"พวกเจ้ากลับไปที่ตำแหน่งตนเอง เตรียมตัวรับการโจมตีเหล่าสัตว์อสูรเร็วๆเข้า อย่าชักช้า"
"ฝ่าบาทกระหม่อมคาดว่า ที่พวกสัตว์อสูรไม่มาโจมตีเราก่อนหน้านี้คงเพราะมันกำลังรวมตัวกันเป็นแน่ ดูถ้าครั้งนี้จะลำบากน่าดูเลยพะยะค่ะ"
"เจ้าส่งคนไปดูสิ ว่าเหล่าสัตว์อสูรมันมาถึงไหนกันแล้ว "
"น้อมรับ คำสั่ง"
"ท่านแม่ทัพ เตงกัวเฉา ท่านช่วยไปสืบข้อมูลแล้วรีบกลับมารายงานฝ่าบาทด่วนเลย"
"ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ"
แม่ทัพเตงกัวเฉารีบพุ่งทะยานไปทิศทางที่สัตว์อสูรคำราม 10 ลมหายใจก็มาพบเจอเข้ากับกองทัพสัตว์อสูรจำนวนมาก เมื่อกวาดสายตาดูรอบๆมีไม่ต่ำกว่า100ตัว เหงื่อเย็นเยียบผุดขึ้นเต็มหน้าผาก ท่าทางตื่นตกใจ เกิดขึ้นฉับพลัน คิดได้อย่างเดียวตอนนี้คือ "หนี" ให้เร็วที่สุด
"นี่มันเกิดอะไรกันทำไม ถึงมีกองทัพสัตว์อสูรได้ ปกติมันไม่น่าจะเป็นแบบนี้สิ"
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้นก็สัมผัสได้ถึงพลังอันน่ากลัวได้จากในกองทัพสัตว์อสูร แม่ทัพ เตงกัวเฉาถึงกับร่างกายสั่นสะท้านรุนแรง หน้าซีดเผือด ร่างกายหยุดชะงักเหมือนโดนโซ่ล่ามเอาไว้ ความกลัวพุ่งทะลุกัดกินจิตใจ
"เหวอ!!ข้าต้องมาตายที่นี่รึไงกัน ข้าไม่ยอมมาตายที่นี่เด็ดขาด" ฉึก!!
แม่ทัพเตงกัวเฉายกดาบที่อยู่ในมือขึ้นมาแทงเข้าที่แขนของตัวเอง เพื่อให้สติกลับมาจากความกลัว กัดฟันแน่นจนแทบจะแตกละเอียด ก่อนจะพุ่งทะยานหลบหนีออกมาได้ มุ่งไปยังค่ายเพื่อรายงานทันที
อิงเป่ยพุ่งทะยานไปตามต้นไม้ เพื่อไปยังจุดที่มีเสียงสัตว์อสูรคำราม
"หวังว่าข้าจะไปทันเวลานะ"
"โอ้ ไม่นึกว่าจะมีหนูหลุดรอดจากแรงกดดันข้าไปได้นะเนี้ย ช่างมันเถอะยังไงพวกเจ้าก็ต้องตายทั้งหมดอยู่ดี" หึหึ!!
ฟุบ!! แฮกๆ!! แม่ทัพเตงกัวเฉากับมาพร้อมกับความเหนื่อยหอบ นั่งนิ่งอยู่นานก่อนจะกล่าวออกมาด้วยความหวาดกลัว
"ฝ่าบาท คือว่า...พวกเราจะรับมือไหวแน่รึพะยะค่ะ กระหม่อมไปพบเจอกับเหล่ากองทัพสัตว์อสูร..จำนวนไม่น้อยเลย กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ แถม..ยังมีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งรวมอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย"
"หืม..สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งอย่างนั้นรึ เจ้าไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม"
"กระหม่อมไม่กล้าพูดเล่นแน่นอนพะยะค่ะ แรงกดดันที่กระหม่อมสัมผัสได้มันน่ากลัวมากจนทำให้ กระหม่อมต้องใช้ดาบแทงแขนตนเอง เพื่อเรียกสติกลับมา แล้วรีบหนีมานี่ล่ะ พะยะค่ะ"
"แล้วจำนวนสัตว์อสูรที่กำลังมา มีมากแค่ไหนกัน"
"เอ่อ..น่าจะประมาณ 100 ตัว ได้พะยะค่ะ ความแข็งแกร่งนั้นไม่อาจดูแคลนได้"
ความตึงเครียดเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆจนฝ่าบาทต้องขมวดคิ้วแน่น คิดในใจว่า
"ถ้าจริงอย่างที่แม่ทัพเตงกัวเฉาว่า ดูถ้าศึกครั้งนี้คงเลี่ยงความสูญเสียไม่ได้ ข้าจะทำยังไงดีล่ะ ถ้าไม่อาจป้องกันได้ เมืองแดนเหนือคงต้องล่มสลายแน่นอน ไม่ว่ายังไงก็ต้องป้องกันให้ถึงที่สุด"
จากนั้นจึงได้กล่าวปลุกใจทหารที่อยู่ที่นี่ทันที
"เพื่อครอบครัวของพวกเจ้าทุกคน อย่ายอมแพ้เหล่าสัตว์อสูรเด็ดขาด ถ้าเราชนะศึกครั้งนี้เราก็จะปกป้องบ้านของพวกเราเอาไว้ได้"
เฮ้ๆ เสียงความฮึกเหิม กำลังใจที่พร้อมจะต่อสู้พุ่งอย่างล้นหลาม แต่ก็ต้องหยุดชะงักลง เมื่อได้ยินเสียงสัตว์อสูรคำรามอยู่ไม่ห่าง
โฮกกก!! โฮกกก!! ทุกคนต่างหันมองไปทางต้นเสียงก็ต้องตกใจจนหน้าซีด ขาสั่นกันไปหมด
"นะ นะ นั่นมันสัตว์อสูร ทำไมมันถึงเยอะขนาดนั้นกัน นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว"
ทหารบางคนกลัวจนก้าวถอยหลัง ล้มกระแทกพื้นกันหลายคน รีบหนีออกจากจุดที่ยืนเพื่อเอาชีวิตรอด เหล่าแม่ทัพทั้งหลายก็ไม่ได้ห้าม แล้วพากันพุ่งทะยานมายืนรับหน้าแทนเหล่าทหารทันที
"พวกเจ้าถอยหลบไปก่อน เดี๋ยวพวกข้าจะรับหน้าเหล่าสัตว์อสูรให้ ถ้าใครยังไหวอยู่ก็มาคอยสนับสนุนพวกข้าก็แล้วกัน"
โฮกกกก!! "มันมาแล้ว"
เหล่าแม่ทัพทั้งหลายช่วยกันต้านเอาไว้ด้วยกำลังทั้งหมดที่มี
"อย่าให้มันผ่านตรงนี้ไปได้ ไม่งั้นเมืองเราพินาศแน่!"
ย๊ากก!! ฟิ้ววว! ตู้ม!! ตุบ! ตุบ! ตุบ! เสียงเหล่าสัตว์อสูรวิ่ง เข้ามาปะทะกับเหล่าแม่ทัพต่างใช้ทักษะการต่อสู้เข้าห้ำหั่นกันชุลมุลไปทั่ว
ฉึก!อ๊ากกก!! "ท่านแม่ทัพ!!"
"ข้าไม่เป็นไรแค่แผลเล็กน้อย พวกเจ้าหลบไปก่อน"
"นั่นมันสัตว์อสูรระดับทองนิ พวกเจ้าทุกคนระวังตัวด้วย มีสัตว์อสูรระดับทองอยู่ด้วย เจ้ารีบไปแจ้งองครักษ์เร็วเข้า"
"รับทราบ ท่านแม่ทัพ"
"ทหารที่ต้านรับการโจมตีตรงนี้รีบถอยไปเร็วเข้า พวกเจ้าสู้มันไม่ได้ ให้ไปช่วยแม่ทัพคนอื่นซะ"
การที่มีสัตว์อสูรระดับทองออกมาทำให้สถานะการณ์ยิ่งย่ำแย่หนักเข้าไปอีก ทหารกับแม่ทัพไม่อาจต้านทานพลังได้จึงได้แต่รอให้องครักษ์มาเท่านั้น
"เดี๋ยวข้าจัดการเอง เจ้าคอยระวังสัตว์อสูรตนอื่นๆให้ข้าทีนะ"
องครักษ์ฝางหวู่อิน กล่าวออกมาก่อนจะพุ่งทะยานเข้าไปปะทะกับสัตว์อสูรวานรระดับทอง
ย๊ากกก!! "ดาบทลายภูผา" ฟิ้วว!! คลื่นดาบฟาดฟันไปยังร่างของสัตว์อสูรวานรระดับทอง
เปรี้ยง!! โฮกกก!! เสียงคำรามอันดุร้าย บ่งบอกว่า มันโกรธอย่างรุนแรงที่โดนโจมตีโดยที่ไม่ทันตั้งตัว มันพุ่งออกมาทางองครักษ์ฝางหวู่อินด้วยความบ้าคลั่ง
"หืม..แรงกดดันที่แผ่พุ่งมาไม่ต่างจากข้าเลยซักนิด ขืนเป็นแบบนี้คงไม่อาจสู้ยืดเยื้อนานๆได้คงต้องรีบจัดการ"
การต่อสู้ขององครักษ์ฝางหวู่อินกับสัตว์อสูรรวานรดับทองนั้นดุเดือดจนมาถึงช่วงสุดท้ายของการต่อสู้
ย๊ากกก!! "ดาบสวรรค์ผ่าพิภพ" ฟิ้วว!! สัตว์อสูรวานรระดับทอง พุ่งเข้าหาอย่างไม่เกรงกลัวซัดหมัดเข้าปะทะกับท่าดาบสวรรค์ผ่าพิภพทันที
เปรี้ยง!! แรงปะทะทำให้ทั้ง2กระเด็นถอยหลังไปหลายก้าว แต่เพราะร่างกายของสัตว์อสูรวานรระดับทองนั้นแข็งแกร่งกว่าองครักษ์ฝางหวู่อิน มันจึงพุ่งเข้าหาอีกครั้ง ขณะที่องครักษ์ยังโซเซอยู่
"ท่าไม่ดีแล้วหลบไม่ทันแน่"
องครักษ์ฝางหวู่อินจึงได้สร้างเกราะปราณขึ้นมาป้องกัน ตู้ม!! ความรุนแรงของหมัดนี้ทำให้เกราะปราณแตกสลายลง ทำให้ได้รับความเสียหายเพียงครึ่งเดียว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรุนแรงอยู่ดี
อึก!! พรวดด!! องครักษ์ฝางหวู่อินกระอักเลือดออกมาพุ่งไปด้วยความแรง
แม่ทัพเตงกัวเฉารีบพุ่งเข้าไปรับองครักษ์ฝางหวู่อิน เมื่อเห็นว่าพลาดท่าให้กับสัตว์อสูรวานรระดับทอง
ฟุบ!! หมับ!"แม่ทัพเตงกัวเฉา คว้าจับเอาไว้ได้ทันก่อนที่จะพุ่งไปชนเข้ากับต้นไม้
"ท่านเป็นอย่างไรบ้าง"
อั๊กก! "ขอบใจเจ้ามาก ข้าไม่นึกเลยว่ามันจะลงเอยแบบนี้ ร่างกายมันแข็งแกร่งมาก ขนาดอาวุธยังสร้างบาดแผลให้มันเพียงเล็กน้อย"
สัตว์อสูรวานรระดับทองพุ่งเข้าหาทั้ง2ด้วยความบ้าคลั่งอีกครั้ง
โฮกกก!! ตุบๆ! ตุบๆ! เสียงวิ่งนั้นเรียกความสนใจขององครักษ์ฝางหวู่อินกับแม่ทัพเตงกัวเฉาทันที
โฮกกก!! อสูรวานรระดับทอง เหวี่ยงหมัดพุ่งเข้าหาแม่ทัพเตงกัวเฉา เสียงหวีดหวิวของหมัดแหวกสายลมไปด้วยความเร็วและรุนแรง แม่ทัพเตงกัวเฉารีดเค้นพลังเพื่อสร้างเกราะปราณขึ้นเพื่อต้านรับหมัดนี้เอาไว้
"เจ้ารีบหนีไปซะไม่งั้นเจ้าจะตายอยู่ตรงนี้"
ฟิ้ววว!! ฟุบ!! ร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งได้โผล่ขึ้นมาฉับพลันยืนขวางระหว่างสัตว์อสูรวานรกับแม่ทัพเตงกัวเฉาเอาไว้ แล้วยื่นมือขึ้นไปรับหมัดของอสูรวานรไว้อย่างง่ายดาย หมับ!!
กลิ่นอายที่ออกมาจากร่างกายของอิงเป่ยนั้นแข็งแกร่ง แรงกดดันที่ออกมานั้น ทำให้สัตว์อสูรที่กำลังปะทะกับทหารสัมผัสได้ถึงกับสั่นสะท้านหวาดกลัววิ่งหนีกันไปคนละทิศคนละทาง แม้แต่ราชันย์อสูรค้างคาวยังสะดุ้งเฮือกเมื่อสัมผัสได้
"นี่มันอะไรกัน กลิ่นอายนี่มัน... สัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์!! ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่กันล่ะ เป็นไปไม่ได้ ข้าต้องไปดูให้เห็นกับตาตัวเอง"
ราชันย์อสูรค้างคาว พุ่งทะยานบินขึ้นไปบนฟ้ามุ่งตรงไปยังกลิ่นอายที่สัมผัสได้
"เป็นไปไม่ได้ นั่นมันมนุษย์ไม่ใช่รึ แล้วทำไมถึงมีกลิ่นอายแบบนั้นได้ล่ะ นี่ข้ากำลังเจอกับอะไรอยู่เนี้ย"
อิงเป่ยออกแรงกำหมัดสัตว์อสูรวานร ก่อนจะกระซากจนแขนขาดออกจากร่างอสูรวานรทันที แขวก!! โฮกกก!!เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เลือดพุ่งออกจากแขนที่ขาดเลือดสาดกระจายไปทั่ว ก่อนที่อสูรวานรจะกระโดดพุ่งหนีด้วยความหวาดกลัว
อิงเป่ยไม่ได้ตามอสูรวานรไป เพียงแค่จ้องมองเท่านั้น ก่อนจะหันไปยังทิศที่ราชันย์อสูรค้างคาวอยู่ไม่ไกล แล้วค่อยๆลอยตัวขึ้น แล้วพุ่งลอยไปทางราชันย์อสูรค้างคาว
"หืม..มันกำลังมาทางนี้ ไม่นึกว่ามันจะสัมผัสถึงตัวตนของข้าได้"
เมื่ออิงเป่ยเข้ามาในระยะที่ราชันย์อสูรค้างคาวอยู่ สิ่งแรกที่ราชันย์อสูรค้างคาวคิดคือ
"ทำไมหน้าตามันคุ้นๆจังแฮะ เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน"
"โอ้ ไม่เจอกันนานเลยนะ เจ้าสบายดีรึเปล่า"
"เจ้ารู้จักข้าด้วยรึ?"
"แน่นอน ข้าจำเจ้าได้ดี แต่เจ้ากับลืมข้าซะได้ "
"อืม..จะว่าไปเจ้าก็หน้าคุ้นๆอยู่นะ ถ้าไม่มีกลิ่นอายนั่น ข้าก็คิดว่าเจ้าเป็นมันซะอีก"
5555!! "งั้นข้าจะเตือนความจำให้เจ้าหน่อยก็แล้วกันดีไหม"
อิงเป่ยหยิบดาบเทพมารสะท้านภพออกมาจากแหวนมิติ แล้วชักดาบออกจากฝัก ก่อนจะฟาดฟันออกไปด้วยท่า "ดาบเดียวปลิดชีพ" ฟิ้วว!!
เหวอ!! "ดาบนั่นมัน ฉิบหายแล้ว มิน่าข้าถึงได้คุ้นหน้ามันนัก ไม่เจอกันเท่าไหร่ ทำไมมันเปลี่ยนไปเยอะขนาดนี้กัน"
ราชันย์อสูรยิ่งตกใจยิ่งขึ้นอีก เมื่อสัมผัสถึงคลื่นดาบที่กำลังพุ่งมาที่ตัวเองจึงได้ใช้ท่า "กงเล็บทมิฬ" ออกมาต้านรับ ฟิ้ววว!! ตู้ม!!
หืม..."นี่มันทักษะบ้าอะไรกัน!! ราชันย์อสูรค้าวคาวเค้นพลังออกมาต้านรับพร้อมกับกางปีกแล้วหุบป้องกันการโจมตีที่เหลืออีก 4ครั้ง " ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
"ดีนะที่ข้าแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อน ไม่งั้นตัวข้าคงจะถูกผ่าออกไป2ซีกแน่นอน"
ราชันย์อสูรค้างคาวคิดในใจก่อนจะกางปีกออกเมื่อการโจมตีสิ้นสุดลง
"นี่เจ้าไม่ทักทายข้ารุนแรงไปหน่อยรึ "
"เจ้ามันหนังเหนี่ยวอยู่แล้วจะตายง่ายๆได้ยังไงกัน แต่ครั้งหน้าก็ไม่แน่ เจ้าอาจจะลงไปนอนชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นข้างล่างก็ได้" 5555!!!
เน็ตใช้ไม่ได้ตั้งแต่เที่ยง จนถึงตอนเย็น จึงมาอัพช้า เพราะพึ่งแต่งเสร็จ
พรุ่งนี้ค่อยอ่านต่อหลังจากไปถอนฟัน นะครับ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย