ฟุบ! "ข้ามาแจ้งข่าวที่ไปสืบแล้วขอรับ"
"ไม่ต้องมากพิธี รีบรายงานมาเร็วๆเข้า ข้าอยากรู้ใจจะขาดอยู่แล้ว"
"เอ่อ...คือว่า กองกำลังแคว้นมังกรฟ้าถูกโจมตี มาแล้ว2วันและนี่เป็นคืนที่ 3 ความเสียหายของวันนี้เสียหายหนักที่สุด ทหารบางส่วนหนีเอาตัวรอดได้ ส่วนที่หนีไม่ทันก็ตายไป ราชวงศ์กับองครักษ์เองก็หลบหนีออกจากค่ายไปแล้ว ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้าง"
"นี่มันเป็นไปได้ยังไงกองกำลังตั้งเยอะ จะพ่ายแพ้ไปแบบนี้ นี่มันไม่สมเหตุผลเอาซะเลย"
"เอ่อ..คือว่า ก่อนที่ข้าจะกลับมาที่นี่ ข้าได้ดูการต่อสู้ระหว่างผู้แข็งแกร่งทั้ง2คน แถมยังมีสัตว์อสูรไล่ฆ่าทหารอีกด้วย "
"แล้วผลเป็นยังไงบ้างล่ะการต่อสู้ตอนนั้น"
"ชายชราพ่ายแพ้ให้กับคนใส่ผ้าคลุม ทำให้ไม่สามารถระบุได้ แต่จากเสียงที่ได้ยินน่าจะเป็นเด็กหนุ่ม ขอรับ"
"เด็กหนุ่มอย่างนั้นรึ?"
ภาพของเด็กหนุ่มในงานประลองก็ปรากฎขึ้นมาในหัวทันที
"ถ้าเป็นอย่างที่ข้าคิด แบบนี้ไม่ดีแล้ว"
จ้าวหลิวฟง ออกคำสั่ง องครักษ์ทันที
"เหล่ยฟง เจ้ารีบสั่งถอนทัพออกจากที่นี่เดี๋ยวนี้"
"ไม่รอพรุ่งนี้ก่อนรึพะยะค่ะ อีกไม่นานก็จะเป็นวันใหม่แล้ว "
"ข้าสั่งเจ้าก็รีบไปทำเถอะ ถ้าไม่อยากเป็นแบบเดียวกับแคว้นมังกรฟ้าละก็"
"ทราบแล้วพะยะค่ะ" เมื่อเหล่ยฟงสังเกตุเห็นหน้าที่เคร่งเครียดของจ้าวหลิวฟงก็รีบปฎิบัติตามรับสั่งทันที
"แม่ทัพทุกหน่วยจงฟัง ข้าได้รับคำสั่งถอยทัพกลับด่วนจากฝ่าบาท ให้พวกท่านรวมกองกำลังทั้งหมดแล้ว ให้ถอนทัพทันที ไปได้"
แม่ทัพทำการจัดกองกำลังหน่วยของตนอย่างเร่งด่วนที่สุด แล้วสั่งให้ทำการถอยทัพกลับเมืองทันที เมื่อเหล่ยฟงสั่งเสร็จก็รีบกลับมาอารักขาจ้าวหลิวฟงเหมือนเดิม
"เอาล่ะ พวกเราก็ไปกันได้แล้ว ขืนชักช้าเดี๋ยวไม่ทันการณ์"
ความกังวลใจของจ้าวหลิวฟงนั้นพุ่งสูงขึ้น กลัวว่าจะถอยทัพไม่ทัน ก็ได้แต่ภาวนาในใจเงียบๆ
"ทราบแล้ว พะยะค่ะ ว่าแต่ฝ่าบาทท่านพอจะรู้แล้วหรือว่าใครกันที่มาโจมตีแคว้นมังกรฟ้า"
"อืม..ข้าก็แค่เดาเอาน่ะ แต่มีโอกาสเป็นไปได้สูงเลยทีเดียว เจ้ายังจำตอนงานประลองแคว้นได้รึเปล่า ว่ามีเด็กหนุ่มคนนึงที่สามารถสังหารตระซางได้ตอนนั้นทั้งๆที่ตระกูลซางนั้นถือว่าแข็งแกร่งอย่างมากที่แคว้นวิหคราชันย์ แต่ก็ยังถูกฆ่าตายเพียงแค่ไม่กี่กระบวนท่า"
"เอ๊ะ! หรือว่าจะเป็นเด็กหนุ่มนั่น" เหล่ยฟงตกใจอย่างมากเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้น จนเกิดอาการตัวเกร็งขึ้นมาฉับพลัน แต่ก็ควบคุมเอาไว้ได้
"ข้าว่าตอนนี้เราเจอปัญหาร้ายแรงสุดๆเข้าให้แล้วล่ะ นึกไม่ถึงเลยว่า
เด็กหนุ่มนั้นจะมาลอบโจมตีกองกำลังเพียงคนเดียวแบบนี้ และยังมีสัตว์อสูรเหล่านั้นอีก ข้าคิดว่า น่าจะเป็นสัตว์อสูรพันธะสัญญาแน่นอน"
"นี่มันหายนะชัดๆ แค่เด็กหนุ่มนั่นคนเดียวก็มากพอที่จะต่อกรกับเราได้แล้ว แถมยังมีสัตว์อสูรพันธะสัญญาอีก ไม่อยากจะคิดเลยว่าผลมันจะออกมาเป็นเช่นไร ทั้งหมดนี่เป็นเพราะไอ้พวกตระกูลเหล่านั้นแท้ๆที่มากดดันทางราชวงศ์ให้ก่อสงครามขึ้น"
เหล่ยฟงสบถคำออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวทันที
"เรื่องนี้หยุดเอาไว้ก่อน ตอนนี้เรารีบเดินทางกันเถอะ กลับถึงแคว้นเมื่อไหร่ค่อยคิดหาทางออกช่วยกัน ถึงแม้จะต้องเสียเปรียบก็ตามที"
"แล้วฝ่าบาทจะให้เราส่งคนไปแจ้งแคว้นเต่าทมิฬรึไม่ ฝ่าบาท"
"ไม่จำเป็นต้องทำ ข้าว่าพวกเขาเหล่านั้นคงจะทำการถอนทัพกลับแบบเดียวกับเราแล้วล่ะตอนนี้"
อิงเป่ยยืนมองการตายของเจียงอี้เหยาอยู่เงียบๆพร้อมกับยกดาบเทพมารสะท้านภพขึ้นมามองดูก่อนจะพึมพำว่า
"อืม..ช่างลึกลับซะจริงๆ สมแล้วที่เป็นอาวุธระดับเทพ"
แล้วจึงเก็บดาบเข้าแหวนมิติไป แล้วพุ่งทะยานไปทางกองกำลังทั้ง2แคว้นที่เหลือ แต่เมื่อมาถึงกองกำลังทั้ง2ก็ถอยทัพไปแล้ว ซึ่งอิงเป่ยก็ไม่ได้ตามไป จึงหยุดคิดก่อนจะมองไปทางแคว้นทั้ง 2
"อืมนับว่ายังฉลาดที่รีบถอยทัพกลับไป ข้าจะรอดูว่าพวกเจ้าจะทำยังไงต่อจากนี้ก็แล้วกัน" หึหึ!!
อิงเป่ยยิ้มก่อนจะพุ่งทะยานออกไป
" เราก็กลับไปพักผ่อนแบบสบายๆดีกว่า อยู่แต่ในป่ามาหลายวันก็เบื่อๆแล้วล่ะนะ ถ้าไม่มีกองกำลังเหล่านี้คงเซงแย่เลย" 5555!!
อิงเป่ยพุ่งทะยานผ่านป่าไม้ที่หนาแน่นอยู่ 1 ชั่วยามครึ่ง ก็มาถึงห้องพักตนเองซึ่งมันก็ใกล้จะสว่างเต็มทนแล้ว จึงได้ไปอาบน้ำชำระร่างกายก่อนจะเดินกลับไปที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอนพักผ่อน
อี้หลิวก็มาทำความสะอาดห้องตามปกติเมื่อยามเช้าวันใหม่มาเยือน นี่มันก็เป็นวันที่3แล้วที่อิงเป่ยไม่อยู่ที่นี่ อี้หลิวก็ไม่รู้ว่าอิงเป่ยไปไหน เมื่ออี้หลิวมาถึงหน้าประตูก็ใช้มือผลักประตูเข้าไป เดินถือถังน้ำกับผ้า1ผืนเพื่อมาเช็ดทำความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ และประดับตกแต่งรอบๆห้อง จนมาถึงเตียงนอน ก็ตกใจ
อ๊ะ!! "คุณชายกลับมาแล้ว มาแบบนี้ทุกทีตกใจหมด สงสัยจะเหนื่อยมากถึงได้ไม่รู้ตัวว่ามีคนเข้ามาสินะ"
อี้หลิวเดินออกจากห้องไปเงียบๆเพราะไม่อยากรบกวนเวลานอนพัก
หลังจากที่อิงเป่ยกลับมาได้ไม่นาน ข่าวการถอนทัพของทั้ง 3 แคว้น แพร่กระจายไปทั่วเมืองทันที แต่ที่น่าตกใจคือแคว้นมังกรฟ้าเหลือทหารแค่บางส่วนเท่านั้นที่เดินกลับมา แต่ละนายนั้นบ่งบอกถึงความสูญเสียและความหวาดกลัวที่แสดงออกมาทางใบหน้า ทำให้ผู้คนต่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับทหารเหล่านี้และเริ่มคาดเดาไปต่างๆนาๆจนเกิดความวุ่นวายขึ้น
ทางราชวงศ์เองก็ไม่ได้ออกมาอธิบายอะไรให้ผู้คนฟังเลยแม้แต่น้อย จนทำให้มีผู้คนบางส่วนเตรียมตัวออกจากแคว้นมังกรฟ้าเพื่อความปลอดภัย ซึ่งคาดเอาไว้ว่าอาจจะมีสงครามเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ภายในแคว้นมังกรฟ้าตอนนี้เงียบเหงาซบเซาลงอย่างทันตา แม้แต่ตระกูลบางตระกูลยังปิดบ้านเงียบ แทนที่จะมาช่วยกันออกความคิดว่าจะทำเช่นไร แต่กลับผลักดันปัญหาที่พวกตนเป็นต้นเหตุให้ราชวงศ์เป็นคนรับนับว่าเป็นความเห็นแก่ตัวโดยแท้
ไม่นานราชวงศ์แคว้นมังกรฟ้าก็ออกมาประกาศเพียงแค่ว่า ถูกสัตว์อสูรโจมตีจนพ่ายแพ้กลับมาเท่านั้น ทำให้ประชาชนบางส่วนลดความกังวลใจลง
แต่ก็มีบางส่วนไม่เชื่อเท่าใดนัก เพราะมีเพียงแคว้นมังกรฟ้าเท่านั้นที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่2แคว้นที่เหลือไม่เสียหายเลย จึงทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นว่าราชวงศ์ปิดบังอะไรบางอย่างไว้
นี่นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายร้อยปีมาแล้วที่ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
นับว่าเป็นความโง่เขลาของพวกตนโดยแท้ที่ร่วมมือกัน เพื่อที่จะทำสงครามกับแคว้นพยัคฆ์เมฆาเพียงแคว้นเดียว แต่กลับต้องถอนทัพทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มสงครามเลยด้วยซ้ำ ถ้าผู้คนได้รับรู้เรื่องราวในครั้งนี้คงจะพากันหัวเราะเยาะเย้ยเป็นแน่แท้
ที่พระราชวังเมืองพยัคฆ์เมฆา
"ที่เจ้าพูดมาเป็นความจริงอย่างนั้นรึที่ทั้ง3แคว้นถอนกองกำลังกลับไปแล้ว"
"จริงแท้แน่นอน ฝ่าบาท"
"สาเหตุที่ทำให้ทั้ง3แคว้นถอนกำลังกลับไป เจ้ารู้ไหมว่าเพราะอะไร"
"จากที่ได้ยินมา เห็นบอกว่า แคว้นมังกรฟ้าถูกโจมตีจากสัตว์อสูร ได้รับความเสียหายหนักจนต้องถอนกำลังกลับ"
"ถ้าอย่างนั้น ทำไมถึงมีแค่แคว้นมังกรฟ้าล่ะที่ออกมาประกาศว่าถูกสัตว์อสูรโจมตี มันไม่สมเหตุสมผลไปหน่อยรึ"
"เรื่องนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน อาจจะมีอะไรเกิดขึ้นมากกว่านี้ก็ได้ แต่ทั้ง3แคว้นปกปิดเอาไว้"
"เจ้าส่งคนออกไปสืบข่าวความเคลื่อนไหวเอาไว้ ถึงแม้ว่าทั้ง3แคว้นจะถอนทัพไปแต่เราก็ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ ต้องเตรียมตัวรับมือไว้ทุกเวลา"
ความสงบสุขกลับมายังแคว้นพยัคฆ์เมฆาอีกครั้ง แต่จะเป็นแบบนี้ต่อไปนานแค่ไหนไม่มีใครรู้ ก็คงต้องเตรียมพร้อมและสร้างกองกำลังให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพื่อเตรียมรับสถานะการณ์ในอนาคตข้างหน้านั่นเอง
ส่วนคนที่เป็นสาเหตุของการถอยทัพนั้นยังคงหลับไหลต่อไป โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปอดหลับอดนอนที่ไหนมาก็ไม่รู้
อิงเป่ยหลับไปเกือบ 2 วันเต็มๆ ก็ลืมตาตื่นของเช้าวันที่ 2 ของการนอนก็ลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะเดินไปอาบน้ำก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับสวมชุดสีฟ้าครามเดินออกมานั่งที่โต๊ะ นั่งคิดว่าวันนี้จะทำอะไรดี
"เห้อ จะไปไหนดีวันนี้ ออกไปเดินเล่นในเมืองก็ไม่เลวเหมือนกัน ว่าแต่ไอ้ค้างคาวนั่นมันจะมาเมื่อไหร่ฟ่ะ เสียเวลาออกสำรวจจริงๆ ถ้าออกมาเมื่อไหร่พ่อจะตบให้คว่ำเลยทีเดียว"
อิงเป่ยลุกจากเก้าอี้แล้วเดินออกนอกห้องไป จุดมุ่งหมายวันนี้คือ เมืองพยัคฆ์เมฆา
อิงเป่ยเดินออกจากตระกูลหยางไปตามถนนมองดูสิ่งต่างๆทั้ง2ด้านสลับไปมา ซึ่งตั้งแต่ที่มาอยู่โลกนี้ไม่เคยได้เดินดูแบบนี้เลยซักครั้ง ทำให้แปลกตาเลยก็ว่าได้
"วันนี้พักเรื่องวุ่นๆ1วันค่อยกลับไปฝึกฝนต่อก็แล้วกัน"
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย