ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : WW Part.4
Fic::White Winter::
Actor::Yun*Jae::
Author::God’z_vox::
Type::Romantic::Drama::
Chapter::4::
แสงแดดบางๆยามเช้า ส่องแสงผ่านเข้ามายังผ้าม่านผืนบาง ทำให้ภายในห้องสว่างไสวขึ้น
ปรากฏเป็นร่างบอบบางนอนสั่นสะท้านอยู่ข้างกายคนตัวโต กิจกรรมแห่งความหฤหรรษ์เพิ่งจบลงไปได้ไม่กี่ชั่วโมง ผิวขาวเนียนปรากฏเป็นรอยช้ำสีแดงทั่วร่าง ลมหายใจที่แผ่วเบาจนน่าใจหาย
ยุนโฮตื่นขึ้นมาก็ลุกขึ้นมานังอ่านหนังสือเล่มโปรดโดยไม่ใส่ใจถึงร่างกายบอบช้ำที่นอนสั่นสะท้านอยู่ข้างๆ ยามเช้าของฤดูหนาวที่หนาวไปสุดขั้วของหัวใจ ร่างกายบอบบางไม่มีอาภรณ์ใดๆปกปิดเลยซักนิด มีเพียงยูคาตะเนื้อบางที่ขาดวิ่นโดยฝีมือของยุนโฮ มันถูกโยนมาปกปิดร่างบางตั้งแต่เอวลงไปถึงต้นขาเนียนนุ่มแต่ก็ไม่ว่างเว้นจากรอยจูบสีแดงช้ำๆนั้น
แจจุงลืมตาขึ้น...สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะฝันร้าย แต่เมื่อได้มองเห็นสภาพความเป็นจริง น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว มันไม่ใช่ความฝัน
สิ่งที่ร่างบางทำได้ตอนนี้ก็คือได้แต่รีบเช็ดน้ำตา...ก่อนที่คนข้างๆจะทันเห็น พันธนาการที่แน่นหนานั้นถูกยุนโฮแกะออกให้แล้ว แต่ยังปรากฏเป็นรอยแดงรอบๆอย่างเด่นชัด แล้วค่อย ๆ พยุงตัวขึ้นนั่ง ดวงตากลมโตหลับลงอย่างรวดร้าว เจ็บแปลบเบื้องล่างจนแทบขาดใจ
“ฮึก ” เสียงสะอื้นไห้เล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากแดงช้ำนั้น ฝ่ามือบอบบางจึงยกขึ้นมาปิดปากตัวเองเสียแน่น ปลายเท้าเล็กพยายามทรงตัวลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบากด้วยขาสองข้างที่มันสั่นจนแทบจะยืนไม่ไหว...เพราะถูกกระทำรุนแรงขนาดนั้นมีหรือจะมีแรงพอที่จะก้าวเดินด้วยตัวเอง...
"จะไปไหน!!!" ร่างสูงโยนหนังสือเล่มบางลงบนพื้นอย่างไม่ใยดี ฝ่ามือแข็งกร้าวออกแรงกระชากร่างบางเพียงนิดเดียว ร่างบอบบางก็ปลิวปะทะกับแผ่นอกกว้างเสียแล้ว
“เจ็บ!!” แรงดึงทำให้แจจุงเซล้มลงมานั่งอยู่บนตักของ “ปีศาจ” ที่เค้าว่า มือเล็กที่สั่นน้อยๆพยายามแกะมือที่เกาะอยู่ที่เอวของตนเองออก น้ำตาที่พยายามข่มไม่ให้ไหล บัดนี้กลับห้ามมันไม่อยู่
“ข้าถามว่าจะไปไหน!!! ” ยุนโฮบีบคางมนให้เงยขึ้นมาสบตา
“ ” ไม่มีคำตอบจากคนตัวเล็ก มีเพียงการเมินหน้าหนีความอ่อนแอของตัวเองเท่านั้น
“อ๊า!!!” ร่างบางร้องเสียงหลง เมื่อปลายนิ้วร้อนของอีกคนล้วงล้ำเข้ามาอยู่ในตัวของเค้า อย่างไม่รู้ตัว
มันคือการลงโทษที่ดื้อกับคนอย่าง จุง ยุนโฮ
“ฮือ อือ ข้า ข้าจะไป รดน้ำ ไวท์กับวินเทอร์ ” แจจุงพยายามเค้นเสียงที่มีอยู่เพียงน้อยนิดให้เปล่งออกมาเป็นคำพูด แล้วพยายามยันตัวลุกขึ้น เพื่อให้ร่างกายของตนเองหลุดพ้นจากปลายนิ้วที่แสนร้ายกาจนั้น
“สภาพแบบนี้น่ะหรอ แค่เจ้าจะหนีออกจากอ้อมกอดของข้า เจ้ายังทำไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นจงลืมเรื่องที่เจ้าจะทำนั้นซะ แล้วมาปรนนิบัติข้าอีกครั้งดีกว่ามั้ยแจจุง ” ยุนโฮกดตัวร่างบางลงกับฝูกนอนอีกครั้ง แล้วปลุกเร้าร่างบางอีกครั้งอย่างไม่สนใจความรู้สึกของคนใต้ร่างเลยซักนิด
“ฮึก!!อย่า พอแล้ว ” ใบหน้าหวานส่ายสะบัดไปมาบนฟูกนอนด้วยความเจ็บปวดจากกายเบื้องล่าง...ในขณะที่ยุนโฮยังคงกระแทกตัวเข้าออกอย่างรุนแรง...โดยไม่สนใจกับน้ำตาบนใบหน้าหวานเลยซักนิด
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - - - - - -
ณ ห้องอาหาร
“นี่ชางมิน เจ้ายุนโฮมันกลับมารึยัง ” แม่ทัพฮันที่นั่งท่านอาหารเช้าอยู่เอ่ยขึ้นกับ ชางมินที่นั่งเหม่อออกไปข้างนอก
“คงกลับมาแล้วล่ะขอรับ ” ชางมินตอบเสียงนิ่ง
“แล้วนี่เจ้าเด็กนั่นไม่กินข้าวหรอ แจจุงน่ะ”
“ข้าจะขึ้นไปตามให้ขอรับ ” ชางมินยืนขึ้นแล้วก้มหัวเป็นเชิงขออนุญาต
ชางมินเดินไปทางห้องของแจจุง และก็หยุดชะงักลงอย่างไม่มีเหตุผล อะไรบางอย่างบอกเค้าว่าแจจุงไม่ได้อยู่ที่นี่ ชางมินจึงเดินกลับหลัง ตรงไปทางห้องของยุนโฮแทน
“!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” ภาพที่ชางมินเห็นมันทำให้เค้าแทบจะหยุดหายใจ
ร่างบอบบางของเพื่อนตัวเล็กของเค้านั้น ถูกมือของใครบางคนหิ้วแขนออกมาแล้วปล่อยไว้หน้าห้อง
ยูคาตะสีชมพูหวานที่อยู่บนร่างของคนตัวเล็กขาดรุ่งริ่งจนไม่มีชิ้นดี
ดวงตาที่เคยเปล่งประกายสดใสบัดนี้ถูกซ้อนอยู่ภายใต้เปลือกตาบาง
ใบหน้าหวานที่เคยขาวอมชมพูบัดนี้กลับซืดเซียวราวกับสีของแผ่นกระดาษ
แก้มบางๆแนบไปกับบานประตูเย็นเฉียบเพื่อช่วยพยุงศรีษะของตนเอง
ตั้งแต่ต้นคอลงมาถึงแผ่นอกเล็กเต็มไปด้วยรอยกัดและรอยจูบ
เรียวแขนเล็กๆทิ้งลงราบลู่กับลำตัว
ใบหูแหลมเล็กตกลู่แนบกับเส้นผมสีไวท์บรอน
เรียวขาบอบบางที่โผล่พ้นยูคาตะออกมานั้นเต็มไปด้วยร่องรอยสีแดงนับไม่ถ้วน
“แจจุง” ชางมินเดินเข้ามาแล้วสัมผัสร่างบางอย่างแผ่วเบาที่สุด ส่งเสียงเรียกใกล้ๆใบหูเล็กเพื่อให้ร่างบางได้รู้สึกตัว
“ชางมิน ” ดวงตากลมโตเปิดขึ้น ริมฝีปากแดงช้ำคลี่ยิ้มออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน เรียวแขนเล็กพยายามยกขึ้นเพื่อกอดคนตรงหน้า แต่มันช่างยากเย็นเหลือเกิน
“ท่านยุนโฮทำอะไรเจ้า เค้าทำร้ายเจ้าใช่มั้ย ” ชางมินลูบศรีษะเล็กอย่างปลอบประโลม ความจริงเค้าไม่ต้องถามเลยด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น ภาพที่เห็นมันก็บ่งบอกได้ดีอยู่แล้ว
“ไม่ใช่ท่านยุนโฮ ปีศาจ ไม่มีท่านยุนโฮอีกแล้ว ” แจจุงพยายามดันร่างของตัวเองลุกขึ้นยืน แต่ก็ทำไม่ได้ มันหนักอึ้งไปทั้งร่าง
“ข้าจะไปบอกท่านแม่ทัพ!!! ” ชางมินกล่าวเสียงแข็ง
“ไม่ ชางมิน อย่าบอกท่านฮันยังนะ บอกไม่ได้เด็ดขาด” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นมาทันที
“ทำไม!!” ชางมินเอ่ยแผ่วเบาอย่างไม่เข้าใจ
ทั้งๆที่เค้าทำกับเจ้าถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะไปปกป้องมันอีกอย่างนั้นหรอ
ย้อนไปเมื่อห้านาทีที่แล้ว
“เจ้าอย่าคิดจะบอกเรื่องนี้กับพ่อข้าเชียวนะ ไม่งั้นดอกไม้ของเจ้าเละไม่มีชิ้นดีแน่!!!” ยุนโฮตะคอกร่างเล็กที่พยายามลุกออกมาจากฝูกนอน
“ร้ายกาจ ข้า ข้าจะฆ่าท่าน ” แจจุงพยายามเอ่ยด้วยเสียงที่แทบไม่มีเหลือ ดวงตากลมโตมองคนตรงหน้าอย่างเคียดแค้นที่แฝงไปด้วยความผิดหวัง
“เดินออกไปให้พ้นจากหน้าห้องของข้าก่อน .แล้วค่อยมาว่ากันทีหลัง” ยุนโฮแสยะยิ้ม พร้อมกับจับร่างบางแต่งตัวแล้วหิวออกมาทิ้งไว้นอกห้อง แล้วชางมินก็มาเห็นเข้า
จบโหมดย้อนความ
“ข้ามีเหตุผลของข้านะชางมิน ” ดวงตากลมโตหลับพริ้มลงในที่สุด
เสียงสุดท้ายที่ชางมินได้ยิน คนตัวเล็กสลบไปในอ้อมกอดของเค้า
ชางมินไม่รู้จะทำยังไงกับร่างกายที่บอบช้ำนี้
จะพาแจจุงไปพักยังไงที่จะทำให้ไม่สะเทือนร่างกายนี้ให้มากที่สุด
สุดท้ายชางมินก็ช้อนร่างบางขึ้นอุ้มแล้วพาไปยังห้องของแจจุง
ณ ห้องอาหาร
“ว่าไงชางมิน เจ้าหนูนั่นล่ะ” ท่านแม่ทัพเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง
“แจจุง”
“ท่านพ่อ!!!!
ชางมินยังพูดไม่ทันจบก็มีเสียงของอีกคนเข้ามาแทรก ท่านยุนโฮ
“เอ้า!ว่าไงล่ะเจ้ายุนโฮ ” ท่านแม่ทัพขมวดคิ้วกับสภาพของลูกชายคนเดียวอย่างสงสัย ไอ้เจ้ายุนโฮมันจะรีบร้อนอะไรนักหนา ถึงได้ผูกเชือกยูคาตะแบบนั้น เดี๋ยวก็ได้หลุดลงมากองที่พื้นกันพอดี แล้วผมเผ้าก็ไม่จัดการหวีซะให้เรียบร้อย เหอะ แล้วแบบนี้จะมาเป็นผู้สืบทอดตระกูลแม่ทัพได้อย่างไร
“ข้าหิว หิวมากด้วย ” ยุนโฮกระดิกนิ้วสั่งคนรับใช้ให้มาตักข้าวให้ตนเอง
“เอ่อ ชางมินเจ้าพูดต่อซิ ” แม่ทัพฮันยิ้มกับนิสัยหยาบกระด้างของลูกชายตนเองอย่างเหนื่อยใจ ที่ผ่านไปเจ็ดปีไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรเลยงั้นหรอ แต่กลับตรงกันข้าม ยุนโฮนั้นแข็งกระด้างยิ่งกว่าตอนไปจากที่นี่ด้วยซ้ำ
“แจจุงไม่สบายนิดหน่อยขอรับ ” ชางมินมองไปยังต้นเหตุของอาการป่วยของแจจุงอย่างขุ่นเคือง แต่ไอ้เจ้าตัวต้นเหตุนั้นก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไรเลยด้วยซ้ำ เอาแต่นั่งจัดการกับของบนโต๊ะราวกับว่าไม่ได้กินมาหลายวัน
“งั้นเจ้าก็ไปดูแลเจ้าหนูนั่นหน่อยแล้วกันนะ ” แม่ทัพฮันฝากชางมินให้ดุแลคนที่ตนเองรักเหมือนลูกเหมือนหลานด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้องหรอกท่านพ่อ ของของข้าเดี๋ยวข้าจะไปดูแลเอง ” ยุนโฮเงยหน้าขึ้นเพื่อจะมองหน้าชางมิน รอยยิ้มแสนร้ายกาจปรากฎบนใบหน้าราวกับเทวดา แต่ภายใต้หน้ากากเทวดานั้นจะมีซักกี่คนที่รู้ว่า ที่แท้ก็ปีศาจดีๆนี่เอง
อาหารมื้อนี้ไม่ได้มีความอร่อยเลยด้วยซ้ำสำหรับความคิดของชางมิน ในใจเค้าเป็นห่วงร่างเล็กๆที่นอนไม่ได้สติอยู่ในห้องนั้นต่างหาก และอาหารมื้อนี้ก็จบลงอย่างน่าอึดอัด
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - - - - - -
ผมสีไวท์บรอนส่วนหนึ่งถูกปรกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวบริสุทธิ์ ใบหน้าที่ขาวอยู่แล้วบัดนี้กลับขาวเสียจนซีด ริมฝีปากแดงช้ำเอื้อนเอ่ยกับสายลมเย็นๆของฤดูหนาว แล้วคลี่ยิ้มออกมาบางๆ ฝ่ามือบอบบางถูกันไปมาเพื่อให้ความอบอุ่น
แจจุงยืนอยู่ข้างๆ “หลุมทิ้งความเจ็บปวด” ซึ่งตอนนี้มีหลังคาเล็กๆคอยป้องกันไม่ให้หิมะตกลงมากลบทับหลุมนี้ ดวงตากลมโตที่แฝงไปด้วยความเหนื่อยอ่อนทอดมองไปยังแปลงดอกไม้เล็กๆในหลุม ดอกไม้สีขาวที่ปลูกอยู่เคียงกันโน้มเข้าหากันราวกับว่าพวกมันกำลังกอดกันเพื่อแบ่งความอบอุ่นให้แก่กันและกัน
“แจจุงเคยสงสัยนะว่า ทำไมยูชอนต้องสร้างหลุมนี้ขึ้นมา” เสียงแหบแห้งเปล่งออกมาจากลำคออย่างยากลำบาก
“แต่แจจุงก็ลืมถามยูชอนทุกที ” ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มออกมาอย่างเจ็บปวด
“เมื่อไหร่กัน เมื่อไหร่ ที่ยูชอนจะกลับมา ” ดวงตากลมโตหลับลงอย่างอ้อนล้า ขาสองข้างที่ใช้พยุงตนเองบัดนี้สั่นระริกราวกลับกำลังเรียกร้องเจ้าของร่างว่าควรพักได้แล้ว ทำแบบนี้มันฝืนร่างกายเกินไป
“แจจุงไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว แจจุงกลัว กลัวยุนโฮที่ไม่ใช่ยุนโฮ” ร่างบอบบางพร่ำเพ้อราวกับคนไร้สติ
“แจจุง อยากเจอยูชอน ” แจจุงเดินลงไปยังหลุมนั้น นั่งลงแล้วชันเข้าทั้งสองข้างขึ้น ใบหน้าหวานซุกลงที่หัวเข่าของตนเอง ฝ่ามือช้ำๆสองข้างกอดตัวเองไว้ราวกับกลัวว่าตนเองจะแตกสลายหายไปจากที่ตรงนี้
เค้าอยากร้องไห้ แต่เค้าคงร้องซะจนไม่มีน้ำตาให้ไหลอีกแล้ว
“ถ้ายูชอนยังไม่มา แจจุงอาจจะไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว แจจุงอาจตายไปแล้วก็ได้ ” แจจุงพร่ำเพ้อเรียกหาแต่เพื่อนรัก ตอนนี้เค้าต้องการใครซักคน ที่คอยปกป้องเค้าจากปีศาจร้ายนั่น
ดวงตากลมโตหลับลงอย่างเหนื่อยล้า ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันดีแล้วหรอ เค้าจะทำยังไงดี
อีกด้านหนึ่งของจวนแม่ทัพ
“ชางมิน แจจุงไปไหน!!!!” ยุนโฮกิ่งเดินกิ่งวิ่งมาทางชางมิน มือแข็งแรงตรงเข้าขยุ้มคอฮันบกของชางมินทันที
เมื่อเช้าพอทานอาหารเสร็จ ยุนโฮก็ตรงไปที่ห้องของแจจุงกลับพบแต่ความว่างเปล่า บนฟูกนอนที่เย็นชืดไร้ร่างของคนที่เค้ากำลังต้องการพบ คำเดียวที่ยุนโฮนึกได้ตอนนั้นก็คือ “หนี” แจจุงหนีเค้าไปรึเปล่า แต่ถ้าจะหนีจริงๆก็คงไปได้ไม่ไกล เพราะร่างกายที่บอบช้ำเช่นนั้น คงไม่เอื้ออำนวยให้แจจุงหนีออกไปจากที่นี่ได้ง่ายๆแน่
“ท่านถามข้างั้นเรอะ!!ท่านยุนโฮ ” ชางมินดึงมือหยาบกร้านนั้นออกจากฮันบกของคนเอง เอ่ยถามด้วยเสียงหยามเหยียดอย่างดูถูกดูแคลน แววตาที่เคยสงบนิ่งของชางมินบัดนี้กลับมองมาที่ยุนโฮด้วยความสมเพช
“เจ้าหมายความว่าไง ” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจกับคำพูดของคนตรงหน้า
“ท่านจะไม่ดูโง่ไปหน่อยหรอ ที่มาถามข้าผู้ต้อยต่ำเช่นนี้ ” ถึงแม้ว่าภายนอกชางมินจะดูสงบนิ่งกับการหายตัวไปของแจจุง แต่ในใจเค้ากลับเป็นห่วงจนแทบจะวิ่งออกไปตามหาแจจุงอยู่แล้ว
“นี่เจ้า!!! เจ้ากำลังหมายความว่า แค่คนๆเดียวข้าก็ดูแลไม่ได้อย่างนั้นหรอ” ยุนโฮอยากจะฆ่าคนตรงหน้าให้ตายคามือ ถ้าไม่ติดตรงที่ว่าเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก
“โอ้ ท่านดูฉลาดขึ้นแล้ว งั้นข้าขอตัวก่อนนะขอรับ ท่านยุนโฮ ” แล้วชางมินก็เดินจากไป
“แจจุงเจ้าอย่าคิดว่าจะหนีข้าพ้นนะ เจ้าคือของข้า ใครก็เอาเจ้าไปไม่ได้ทั้งนั้น!!! ” ยุนโฮเอ่ยออกมาอย่างมั่นคงราวกับว่ามันคือคำสัตย์สาบาน
ชั่ววูบนึงในความคิด ยุนโฮก็นึกถึงประโยคนึงขึ้นมาได้
“ฮือ อือ ข้า ข้าจะไป รดน้ำ ไวท์กับวินเทอร์ ”
แล้วยุนโฮก็เดินออกไปยังสวนหลังจวนทันที ด้วยยูคาตะตัวบางที่ยุนโฮสวมออกไปเผชิญกับอากาศที่หนาวจนติดลบ หิมะสีขาวยังคงตกลงมาอย่างไม่หยุดหย่อนราวกำว่าไม่มีความเหน็ดเหนื่อย
เป็นอย่างที่ยุนโฮคิดจริงๆ ในหลุมที่เต็มไปด้วยเหล่าดอกไม้สีขาวนั้น มีร่างของเจ้าจิ้งจอกน้อยหลับไหลอยุ่ โดยที่เหล่าดอกไม้สีขาวที่เจ้าตัวปลูกไว้ โอบล้อมร่างบอบบางนั้นอยู่ราวกับว่ากำลังปกป้องเจ้าหญิงนิทราผู้หลับไหล เพียงชั่วครู่ที่ยุนโฮเผลอยิ้มออกมาให้กับความสวยงามนั้นอย่างอ่อนโยน
“แจจุง!!!” เสียงเรียกที่กังวาลก้องและดุดัน ทำให้คนที่อยู่ในห้วงนิทราสะดุ้งตื่นขึ้นอย่างตกใจ
ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้น ราวกับว่าคนตรงหน้าคือปีศาจร้าย
“มากับข้าเดี๋ยวนี้!!!!” ยุนโฮยืนนิ่งรอให้ร่างบางเดินขึ้นมาหาช้าๆ
“ ” ไม่มีคำตอบจากร่างเล็ก มีเพียงการส่ายหน้าอย่างรุนแรง และการถอยหนีเพียงเท่านั้น ที่บ่งบอกให้รู้ว่าแจจุงได้ยินที่ยุนโฮพูด
“ข้าบอกให้ขึ้นมา อย่าต้องให้ข้าใช้กำลังนะ”
แจจุงค่อยเดินเข้ามาใกล้ยุนโฮ ใบหน้าหนาวก้มลงอย่างหลบสายตา มือขาวซีดสองข้างกอดตัวเองเอาไว้เพื่อให้คลายความหนาว หูแหลมเล็กตกลู่ลงด้วยความหวาดกลัว
ฝ่ามือแข็งแรงออกแรงกระชากร่างบางที่กำลังเดินเข้ามาหา ให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดกว้าง ร่างบางนิ่วหน้าเพราะความเจ็บสะท้านไปทั้งร่าง
“ชักช้า ” ยุนโฮพูดเพียงแค่นั้น แล้วจึงช้อนอุ้มร่างบางขึ้นแนบอก แล้วร่างบางก็หลับไปในอ้อมกอดนั้น
แจจุงฟื้นขึ้นมาก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว สิ่งแรกที่เค้าเห็นก็คือ ใบหน้าเคร่งเครียดที่เอาแต่จ้องอยู่กับหนังสือเล่มเล็กในมือ เสียงท้องร้องทำให้แจจุงอายจนแทบจะมุดหน้าหนี เมื่อยุนโฮหยุดความสนใจจากสิ่งตรงหน้า แล้วหันมามองเค้าแทน
“หิวงั้นหรอ เจ้ายังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้านี่นะ ” ยุนโฮขยับเข้ามาหาร่างบอบบางที่นอนหันหลังให้เค้า
“หันมาคุยกับข้าเดี๋ยวนี้ ” ยุนโฮเอ่ยเสียงเรียบ
แต่ผลที่ได้รับกลับมาก็คือ แจจุงยังคงนอนอยู่ในท่าเดิม ไม่ขยับเขยื้อน ในความคิดของยุนโฮนั้นมันคือการท้าทาย
“เอ๊ะ!” ร่างบางอุทานอย่างตกใจ เมื่อร่างของตนเองถูกพลิกให้มาอยู่ใต้ร่างของยุนโฮ ข้อมือที่เต็มไปด้วยรอยแดงทั้งสองข้างถูกพันธนาการด้วยฝ่ามือหนา และกดลงกับฟูกนอนเหนือศรีษะ ร่างกายใหญ่โตคร่อมทับร่างบางไว้
“ไม่อยากพูดนักใช่มั้ย ได้ ข้าจะสนองความต้องการของเจ้าให้” สิ้นคำพูดริมฝีปากอิ่มก็ถูกบดขยี้จากคนตัวโตอย่างไม่กลัวว่าจะช้ำ รสจูบที่แสนหยาบกระด้าง แจจุงสาบานได้ ว่ามันไม่มีแม้แต่ความอ่อนโยน
“อือ ข้า ไม่ไหวแล้ว ” อุณหภูมิที่ผิดปรกติของร่างบางข้างใต้ ทำให้ยุนโฮหยุดชะงักการกระทำนั้น ฝ่ามือแกร่งปล่อยข้อมือบางให้เป็นอิสระ แล้วเลื่อนหลังมือมาวางทาบที่หน้าผากเล็กแทน...
“ตัวเจ้าร้อน” ยุนโฮเอ่ยขึ้นมาลอยๆ
“ข้า หะ หายใจ ไม่ออก” ฝ่ามือเรียวเล็กยกขึ้นกุมหน้าอกแน่น ลำตัวบางงอเข้าหากันด้วยความเจ็บปวด ริมฝีปากแดงช้ำเผยออกเพื่อเก็บเอาลมที่มีอยู่ข้างตัวเข้าปอดให้ได้มากที่สุด คิ้วเรียวเล็กขมวดเข้าหากันแน่น
“ชางมิน!!!ชางมิน!!!ไปตามหมอมา” ยุนโฮตะโกนด้วยเสียงกึกก้อง จนคนทั้งจวนแทบจะได้ยิน
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - - - - - -
“ท่านหมอขอรับ ไม่ทราบว่าท่านจะไปนานซักแค่ไหนขอรับ ” อำมาตย์ผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น
“ข้าไปไม่นานหรอก ถ้าธุระของข้าเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ ข้าก็จะรีบกลับมา ฝากบอกพี่ชายของข้าด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วง ” หมอหนุ่มรูปงามเอ่ยขึ้นกับอำมาตย์ผู้นั้นอย่างรีบร้อน แล้วรีบควบม้าออกจากวังหลวงไปทันที
“ข้ากำลังไปรับเจ้าแล้วนะ ” ริมฝีปากอิ่มขยับพูดเบาๆกับสายลม
- - - - -- - - - - - - - - - -
- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
“แม่คร้าบบบบ ข้าไปทำงานแล้วนะ ” เด็กหนุ่มหน้าหวานเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มที่สดใสดั่งดวงตะวันในฤดูร้อน แขนเล็กๆกอดแม่ของตนเองราวกับว่าเป็นธรรมเนียมก่อนออกจากบ้าน เพราะเค้าชอบทำแบบนี้ทุกวันอยู่แล้ว
“ทำงานเสร็จแล้วก็รีบกลับบ้านล่ะ วันนี้แม่ได้ยินมาว่าหิมะจะตกหนัก” หญิงสาวลูบศรีษะกลมๆนั้นอย่างเพลินมือ
“ขอรับท่านแม่ ” เด็กหนุ่มคลายอ้อมกอดออก แล้วหันมาจัดเสื้อผ้าของตนเองให้กระชับมากยิ่งขึ้น
ทุกๆวัน คิม จุนซู เด็กหนุ่มวัยสิบเก้าย่างยี่สิบปี ต้องเดินทางไปเป็นหมอฝึกหัดกับท่านหมอคังเพื่อที่จะเรียนให้จบแล้วเข้าไปทำงานต่อที่วังหลวง ซึ่งเป็นที่ที่จุนซูใฝ่ฝันอยากเข้าไปตั้งแต่เด็กๆแล้ว
แล้วในวันนี้เค้ามีเรียนรอบเย็น
เมื่อจุนซูเดินเข้าไปถึงโรงหมอ ก็เห็นท่านหมอคังกำลังเร่งรีบจัดเตรียมอุปกรณ์รักษาต่างๆแล้วเดินออกไปจนแทบจะชนเค้าอยู่แล้ว แต่ดีที่ว่าเค้าหลบทัน
“ท่าหมอคังจะรีบไปไหนหรือขอรับ ” จุนซูเอ่ยถามเบาๆเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทจนเกินไป
“ข้าต้องรีบไปรักษาคนที่จวนแม่ทัพ ส่วนที่นี่ข้าฝากเจ้าดูแลด้วยล่ะจุนซู” พูดจบท่านหมอคังก็รีบนั่งรถม้าที่ทางจวนแม่ทัพได้จัดเตรียมไว้ให้ แสดงว่าคนที่กำลังป่วยนั้นต้องเป็นคนที่สำคัญมากแน่ๆเลย
“วันนี้ข้าต้องอยู่คนเดียวอีกแล้วหรอเนี่ย เฮ้อ รู้แบบนี้เอาเจ้ารันๆมาเล่นเป็นเพื่อนดีกว่า”
รันๆเจ้าหมาที่เค้าเลี้ยงไว้ตั้งแต่เมื่อเจ็ดปีก่อน แต่ก่อนนั้นมันยังตัวเล็กๆ ชอบวิ่งวนไปวนมาใกล้เค้า แต่ตอนนี้มันตัวโตขึ้นมาก แล้วก็เริ่มอุ้ยอ้ายๆ ไม่ค่อยชอบวิ่งเหมือนเมื่อก่อนแล้ว มันจึงอ้วนคล้ายๆหมูซะมากกว่าที่จะเป็นหมา
“ยูชอน ป่านนี้ท่านจะเป็นยังไงบ้างนะ ” ร่างบางกำลังนั่งเหม่อลอยถ้า ไม่ติดตรงที่ว่ามีชายไร้มารยาทคนหนึ่งเข้ามาขัดจังหวะเค้าซะ
“เฮ่!!เจ้าหนู จวนแม่ทัพไปทางไหน ” ชายหนุ่มรูปร่างสูงสง่ากระโดดลงมาจากหลังม้า..แล้วเดินเข้ามาถามคนที่กำลังกวาดใบไม้อยู่ข้างๆโรงหมอ
“ข้าไม่ใช่เจ้าหนู แล้วข้าก็ไม่รู้ว่าจวนแม่ทัพไม่ทางไหน ” คนตัวเล็กทิ้งไม้กวาดดัง “ปั๊บ” ไม่พอใจที่มีคนเรียกเค้าว่าเจ้าหนู เพราะตอนนี้เค้าอายุสิบเก้าแล้วไม่ใช่เด็กเก้าขวบ แล้วไอ้คนถามน่ะดูท่าทางก็ไม่ได้อายุมากไปกว่าเค้าเท่าไหร่เลย
“งั้นหรอ งั้นข้าให้นี่ เป็นของตอบแทนที่อุตส่าห์สละเวลามาคุยกับข้า ” ชายหนุ่มแปลกหน้ายื่นลูกกวาดสีสวยสองสามเม็ดให้กับจุนซู
“แม่ข้าบอกไว้ว่าไม่ให้รับของจากคนแปลกหน้า..” จุนซูบอกปฏิเสธไปทั้งที่ในใจเค้าอยากได้ลูกอมพวกนั้นจะแย่แล้วT^T
“งั้นเจ้าชื่ออะไรล่ะ ” ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อยกับความเป็นเด็กไม่รู้จักโตของคนตรงหน้า
“แม่ข้าบอกว่าไม่ให้บอกชื่อกับคนแปลกหน้า” จุนซูพองลมที่แก้ม
“แล้วแม่เจ้าบอกอะไรเจ้าอีกล่ะ ” ท้ายที่สุดชายหนุ่มแปลกหน้าก็หลุดขำออกมาอย่างไม่ตั้งใจ เอ่ะอ่ะๆก็ แม่บอกว่าๆ
“นี่ท่านหัวเราะเยอะข้างั้นหรอ ” จุนซูชักยั๊วะขึ้นมาแล้ว เมื่อกี๊นี้ยิ้ม แต่ตอนนี้หัวเราะ
“ข้าเปล่า..งั้นข้าไปก่อนนะ ” ก่อนที่ชายหนุ่มก้าวขึ้นหลังม้าไป เค้าดึงมือของจุนซูเอาไว้ แล้วยัดเยียดลูกกวาดสีหวานนั้นไว้ในมือ แล้วรีบควบม้าออกไปทันที
“อ้าาา ลูกกวาดของท่านข้าไม่อยากได้หรอกนะ แต่ในเมื่อท่านให้ข้าแล้ว ข้าจะรับไว้ก็ได้ ” จุนซูตะโกนไล่หลังคนที่ขี่ม้าหนีไป ทำเป็นกลบเกลื่อนไปแบบนั้นเอง แต่ความจริงแล้วดีใจทีได้ลูกกวาดมากมาย ฮ่าๆๆ
To Be Con
คอมเม้นท์กระฉูด...สาธุ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น