มู่เทียนเอ่ยปากพูดด้วยความยากลำบาก เพราะแรงกดดันยังไม่สลายไป
"ข้า..ทราบ..ที่มันอยู่ ขอรับ"
"พาข้าไปไปเดี๋ยวนี้ ข้าอยากรู้นักว่า แคว้นเล็กๆแบบนี้กับมีคนที่กล้าทำร้ายบุตรชายข้า เพียงแค่ได้ยินทวีปแดนเหนือก็พากันกลัวจนไม่กล้า แม้แต่จะหายใจดังๆให้ได้ยิน"
"ตอนนี้มันอาจยังอยู่ที่โรงเตี้ยมเซี๊ยะโหล ขอรับ"
จินหลงชุนเมื่อได้ยิน ก็พุ่งทะยานออกไปทางหน้าต่างอย่างรวดเร็ว พุ่งเหยียบหลังคาบ้านคนแถวนั้นไปยังโรงเตี้ยมเซี๊ยะโหล ร่างเลือนลางของจินหลงชุนพุ่งทะยานหายวับ หายวับ ไปตามหลังคาอย่างรวดเร็วจนแทบมองไม่ทัน
มู่เทียนก็พุ่งทะยานตามจินหลงชุนออกไป เหลือเพียงจิวสงอยู่เฝ้านายน้อยที่นอนสลบอยู่บนเตียง
อิงเป่ยที่นั่งกินอาหารอยู่ก็หยุดลง ยื่นมือไปหยิบถ้วยน้ำชามาจิบล้างปากหลังกินอาหารเสร็จ
จินหลงชุนเมื่อมาถึงหน้าโรงเตี้ยมเซี๊ยะโหล ก็เดินเข้ามาด้านใน พลังปราณราชันย์ขั้น5 ส่งแรงกดดันออกมาพร้อมกับจิตสังหารอันน่าหวั่นเกรงจ้องมองไปยังโต๊ะอาหารที่อยู่กลางห้อง
อิงเป่ยที่นั่งจิบชาอยู่ก็ทำเป็นเฉยเมยไม่สนอะไรนอกจากถ้วยชาที่อยู่ในมือ
"ชานี่รสดีไม่เลวเลย ข้าต้องหาซื้อเอาไว้หน่อยดีกว่า ดีจริงๆที่ก่อนหน้านี้มีสวะโง่งมนำเงินมาให้ข้าใช้ ข้านี่ช่างโชคดีจริงๆ"
เมื่อจินหลงชุนได้ยินก็หน้ามืดทมึนด้วยความโกรธที่มีคนกล้าว่าบุตรตนเป็นสวะโง่งม
"เจ้าเองสินะที่กล้าทำร้ายบุตรชายข้าคนนี้"
อิงเป่ยหันหน้าไปมองทางต้นเสียงก็ทำเป็น งง หน้าตาซื่อๆ ทันที
"ท่านว่าอะไรนะ สวะ! ขยะ! อะไร ข้าไม่เห็นรู้เรื่องเลย"
"เจ้าอย่ามาทำเป็นไขสือไม่รู้เรื่อง"
มู่เทียนที่ตามเข้ามาได้ยินที่อิงเป่ยพูด ก็ตะโกนออกมา
"เจ้าไม่กล้ายอมรับในสิ่งที่ทำ เจ้ามันไม่ใช่ลูกผู้ชาย"
"โอ้ ลูกผู้ชาย ของพวกเจ้ามันคือการใช้อำนาจกดขี่คนที่อ่อนแอกว่าอย่างนั้นรึ สวะชัดๆ อย่ามาพูดคำนี้ให้ข้าได้ยินอีก ไม่งั้นข้าจะตบปากเจ้าให้พูดไม่ได้อีกเลย"
"เจ้ากล้าทำร้ายคนของข้าต่อหน้าข้ารึ"
"เฮ้อ...สวะโง่งมทั้งพ่อทั้งลูกจริงๆให้ตายสิ "
อิงเป่ยกล่าวเย้ยหยันออกไปโดยไม่สนใจจินหลงชุนเลยแม้แต่น้อย คำกล่าวของอิงเป่ยนั้นกรีดลึกลงไปในจิตใจของจินหลงชุนยิ่งนัก แทบจะกระอักเลือดออกมาเมื่อได้ยิน
ความโกรธเกรี้ยวของจินหลงชุนยิ่งนานยิ่งมากล้นขึ้นเรื่อยๆจนทำให้พนักงานรีบถอยออกจากที่นี่ทันที
"เจ้ามันจะมากเกินไปแล้วนะที่กล้าดูถูกข้าและบุตรชายขนาดนี้ เจ้ามันสมควรตายแล้วล่ะ"
"ข้าว่าเจ้าอย่าทำให้ข้าโมโหดีกว่านะ ไม่งั้นละก็ ตระกูลเจ้า ข้าจะตามไปลบทิ้งถึงทวีปแดนเหนือเลย"
"เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเช่นเจ้าจะไปลบตระกูลข้าที่ทวีปแดนเหนือเลยรึ! 55555!! แค่เอาชนะบุตรชายข้าได้มันจะจองหองเกินไปแล้ว"
อิงเป่ยลุกจากเก้าอี้แล้วเดินไปทางจินหลงชุนตรงๆแล้วยกมือขึ้นก่อนจะฟาดฝ่ามือไปที่จินหลงชุนโดยที่ไม่ได้ใช้พลังปราณเลยแม้แต่น้อย
จินหลงชุนที่กำลังตกตะลึงกับการกระทำของอิงเป่ยที่เดินเข้ามาหาตนตรงๆโดยที่ไม่เป็นอะไรเลยทั้งๆที่ตนส่งแรงกดดันไปหา และโจมตีตนด้วยฝ่ามือธรรมดาอีกด้วย
หวืดด เปรี้ยง!!! จินหลงชุนยกแขนทั้ง2ข้างขึ้นมากันเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด แต่ความแรงนั้นกับทำให้จินหลงชุนลอยออกไปนอกโรงเตี้ยมทันที ถึงแม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยก็ตาม แต่อาการชาหนึบที่แขนทั้ง2นั้นกับรุนแรงยิ่งนัก
"นี่มันอะไรกัน! เจ้าเด็กนี่อันตรายเกินไปแล้ว ขนาดใช้แค่ร่างกายยังขนาดนี้เลยรึ ถ้ามันใช้ปราณโจมตีข้าเมื่อกี้คงไม่จบแค่แขนชาแน่นอน"จินหลงชุนคิดในใจ
อิงเป่ยเดินออกมาที่หน้าโรงเตี้ยม แล้วจ้องมองไปยังจินหลงชุน ที่ยืนเอามือไขว้หลัง ขมวดคิ้วแน่นจ้องมองมาที่อิงเป่ย
"ข้าชื่นชมเจ้าจริงๆที่สามารถรับฝ่ามือธรรมดาของข้าได้โดยไม่บาดเจ็บ นับถือๆผิดกับสวะไร้ค่าเมื่อไม่นานนี้จริงๆที่อวดเบ่งเอาตระกูลมาข่มขู่ข้าทั้งที่เตือนไปแล้วแต่ก็ยังโง่งม"
"ข้ายอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่งแต่ก็งั้นๆไม่ระคายข้าเลยซักนิดเดียว"
"เจ้าก็ไม่ต่างจากบุตรเลยซักนิด เมื่อมาให้อัดถึงที่ขนาดนี้ อย่างรู้นักว่าจะทนได้เท่าไหร่กันเชียว"
อิงเป่ยเดินเข้าไปหาจินหลงชุนอีกครั้ง แต่ก่อนที่อิงเป่ยจะโจมตีจินหลงชุนก็ได้ใช้ฝ่ามือเยือกแข็งออกมา
ย๊ากกก!! ครืนนน!! คลื่นพลังความเย็นพุ่งไปปะทะเข้ากับฝ่ามือ
ของอิงเป่ย ปึก! แครกๆ!!! แกรกๆ!! เสียงของผลึกน้ำแข็งเริ่มก่อตัวขึ้นรุกรามไปตามแขนทำให้ไม่สามารถขยับแขนได้
5555!!! "เจ้าโง่รึเปล่าที่ยืนรับฝ่ามือเยือกแข็งของข้าตรงๆโดยไม่ใช้พลังปราณต้านไว้ เจ้าจะดูถูกวิชานี้เกินไปหน่อยแล้วมั้ง"
"เฮ้อ! น่าเบื่ออะไรอย่างนี้นะ นึกว่าจะมีอะไรดีๆมาให้ชมซะหน่อย แต่กับเอาวิชากระจอกๆมาโจมตีข้าเนี้ยนะ"
"อะไรนะ! วิชากระจอกๆบ้านเจ้าน่ะสิ นี่เป็นวิชาที่สืบทอดกันมาแต่ตั้งแต่บรรพบุรุษของตระกูลข้า มันจะเป็นอย่างที่เจ้าพูดได้ยังไงกัน"
จินหลงชุนสร้างหอกน้ำแข็งขึ้นมารอบตัวตนเองแล้วสบัดมือไปข้างหน้า หอกน้ำแข็งจำนวนมากมายก็พุ่งเข้าไปปะทะกับร่างกาย อิงเป่ยไม่คิดจะหลบจึงยกแขนข้างซ้ายขึ้นมากันเอาไว้
ฟิ้วว!! ฉึก!!! ฉึก!! ฉึก!!! เสียงหอกน้ำแข็งทิ้มแทงเข้าที่ร่างกายดังรัวๆถี่ๆแต่ก็ไม่สามารถทำให้ร่างกายของอิงเป่ยเกิดเป็นแผลได้ ชุดที่สวมใส่เริ่มขาดเป็นรูมากขึ้น มีเพียงรอยจ้ำเล็กๆจนแทบมองไม่เห็น ถ้าไม่จ้องมองดีๆ
การปะทะกันของทั้ง2เริ่มรุนแรงขึ้นผู้คนที่อยู่รอบๆเริ่มพากันออกจากบ้านตั้งแต่เริ่มปะทะกันไม่นาน
เมื่อการโจมตีของจินหลงชุนจบลง อิงเป่ยก็พุ่งไปทางสนามประลองกลางเมืองซึ่งเป็นสถานที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนผู้อื่น
แต่จินหลงชุนกับเข้าใจผิดว่า อิงเป่ยกลัวตนเองจนต้องการหลบหนี หลังจากที่โดนโจมตีเข้าไป
"หืม..คิดจะหนีอย่างนั้นรึ ฝันไปเถอะ "
อิงเป่ยไม่สนใจคำพูดของจินหลงชุน ก็ยังพุ่งทะยานไปข้างหน้าไม่หยุด จินหลงชุนยิ้มที่มุมปากก่อนจะพุ่งทะยานตามหลังอิงเป่ยมา เพียงไม่นานก็มาถึงสนามประลอง อิงเป่ยพุ่งทะยานลงไปบนลานประลองยืนรอจินหลงชุนอยู่พร้อมกับทำลายผลึกน้ำแข็งที่แขนข้างขวาออกทันที
เมื่อเห็นอิงเป่ยหยุดยืนที่ลานประลองจินหลงชุนขมวดคิ้วคุ่นคิด
"หืม มันไม่ได้คิดจะหนีตั้งแต่แรกหรอกรึ ที่แท้มันก็มายังลานประลองนี่เอง"
จินหลงชุนหยุดชะงักทันที และรู้สึกสังหาณ์ใจไม่ดีขึ้นมา จึงได้คิดไตร่ตรองดูอีกที นี่มันอะไรกัน มันไม่เป็นอะไรเลยซักนิด ทั้งที่รับการโจมตีข้าไปเต็มๆ
"อะไรกันเจ้ากลัวอย่างนั้นรึ!"อิงเป่ยพูดจาเย้ยหยันออกไปทันที พร้อมกับใช้วิชาเมฆาทะยานฟ้าออกไปทันที
จินหลงชุนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยิน พร้อมกับมองไปที่ลานประลอง
ร่างของอิงเป่ยที่ยืนอยู่กับค่อยๆเลือนหายไป
"ถ้าไม่ดีซะแล้ว" จินหลงชุนสร้างเกราะปราณขึ้นมาทันที เพื่อรับการโจมตีฉับพลัน ซึ่งการคาดเดาของจินหลงชุนนั้นรวดเร็วยิ่งนักทำให้รับการโจมตีของอิงเป่ยทันแบบหวุดหวิด
ตู้ม!! แรงกระแทกจากเท้าของอิงเป่ยทำให้จินหลงชุนปลิวลงไปกระแทกเข้ากับลานประลองด้านล่างจนเกิดเป็นรอย ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจึงรีบลุกขึ้นยืนจ้องมองขึ้นไปทันที แต่กับไม่พบอิงเป่ย
"ข้าอยู่นี่เจ้ามองไปทางไหนกัน" จินหลงชุนตวัดเท้าเตะไปด้านหลังของตนเองทันทีเมื่อได้ยินเสียง แต่กับไม่มีอิงเป่ยอยู่
"นี่มันวิชาอันใดกัน ไปมาไร้ร่องรอย ประสาทสัมผัสข้าไม่อาจตรวจจับได้ ในโลกนี้ยังมีวิชาแบบนี้อยู่ด้วยรึ มันจะโหดเกินไปแล้ว" จินหลงชุนพึมพำ
เหงื่อเย็นเยียบเริ่มผุดขึ้นบนหน้าผากหน้าเคร่งเครียดจริงจังทันที คงเป็นไปไม่ได้ที่จะหนีจากการปะทะกันตอนนี้ คงต้องหาทางถ่วงเวลารอท่านประมุขคนก่อนมาช่วย จินหลงชุนหยิบเอาแผ่นหยกสีขาวออกมาจากแหวนมิติ แล้วทำการบีบหยกนั่นทันที
แกร๊ก!! อิงเป่ยหายวับไปปรากฎที่ตรงหน้าของจินหลงชุนแล้วซัดหมัดพยัคฆ์สังหารเข้าที่หน้าอกจินหลิงชุนทันที
ตู้ม!!! อ๊ากกกก!!! จินหลงชุนไม่ทันตั้งตัวก็โดนหมัดเข้าปะทะที่หน้าอกทันที เกราะปราณแตกสลายเมื่อสัมผัสกับหมัดพยัคฆ์สังหาร เกิดเป็นรอยยุบตรงหน้าอก แกร๊กๆ!!! แกร๊กๆ!! เสียงกระดูกแตกหัก ทำให้กระอักเลือดออกมาคำโต อึก! พรวดด!! เลือดพ่นออกจากปากพร้อมกับร่างที่ลอยละลิ่วไปกระแทกเข้าที่ขอบลานประลอง ตู้ม!! ความรุนแรงทำให้ขอบลานแตกกระจายฝุ่นคละคลุ้งขึ้นทำให้ยากแก่การมองเห็น อิงเป่ยพุ่งไปยังจินหลงชุน แล้วคว้าจับไปที่ขาแล้วกระโดดขึ้นไปบนลานประลองอีกครั้งพร้อมกับร่างจินหลงชุน
ตุบ! อ๊ากกก!! เสียงร้องเจ็บปวด อิงเป่ยไม่สนใจหยิบดาบออกเทพมารออกมาจากแหวนมิติ แล้วชักดาบออกจากฝักแทงลงไปที่ท้องของจินหลงชุนทันที
ฉึก!! อ๊ากกก!! ไอปราณสีดำแผ่ขยายออกมารอบตัวดาบก่อนจะหายไป อิงเป่ยจึงดึงดาบเทพมารออกเก็บเข้าฝักดาบทันที
"เจ้าทำอะไรไปก่อนหน้านี้กัน"
"เจ้าอยากรู้ไปทำไม ข้าจะทำอะไรมันก็เรื่องของข้า" 55555!!
อึก!! เจ้าทำอะไรกับข้าไปเมื่อกี้นี้ ใบหน้าของจินหลงชุนบ่งบอกถึงความเจ็บปวดที่กำลังถูกบางอย่างดูดกลืนพลังปราณภายในตันเถียนของตนเอง
"เจ้าจะรู้ไปทำไมก็มันเป็นเรื่องของข้าเช่นกัน หึหึ!!"
ยิ่งนานความเจ็บปวดยิ่งรุนแรง ทำให้จินหลงชุนดิ้นพล่านบนลานเวที
"เจ้าใช้วิชามารอันใดกับข้ากัน เจ้ามันปีศาจเลือดเย็น"
"เจ้าอยากบ่นอะไรก็บ่นไปเถอะ อีกไม่นานเจ้าก็จะตายอยู่แล้ว"
อิงเป่ยรู้สึกถึงความผันผวนของอากาศด้านบนเหนือลานประลอง จึงได้หันหน้าขึ้นไปมองดู จินหลงชุนที่รับรุ้ได้ก็หัวเราะออกมาทันที
5555!!! "ถึงแม้ข้าจะตาย เจ้าก็ต้องตายเหมือนกัน"
บรรยากาศบิดเบี้ยวไปมาจนเกิดเป็นประตูมิติขึ้น จากนั้นก็มีชายชราก้าวเดินออกมาพร้อมกับแรงกดดันพลังปราณเซียนออกมา
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย