ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Mashle]เวทย์มนต์ไม่ใช่คำตอบ ศอกเสยหน้าต่างหากที่แก้ปัญหา(OC)

    ลำดับตอนที่ #1 : อารัมภบทความป่วน

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.พ. 67


    ตูม!! เพล้ง!! โครม!!!! กระต๊าก!!!!

    "ใครมันเอาไก่มาปล่อยในห้องวิจัยวะ!?"

    เสียงความวุ่นวายดังขึ้นซึ่งเป็นเรื่องอันแสนชินชาในบ้านออร์ก้า ว่ากันว่าคนฉลาดกับคนบ้ามีเส้นบาง ๆ กั้นไว้อยู่แล้วยิ่งเป็นบ้านที่รวบรวมเหล่ามัญสมองของโลกเวทย์มนตร์เอาไว้ ความวุ่นวายจึงx10 ร่างเล็กเทียบเท่าเด็กอายุ10ขวบ ด้วยส่วนสูง140 เซนติเมตร ชุดคลุมประจำหอที่ยาวลากพื้นเป็นเอกลักษณ์ของตุ๊กตาประจำบ้านออร์ก้า 

    ดิโอน่า โรสซี่ 

    รุ่นพี่ชั้นปีที่3 ประจำบ้านออร์ก้า อัฉริยะผู้คิดค้นและวิจัยอุปกรณ์เวทย์มนต์ไว้มากมาย กลุ่มผมสีครามเดินเลี่ยงออกจากห้องที่มีเสียงระเบิดตูมตาม นัยน์ตาสีดอกวิสทีเรียกวาดมองซ้ายทีขวาทีเพื่อมองหารุ่นน้องแสนจืดจางของตนที่ตัวตนแทบจะกลืนไปกับอากาศ 

    "รุ่นพี่โรสซี่มีอะไรงั้นเหรอครับ?" รุ่นน้องหนุ่มในกลุ่มชั้นปีสองเอ่ยถามเมื่อเห็นรุ่นพี่คนดังประจำบ้านกำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่ 

    "เห็นเซจังบ้างไหม? เค้ามีเรื่องอยากปรึกษาละ"

    ชื่อไม่คุ้นหูทำให้เด็กหนุ่มได้แต่เกาหัวตัวเองอย่างสงสัยเพราะมันช่างเป็นชื่อที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยสักนิด พอหันไปถามเพื่อนข้างกันก็ได้รับเป็นการส่ายหน้าด้วยสีหน้างงๆไม่ต่างกัน

    "ชื่อว่า เซโร่ ไวโอเล็ตล่ะ รู้จักไหม?" 

    พอได้ยินชื่อเต็มก็ยิ่งสงสัยมากกว่าเดิมเพราะไม่เคยได้ยินชื่อนี้ในชั้นปีที่ 2ของบ้านออร์ก้ามาก่อน 

    "พวกผมไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนรุ่นพี่อาจจะเข้าใจผิด-เฮื่อก!!?"

    ไม่ทันได้กล่าวจบอากาศพลับเย็นยะเยือก บรรยากาศรอบ ๆ ของโถงทางเดินกลับมืดครึ้มเต็มไปด้วยกลิ่นอายความกดดันของสิ่งลี้ลับ เหงื่อเย็นอาบทั่วทั้งแผ่นหลังพร้อมกับขนอ่อนที่เริ่มลุกชัน

    "เรียก..เหรอ..รุ่น..พี่.."

    เสียงเย็นยะเยือกติดขัด มาพร้อมกับร่างกายที่ขาวโพลนไปทั้งตัว เส้นผมสีขาวยาวจรดพื้นปรกหน้าขาวซีดเหมือนวิญญาณพันกันจนยุ่งเหยิงเผยเพียงดวงตาสีขาวโพลนที่มีดวงตาลึกโบ๋เย็นชาไร้ชีวิต

    แกร๊ก!

    ส่วนหัวเอียงข้างอย่างผิดธรรมชาติมาพร้อมกลับเสียงเคลื่อนที่ของข้อต่อกระดูกหันตรงมายังร้างสองร่างที่ยื่นอยู่ใกล้ ๆ นัยน์ตาสีซีดจ้องเขม่นอย่างไร้ชีวิต สีหน้าของเด็กหนุ่มทั้งสองพลันซีดเซียวอย่างกับกระดาษ จากนั้นเพียงชั่วลมหายใจเสียงกรีดร้องอย่างหวาดกลัวก็ดังขึ้นพร้อมลมหอบใหญ่ที่พัดผ่านเส้นผมสีขาวจนปลิวกระจาย

    "กรี้ด!!ผีหลอกพ่อจ๋าแม่จ๋า!!!!!"

    "......."

    ดวงตาสีซีดขาวกระพริบตาปริบ ๆ มองไล่หลังร่างสองร่างที่วิ่งออกไปอย่างไม่คิดชีวิตเหมือนกำลังหนีตายอะไรบางอย่าง

    แกร๊ก !

    ขยับเคื่อนลำคอที่ปวดเมื่อยเล็กน้อยจากการนอนท่าเดียวเป็นเวลานาน ฝั่งมือที่ไม่ได้กอดหมอนเอาไว้ถูกยกขึ้นนวดหลังคอตัวเองปอย ๆ 

    "เดี๋ยวต้องมีข่าวลือแปลก ๆ โผล่มาอีกแหง ๆ ชัวร์ป้าบ" รุ่นพี่ตัวเล็กเอ่ยอย่างชินชา เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น 

    "เห๋..งั้นเหรอ..." ต้นเหตุของข่าวลือหลอน ๆ ในอิสตัล

    อย่าทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตัวเองสิเฮ้ย!?

    .

    .

    .

    "แล้ว..มีอะไรเหรอรุ่นพี่...ฮ้าว" เจ้าของน้ำเสียงเอื่อย ๆ คือเด็กสาวแสนจืดจาง ออร่าที่ปล่อยออกมาก็ไม่ชวนรับแขก จนโดนข่าวลือปากต่อปากว่าบ้านออร์ก้ามีผีอยู่ เส้นผมสีขาวซีดยาวจนถึงข้อเท้า เพราะความไม่ดูแลจึงพันกันยุ่งเหยิง ดวงตาเป็นสีขาวซีดเหมือนคนตาบอดแต่มันก็แค่เหมือน ไหนจะใต้ตาคล้ำลึกจากการอดหลับอดนอนอีก ต่อให้เป็นกลางวันแสก ๆ โผลไปอิหรอบนี้ไม่ว่าใครก็วิ่งหนีทั้งนั้นละ 

    "เค้าจะถามเรื่องน้ำยาที่สกัดจากดอกลิลลี่ออฟดิวอลเลย์ละ คิดว่าจะใช้มันปรับสมดุลของสะสารบางตัวได้ไหม?" ร่างเล็กเดินเอื่อย ๆ เคียงข้างรุ่นน้องสาวที่เมื่อยามแสงกระทบร่างของอีกฝ่ายก็เกือบเลือนหายไปในอากาศ 

    "อา.. อันนั้นรู้สึกว่า..จะ-"

    เสียงสนทนาพลันเงียบไปจนร่างเล็กของรุ่นพี่สาวต้องหยุดเดินพร้อมหันไปมองด้านหลังอย่างฉงน 

    "......"

    "ฟี้..." 

    นอนหลับสบายเลยนะแม่คุณ..

    นัยน์ตาสีวิสทอเรียเผยแววว่างเปล่าพร้อมหัวเราะแห้ง ๆ อย่างชินชา ตรงหน้าของเธอคือรุ่นน้องสาวที่นอนหลับอุตุ เอนซบบนหมอนประจำตัวที่อีกฝ่ายตั้งชื่อไว้ว่าอลิซาเบส เป็นหมอนรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีหูกระต่ายสีดำ พร้อมกับการโชว์อภินิหารลอยตัวกลางอากาศซึ่งเป็นความสามารถที่จอมเวทย์ธรรมดาใช่จะลอกเลียนแบบได้ เพราะต้องใช้พลังเวทย์และความสามารถพอสมควร ทว่าตรงหน้าของเธอคือเซโร่ ไวโอเล็ต เพราะงั้นถึงได้ไม่แปลกใจกับปริมาณพลังเวทย์ของอีกฝ่ายเสียเท่าไหร่

    "เซจัง อย่ามาหลับตรงนี้สิ!"

    "อะ! เผลอหลับอีกจนได้..ฮ้าววว" คนเผลอหลับสดุ้งตื่นก่อนจะลงยืนอย่างมั่นคง

    "เมื่อคืนไม่ได้นอนอีกแล้วเหรอ?" รุ่นพี่ตัวน้อยถามทักด้วยความเป็นห่วงก่อนจะจับจูงมือคนตัวโตกว่าให้เดินตามมา 

    "รุ่นพี่ก็รู้ พวกนั้นหมู่นี้ออกมาก่อกวนบ่อย ๆ ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นที่โลกฝั่งนั้น" ร่างสูงโปร่งเดินตามการลากจูงมายังเก้าอี้นั่งพักข้างอาคารหอนอน 

    "เค้าหวังว่าจะไม่มีเรื่องร้ายนะ ท่านพี่ราฟและท่านพี่อิซาคนวิ่งจัดการจนหัวหมุนแน่ ๆ หวังว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัยนะ" 

    "ทางนั้นไม่น่าห่วง...เท่าทางนี้เนี่ยสิ..ฮ้าววว" 

    บทสนทนาของทั้งสองผ่านไปอย่างเรียบง่าย ร่างเล็กหยิบหวีที่เก็บไว้ในช่องมิติค่อย ๆ สางเส้นผมที่พันกันยุ่งของรุ่นน้องสาว ผมที่ปรกหน้าปรกตาเกินไปก็หวีเก็บอย่างเรียบร้อยแม้จะไม่ทั้งหมดแต่ก็ดีกว่าผีจูออนก่อนหน้านี้มากโข 

    "เอาละ เรียบร้อย!" 

    ดิโอน่าชื่นชมผลงานของตัวเองอย่างพอใจ เส้นผมสีขาวซีดถูกผูกรวบไว้ด้วยริบบิ้นสีดำตัดกับสีผม เส้นผมที่ปิดหน้าปิดตาก็จับแหวกออกเผยให้เห็นปานสองเส้นรูปสามเหลี่ยมที่ใบหน้า แม้ใต้ตาจะดูคล้ำเพราะอดนอนแต่ก็ไม่ได้ดูหน้ากลัวเท่าตอนแรกแล้ว

    "จริงสิ นอกจากมาถามเรื่องสารแล้วเค้าว่าจะมาชวนเซจังไปดูการคัดเลือกบ้านของน้องปี1ด้วยละ!" น้ำเสียงสดใสเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ดวงตากลมโตส่องประกายวิบวับจนคนโดนชวนยากจะเอ่ยคำปฏิเสธได้

    "......"

    " (*^*) "

    "..."

    "น้าา (*^*)" 

    "...."

    "เข้าใจ..แล้ว ไปด้วยก็ได้" กดดันขนาดนี้ปฏิเสธได้ที่ไหนกัน!?

    "เย้! ไปกัน!!"

    .

    .

    ตอนแรกที่อยากมาส่องรุ่นน้องเพราะอยากเห็นหน้าค่าตาตัวป่วน ๆ ของปีนี้ แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอคนรู้จักเข้ากันละ.. สถานการณ์ตอนนี้เต็มไปด้วยความเงียบอันแสนน่าอึดอัด ร่างเล็กของรุ่นพี่สาวบ้านออร์ก้าและรุ่นน้องปี1ผมทรงกะลา กำลังจ้องหน้ากันนิ่ง คนนึงนิ่งเพื่อกดดันอีกฝ่าย อีกคนนิ่งแต่ดวงตากลอกไปมาอย่างคนมีชนักติดหลังพร้อมเหงื่อที่ไหลอย่างกับก๊อกน้ำรั่ว มีพิรุธสุด ๆ อ่ะบอกเลย..

    "เอ่อ....."

    "....."จ้อง

    "พี่เดีย.."

    "...."จ้อง

    "...ก็ไม่อยากขัดหรอกนะรุ่นพี่...แต่ถ้าไม่คุย... เจ้าหนูจะเข้าหอสายเอานะ...." เสียงเอื่อย ๆ เอ่ยขัดออร่ามาคุตรงหน้า

    "....เฮ้อ." 

    "นี่มัชจัง.."

    "ครับ.."

    ร่างเล็กของรุ่นพี่ปีสามเอื้อมไปกุมมือที่ใหญ่และสากจากการฝึกฝนของคนอายุน้อยกว่า นัยน์ตาสีวิสทอเรียช้อนมากคนสูกกว่าด้วยสายตาที่เจือไปด้วยความเป็นกังวล

    "ท่านพี่ราฟและท่านพี่อิซาไม่ทราบเรื่องนี้ใช่ไหมคะ?" มือเล็กลูบหลังมือใหญ่อย่างปลอบประโลม แม้อีกฝ่ายจะมีสีหน้านิ่งสนิทแต่ไม่อาจจะปกปิดสายตาของคนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็กได้ อีกฝ่ายกำลังกังวลแม้ส่วนนั้นจะไม่ใช่ส่วนที่เกี่ยวกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นแต่เป็นกังวลที่ทำให้ร่างเล็กที่อายุมากกว่าโกรธ

    "ครับ.."

    "เล่าให้เค้าฟังได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?"

    น้ำเสียงนิ่ง ๆ ของมัช เบิร์นเดด ค่อย ๆ เล่าเหตุการ์ณทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตั้งแต่แอบออกไปในเมือง จนกระทั่งเจอกับตำรวจเวทย์มนตร์ โดนยื่นข้อเสนอให้เข้าเรียนที่อิสตัลและขึ้นเป็นเทพประทานให้ได้ พี่สาวทั้งสองแค่ออกไปทำธุระข้างนอก(มิติ) ผ่านไปไม่ถึงอาทิตย์ก็เกิดเรื่องขึ้นสะแล้ว ถ้าสองสาวกลับมาไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก ถึงแม้จะคิดว่ารอบนี้อาจจะไปนานหน่อยก็เหอะ แต่หลัก ๆ ที่ควรระแวงคือพวกกระทรวงเวทย์มนต์ ถ้าเรื่องมันแดงขึ้นมา ชีวิตของมัชได้วุ่นวายแน่ ๆ 

    "..เข้าใจแล้วละ เค้าจะสนับสนุนมัชจังเต็มที่! ไม่ต้องห่วงเรื่องปัจจัยภายนอกทางนี้พอมีวิธีจัดการอยู่ละ" 

    "อุส!" 

    พอเคลียกันได้เรียบร้อยก็กลับมาอารมณ์ดีทันที วิธีการละเล่นที่บ้านเบิร์เดดก็เลยถูกหยิบยกเอามาใช้ ร่างแสนจืดจางถอยห่างจากร่างทั้งสองที่เริ่มกิจกรรมโลดโผนสไตล์สมองกล้าม นั่นคือการตบแปะอย่างกับกะเอาตายกันไปข้าง ความเร็วจนเหมือนกับเป็นเงามือหลายร้อยมือกำลังสัมผัสกันพร้อมกับสร้างลมหวนรอบ ๆ ร่างทั้งสอง 

    ร่างซีดเซียวได้แต่คิดว่าตนกำลังมองเรื่องราวสุดแฟนตาซีอะไรอยู่ กล้ามเนื้อเพียว ๆ ทำอะไแบบนี้ได้ด้วย? เกินสามัญสำนึดเกิดไปแล้วเฟ้ย! ทำเอาตาสว่างกันเลยทีเดียว...

    .

    .

    .

    TBC

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×