เมื่ออิงเป่ยสำรวจทุกที่แล้ว ไม่มีอะไรอีก ก็พุ่งทะยานกลับออกไปทางเดิมที่เข้ามา ตอนนี้ข้างนอกถ้ำนั้นเริ่มมืดแล้ว ทำให้อิงเป่ยต้องค้างที่ถ้ำนี้ต่ออิงเป่ยเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมา จึงทำการจุดไปด้วยพลังปราณ กว่าอิงเป่ยจะทำได้ก็ใช้เวลาพอสมควร จากนั้นจึงนำไก่ป่าออกมาจัดการถอนขนใช้มีดกรีดท้องแล้วดึงเอาเครื่องในออกมาทั้งหมด อิงเป่ยจัดการทุบน้ำแข็งที่เกาะตามผนังถ้ำ แล้วนำมาวางใส่เตาสกัดยา เพราะไม่มีอะไรใส่จึงแก้ขัดไปก่อน จากนั้นก็เดินออกมาแถวปากถ้ำ นำไปวางบนกองไฟ เมื่อโดนความร้อนน้ำแข็งก็ละลายเป็นน้ำ ซึ่งอิงเป่ยได้ยกเตาสกัดยาออกจากกองไฟแล้วนำน้ำมาล้างไก่ จากนั้นก็เอาไม้ที่ตัดมาเสียบตูดไก่ทะลุหัวแล้วนำไปย่างที่กองไฟ
ดังในรูป
หลังจากผ่านไป 1 ชั่วยาม กลิ่นหอมอ่อนๆยั่วน้ำลายก็โชยออกมาทำให้อิงเป่ยถึงกับกลืนน้ำลายดัง เฮือก อิงเป่ยรีบหยิบขึ้นมาแล้วใช้มือฉีกดึงน่องไก่ออกมาก่อนจะกัดลงไป ความนุ่มนิ่มของน่องไก่ทำให้อิงเป่ยแทบจะทนไม่ไหว รีบกัดคำต่อไปทันที ถ้ามีเครื่องปรุงเหมือนที่โลกเราของจะดีไม่น้อยอิงเป่ยบ่นกับตัวเองเบาๆ
มื้อนี้อิ่มสุดๆไปเลย ถ้ามีโอกาสไปในตัวเมืองคงต้องหาเครื่องปรุงดูซักหน่อยแล้ว ถึงจะเป็นนักสำรวจ ทักษะการทำอาหารไม่เป็นรองใครนะจะบอกให้ หลังจากบ่นแล้วก็ได้เวลาพักผ่อน เรื่องฝึกคงต้องหยุดฝึกซักวัน อิงเป่ยนั่งเอาหลังพิงผนัง แล้วหลับตาลงก่อนจะหลับไป
ค่ำคืนที่เงียบสงบไร้เสียงลมพัดผ่าน ทำให้บรรยากาศรอบๆนั้นน่าขนลุก
อิงเป่ยที่เคยเป็นนักสำรวจย่อมไม่กลัวอยู่แล้ว แต่ที่นี่ไม่ใช่โลกที่อิงเป่ยเคยอยู่มันทั้งอันตรายและน่าหวาดกลัวยิ่ง พลาดเพียงนิดเดียวนั่นหมายถึง ตาย
การเอาตัวรอดจากสัตว์อสูร หรือแม้กระทั่งมนุษย์ด้วยกันเอง ใครเล่าจะรู้ว่า ใครโหดร้ายกว่ากัน แต่ที่แน่ๆมนุษย์นั้นหน้ากลัวกว่าสัตว์อสูรแน่นอน เพราะมีสติปัญญาที่เหนือกว่า
ส่วนทางด้านตระกูลหยาง ก็มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย หลังจากที่อิงเป่ยถ่ายทอดความรู้ การสกัดเม็ดยาให้ ประมุขหยางได้ทำการคัดลอกความรู้บางส่วนออกมา แล้วจดลงหนังสือ จากนั้นก็มอบหมายให้ผู้อาวุโสนำไปคัดลอกออกมาอีกหลายเล่ม แล้วให้นำไปเก็บไว้ที่หอตำรา ซึ่งมีการสั่งไว้ว่า ห้ามนำออกจากหอตำราเด็ดขาด ถ้าใครสนใจก็เข้าไปศึกษาเอาเอง โดยจะมีผู้อาวุโสคอยแนะนำ
จากนั้นก็ได้มีการสกัดเม็ดยาทะลายฟ้าจนสำเร็จ แต่อัตราส่วนคือ 5/10 ซึ่งไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าใดนัก แต่ถ้านำไปเทียบกับเม็ดยาที่มีอยู่ก่อนหน้านั้นมันเทียบกันไม่ได้เลย ซึ่งทำให้ประมุขหยางและผู้อาวุโสยิ้มกันจนแก้มปริ เพราะว่าจะเอาเม็ดยาทะลายฟ้าไปขายที่ร้านค้าในตัวเมือง ซึ่งตระกูลหยางเป็นคนดูแล เมื่อทำการสกัดเม็ดยาทะลายฟ้าบ่อยๆก็เริ่มเห็นผลลัพธ์ขึ้นเรื่อยๆจนอัตรามาอยู่ที่ 7/10 ส่วน หลังจากนั้นก็ไม่เพิ่มอีกเลย ประมุขหยางจึงตัดสิ้นใจให้ทำการสกัดออกมาให้เยอะที่สุด เพื่อเอาไปวางขายที่ร้านและเก็บไว้ให้คนรุ่นหลังได้ใช้ฝึกฝนพลังปราณ ซึ่งจะทำให้ตระกูลหยางแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก
ประมุขหยางจึงรีบนำยาทะลายฟ้าไปให้บุตรสาวตนทันที แต่เมื่อมาถึงก็ตกใจอย่างมากเมื่อบุตรสาวนั้นเลื่อนจากหลอมรวมเป็นขั้นพลังปราณแท้จริงระดับ 9
"ข้าไม่ได้พบบุตรสาวเพียงไม่กี่วันพลังปราณบุตรข้าเพิ่มขึ้นขนาดนี้เชียวรึ "
หยางฟงต้องการถามบุตรสาวตนจึงได้เคาะประตู
!!ก๊อกๆ ก๊อกๆ!! "เปิดประตูให้บิดาที บิดามีเรื่องอยากจะถามเจ้าหน่อย"
เมื่อประตูเปิด ก็พบกับอี้หลิวเป็นคนเปิดประตูให้ หยางฟงเดินเข้าไปหาบุตรสาวทันที
"ท่านพ่อมีเรื่องอะไรจะพูดกับข้าอย่างนั้นหรือเจ้าค่ะ"
หยางฟงรีบหยิบขวดยาออกมาแล้วยื่นให้กับบุตรสาวตนแล้วพูดว่า
"ข้านำเม็ดยามาให้เจ้าฝึกฝนพลังปราณของเจ้าน่ะ"
หยางซุยหลิงยิ้มแล้วถามว่า "เม็ดยาระดับไหนหรือท่านพ่อ"
"เม็ดยาระดับมนุษย์ ตระกูลเราทำการสกัดกลั่นเมื่อไม่นานมานี้ อัตราอยู่ที่7/10ส่วน"
เมื่อหยางซุยหลิงได้ยินก็บอกบิดาตนว่า
"ท่านพ่อมันไม่มีประโยชน์กับข้าแล้ว ท่านเก็บไว้ให้คนอื่นเถอะเจ้าค่ะ
ระดับพลังปราณข้า อยู่ปราณแท้ระดับ 9 แล้ว"
"ข้าอยากถามเจ้าอยู่เหมือนกันว่าทำไมพลังปราณเจ้าถึงเพิ่มมากขนาดนี้กัน"
หยางซุยหลิงยิ้ม แล้วยิ้มเอาขวดยาออกมาให้บิดาตนดู ซึ่งข้างในขวดนั้นเป็นเม็ดยาระดับเซียน อัตราเต็ม10ส่วน ซึ่ง อิงเป่ยได้มอบให้ไว้นั่นเอง
เมื่อหยางฟงรับขวดยาไปแล้วก็ทำการตรวจสอบโดยการใช้พลังปราณ ก็ต้องตื่นตระหนก ตกใจ อ้าปากตาค้างทันที บุตรสาวเห็นบิดาเป็นอย่างนั้นก็จับแขนเขย่าและเรียกบิดาตนให้ได้สติกลับมา
"!ท่านพ่อ ท่านพ่อ!!" บุตรสาวตะโกนเรียกอยู่นานหยางฟงก็ได้สติกลับมา
จ้องมองหน้าลูกสาวตน แล้วพูดตะกุกตะกักออกมาทีละคำ
"จะ จะ เจ้า ไปได้เม็ดยานี้มาจากไหนกัน ใครเป็นคนให้เจ้ามา"
"ท่านพ่อใจเย็นๆก่อนจะได้ไหมเจ้าค่ะ ข้ากำลังจะบอกท่านอยู่นี่ไง"
"เจ้าได้มาจากใครรีบบอกมาเร็วเข้า"
"คือว่า คุณชายอิงเป่ย ฝากขวดยานี้กับ อี้หลิว แล้วให้นำมาให้ข้าเจ้าค่ะ"
"แล้วเขาได้บอกเจ้าหรือเปล่าว่าเม็ดยานี้ระดับอะไร"
"อี้หิลวบอกว่า เม็ดยาหยกตะวัน เจ้าค่ะ ระดับเซียน"
"ใช่จริงๆด้วยชื่อเม็ดยานี้"
หยางฟงคืนขวดยาให้กับบุตรสาวแล้วรีบพุ่งทะยานออกจากห้องไปทันที
"ท่านพ่อข้าจะรีบไปไหนกัน หรือว่า จะเกี่ยวกับเม็ดยานี่"
"คุณหนู" "อี้หลิวคิดว่า คุณชาย อิงเป่ยคงจะมอบตำราสกัดเม็ดยาให้ท่านประมุขหยางแน่นอนเจ้าค่ะ"
"อืม ข้าก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน นี่มันก็ดึกมากแล้ว มีอะไรค่อยคุยกันทีหลังละกัน"
"ทราบแล้วเจ้าค่ะ คุณหนู"
หลังจากนั้นหยางซุยหลิงก็พักผ่อน ส่วนอี้หลิวก็เดินกลับไปพักที่ห้องของตนเอง
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย