หยุดมือ!! อิงเป่ยหยุดพร้อมกับหัน ควับ! มาทางเสียงนั้นทันที
"เจ้าอยากตายแทนมันรึไง ถึงได้มาสอดเรื่องของข้า"
ชายชรา................! "เจ้าไม่ทำเกินไปหน่อยรึ!"
"หึ! ข้าทำเกินไปอย่างนั้นรึ? เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้กันล่ะ ข้าไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลสำหรับคนที่มันจะมาทำสงครามกับแคว้นข้าหรอกนะ"
"สงครามอย่างนั้นรึ?"
"คนที่มันน่าจะละอายใจมากที่สุดไม่ใช่แคว้นทั้ง3นี่รึไง แทนที่จะออกมาห้ามกับไม่ยอมทำ รอให้เกิดขึ้นก่อนแล้ว มาบอกว่าข้าทำเกินไป นี่มันเรื่องตลกอันใดกัน"
ที่อิงเป่ยกล่าวออกไปนั้นทำให้ชายชราที่มาขวางไว้ได้แต่ยืนนิ่งไม่มีคำพูดใดออกจากปากเลยแม้แต่น้อย อิงเป่ยเดินเข้าไปหา ซ้งจื่อหยา ที่นอนหน้าซีดหายใจแผ่วเบาอยู่ที่พื้น
"เจ้าจะทำอะไรก็ทำ ข้าไม่อ้อนวอนร้องขอชีวิตจากเจ้าอยู่แล้ว"
5555!! "แล้วเจ้าคิดว่าข้าจะไว้ชีวิตเจ้ารึไง ข้าไม่คิดจะไว้ชีวิตใครทั้งนั้นที่อยู่ที่นี่ แต่ข้าไม่เคยทำร้ายชาวบ้านธรรมดาเหมือนพวกเจ้าแน่นอน"
เมื่อแม่ทัพที่มาสืบข่าวได้ยินบทสนทนา ความรู้สึกเหมือนมีมีดมาจ่อที่คอหอย เหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้าผาก แผ่นหลังเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ อาการสั่นสะท้านเกิดฉับพลัน กว่าจะสงบลงได้ก็ใช้เวลาหลายอึดใจ จากนั้นพุ่งทะยานกลับไปที่ค่ายด้วยความเร็วสูงสุด
อิงเป่ยพูดเสร็จก็หยิบดาบเทพมารสะท้านภพออกมาจากแหวนมิติ แรงกดดันแปลกๆก็แผ่ขยายออกมารอบๆตัวดาบพร้อมไอความมืดที่รุนแรง ถึงแม้จะมืดแต่ก็ยังสามารถมองเห็นได้ลางๆ ซ้งจื่อหยาเมื่อเห็นดาบเล่มนี้ถึงกับแสดงอาการหวาดกลัวออกมาอย่างเห็นได้ชัด พยายามที่จะฝืนร่างกายเพื่อหนีจากที่แห่งนี้
หึหึ! "ไหนเจ้าบอกว่าจะทำอะไรก็ทำไง แต่ตอนนี้เจ้ากับคิดหนี ความอวดดีเมื่อกี้มันหายไปไหนหมดล่ะ"
อิงเป่ยยกดาบขึ้นมาแล้วแทงลงไปที่ตันเถียนของซ้งจื่อหยาทันที
อ๊ากกกก!! เสียงร้องตระโกนอย่างเจ็บปวด ซ้งจื่อหยาดิ้นพล่านบนพื้นเอามือกุมท้องของตนเอง พลังปราณค่อยๆลดลงเรื่อยๆ เพราะตันเถียนถูกทำลาย เมื่อพลังปราณรั่วไหลออกมาจนหมด ซ้งจื่อหยาก็ไม่ต่างไปจากขยะเลยซักนิด
ชายชราอีกคนได้แต่กัดฟัน เต็มไปด้วยความโกรธ ระเบิดพลังพุ่งไปหาซ้งจื่อหยาทันที
ชายชราขมวดคิ้วแน่นก่อนจะจ้องมองอิงเป่ย
"เจ้ามันไม่ใช่คน เจ้ามันอำมหิตเกินไปแล้ว "
"เจ้าอยากจะพูดอะไรก็พูด เพราะยังไงเจ้าก็จะตายอยู่แล้ว "
"เจ้า........"
"เจ้าไม่ต้องกังวลไปเมื่อเจ้าตาย ข้าจะส่งมันตามไปแน่นอน"
"เจ้าจะโอ้อวดตนเกินไปหน่อยแล้วมั้งเจ้าหนู ข้าแข็งแกร่งกว่า ซ้งจื่อหยาอีกนะจะบอกให้"
"โอ้ งั้นก็แสดงมันออกมาเลยสิ จะเก็บเอาไว้ทำไม"
ชายชราระเบิดพลังขั้นราชันย์ออกมา อิงเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า
"ไม่นึกว่าแก่ๆอย่างเจ้าจะมีของดีเหมือนกันนะเนี้ย สมแล้วที่เกิดมานาน"
"ข้า เจียงอี้เหยา นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเอ่ยนามของข้าออกไป"
"เอ่อ...ข้าไม่ได้อยากรู้ชื่อคนที่กำลังจะตายหรอกนะ"
"เจ้า..."เจียงอี้เหยาไม่รู้จะตอบอะไรออกไปดี
อิงเป่ยระเบิดพลังขั้นราชันย์ออกมาทำให้เจียงอี้เหยาถึงกับจ้องมองไปที่อิงเป่ยอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า อายุแค่นี้กับมีพลังขั้นราชันย์ ซึ่งเมื่อนำมาเทียบกันแล้วรู้ได้ทันทีเลยว่าตัวเองไร้ความสามารถขนาดไหนเมื่อเทียบอายุกันแล้ว
อิงเป่ยยกดาบขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะฟาดฟันไปที่เจียงอี้เหยาทันที
ตุบ! เจียงอี้เหยาไม่มีเวลาวางหัวของ ซ้งจื่อหยา ลงดีๆเมื่อคลื่นดาบพุ่งเข้ามา
"เจ้ามันไร้อย่างอาย ข้าขอโทษซ้งจื่อหยาที่ปล่อยมือกระทันหันทำให้เจ้าเจ็บปวด"
5555!! "เจ้ายังจะห่วงคนอื่นอยู่ได้ยังไงมันก็จะตายอยู่แล้ว มารีบจบศึกนี้กันดีกว่า ข้าเริ่มง่วงแล้วนะ"
เจียงอี้เหยาไม่สนคำยั่วยุของอิงเป่ย ถึงแม้จะไม่สนแต่ก็ไม่อาจจะสงบอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อยลงได้ ที่อิงเป่ยคิดว่าการต่อสู้ของตนเป็นเรื่องตลกขบขันไป
เจียงอี้เหยาหาบวับไปไปทันที โผล่มาอีกทีก็ตรงหน้าของอิงเป่ยพร้อมกับซัดฝ่ามือปลิดชีพทลายใจ อิงเป่ยเค้นพลังสร้างเกราะปราณตั้งท่ารับทันที
เปรี้ยง!! ตู้ม!!! แรงปะทะทั้ง2ทำให้กระเด็นออกไปคนละ3ก้าว เมื่อทั้ง2หยุดการเลคื่อนไหวเป็นอิงเป่ยที่หาวยวับไปต่อหน้าต่อตาของเจียงอี้เหยา จนทำให้เจียงอี้เหยาขมวดคิ้วแน่น
"หืม...วิชาตัวเบาเหนือกว่าข้าอย่างนั้นรึ ถ้าจะลำบากแล้วสิ แต่ก็ยังพอมีทางที่จะชนะได้อยู่ถ้าเราไม่ประมาทมัน"
เจียงอี้เหยาคิดว่า ตนมีประสบการณ์ที่มากกว่าทำให้ประสาทสัมผัสเฉียบคมขึ้น จึงสามารถระบุตำแหน่งของอิงเป่ยได้ทันเวลา เมื่ออิงเป่ยโจมตีด้วยดาบคลื่นพลังสีดำทมิฬพุ่งเข้าปะทะทางด้านหลังของเจียงอี้เหยา ซึ่งอิงเป่ยฟาดฟันออกไปปกติ ไม่มีท่าอะไรเลย
"ท่ากระจอกแบบนั้นไม่อาจจะทำอันใดข้าได้หรอก" 5555!!
"หึหึ! เจ้าก็รองรับดูหน่อยเป็นไง ว่าท่ากระจอกๆแบบนี้ ที่เจ้าดูถูกมันจะทำให้เจ้ากลัวได้รึเปล่า"
หึ!! เจียงอี้เหยาทำหน้าเยียดหยามดูถูกก่อนจะเค้นพลังสร้างเกราะปราณขึ้นมาต้านรับทันที แต่เมื่อคลื่นดาบเข้ามาใกล้ก็แสดงอาการตกใจออกมา
"อ้าวเห้ย!! สัญชาตญาณอันเแหลมคมเตือนสติของเจียงอี้เหยาให้หลบคลื่นดาบนี้ " เจียงอี้เหยาพุ่งหลบออกไปด้านข้างทันที แต่เพราะดูถูกมากเกินไปจึงทำให้คลื่นพลังเฉียดผ่านไปอย่างเฉียดฉิว แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้เกราะปราณของเจียงอี้เหยามีพลังความมืดเกาะติดอยู่
ความหน้ากลัวของคลื่นพลังความมืดนี้ถือว่าอันตรายกว่าท่าฟาดดาบธรรมดาซะอีก
อิงเป่ยยืนยิ้มดูเจียงอี้เหยาก่อนจะพูดเยาะเย้ยออกไป
"อ้าวนึกว่าท่าฟาดดาบกระจอกๆที่เจ้าดูถูกเมื่อกี้จะทำให้เจ้ากลืนคำพูดตัวเองไปแล้วนะ ไอ้ท่าทางอวดดีเมื่อกี้มันหายไปไหนซะล่ะ" 5555!!
เจ้า.......!!
เจียงอี้เหยาพยายามสกัดกลั้นไอความมืดสีดำทมิฬให้ออกไปจากเกราะพลังปราณของตนเอง แต่ก็ไม่สามารถทำได้ จึงได้แต่ขมวดคิ้วมองดูไอความมืดสีดำกำลังแทรกแซงเกราะปราณของตนเองทีละน้อย
จนทำให้เจียงอี้เหยาไม่กล้าสลายเกราะป้องกันได้ในตอนนี้ เพราะไม่รู้ว่าไอ้พลังความมืดนี้มันจะหายไปหรือไม่นั่นเอง "ถ้าปราณสีดำนี้สามารถเข้าไปในร่างกายแล้วแทรกแซงได้ล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น?"
เหงื่อเย็นเยียบเริ่มผุดออกมาที่หน้าผากของเจียงอี้เหยา
"ไอ้เด็กบัดซบ นี่มันพลังอะไรกันแน่"
"ก็พลังปราณไง แต่ไม่ใช่ของข้าหรอกนะ ข้ารู้ว่าเจ้าจะถามอะไร แต่เสียใจด้วยข้าทำไม่ได้"
เมื่อเจียงอี้เหยามองไปที่ดาบก็พบว่าตัวดาบกำลังแผ่ไอความมืดออกมารอบๆตัวดาบ ก็รู้สึกถึงอันตรายจากมันลึกๆในใจ ตอนนี้เจียงอี้เหยาคิดว่าต้องหนีจากที่นี่ทันที ไม่งั้นคนที่จะตายก็คือตัวเขาเอง
เจียงอี้เหยาเค้นพลังเต็ม10ส่วน ซัดฝ่ามือปลิดชีพทลายใจออกไปหาอิงเป่ยทันที เพื่อที่จะซื้อเวลาให้ตนเองหลบหนี แต่ก็ลืมไปเสียสนิทว่า ความเร็วตนนั้นด้อยกว่าอิงเป่ย
ย๊ากกกก! อิงเป่ยเค้นพลังซัดหมัดพยัคฆ์สังหารออกไปปะทะทันที เปรี้ยง!!! ตู้ม!! เจียงอี้เหยาอาศัยจังหวะนี้พุ่งทะยานหลบหนีออกไปทันที
หืม!! คิดว่าจะหลบหนีข้าพ้นอย่างนั้นรึ คิดตื้นๆไปแล้ว
อิงเป่ยพุ่งทะยานไปทางที่เจียงอี้เหยาหลบหนีไป อิงเป่ยสัมผัสพลังของเจียงอี้เหยาได้ จึงใช้ความเร็วสูงสุดตามไป
เจียงอี้เหยาสัมผัสได้ว่าอิงเป่ยกำลังมุ่งหน้ามาทางตนด้วยความเร็ว จึงได้แต่ก่นด่าอยู่ในใจที่ตนต้องมาพบกับหายนะ เพราะความคิดไร้สาระก่อนหน้านี้ จึงทำให้ไม่กล้าที่จะสลายเกราะปราณไปได้ จนทำให้ไม่อาจซ่อนพลังปราณเพื่อหลบหนีให้สำเร็จ
อิงเป่ยตามมันทันจึงพูดเยาะเย้ยเจียงอี้เหยาต่อทันที
"ไม่คิดว่าจะมีตัวโง่งมอยู่แถวนี้ด้วย ที่ไม่กล้าสลายเกราะปราณ แต่ก็ยังคิดหนีอย่างเจ้าเนี้ย" 5555!!!
เจียงอี้เหยาได้ยินแทบกระอักเลือดออกมาคำโต
"ถ้าไม่เพราะไอ้พลังปราณบ้านี่ข้าคงทำไปนานแล้วไม่ต้องให้เจ้ามาเยาะเย้ยข้าถึงเพียงนี้หรอก"
"นั่นมันเป็นเพราะความโง่ของเจ้าเองไม่ใช่รึไงถึงได้เป็นแบบนี้ เจ้าไม่ลองสลายดูเล่าอาจจะไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดก็ได้" 5555!!
คำพูดของอิงเป่ยยิ่งทำให้เจียงอี้เหยารู้สึกกระวนกระวายใจหนักขึ้นไปอีก จึงคิดที่จะลองเสี่ยงดู ถึงแม้จะไม่ทำก็ตายอยู่ดี
เจียงอี้เหยาได้ตัดสินใจสลายเกราะพลังปราณทันที เมื่อเกราะพลังปราณหายไป ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
55555!!!! ข้า.....อึก! พรวดด!! เจียงอี้เหยารู้สึกว่าในตันเถียนนั้นกำลังมีพลังปราณบางอย่างกำลังดูดซับพลังปราณตนอยู่ ทำให้ต้องกระอักเลือดออกมา พุ่งชนเข้ากับต้นไม้ข้างหน้าจนตกลงไปกระแทกพื้นดัง ตู้ม! อ๊ากกก!!
"ข้าเจ็บปวดเหลือเกิน ฆ่าข้าเถอะ" เสียงขอร้องให้ฆ่านั้นดังระงมไปทั่ว แต่อิงเป่ยก็ไม่ได้ทำได้แต่ยืนดูจุดจบของเจียงอี้เหยาเท่านั้น
เจียงอี้เหยานอนดิ้นไปดิ้นมาเพราะความเจ็บปวด พลังปราณความมืดนั้นค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นก้อนพลังกลมๆ ดาบเทพมารสะท้านฟ้า สั่นเบาๆก่อนที่ก้อนพลังปราณนั้นจะสลายตัวเข้าไปที่ดาบทันที ส่วนเจียงอี้เหยานั้นซูบผมจนแห้งเหี่ยวตายไปด้วยความทรมานอย่างสุดแสน
ซ้งจื่อหยานั้นก็ไม่อาจจะช่วยตัวเองได้นอนรอความตายกลายเป็นอาหารของสัตว์อสูรแถวนี้ไป
อิงเป่ยไม่นึกเลยว่าดาบเทพมารจะสามารถดูดซับพลังปราณได้ด้วย
นี่มันเกินจินตนาการของอิงเป่ยไปแล้ว
มีใครเป็นไข้หวัดบ้างตอนนี้ คงต้องออกช้านิดนะครับตอนต่อไป
แต่จะพยายามแต่งเรื่อยๆรอหายจากไข้ก่อนค่อยปั่นรัวๆ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย