คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ป่วนที่ 01 : ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ของน้องชาย
อาทิตย์ของวันเปิดภาคเรียนที่แท้จริงหลังจากการเลือกหอเสร็จแล้ว จากนั้นการเรียนการสอนในวันแรกจึงเริ่มขึ้น ชั้นปี1คงเริ่มจากการเรียนวิชาขั้นพื้นฐาน อย่างเวทย์มนต์ทั่วไป ปีสองกับปีสามคือหาแรงบันดาลใจในการทำวิจัยของแต่ละคนไป เพราะงั้นเสียงตูมตามจึงดังขึ้นในทุกช่วงเวลาของบ้านออร์ก้า
แขนเล็กของรุ่นพี่สาวถือหนังสือเล็มหนาไว้สองถึงสามเล่มเพื่อนำข้อมูลมาทำวิจัยเครื่องอุปกรณ์เวทย์มนต์ของตนต่อ ของที่สร้างเสร็จไปแล้วอย่างอุปกรณ์ที่สลักเวทย์ติดตาม สิ่งที่จะทำต่อไปคือประตูวาป พอคิดถึงประตูที่พาบุคคลไปที่ไหนก็ได้ตามจุดที่มาร์คไว้ ก็รู้สึกตื่นเต้นจนอยากจะเห็นของที่ตัวเองสร้างเสร็จสมบูรณ์
แต่ใช่ว่าจะง่ายดายขนาดนั้น..
ตู้ม!!!!!
อุปกรณ์เวทย์และวงแหวนเวทย์ขนาดใหญ่บนพื้นห้องวิจัยแตกระเบิดออกมาเป็นกลุ่มควันและประกายไฟสีเหลืองที่แสดงการขัดข้องของเครื่องมือเวทย์ที่ดูดซับพลังเวทย์ของคนเป็นเจ้าของเอาไว้
"ไม่สำเร็จแหะ อืม~ขาดอะไรไปนะ" มือที่ปกคลุมด้วยแขนเสื้อที่ยาวคลุมมือเล็กคู่นั้นยกขึ้นกุมคางอย่างคุ้นคิด ก่อนจะเดินออกไปจากห้องทดลองเพื่อหาข้อมูลเพิ่มสำหรับการวิจัย
โดยทิ้งซากรูกลางผนังขนาดใหญ่พร้อมกับตามมาด้วยเสียงกรี้ดอย่างหมดความอดทนของพรีเฟ็คบ้านออร์ก้า
"รอบที่สองของอาทิตย์นี้แล้วนะยะที่หล่อนพังห้องวิจัยน่ะ! ดิโอน่า โรซซี่!!!!"
"อะแย่ละ.."
........
มากาเร็ต มาการอง พรีเฟ็คสาวแสนใจดีผู้เป็นคุณแม่ประจำบ้านออร์ก้า ถ้าพูดกันตามจริงมากาเร็ตเป็นคนที่ใจเย็นมากคนนึงเลย สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเธอได้มากที่สุดคือความแข็งแกร่ง ยิ่งได้ปลดปล่อยพลังออกมามากเท่าไหร่ยิ่งเป็นเรื่องชวนสุขใจของเธอ แต่ตอนนี้บุคคลที่ทำให้เธอหัวร้อนได้ขนาดนี้ ใบหน้าคมสันที่เคลือบไปด้วยอายแชโดว์สีม่วงเข้าคู่กับสีลิปสติก หน้าผากมนจากการตัดผมทรงสกินเฮดปูดโปนจากรอยเส้นเลือดข้างขมับ
น้ำเสียงทุ้มที่ถูกดัดให้แหลมเอ่ยสาธยายความผิดที่ยาวเป็นหางว่าวของเพื่อนสาวตัวเล็กที่กำลังนั่งคุกเข่าสำนึกผิดอยู่ ไหล่เล็กลู่ลงอย่างคนที่เถียงอะไรไม่ออกทำเอาคนที่กำลังเทสนาอยู่รู้สึกไม่อยากบ่นมากไปกว่านี้
"เดียจังรอบนี้ระเบิดมากกว่าทุกทีนะ ฉันก็ไม่อยากห้ามหรอก แต่มันอันตรายจริง ๆ นะแบบนี้.."
พอนึกถึงบิลที่ต้องยื่นเรื่องเบิกซ่อมห้องวิจัยแล้ว 1ใน3 ของต้นเหตุคือร่างเล็กตรงหน้าเนี่ยแหละ บ้านที่ใช้งบเยอะที่สุดในสามบ้าน แห่งสถาบันเวทย์มนต์อิสตัล ถ้าบ้านออร์ก้าเป็นรองคงไม่มีใครขึ้นเป็นอันดับ1แล้วละ ...
"มาร์จัง มันใกล้เสร็จแล้วน้า~ อีกแค่นิดเดียวเอง นะ น้า~"
ตากลมโตออดอ้อนกระพริบปริบ ๆ เพื่อขอความเห็นใจ
"ถ้าสมบูรณ์แล้วการเดินทางไปไหนมาไหนจะง่ายขึ้นเยอะเลยนะโดยเฉพาะการเดินทางข้ามทวีปอะ ขอร้องละนะมาร์จัง ให้เค้าวิจัยต่อเถอะน้า~เรื่องค่าเสียหายเค้ารับผิดชอบเองน้า"
ก็เพราะวนมาอีหรอบนี้ตลอดเลยนั่นแหละนะ ใครจะไม่ใจอ่อนกับอีกฝ่ายกัน ร่างหนาของพรีเฟ็คสาวถอดถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน มือหนายกขึ้นกุมแก้มที่ปรากฎปานตัวโน๊ตดนตรีอย่างจนใจ
"เข้าใจแล้ว แต่ทางที่ดีอย่างทำลายห้องวิจัยอีกเป็นพอ"
"รักมาร์จังที่สุดเลยยย"
ร่างไซด์มินิกระโดดกอดเอวหนาด้วยรอยยิ้มกว้าง คนโดนกระโดดกอดได้แต่คิ้วกระตุกกับแรงกอดที่รัดแน่นเกินที่คนปกติจะทำได้
"ปล่อยก่อน ๆ หล่อนจะรัดแน่นเกินไปแล้วเจ๊หายใจไม่ออกค่ะ!" ก็ได้แต่สงสัยว่าแขนเล็ก ๆ นั่นไปเอากำลังแขนจากไหนมารัดร่างหนา ๆ ของตนได้ จะน่ากลัวไปแล้วนะยะยัยตัวเล็กนี้!
........
ร่างเล็กในเครื่องแบบต่างบ้านเด่นสดุดตาในกลุ่มต่างบ้านอย่างบ้านแอดเลอร์ กลางดงเสื้อคลุมดำกลับมีเด็กสาวชุดคลุมสีเขียวขาวเดินเอ้อระเหยลอยชายอยู่อย่างสะบายใจอย่างไม่กลัวว่าจะมีใครแอบดักตีหัวหรือโดนยำตีนเละเลยแม้แต่น้อย
"ฮือ ฮืมมมม อะ ห้องนี้สินะ!"
กลุ่มผมสีครามหยุดลงหน้าประตูบานหนึ่ง ข้างผนังติดป้ายหมายเลข302เอาไว้
ก๊อก ก๊อก!!
"มัชจัง! อยู่อะเปล่า?"
เสียงเคาะประตูมาพร้อมเสียงเรียกชื่อเจ้าของห้อง รอไม่นานเสียงขานรับและประตูไม้ขัดมันก็เปิดขึ้น
ฟินน์ เอนส์ รูมเมตของมัช เบิร์นเดด เป็นเพื่อนที่สนิทกันหลังจากที่ผ่านเหตุการ์ณที่ฟินน์โดนแกล้งและมัชจัดการเอาคืนก่อนจะโดนผู้อำนวยการเรียกไปตักเตือนเล็กน้อย
เด็กหนุ่มหน้าตกกระที่มีเส้นผมสีดำและเหลืองอย่างละครึ่งมองซ้ายมองขวาหาคนที่เคาะประตูเรียก
"เค้าอยู่นี้!"
เสียงดังขึ้นด้านหน้าทำให้เด็กหนุ่มต้องก้มหน้าลง ก่อนจะอุทานออกมา
"ดะ..เด็ก...เหรอ?"
"ไม่ใช่เด็กสักหน่อย! รุ่นพี่ต่างหารุ่นพี่น่ะ! เค้าขอเข้าห้องหน่อย"
สิ้นเสียงนั้นเด็กหนุ่มก็หลีกทางให้ด้วยสีหน้ามึนงงเพราะยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ก่อนจะปิดประตูแล้วเดินตามหลังร่างเล็กที่สวมชุดคลุมบ้านออร์ก้าที่ยาวลากพื่น เดี่ยวนะ! รุ่นพี่ต่างบ้านเหรอ?! กว่าสติจะกลับมาฟินน์ก็เห็นร่างเล็กเดินไปหาเพื่อนชายอย่างมัชที่กำลังออกกำลังบริหารกล้ามเนื้ออยู่ เสียงทักทายอย่างสนิทสนมทำให้เด็กหนุ่มใบหน้าตกกระเผยสีหน้าเหลอหลาออกมา
"ยะโฮ มัชจัง มาเยี่ยมแล้วจ้า"
"อุส! ยินดีต้อนรับ พี่เดีย"
"ดะ เดี๋ยวนะ! พี่เหรอ?! พี่สาวของมัชคุงเหรอครับ?!" ก่อนจะตื่นตระหนกไปมากกว่านี้ฟินน์ก็โดนเด็กสาวที่เรียกตัวเองว่ารุ่นพี่พามานั่งที่เก้าอี้เพื่อสงบสติอารมณ์
"เอาละ ๆ อย่าตกใจมากไปเดี๋ยวความดันขึ้นนะเอมส์คนน้อง เอาชูครีมหน่อยไหมจะได้อารมณ์ดีขึ้น"
คนถามไม่รอคำตอบก็ยัดชูครีมใส่มือรุ่นน้องต่างบ้าน ส่วนเจ้าของของฝากอย่างมัชก็เคี้ยวชูครีมแก้มตุ้ย ๆ ฝ่ายเด็กหนุ่มหน้าตกกระที่เห็นคนทั้งสองกินชูครีมอย่างสบายอารมณ์ก็ได้แต่ตามน้ำเคี้ยวชูครีมตุ้ย ๆ ไม่ต่างกัน รสชาติละมุนที่ไม่เลี่ยนคละคลุ้งอยุ่ในปากทำให้เด็กหนุ่มค่อย ๆ ละเมียดละไมกับรสชาติที่ได้สัมผัสอย่างอารมณ์ดีโดยลืมความตื่นตระหนกก่อนหน้านี้ไปเลย เด็กสาวและเด็กหนุ่มสบตากันอย่างรู้ความหมาย นัยน์ตาสีดอกวิสทีเรียหรี่มองบาดแผลตรงแก้มของเด็กหนุ่มใบหน้าตกกระที่ค่อยสมานตัวอย่างช้า ๆ ยาของเซจังดีที่สุดจริง ๆ นั่นละ..
มัชติดต่อมาว่าเพื่อนของตนได้รับบาดเจ็บ แล้วก็อยากกินชูครีม เนื้อหาหลักจริง ๆ คงเป็นข้อหลังแต่ก็นะ ทำชูครีมที่เพิ่มยารักษาเวอร์ชั่นเซโร่เอาไว้เลยแล้วกัน ไร้รสไร้กลิ่นของดีต้องยอมชูฮกให้รุ่นน้องคนนี้ของเธอเลย
"ม่า สาเหตุหลัก ๆ ก็เพื่อมาเยี่ยมมัชจังแล้วก็ทำความรู้จักเพื่อนคนแรกในโรงเรียนของเด็กคนนี้น่ะ ยังไงก็ฝากตัวด้วยนะฟินน์จัง ส่วนเค้าชื่อ ดิโอน่า โรซซี่ ปี3บ้านออร์ก้าจ้า ถ้าสนใจเรื่องอุปกรเวทย์และกลไกเวทย์มนต์ก็มาหาได้ตลอดเลยน้า"
ชื่อที่คุ้นหูทำให้เด็กหนุ่มอุทานออกมา
"ดิโอน่า โรซซี่.. หมายถึง! ดิโอน่า โรซซี่อัฉริยะผู้คิดค้นตู้เก็บของอเนกประสงค์ที่สามารถเก็บของอะไรก็ได้โดยด้านในจะมีเวทย์หยุดเวลาเอาไว้ คนนั้นนะเหรอครับ!?"
"โอะ รู้จักด้วยแหะ เขินจัง" ใบหน้ากลมเล็กแย้มยิ้มอย่างอารมณ์ดีที่มีคนจดจำได้ว่าเธอสร้างอะไรไปบ้าง น่ายินดีจริง ๆ
"เห อะไรอะ?" เด็กหนุ่มหน้าตายเอียงคอถามอย่างสงสัย
"มันเป็นอุปกรณ์เวทย์ที่ฟุ่มเฟือยมากแต่ก็นิยมใช้ในร้านอาหารเพราะสามารถเก็บวัตถุดิบได้อย่างสดใหม่ได้เลยนะ ตอนนี้ถูกครอบครองการผลิตโดยกลุ่มการค้ากุหลาบขาวละ! ไม่คิดเลยว่าผู้คิดค้นจะเป็นรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกันแบบนี้!"
"ชมแบบนี้เค้าเขินน้า แฮะ แฮะ"
"เอ่อ.. หมายถึง ตู้เก็บของ?"
"ช่าย ๆ ตู้เก็บของในบ้านมัชจังนั่นละ อันนั้นน่ะ รุ่นต้นแบบที่สร้างสำเร็จเลยน้า เพราะงั้นเลยยกให้พวกท่านพี่ละ เก็บของได้เยอะเลยใช่ม้า สามารถแบ่งสัดส่วนได้ด้วยนะ มันจะได้หาง่ายเวลาอยากใช้ละ"
สองคนนี้คุยเรื่องอุปกรณ์เวทย์สุดไฮเทคนั่นอย่างกับของใช้ในครัวเรือนเลยครับท่าน!! (ก็ของใช้ในครัวเรื่อนจริง ๆ นี่)
"แล้วก็อีกคนที่อยากให้ทำความรู้จัก เซจังนั่นเองจ้า!" น้ำเสียงสดใสดังขึ้นก่อนจะภายมือทั้งสองข้างไปที่ความว่างเปล่าข้างตัวเองจนเด็กหนุ่มใบหน้าตกกระเผยสีหน้าฉงน
"คะ คือว่านะครับ ตอนรุ่นพี่เข้ามาเนี่ย เข้ามาคนเดียว..ไม่ใช่.. เหรอครับ" เสียงกล่าวของเด็กหนุ่มใบหน้าตกกระค่อย ๆ เบาลงพร้อมกับความเย็นยะเยือกที่อาบไล่ห้องพักของตนและรูมเมดอย่างมัช
เงาจาง ๆ ค่อย ๆ ปรากฏจากความว่างเปล่าที่โดนแสงยามเย็นตกกระทบ ดวงตาสีคัสตาดค่อย ๆ เบิกกว้างพร้อมกับเหงื่อเย็นที่อาบเต็มแผ่นหลัง ขาเรียวภายใต้เครื่องแบบก้าวถอยหลังอย่างสั่นเทาโดยไม่ละสายตาของเงาที่เริ่มปรากฏรูปร่างชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ภายใต้เงาตกกระทบของเส้นผมสีขาวซีดคือดวงตาสีขาวที่ว่างเปล่า ก่อนที่สีดำจะกลืนกินสติของเด็กหนุ่มจนร่างกายโงนเงนล้มลง แต่เคราะดีที่คนที่ร่างขาวซีดรู้ตัวได้เร็วจึงขยับไปรับตัวของอีกฝ่ายได้ทันก่อนที่จะลมหัวฟาดพื้นแล้วมีแผลเพิ่มอีกแผล
"ทำรุ่นน้องกลัวไม่ดีนะเซจัง" รุ่นพี่ตังเล็กอดจะเอ่ยดุไม่ได้
"อยู่ตรงนี้ตลอดแท้ ๆ นะ แปลกจัง" คนโดนดุอดบ่นอุบอิบไม่ได้ ก่อนจะหันไปมองเจ้าของห้องอีกคนที่แข็งค้างไม่ต่างกัน ช็อคขนาดนั้นแต่ชูครีมยังเต๋มปากอยู่เลยนะ เชื่อเขาเลย
"อะ.." ดูเหมือนสติของมัชจะกลับมาแล้ว
"น่ากลัวนะครับเซจัง เมื่อกี้น่ะ.." กล่าวด้วยสีหน้านิ่งสนิท
"อ่า...คราวหลังจะระวัง.." ตอบรับในลำคออย่างขอไปทีมาก แน่นอนว่า คราวหลังจะทำอีกจ้า เรื่องสนุกแบบนี้ใครจะไปพลาด..
...........
"เฮื่อก ฝัน.... หรอกเหรอ? เฮ้อ.."
เด็กหนุ่มสะดุ้งตื่นลุกขึ้นจากเตียงอย่างตื่นตระหนก ฝันร้ายสุด ๆ โรงเรียนเวทย์มนต์จะมีผีได้ยังไงกัน ใช้แล้ว สงสัยวันนี้คงเสียเลือดมากจนเพ้อเจ้อแน่นอนเลยฟินน์ เอมส์ ผีนะจะไปมีจริงได้ที่ไหนกัน-
"มีจริงนะ วิญญาณน่ะ.."
สิ้นเสียงที่ไม่คุ้นหูเด็กหนุ่มก็หันควับไปที่เก้าอี้ตรงปลายเตียงของตน ร่างขาวซีดนั่งอยู่ตรงนั้น ผมยาวสีขาวปรกใบหน้าเห็นเพียงดวงตาสีซีดพร้อมรอยยิ้มที่ฉีกกว้าง
"อ้าก! มัชคุง! ช่วยด้วยผีหลอก!! กรี้ด!!" เด็กหนุ่มกระเสือกกระสนวิ่งไปเกาะขาเพื่อนที่นั่งกินชูครีมอย่างสบายใจเฉิบอย่างไม่ดูสถานการ์ณ ไม่กลัวเลยหรือไงครับท่าน!!!!?
"ฮี่..ฮี่..."
"พอเท่านั้นละ"
ผั่วะ!
"แอ๊ก"
ร่างขาวซีดที่ทำผมปิดหน้าปิดตาโดนสันมืออรหันต์ของรุ่นพี่ตัวเล็กฟาดป้าบเข้าให้จนส่งเสียงร้องออกมาก่อนที่หน้าจะจุ่มกับเตียงอย่างคนหมดสภาพ ฝ่ายเด็กหนุ่มที่สติตระเลิดก็มองเหตุการ์ณที่เกินขึ้นอย่างคนหัวสมองเออเรอร์ จับต้นชนปลายไม่ถูก
"รุนแรงอะ...รุ่นพี่.." น้ำเสียงเอื่อย ๆ ดังจากร่างที่ล้มฟุบอยู่ ฟังจากน้ำเสียงแล้วไม่มีความสลดหดหู่เลยแม้แต่น้อย
"เซจังแกล้งฟินน์คุง นิสัยไม่ดีครับ" โดนเด็กหนุ่มหน้านิ่งตอกเพิ่มไปอีกหนึ่ง
ร่างโปร่งลุกจากเตียงนอนดี ๆ ก่อนจะเดินไปยืนด้านหลังของรุ่นพี่ตัวเล็กทั้งที่เส้นผมยังพันกันยุ่งเหยิงอยู่เลยด้วยซ้ำ สุดท้ายก็ต้องจับรุ่นน้องสาวมาจับสางผมและรวบผมใหม่อีกครั้ง
"ไม่ต้องกลัวนะฟินน์จัง เห็นแบบนี้แต่ก็ไม่ใช่คนไม่ดีหรอกนะ"
อะไรที่บอกว่าไม่ใช่คนไม่ดีแต่ดันเล่นหลอดผีให้คนกลัวเล่น ๆ ฟินน์ได้แต่ยิ้มแห้งรับ คนรู้จักของมัชคุงไม่ปกติจริง ๆ ด้วย ...
"..เซโร่ ..ไวโอเล็ต..ปี2 บ้านออร์ก้า.. ถนัดด้านสมุนไพร..และยารักษา...หวัดดีนะ.." น้ำเสียงเอื่อย ๆ พร้อมยกมือทักทายทั้งที่ตาใกล้ปิดอยู่รอมร่อ
"อะ เอ่อ ฟินน์ เอมส์ ยินดี..ที่ได้รู้จักครับ แหะ แหะ" เด็กหนุ่มกล่าวแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มเกร็ง ๆ
ไม่ทันไรร่างที่ยืนอยู่ด้านหลังรุ่นพี่สาวตัวเล็กก็มาโผล่อยู่ด้านหน้าของเด็กหนุ่มใบหน้าตกกระ ฝ่ามือสีซีดถูกยื่นมาด้านหน้าจนเด็กหนุ่มเผลอหลับตาแน่น มือกำแน่นเหนือหน้าอกอย่างหวาดระแวง แต่เมื่อสัมผัสบางเบาตกลงที่กลุ่มผมพร้อมกับความรู้สึกบางเบาของผ้าพันแผลที่โดนปลดออก
"ไม่เป็นไร...ไม่ต้องกลัว..นะ" แม้เป็นน้ำเสียงเนิบช้าแต่กลับอบอุ่นอย่างน่าประหลาด
ดวงตาสีคัสตาดเปิดขึ้นมองไปยังผ้าพันแผลบนมือขาวซีดของรุ่นพี่สาว ความตึงแน่นของบาดแผลก่อนหน้านี้หายเป็นปลิดทิ้ง มือยกสำผัสส่วนที่ควรเป็นแผลกลับกลายเป็นความเรียบเนียนของผิวเนื้อ ดวงตาคู่กลมมองไปยังรุ่นพี่สาวตัวซีดที่โดนคนตัวเล็กกว่าดุจนหน้าหง่อในเรื่องพรวดพราดเข้าไปหา ทำให้ฝ่ายตรงข้ามกลัวจนส่งผลกระทบไม่ดีได้
"ขอโทษนะ....ไม่ได้อยาก..ให้กลัว..ขอโทษด้วย..จริง.ๆ.."
"ครับ ไม่เป็นไรครับรุ่นพี่เซโร่" เด็กหนุ่มเกาหลังคออย่างประหม่าพร้อมยิ้มรับคำขอโทษของคนที่เผลอทำอะไรบุ่มบ่าม
"เรียกเซ..ก็ได้..ไม่ถือ.."
"ครับ! รุ่นพี่เซ!" เป็นครั้งแรกที่สนิทกับรุ่นพี่เลยแหะ..
"เอาละ ๆ งั้นพวกเค้ากลับก่อนละ หนุ่ม ๆ ก็ฝันดีน้า บะบาย"
แขนเล็กโบกมือลาใต้แขนเสื้อที่ยาวเกินพอก่อนจะพากันกลับบ้านประจำตัวของตน เด็กหนุ่มทั้งสองมองไล่หลังรุ่นพี่สาวทั้งสองที่คนหนึ่งตัวเล็กเหมือนเด็กและคนหนึ่งจืดจางจนแทบหายไปกับอากาศ
"เป็นคนที่แปลกแต่ก็ใจดีเหมือนกันนะครับ พี่ของมัชคุงนะ" ฟินน์เอ่ยยิ้ม ๆ เมื่อทั้งสองคนเดินกลับมาในห้องพักของตน
"เหรอ เพราะฟินน์คุงเป็นคนดีด้วยละมั้ง.."
เพราะถ้าเป็นคนไม่ดีละก็..
.
.
.
"ออโอ้ดอัปอี้ไอ้อับอีกแอ้วอับบ" เสียงอู้อี้ดังมาจากกองมนุษย์จากบ้านแอดเลอร์ 3-4คน ที่ดันมาทำกร่าง หาเรื่องระหว่างที่รุ่นพี่ตัวเล็กและร่างแสนจืดจางเดินทางกลับหอ แถมโดนพาตัวไปยังที่เงียบและวังแวงเกินที่จะมีใครเดินเข้ามาขัดได้ แต่ใครจะไปคิดว่าร่างเล็ก ๆ นั่นจะจัดการพวกเขาเสียไม่เหลือสภาพ
นัยน์ตาสีวิสทีเรียหรี่ลงพร้อมรอยยิ้มหวาน
"เค้าไม่รังแกเพื่อนในโรงเรียนหรอกนะ แต่เพราะตัวเองเป็นเด็กไม่ดีเลยต้องถูกลงโทษไง"
"รุ่นพี่..ฮ้าวว..กลับได้แล้วนะ.." เสียงงัวเงียดังจากร่างที่ลอยอยู่กลางอากาศ นัยน์ตาสีซีดมองกองมนุษย์ตรงหน้าอย่างเย็นชา
"รับทราบ ฝันดีนะคะ พวกเด็กดื้อ.."
ฝีเสื้อสีเงินนับสิบบินมาสัมผัสร่างกายของพวกเขาก่อนที่สติของคนเหล่านั้นจะตกสู้ห้วงนิทรา จะฝันดีหรือร้ายก็ต่อจากนี้เนี่ยแหละ.. เด็กไม่ดีจะโดนยมทูตลงโทษเอาน้า
"ขอบคุณที่ช่วยนะเซจัง"
"อืม.."
ริมฝีปางบางแย้มยิ้มอย่างสนุกสนานภายใต้กลุ่มผมสีขาวซีด ขอให้ฝันดีนะ เหล่าคนเขลา..
TBC
..
ความคิดเห็น