร่างเล็กโบงมือทักทายรุ่รน้องใบหน้าตกกระ
"รุ่นพี่เดียไหงมาโผล่ที่นี่ได้ครับ?!"
"การแข่งขันครั้งแรกของมัชจังในโรงเรียนทั้งทีนี่นา จะพลาดได้ไง" เสียงใสตอบด้วยความตื่นเต้นพร้อมนั่งลงข้างเด็กหนุ่ม
"ลืมแนะนำไปเลยนี่มาร์จังเพื่อนเค้าเอง" พายมือหยอย ๆ ไปที่ร่างหนาที่ลงนั่งข้างกัน ฝ่ายคนโดนแนะนำก็แย้มยิ้มเป็นมิตรไปให้ ถึงจะขี้กลัวไปหน่อยแต่ก็น่ารักดีนี่นา
"พะ พรีเฟ็คบ้านออร์ก้า?!" เด็กหนุ่มหน้าซีดแล้วหน้าซีดอีกเสียงที่เอ่ยอย่างตะกุกตะกักเมื่อเห็นคนที่แข็งแกร่งขนาดนั้นมาโผล่ที่นี่
"ไม่ต้องเกร็งน้า มาร์จังเป็นคนดีม๊ากมาก" เมื่อเห็นสีหน้ากังวลเช่นนั้นจึงกล่าวยืนยันเสียงหนักแน่น
"ตายจริงพูดแบบนี้ก็เขินแย่สิจ๊ะ" ฝ่ายโดนชมก็ยิ้มรับอย่างอารมณ์ดี
"เอ่อ..ฟินน์คุงพวกเขา.." เด็กสาวผมสีอำพันสีเดียวกับสีนัยน์ตาเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล
"อะ นี่เลม่อนจังครับ เพื่อนใหม่ของพวกผม ส่วนทางนี้รุ่นพี่ดิโอน่าเป็นพี่สาวของมัชคุงแล้วก็รุ่นพี่มากาเร็ตพรีเฟ็คบ้านออร์ก้า แล้ว..อะ รุ่นพี่เซไม่มาด้วยเหรอครับ?"
"..อยู่..นี่.."
"?!"
เสียงจากข้างหลังเหนือหัวของตนทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งสุดกู่ ก่อนจะเงยหน้ามองไปยังต้นเสียงซึ่งคือหญิงสาวแสนจืดจางที่ยืนค้ำหัวเด็กหนุ่มพร้อมก้มหน้ามองทำให้เส้นผมสีขาวยาวของอีกฝ่ายปัดป่ายส่วนแก้มที่ขึ้นกระจนอดจั๊กจี๋ไม่ได้ เพราะอยู่ในท่วงท่าแบบนี้จึงเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายได้ชัดเจน
"..ปานรุ่นพี่มัน.." ฟินน์มองคนที่ลงไปนั่งสำรวมอย่างพูดไม่ออก จำนวนปานที่เขาเห็นมัน..
"ชู ...อย่าเอะอะไป..." ใต้กลุ่มผมยาวคือรอยยิ้มอันตรายจากคนเอื่อยเฉื่อยจนเด็กหนุ่มต้องพยักหน้าอย่างหนักแน่นด้วยความกริ่งเกรง
เด็กหนุ่มนั่งตัวเกร็งจนกระทั่งการแข่งขันเริ่มขึ้น
ตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน มัช เบิร์นเดด ยังไม่แม้แต่จะบินขึ้นฟ้าได้แต่มองการแข่งขันตรงหน้าด้วยสายตานิ่งสนิท
"จะไม่ป็นไรเหรอแบบนี้นะ?" ร่างหนาเลิกคิ้วถามร่างเล็กที่มองดูการแข่งเหมือนรอลุ้นอะไรบางอย่างอยู่
"เด็กคนนั้นต้องโดนกระตุ้นถึงจะเริ่มลงมือทำอะไร เค้ากำลังรอดูอยู่ว่าสถานการณ์นั้นจะมาเมื่อไหร่"
"เห๋.."
และไม่ให้พรีเฟ็คบ้านออร์ก้ารอนาน หัวหน้าทีมอย่างทอมลงไปหาเด็กหนุ่มหน้านิ่งเพื่อพูดอะไรบางอย่างก่อนจะควบขี่ไม้กวาดขึ้นฟ้าไม่ทันไรก็โดนคนจากบ้านแลงค์กระแทกตัวจนตกจากไม้กวาด ร่างกายกระแทกพื้นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้ทำให้เด็กหนุ่มของขึ้น กระโดดขึ้นฟ้าด้วยกำลังขาอันแข็งแกร่งแล้วเตะขารัว ๆ เพื่อให้ร่างกายลอยอยู่หนืออากาศ มือหนาของพรีเฟ็คบ้านออร์ก้ายกขึ้นปิดปากตัวเองกันหลุดเสียงอุทานออกมา
คนที่ไม่มีเวทย์มนต์ทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ?!
ถ้ามากาเร็ตไม่รู้มาก่อนหน้าว่าอีกฝ่ายไร้เวทย์มนต์และตัวเองก็สัมผัสเวทย์มนต์จากร่างอีกคนไม่ได้ มันก็ยากจะเชื่อว่านั่นคือความสามารถของกล้ามเนื้อล้วน ๆ ไม่มีอย่างอื่นผสม ไหนจะการปาบอลที่กำหนดวิถีโค้งจากปลายนิ้วนั่นอีก หลุดกรอบสามัญสำนึกของคนธรรมดาไปไกลเลยแหะ..
สุดท้ายบ้านแอดเลอร์ก็เป็นฝ่ายชนะด้วยสกอร์คะแนสูงที่สุดในประวัติการ แตะที่เพดานคะแนนสูงสุดที่การแข่งขันกำหนดคือ 999 คะแนน! เสียงโห่ร้องยินดีของบ้านแอดเลอร์ดังกระหึ่มทั่วสนามการแข่งขัน
ร่างทั้งสามของคนต่างบ้านลุกจากที่นั่งผู้ชมก่อนจะแยกตัวออกไปโดยที่ร่างเล็กสุดในกลุ่มวิ่งไปแสดงความยินดีกับน้องชายด้วยการกระโดดกอดและชูครีมใส้ทะลักเป็นของรางวัลแก่คนเก่ง
......
ชักอยากรู้แล้วสิ ถ้าปะทะกับผู้ใช้เวทย์มนต์อีกฝ่ายจะรับมือยังไง ... จะมีความสามารถมากกว่าที่เห็นอยู่รึเปล่านะ..
หน้าสนใจแหะ มัช เบิร์นเดด งั้นเหรอ
นัยน์ตาสีฟ้าสว่างหรี่มองเพื่อนตัวเล็กซึ่งได้ฉายาตุ๊กตาประจำบ้านกระโดดกอดแสดงความยินดีให้กับน้องชายที่แสนเก่งกาจ รอยยิ้มอันตรายเผยบนกลีบปากที่ทาลิ้ปสติกสีม่วงฉ่ำวาว
"..รุ่นพี่..หน้าชั่วอะ..." แต่ดันโดนรุ่นน้องแสนจืดจากช๊อตฟิวเสียได้
"เขาเรียกรอยยิ้มทรงเสน่ห์ยะ ยัยเด็กนี่" ร่างหนาพูดจีบปากจีบคอพร้อมหรี่ตามองรุ่นน้องแสนจืดจางตรงหน้า
"แล้วอย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าหล่อนเองก็ทำตัวมีพิรุธน่ะ ตั้งแต่เริ่มเปิดเรียนมา"
"..คิดไป..เอง.." คุณแม่ประจำบ้านหรี่ตามองคนหลบสายตาอย่างส่อแววมีพิรุจมาแต่ไกล
"เอาเถอะ เจ๊จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปก่อนละกัน แต่ถ้าเดียจังรู้เข้าอย่าลากเจ๊ไปเอี่ยวด้วยละ"
คิ้วเรียวของเด็กสาวร่างจืดจากขมวดกันยุ่ง นัยน์ตาสีซีดมองไปยังรุ่นพี่ร่างเล็กที่ทำตัวไม่ต่างไปจากผู้ปรกครองของตน คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
แค่มีแฟนเอง...
ความคิดเห็น