อิงเป่ยมาโผล่อีกครั้งที่ด้านหน้าประตูตระกูลอิง ฟุบ!! เดินเข้าไปข้างในแล้วสั่งให้ทุกคนกลับไปที่พัก
"อ้าวเหลียงเจ้าไปบอกทุกคนพากันหลบไปที่พักกันก่อน อย่าพึ่งออกมานะถ้าข้ายังไม่ได้สั่ง"
"เข้าใจแล้ว ขอรับ"
ซุนอ้าวเหลียงเข้าใจสถานะการณ์ทันที จึงรีบวิ่งไปบอกกล่าวแก่ทุกคนให้หยุดงานเอาไว้ก่อนแล้วไปหลบที่บ้านพักตนเอง
"เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นรึ ถึงได้บอกให้หยุดทำงานแล้วไปหลบอยู่ที่พักตนเองน่ะ"
"คุณชายสั่งมาน่ะ คงจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น คุณชายกลัวทุกคนจะได้รับอันตรายจึงให้ไปหลบก่อน"
"แล้วคุณชายจะไม่เป็นอะไรรึ ที่ต้องรับมือคนเดียวน่ะ"
"ไม่ต้องห่วง ข้าสงสารคนที่มาหาเรื่องมากกว่าอีก ถ้าไม่ตายก็พิการแน่นอน"
"เจ้ามั่นใจนะว่าไม่เป็นอะไร"
"แน่นอน เพราะคนที่ช่วยข้าจากการถูกทำร้ายคือคุณชายนี่ล่ะ"
ปัง!! เสียงประตูด้านหน้าถูกผลักอย่างแรงด้วยพลังปราณ อิงเป่ยที่ยืนรออยู่ถึงกับปลดปล่อยจิตสังหารอันรุนแรงออกมาทันที เมื่อประตูถูกผลักอย่างแรง
"มาบ้านคนอื่นยังกล้าทำตัวเสียมารยาทแบบนี้ จะให้ชดใช้ยังไงดีนะ"
อิงเป่ยกล่าวเสียงเนิบๆออกมา
ชายวัยกลางคนอายุประมาณ50กว่า ร่างกายสูงใหญ่ เต็มไปด้วยมัดกล้ามอันแข็งแกร่ง หน้าตาดุร้ายมีรอยแผลที่คิ้วข้างขวา มีหนวดและเคราสีดำยาวทำให้ดูหน้าเกรงขาม เดินเข้าประตูมาด้วยความหยิ่งยโส กวาดสายตามองไปที่อิงเป่ย แล้วก็หัวเราะเสียงดัง
5555!! "เจ้าเองรึที่กล้าทำร้ายนายน้อยของข้า แล้วยังมีหน้ามาสร้างตระกูลที่นี่อีก ช่างกล้าจริงๆนะ"
"โอ้ แล้วทำไมข้าจะสร้างตระกูลข้าเองไม่ได้ล่ะ ก็ในเมื่อข้ามีปัญญาที่จะซื้อ อีกอย่างเมืองนี้เป็นของตระกูลเจ้าคนเดียวรึไง"
"เจ้า...ถึงจะไม่ใช่ แต่พวกข้าก็มีอำนาจที่สุดในเมืองนี้ จะทำอะไรก็ได้ ดูอย่างตระกูลจินสิ กลัวจนหนีออกจากเมืองนี้ไปแล้ว"
"หึหึ!! ข้าแนะนำให้พวกเจ้าย้ายออกจากเมืองนี้เหมือนตระกูลจินก็ดีนะ จะได้ไม่ถูกกวาดล้างทั้งตระกูล"
อิงเป่ยพูดจบเสียงหัวเราะของคนที่มาจากตระกูลชิวก็ดังขึ้นทุกคน เหมือนกับพึ่งได้ยินเรื่องตลกมากๆจนไม่อาจอดกลั้นได้
5555!! "ตระกูลจะโดนกวาดล้างให้รีบย้ายออกไป นี่ข้าฟังผิดไปรึเปล่าเนี้ย"
"ท่านไม่ได้ฟังผิดไปหรอก ข้าก็ได้ยินเหมือนกัน" 5555!!
"พูดกับพวกเจ้าไปคงไม่มีประโยชน์สินะ สวะนี่เข้าใจอะไรยากจริงๆ"
เมื่อได้ยินคำที่อิงเป่ยกล่าวออกไปถึงกับเงียบปากกันเลยทีเดียว ต่างจ้องมองไปที่อิงเป่ยด้วยความโกรธที่ถูกว่าเป็นสวะ
"เจ้า!!อยากตายมากสินะ ข้าชิวจางฟู่จะช่วยสงเคราะห์เจ้าเอง"
ชิวจางฟู่ระเบิดพลังระดับราชันย์ออกมา เพื่อกดดันอิงเป่ยทันที แต่สิ่งที่ทำไปนั้นกับไม่ได้ผลเลยซักนิด ชิวจางฟู่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เริ่มคิดหาเหตุผลมาอธิบาย
"นี่ข้ารีดเค้นพลังสูงสุดของข้าแล้วนะแต่มันกับยืนนิ่งเฉยสบายๆไม่มีอาการผิดปกติเลยซักนิด นี่อย่าบอกนะว่าพลังของมันเหนือกว่าข้า"
"นี่เจ้าจะไม่เข้ามารึไง ข้ายืนรอจนเบื่อแล้วนะ หรือจะให้ข้าเข้าไปหา"
"ไม่จำเป็น ข้าแค่กำลังคิดว่าจะทำยังไงกับเจ้าต่างหากล่ะ หักแขนหักขา ตบปากให้พูดไม่ได้ ที่ว่าพวกข้าเป็นสวะ"
"หลงเทียน หลงหลิน หลงหลิว หลงฟาน พวกเจ้าคอยสังหารคนที่คิดจะหลบหนีจากที่นี่ให้หมด"
"คุณชายวางใจได้จะไม่มีใครรอดออกไปแน่นอน" ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!
ทั้ง 4 ตนหายวับไปทันที เมื่อกล่าวจบ
ชิวจางฟู่กับชิวเฟยหยูถึงกับตกตะลึงกับคำสั่งของอิงเป่ยที่กล่าวออกมา ทำให้เกิดความรู้สึกถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น จิตใจเริ่มสั่นไหว เต้นถี่เร็วขึ้นแทบจะระเบิดออกมา
"เมื่อไหร่จะเข้ามา ข้าไม่มีเวลาว่างมาเล่นกับพวกเจ้าหรอกนะ ถ้ากลัวก็เข้ามาทั้งหมดเลยสิ"
ชิวจางฟู่พุ่งเข้าหาอิงเป่ย "ฝ่ามือโลกันต์" ตายไปซะ !!
อิงเป่ยระเบิดพลังปราณระดับเซียนออกมา ยกมือขึ้นไปคว้าจับแขนของชิวจางฟู่ไว้ก่อนจะเตะสวนออกไปที่อกทันที
เมื่อการโจมตีของตนเองพลาดและยังถูกเตะสวนกลับมา ชิวจางฟู่ก็สร้างเกราะปราณขึ้นมาป้องกัน แต่ไม่อาจต้านทานการโจมตีได้ ก็แตกสลายทันที เมื่อปะทะ ทำให้ชิวจางฟู่ยกแขนอีกข้างขึ้นมากันไว้
ตู้ม!!! แกร๊ก! อ๊ากกกก!! "แขนข้าา หืม..พลังระดับนี่มัน..."
อิงเป่ยไม่สนใจเสียงร้อง ทำการบีบแขนอีกข้างที่จับไว้อย่างรุนแรง
แกร๊ก!! แกร๊ก!! แกร๊ก!! เสียงกระดูกแตกหักเสียงดังฟังชัด อ๊ากกก เจ้า!!ปล่อยแขนข้าเดี๋ยวนี้ ชิวจางฟู่เค้นพลังปราณจนขีดสุดพยายามสบัดแขนตนเองให้หลุดออกจากมือของอิงเป่ย แต่ความพยายามนั้นกับสูญเปล่า
จึงคิดจะเตะสวนออกไปเพื่อให้อิงเป่ยหลบและปล่อยแขนตน แต่กับถูกเท้าของอิงเป่ยกระทืบลงไปก่อนที่จะยกขึ้นมาด้วยซ้ำ
ตึบ!! แกร๊ก!! อ๊ากกกก!! เสียงร้องของชิวจางฟู่ทำให้คนที่มาด้วยอกสั่นขวัญหาย พากันวิ่งหนีไปคนละทางจนลืมไปว่ามีบางอย่างกำลังรอพวกเขาอยู่
ฉึบ!! อ๊ากกก!! ฉึก!! อ๊ากกก!! เปรี้ยง!! ตู้ม!!! อ๊ากก!! ชิวเฟยหยูที่กำลังจะหลบหนีต้องหยุดชะงักลงทันที เมื่อได้เห็นภาพอันน่าสยดสยองจนแทบจะอาเจียนออกมา เศษร่างกายคนที่ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมหล่นกระจายเต็มพื้น เลือดสาดกระจายไปทั่ว กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งในอากาศ
ชิวเฟยหยูถึงกับเกิดอาการสั่นกลัวจนเป้ากางเกงเปียกทรุดนั่งลงกับพื้นหมดสิ้นความหวังที่จะมีชีวิตรอดกลับไปที่ตระกูลของตนเอง
อิงเป่ยหยิบดาบเทพมารออกมาจากแหวนมิติ แล้วชักดาบออกจากฝักแทงลงที่หน้าอกของชิวจางฟู่ที่ไม่อาจขัดขืนได้ ฉึก!!! อ๊ากก!!
ชิวจางฟู่จ้องมองอิงเป่ยด้วยความเคียดแค้น พร้อมกับบอกให้อิงเป่ยฆ่าตนเองซะ
"จะฆ่าก็รีบฆ่า จะทรมานข้าไปถึงไหน ข้าไม่มีวันร้องขอชีวิตจากเจ้าเด็ดขาด"
"ไม่ต้องรีบร้อนเจ้าได้ตายสมใจอยากแน่ แต่ต้องใช้เวลานิดนึง"
อิงเป่ยพูดจบก็เดินไปทางชิวเฟหยูทันที
"นี่นะรึอัฉริยะอันดับ1ของเมืองนี้ 555!!! น่าสมเพชยิ่งนัก"
"เจ้าจะทำอะไรนายน้อยข้ากัน ถ้าเจ้าฆ่าเขาล่ะก็ เจ้าจะตายอย่างไร้ที่ฝัง"
5555!! "ข้าจะบอกอะไรให้เจ้าฟังก่อนตายดีไหมว่าทำไมตระกูลจินถึงได้ย้ายไปเมืองอื่น ไม่ใช่เพราะกลัวอำนาจตระกูลพวกเจ้าหรอก แต่เป็นเพราะข้าต่างหาก"
ชิวจางฟง ถึงกับกระอักเลือดออกมาทันทีเมื่อได้ยินอิงเป่ยพูด
"เป็นไปไม่ได้! ที่ตระกูลจินจะกลัวคนอย่างเจ้า เจ้า!!..อึก!!เจ้าทำอะไรกับร่างกายข้า"
ชิวจางฟู่ขมวดคิ้วแน่น หน้าตาเคร่งเครียดรีบสำรวจร่างกายตนเอง ก็ต้องตกใจเมื่อตรวจพบพลังปราณสีดำอยู่ในร่างกายตน
"เจ้าใช้วิชาอันใดกับข้ากัน ทำไมข้าไม่รู้สึกเลยว่าถูกวิชาเจ้าทำร้าย"
"ก็ข้าไม่ได้ใช้วิชาทำร้ายเจ้า จะรู้สึกได้ยังไง"
อ๊ากกก!!! เจ้ามัน.... อึก! อ๊ากกก! อิงเป่ยเริ่มรำคาญเสียงร้องของชิวจางฟู่จึงได้เดินไปหา แล้วยกเท้าขึ้นมากระทืบลงไปที่ปากของชิวจางฟู่อย่างรุนแรงตู้ม!! "หุบปากไปได้แล้ว น่ารำคาญจริงๆ"
การกระทืบลงไปครั้งนี้ทำให้ชิวจางฟู่ปากยุบแทบกลายเป็นเนื้อเดียวกันกับพื้นหินและสิ้นใจไปอย่างอนาถ
อิงเป่ยเดินกลับมาที่ชิวเฟยหยูที่นั่งเหม่อลอย แล้วเตะไปที่หน้า ตู้ม!!
อ๊ากกก!! สติกลับคืนมาทันทีเมื่อถูกเตะเข้าที่ใบหน้า
"ข้าอุตส่าห์ไว้ชีวิตไปครั้งนึงแล้ว กลับมาแส่หาความตายอีก ข้าละเชื่อในความโง่เขลาของเจ้าจริงๆ แต่ในเมื่อให้โอกาสไปแล้วแต่ไม่อยากได้งั้นก็ตายไปซะ"
อิงเป่ยยกดาบเทพมารขึ้นมาก่อนจะฟันลงไปที่ร่างของชิวเฟยหยู
ฉับ!! ชิวเฟยหยูสิ้นใจทันทีเมื่อดาบฟันผ่านร่างลงไปทั้งที่ยังลืมตาอยู่
"พวกเจ้ากำจัดร่างของพวกมันทั้งหมดอย่าให้เหลือแม้แต่ซากเข้าใจใช่ไหม"
เมื่อได้รับคำสั่งจากอิงเป่ย ทั้ง 4 ตนก็ลงมือกำจัดร่างทั้งหมดทันที แม้แต่ศพของชิวเฟยหยูกับชิวจางฟู่ก็ไม่เหลือเช่นกัน ตอนนี้ทุกอย่างกับมาเป็นปกติแล้ว แต่กลิ่นคาวเลือดนั้นยังอยู่ แต่ไม่นานก็หายไปกับอากาศ
เสียงปะทะกันทำให้ชาวบ้านใกล้เคียงไม่กล้าออกมาดู แต่ก็มีบางคนที่กล้าจึงได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงแค่ภายนอกตระกูลอิงเท่านั้น แต่กับไม่มีใครพูดกันเลยซักคน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ห้องลับตระกูลชิว
ผู้อาวุโส1เป็นคนดูแลห้องหยกชะตาของคนในตระกูล เมื่อมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นกับคนเหล่านั้นก็จะแตกสลาย และ สามารถเห็นดวงจิตวิญญาณก่อนตายได้ชั่วคราวก่อนจะหายไปแล้วก็จะแสดงคนที่สังหารในตอนท้าย
แกร๊กๆ! เพล้ง! ผู้อาวุโส1 ขมวดคิ้วแน่นจ้องมองไปยังหยกที่แตก
"หืม..นั่นมันหยกชะตาของชิวจางฟู่ มีอะไรเกิดขึ้นกับเขากัน"
วูบ! วิ้งงง!! ร่างจิตของชิวจางฟู่ปรากฎขึ้นเลือนลางก่อนจะได้ยิน
"ช่วยแก้แค้นมันให้ข้าด้วย" ร่างจิตชิวจางฟู่จางหายไปจากนั้นก็ปรากฎภาพของชายหนุ่มให้เห็น
"เจ้าหนุ่มนี่มันเป็นใครถึงกับสามารถสังหารชิวจางฟู่ได้ นี่มันไม่ธรรมดาซะแล้ว ข้าต้องรีบไปแจ้งให้ท่านประมุขได้รู้"
แต่ก่อนที่ผู้อาวุโส1กำลังจะเดินออกจากห้องลับไปก็ได้ยินเสียงแตกของหยกชะตาดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อหันไปดูก็ถึงกับเข่าอ่อนทรุดตัวลงนั่งกับพื้นมือไม้สั่นบ่นพึมพำเบาๆ
"เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้ยังไง นายน้อยชิวเฟยหยูตายแล้ว ข้าจะอธิบายให้บิดาของเขาฟังยังไงดี"
วิ้งงง!! "ผู้อาวุโส1ช่วยบอกท่านพ่อข้าแก้แค้นให้ข้าที" ภาพของคนสังหารก็ปรากฎให้เห็น
"อ่ะ นี่มันคนเดียวกันกับที่สังหารชิวจางฟู่เลยนิ ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะกล้าสังหารนายน้อยตระกูลชิว" ผู้อาวุโส1โกรธจนกระอักเลือดออกมาเลือดลมปั่นป่วนพลังปราณเดือดพล่าน จิตสังหารพุ่งเสียดฟ้า ก้าวเดินออกจากห้องลับไปเพื่อแจ้งข่าวให้ประมุขได้รับรู้
"ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้ ข้าจะแก้แค้นแทนนายน้อยให้ได้ ต่อให้ต้องเสียอะไรข้าก็จะทำ"
ปล.แถมท้ายก่อนนอนครับ เจอกันใหม่พรุ่งนี้ ตอนเย็นๆ ฟิ้วววว แว๊บ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 16 กรกฎาคม 2560 / 21:55