คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 7 พิสูจน์ให้ฉันเห็นสิ!
ไนท์คุงถึงกับหน้าเหวอแต่ภายในเวลาไม่นานระบบก็ได้อธิบายเมื่อเห็นท่าทางของเขา
"เอากลับบ้านที่ผมหมายถึง คือเอากลับไปตรวจสอบครับ เพราะสถานการณ์ในตอนนี้มันแปลกประหลาดมากจนเกินไป และหลังจากที่ตรวจสอบเสร็จแล้วพวกเราจะนำเธอส่งกลับบ้านครับ"
ไนท์คุงที่ได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจก่อนที่จะอุ้มเธอพร้อมกับเวลาที่ล่วงเลยผ่านไป 20 นาทีและตัวเขาในตอนนี้ก็ได้มาถึงบ้านของตนเองเป็นที่เรียบร้อย โดยที่เธอนั้นยังไม่รู้สึกตัวและดูเหมือนจะยังไม่ตื่นขึ้นมาในเร็วๆนี้ นั่นจึงทำให้ผมที่เห็นเช่นนั้นเปลี่ยนกลับมาใช้ชื่อตัวประกอบ เพราะถ้าเกิดเธอตื่นขึ้นมาผมจะได้ไม่ต้องอธิบายอะไรมากนักเพราะเธอมองไม่เห็น
ส่วนลูกซองศักดิ์สิทธิ์ในตอนนี้ผมก็สะพายมันเอาไว้ข้างหลังโดยที่ทำการถอดลูกกระสุนออกทั้งหมดเหลือเอาไว้เพียงแค่ลูกเดียวภายในกระบอก เพราะถ้าเกิดมันลั่นขึ้นมาอย่างน้อยผมก็ไม่ต้องเปลืองลูกกระสุนมากนัก ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วมันจะมีการเปลี่ยนหมวดให้กลายเป็นโหมดปลอดภัยก็ตามแต่ผมก็ยังรู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่ดี
แล้วเรื่องของผู้หญิงคนนี้ผมก็ไม่ต้องห่วงด้วยว่าจะมีใครมาพบเธอเข้าเพราะในตลอดทางที่ผมวิ่งมานั้น ไม่มีใครพบเห็นผมเลยแม้แต่น้อยเพราะผมใช้ทางลัด อย่างน้อยผมก็คิดแบบนั้นนะ แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจมากกว่านั้นก็คือหลังจากที่ผมกลับมาใช้ชื่อตัวประกอบความรู้สึกลุ่มหลงที่ผมเห็นเธอในครั้งแรกนั้นมันกลับหายไปอย่างสิ้นเชิง จนขนาดแม้แต่จ้องมองร่างกายที่เปื่อยเปล่าของเธอผมยังไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด
"รู้สึกแปลกชะมัด ทั้งที่ผมก็แน่ใจนะว่าผมไม่ได้เป็นเกย์หรือชอบไม้ป่าเดียวกัน แต่ทำไมผมถึงไม่รู้สึกอะไรเลย"
"น่าจะเป็นผลจากความสามารถในการถูกเมินนะครับ เพราะการถูกเมินมันไม่ได้มีกฎตายตัวสักหน่อยว่าพลังเวทมนตร์หรือสิ่งเหนือธรรมชาติจะไม่เมินไนท์คุงด้วย"
เขาที่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกเห็นด้วยแต่ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกเจ็บใจแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากนักก่อนที่จะเดินไปหาเสื้อผ้ามาใส่ให้เธอ และอย่างที่ผมบอกไปต่อให้ผมจะเห็นร่างกายที่เปื่อยเปล่าของเธอ ผมก็ไม่มีความรู้สึกต่อมันเลยสักนิดถึงแม้ว่าผมในตอนนี้จะกำลังจับหรือแตะต้องผิวหนังอันเนียนนุ่มของเธอก็ตาม
แต่มันกลับไม่ได้ส่งผลต่อความรู้สึกของผมเลยสักนิด จึงทำให้การใส่เสื้อผ้านั้นดำเนินต่อเนื่องอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีอะไรมาขัดขวางผมได้ แต่ปัญหาต่อมา นั่นก็คือดูเหมือนว่าเสื้อที่ผมเอามาให้เธอนั้นมันจะเล็กเกินไปนิดหน่อย ส่วนสาเหตุก็...ภูเขา 2 ลูกนั่นแหละ
"แล้วทีนี้จะตรวจสอบเธอยังไง"
"ที่จริงผมตรวจสอบเสร็จตั้งแต่ที่ไนท์คุงเริ่มใส่เสื้อผ้าให้เธอแล้วละครับ"
ระบบได้ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วและแน่นอนว่าแม้แต่ระบบเองก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรต่อหญิงงามตรงหน้าเลยสักนิด เพราะเขานั้นเป็นระบบไม่ใช่มนุษย์จึงไม่มีอารมณ์ทางเพศต่อมนุษย์ แต่ถ้าเกิดเป็นระบบนั่นก็อาจจะอีกเรื่องนึง
"แล้วผลเป็นยังไง"
"เธอเป็นนางเอกแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ครับ"
"เรื่องนั้นผมรู้ ผมหมายถึงทำไมเธอถึงกลายเป็นปีศาจได้ล่ะ แล้วทำไมเธอถึงยังเป็นนางเอก ไม่ใช่ว่าหลังจากที่เปลี่ยนพระเอกแล้ว ตัวละครอื่นๆเช่นนางเอกหรือตัวละครสำคัญจะต้องโดนเปลี่ยนด้วยไม่ใช่หรอ?"
ตามที่ระบบเคยบอกเอาไว้เมื่อพระเอกตายไปแล้วบทบาทอื่นๆนั้นจะโดนถอนในทันที และหลังจากที่มีพระเอกคนใหม่ขึ้นมา บทบาทพวกนั้นจะเริ่มทำการสุ่มตัวละครอื่นๆให้กลายเป็นนางเอกตัวสมทบหรือวายร้าย จึงทำให้นางเอกนั้นไม่ควรที่จะเป็นคนเดียวกันและถึงแม้ผมจะไม่รู้ก็ตามว่าเธอเป็นนางเอกที่ถูกเลือกจริงๆไหม แต่จากที่ดูผมคิดว่านางเอกไม่น่าจะเป็นปีศาจง่ายๆแบบนี้
อย่างน้อยก็ต้องไม่ใช่หลังจากที่เอ็มม่าเพิ่งจะได้รับบทพระเอก เพราะมันจะดูแปลกเกินไปและคนที่ได้เป็นปีศาจตั้งแต่เริ่ม ก็ไม่ควรที่จะเป็นนางเอกอย่างน้อยก็ต้องเป็นพวกลูกกระจ๊อกที่จะกลายเป็นมินิบอสหรือไม่ก็พวกบอสภาคแรกให้พระเอกไปฆ่าหรือไปตบ นั่นคือสิ่งที่ผมคิดและมันก็ควรจะเป็นแบบนั้น ยกเว้นซะว่าคนสร้างเนื้อเรื่องนี้ขึ้นมาจะเป็นบ้าไปแล้ว
ระบบที่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้นิ่งเงียบไปก่อนที่ไม่นานจะพูดขึ้น
"ผมไปอ่านบทมาแล้วครับ ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นนางเอกในเนื้อเรื่องเดิมนะครับ แต่จากการตายไปกะทันหันของพระเอกจึงทำให้เธอนั้น สูญเสียบทบาทของนางเอกไป ซึ่งมันควรจะเป็นแบบนั้นแต่ดูเหมือนจะมีใครบางคนเข้ามาแทรกแซงตรงจุดนี้นะครับ"
"เกิดการแทรกแซงเนื้อเรื่องขึ้นอย่างนั้นหรอ? บ้าหน้าใครจะไปทำได้กัน...หรือว่าจะเป็นนักข้ามมิติ"
ไนท์คุงที่นึกถึงตัวแปรหนึ่งขึ้นมาได้นั่นก็คือนักข้ามมิติที่มักจะปรากฏตัวขึ้นมาในหลายๆเรื่อง มันก็ทำให้เขามีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาภายในทันทีเพราะถ้าเกิดมีนักข้ามมิติเข้ามาแทรกแซงเนื้อเรื่อง แน่นอนว่ามันจะต้องไม่ใช่เรื่องดีและจะทำให้งานของผมนั้นยากมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งถ้าเกิดเป็นนักข้ามมิติขึ้นมาจริงๆผมก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาจะเป็นคนดีหรือคนเลว เพราะฉะนั้นแล้วมีแต่เสี่ยงกับเสี่ยงถ้าเกิดนักข้ามมิติมาที่นี่
"ไม่ครับ มันเป็นไปไม่ได้ จากกฎของจักรวาลและพหูพจน์แล้ว ดวงดาวแห่งนี้ในตอนนี้ไม่อนุญาตให้นักข้ามมิติมาที่นี่โดยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแล้วจะโดนตัดสิทธิ์จากการเป็นนักข้ามมิติ และพวกเขาจะโดนลงโทษอยู่ในขั้นเด็ดขาดนั่นคือการสูญสลายจนไม่เหลือแม้แต่วิญญาณ"
ไนท์คุงถึงกับสั่นสะเทือนไปจนถึงจิตวิญญาณเหมือนกับมีคมเขี้ยวเข้ามาจอดที่คอของเขา ทั้งที่ถ้าเป็นตามปกติแล้วถ้าเกิดมีใครบางคนมาพูดคำนี้กับเขา เขาคงจะไม่เชื่อและคิดว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องไร้สาระ แต่ในเมื่อมันออกมาจากปากของระบบและเขายังเคยเห็นเต็มๆตาว่าโลกเกือบจะแตกไปต่อหน้าต่อตาของตนเอง
มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะรู้สึกหนาวสั่นไปจนถึงจิตวิญญาณของตนเอง และเพียงแค่การพูดของระบบมันก็ยังบอกเขาอีกด้วยว่านอกจากโลกของเขาในตอนนี้แล้วก็ยังมีจักรวาลคู่ขนานอื่นๆอีกมากมายอยู่ข้างนอก มันทำให้เขาอดที่จะรู้สึกหวาดกลัวต่อความเป็นจริงนั้นขึ้นมาไม่ได้ เพราะนั่นหมายความว่าสุดท้ายแล้วโลกของเขาก็แทบไม่แตกต่างจากตัวประกอบตัวหนึ่ง
แต่เรื่องนี้คงต้องพักเอาไว้ก่อน ไม่ฉะนั้นแล้วนิยายเรื่องนี้อาจจะเปลี่ยนจากนิยายหมวดหมู่แฟนตาซีกลายเป็นไซไฟก็ได้ ใครจะรู้ล่ะจริงไหม
"ถ้าไม่ใช่นักข้ามมิติแล้ว งั้นก็คงจะเป็นปีศาจ"
ในเมื่อนักข้ามมิติโดนตัดทิ้งไปเป็นที่เรียบร้อย งั้นภายในโลกใบนี้ก็คงจะเหลือเพียงแค่ตัวเลือกเดียวนั่นก็คือปีศาจ และช่างบังเอิญซะเหลือเกินที่ผมดันไปรู้จักปีศาจตัวนึง ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากปีศาจสาวสวยในคืนนั้นที่เกือบจะเอาชีวิตพระเอกของผมไปได้ และดูเหมือนว่าเธอจะรู้เรื่องเกี่ยวกับโครงเรื่องหลักที่ไม่ควรจะมีใครรู้นอกจากผมและระบบอีกด้วย
"มีโอกาสเป็นไปได้มากเกิน 90% ครับ แต่ก่อนหน้านั้นผมว่าพวกเราควรจะไปส่งนางเอกของพวกเราก่อนนะครับ ถึงแม้ว่าในตอนนี้ดูเหมือนเธอจะโดนมอบบทบาทให้กลายเป็นแม่มดน้ำแข็งก็ตาม"
ชื่อเหนือหัวที่ไม่ปรากฏชื่อนอกจากเครื่องหมายคำถามและเครื่องหมายคำถามพวกนั้นก็เป็นสีฟ้าเข้ม จึงทำให้ผมที่เห็นแบบนั้นพยักหน้า แต่หลังจากที่อุ้มเธอขึ้นมาผมก็ได้พูดขึ้น
"แล้วตกลงบ้านเธออยู่ไหนกัน?"
แผนที่ได้ปรากฏขึ้นมาภายในสายตาพร้อมกับจุดสีแดงที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมากนักอย่างน้อยก็ 5 กิโลเมตร นั่นจึงทำให้ผมถอนหายใจออกมาแล้วผ่านไปครึ่งชั่วโมงผมก็ได้มาถึงหน้าคอนโดหลังหนึ่ง โดยที่ในตอนนี้ผมจะยังคงแบกเธอเอาไว้บนหลังและเธอก็ยังไม่ได้สติเหมือนเดิม จึงทำให้ผมที่หันไปมองแผนที่แล้วพบกับข้อมูลของเธอที่ดูเหมือนว่าเธอจะพักอยู่บนชั้นที่ 17 หมายเลขห้องที่ 246 ผมก็ได้ถามระบบ
"นี่ก็ผ่านมาเกือบจะชั่วโมงนึงแล้วนะ ทำไมเธอถึงยังไม่ได้สติกัน?"
ระบบตอบอย่างรวดเร็ว"น่าจะเป็นผลมาจากการที่เธอกลายร่างเป็นปีศาจนะครับ จึงทำให้สภาพจิตใจของเธอนั้นอยู่ในขั้นอ่อนแอและอาจจะเก็บไปฝันร้ายเลยก็ได้ครับ ก็เลยทำให้เธอในตอนนี้ยังคงหลับไม่ได้สติถึงแม้ว่าร่างกายจะโดนฟื้นฟูกลับมาให้เป็นเหมือนเดิมแล้วก็ตาม"
"อย่างนี้นี่เอง"ไนท์คุงที่ยังคงแบกเธอเดินเข้าไปภายในคอนโดก่อนที่ไม่นานจะเดินขึ้นบันไดเงียบๆมาตลอดทางเข้าก็ได้มาถึงห้องของเธอ แต่กับติดปัญหาอย่างหนึ่งนั่นก็คือเขาไม่มีรหัสผ่านเข้าไปภายในห้อง แต่เร็วเท่าที่เขาคิดประตูตรงหน้าก็ได้เปิดออก
"ผมเปิดประตูให้แล้วครับไนท์คุง"
"ระบบนายทำแบบนี้ได้ด้วยอย่างนั้นหรอเนี่ย! สุดยอดถ้ารู้แบบนี้ผมน่าจะพานายไปปล้นบ้านคนรวยสักหลัง"
ไนท์คุงได้เสนอความคิดอันชั่วร้ายขึ้นมาภายในทันทีจนทำให้ระบบรู้สึกเอื่อมละอายกับนิสัยอันบ้าบอคอแตกของเขาถึงแม้ว่าเขาจะพูดเล่นก็ตาม ไนท์คุงที่เดินเข้ามาภายในห้องก็ได้วางเธอลงตรงโซฟาในขณะที่จะมองห้องเธอสักพักหนึ่งแล้วพบกับกรอบรูปอันหนึ่ง ที่มีผู้หญิงหน้าตาเหมือนกันอย่างกับฝาแฝดยืนถ่ายรูปคู่กันด้วยรอยยิ้ม
นั่นทำให้เขาที่เห็นแบบนั้นมองอยู่สักพักเพราะนับตั้งแต่ที่เขาจำความได้ เขาก็ไม่เคยเห็นหน้าตาพ่อแม่พี่น้องของตนเองเลย เพราะเขานั้นเติบโตขึ้นมากับสถานที่เลี้ยงเด็กแห่งหนึ่ง ถึงแม้ว่าในตอนนี้มันจะโดนรื้อถอนไปแล้วก็ตาม
"อยากได้ครอบครัวหรอครับไนท์คุง ผมทำให้ความฝันนั้นของนายเป็นจริงได้นะ"
ระบบที่สัมผัสได้ถึงอารมณ์ของเขาก็ได้พูดขึ้น นั่นทำให้ผมถามขึ้นด้วยความสงสัยในขณะที่ดวงตายังคงจ้องมองรูปตรงหน้า
"ยังไง"
"ไม่ยากเลยครับ หลังจากที่ไนท์คุงทำภารกิจที่ระบบโดนไหว้วานให้มาช่วยโลกใบนี้เอาไว้ได้สำเร็จ ไนท์คุงจะมีสิทธิ์ให้เลือกอยู่ 2 ทาง นั่นก็คือไนท์คุงจะสามารถขอพรอะไรกับระบบก็ได้ 1 อย่าง แน่นอนครับว่าการขอพรเพิ่มนั้นไม่มีผล หรือทางเลือกที่ 2 ไนท์คุงจะตัดสินใจกลายเป็นนักข้ามมิติ แน่นอนครับว่าสิทธิประโยชน์ของนักข้ามมิตินั้นมีมากมาย แต่ผมคงไม่สามารถบอกให้คนนอกอย่างไนท์คุงทราบได้ครับ"
เขาที่ได้ยินแบบนั้นนิ่งเงียบไปสักพักหนึ่งก่อนที่จะเผยรอยยิ้มออกมาซึ่งในตอนนั้นเองประตูก็ได้โดนเปิดออกและเผยให้เห็นถึงหญิงสาวที่หน้าตาสะซวยคนหนึ่งซึ่งมีเรือนผมสีดำและใบหน้าของเธอนั้นจะมีฝอยประดับเอาไว้ช่วยเพิ่มความสง่างามให้กับเธอเป็นเท่าตัว หลังจากที่เข้ามาภายในห้องเธอก็ได้ปิดประตูใส่ล็อค
ก่อนที่จะมองซ้ายมองขวาและเมื่อเห็นนางเอกที่กำลังนอนอยู่บนโซฟามันก็ทำให้เธอเผยรอยยิ้มโดยที่ภายในมือของเธอจะปรากฏดาบสีดำ
"หน้าแปลกใจจริงๆที่เธอยังมีชีวิตอยู่ ทั้งที่ฉันปลูกเมล็ดความตายเอาไว้ภายในเธอแล้วแท้ๆ ช่างน่าแปลกใจจริงๆ"
หญิงสาวคนนั้นได้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความแปลกใจ แต่เธอก็ยังคงเดินมาเรื่อยๆจนในที่สุด ก็ได้มีเสียงแปลกๆดังขึ้นก่อนที่ไม่นานดวงตาของเธอจะเบิกกว้าง เพราะตรงหน้าของเธอในตอนนี้กำลังมีปลายกระบอกปืนลูกซองจ่ออยู่บนหัวของเธอ โดยที่ในตอนนี้ไนท์คุงจะค่อยๆปรากฏขึ้นเหมือนกับสายลมต่อหน้าต่อตาของเธอ
"ไม่คิดเลยนะครับว่าการสันนิษฐานของผมจะถูกต้อง ดูเหมือนคนที่พยายามจะทำลายเส้นเนื้อเรื่องจะเป็นคุฌจริงๆสินะครับ คุณปีศาจ"
ไนท์คุงได้พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่งและเขาในตอนนี้ได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อไนท์เป็นที่เรียบร้อย จึงทำให้การโดนเมินโดยสมบูรณ์ของเขานั้นหายไป นั่นก็เลยเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเธอถึงเห็นเขาค่อยๆปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเหมือนกับว่าเขานั้นใช้เวทมนต์
แต่ปีศาจสาวที่อยู่ในคาบของหญิงสาวผู้งดงามนั้น เธอกลับหัวเราะออกมาเมื่อเห็นอาวุธที่อยู่ภายในมือของเขา
"ฮ่าๆๆ! นี่นายคิดจริงๆอย่างนั้นหรอว่าปืนจะทำอะไรฉันได้น่ะ? นายก็น่าจะรู้นี่นาว่านอกจากอาวุธศักดิ์สิทธิ์แล้ว นายก็ไม่มีอะไรเหนือไปกว่าฉันเลย"
เธอได้ยื่นมือมาจับปลายกระบอกปืนก่อนที่จะเลื่อนมันลงมาตรงใจกลางหน้าอกของเธอด้วยสีหน้าที่ท้าทายและจับมันจอดใจกลางหน้าอกในขณะที่จะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวน
"เอาเลยสิที่รัก ยิงมาเลย"
เธอนั้นไร้ซึ่งการป้องกันใดๆในขณะที่จะยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหมือนกับเชิญชวนให้ผมนั้นยิงปืนออกไป และแน่นอนว่าเขานั้นไม่ปฏิเสธนั่นจึงทำให้ไนท์คุงหันปลายกระบอกปืนไปที่หัวเข่าข้างซ้ายของเธอและลั่นไกปืนพร้อมกับลูกกระสุนที่พุ่งออกจากปลายกระบอกปืนเข้าทำลายขาข้างซ้ายจนขาดสะบั้นออกจากกัน! นั่นทำให้เธอถึงกับเสียสมดุลและล้มลงด้วยสีหน้าที่ตกตะลึง!
แต่ไม่ทันที่จะหายจากอาการตกตะลึงเธอก็โดนปลายกระบอกปืนที่ยังคงมีควันสีขาวลอยออกมาจ่อลงที่หัวพร้อมกับน้ำเสียงอันเรียบนิ่งของไนท์คุงจะดังขึ้น
"แล้วทีนี้รู้หรือยังครับ ว่าปืนผมทำอะไรได้บ้าง"
ปีศาจสาวในตอนนี้ดวงตาของเธอจะเต็มไปด้วยความสับสน มึนงง โกรธแค้น ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกัน ทั้งที่ปืนที่จอดอยู่ตรงหัวของเธอนั้นมันเป็นเพียงแค่ปืนธรรมดาแท้ๆแต่ทำไมมันถึงสามารถคุกคามเธอที่เป็นปีศาจได้ เธอนั้นไม่เข้าใจจริงๆ แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามปฏิเสธมากเท่าไหร่แต่ขาที่หายไปข้างหนึ่งของเธอนั้นมันก็มากพอที่จะยืนยันได้แล้วว่า ปืนที่อยู่ตรงหน้าของเธอนั้นมันมีพลังมากพอที่จะเด็ดหัวเธอ!
"เอาล่ะครับถ้าอย่างนั้นช่วยบอกผมหน่อยจะได้ไหมครับ ว่านอกจากคุฌแล้วยังมีใครอีก"
ไนท์คุงที่ยังคงไม่ปล่อยมือออกจากปืนและยังคงใช้ปืนจ่อหัวของเธอในการเค้นข้อมูลมันก็ทำให้ปีศาจสาวสวยในคาบของหญิงงามนั้นพยายามฝืนยิ้มขึ้นในขณะที่จะมีเหงื่อตก
"ถ้าฉันบอกแล้วนายจะปล่อยฉันไปอย่างนั้นหรอ?"
"ก็อาจจะเป็นแบบนั้นครับ"
"ถ้าอย่างนั้น ฉันไม่บอก"
ไนท์คุงถึงกับขมวดคิ้วแต่ภายในเวลาไม่นานเขาก็เตรียมลั่นไกปืน นั่นจึงทำให้ปีศาจสาวที่รู้ว่าตัวเองชะตาขาดแล้วหลับตาลง และภายในวินาทีต่อมาไนท์คุงก็ได้ทำการลั่นไกปืน!
แล้วเสียงอันไม่น่าพึงประสมก็ได้ดังขึ้นเพราะภายในวินาทีต่อมาปีศาจสาวที่ร่างกายสั่นเทาไปด้วยความกลัวเพราะคิดว่าตัวเองกำลังจะตายนั้นกับลืมตาขึ้นเมื่อพบว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไนท์คุงที่เพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองถอดลูกปืนออกทั้งหมดและเหลือไว้เพียงแค่ลูกปืนเพียงแค่นัดเดียวภายในกระบอก มันก็ทำให้ใบหน้าที่นิ่งเงียบมาตลอดของเขา ปรากฏเหงื่อไหลออกมาแล้วริมฝีปากก็ค่อยๆสั่น
นั่นทำให้ปีศาจสาวที่เห็นท่าทางของเขาพูดขึ้น
"นี่นายลืมเช็คลูกกระสุนอย่างนั้นหรอ"
"ป-เปล่าสักหน่อย เมื่อกี้เธอก็แค่หูฝาดไปเอง!"
"ฉันไม่เชื่อ พิสูจน์ให้ฉันเห็นสิ!"
ไนท์คุงลั่นไกปืนอีกครั้งหนึ่งแล้วเสียงกระสุนหมดก็ดังขึ้น ทำให้ปีศาจสาวที่เห็นเช่นนั้นมีรอยยิ้มอันน่ารักออกมาในขณะที่เธอจะลุกขึ้นและกระโดดเข้ามากอดคอของเขาด้วยรอยยิ้ม
"แหมๆกระสุนหมดก็ไม่บอกกันนะ นี่นายรู้ไหมว่านายทำให้สาวสวยแบบฉันตกใจจนเรียกได้ว่าขี้หดตดหายเลยนะ เพราะฉะนั้นนายจะต้องรับผิดชอบกับการกระทำของตนเองนะ"
รอยยิ้มบนใบหน้าของปีศาจสาวเรียกได้ว่าไม่ว่าผู้ชายใดก็ตามที่ได้มองจะต้องหลงเสน่ห์ไปกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแน่นอน! แต่สำหรับไนท์คุงในตอนนี้กลับรู้สึกได้ว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอนั้นมันช่างน่ากลัวซะเหลือเกิน จนทำให้ริมฝีปากของเขาสั่นไปมาด้วยรอยยิ้มอันจอมปลอมและพูดขึ้นภายในใจ "ชิบหายแล้วไง"
ความคิดเห็น