ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The book of Thoth [KrisYeol]

    ลำดับตอนที่ #2 : แกะรอย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.1K
      85
      12 มิ.ย. 63

    นักเวทที่หาเลี้ยงชีพอยู่กับชาวบ้านร้านตลาดมักเป็นนักแสดงปาหี่เสียส่วนใหญ่ ต่างจากเวทมนตร์ที่ถ่ายทอดกันในมหาวิหารซึ่งศักดิ์สิทธิ์จริงแท้อย่างไม่ต้องสงสัย

    ไม่น่าแปลกใจที่เวทมนตร์จะเป็นศาสตร์ชั้นสูงที่จำกัดอยู่ในหมู่เชื้อพระวงศ์และนักบวชแต่ก็ยังเป็นการยากนักหากจะหานักเวทที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้อย่างเชี่ยวชาญ

    เจ้าชายเซราโฮเทปก็เป็นหนึ่งในคนจำนวนหยิบมือน้อยนิดเหล่านั้น

     

    ในหอตำราของมหาวิหารบรรจุสรรพความรู้แห่งเวทมนตร์ในทุกยุคสมัยไว้อย่างครบถ้วน หากชนชั้นสูงกลับให้ความสนใจอำนาจและเส้นสายภายในมากกว่าศึกษาศาสตร์อันลึกซึ้งละเอียดอ่อน

    เรื่องราวของคัมภีร์แห่งธอธถูกบันทึกแอบซ่อนไว้ในหอสมุดโดยไม่มีผู้ใดใส่ใจมากว่าสามร้อยปี จนกระทั่งเจ้าชายน้อยเซราโฮเทปมาพบเจอเข้า...นับจากวันนั้น เจ้าชายเซราโฮเทปเฝ้าถวิลหาคัมภีร์อันลึกลับเล่มนี้ตลอดมา

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านเจ้าชายน้อยค่อย ๆ เติบใหญ่ กลายเป็นชายหนุ่มผู้เก่งกล้าสามารถไม่เป็นรองใคร

    ...บัดนี้องค์ชายเซราโฮเทปวัยสิบเก้าปีแน่ใจแล้วว่า พระองค์พร้อมที่จะครอบครองคัมภีร์แห่งธอธ

     

    บันทึกกล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าฟาโรห์อาเมนโฮเทป บิดาของเจ้าชายเคเซอโรฟาห์ฝังคัมภีร์แห่งธอธไว้ในโลงศิลาร่วมกับร่างพระโอรส ก่อนจะให้นักเวทมีฝีมือนับร้อยคนร่ายมนตร์ปิดผนึกสุสาน ทั้งยังวางกับดักไว้ล้อมรอบแน่นหนา ไม่เปิดช่องให้ผู้ใดรบกวนการหลับใหลชั่วนิรันดร์ของเจ้าชายเคเซอโรฟาห์

    เพื่อให้เทพธอธคลายความพิโรธ ฟาโรห์อาเมนโฮเทปสร้างวิหารบูชาเทพธอธอย่างยิ่งใหญ่แลให้วาจาสัตย์ว่าจะไม่มีเจ้าชายเคเซอโรฟาห์คนที่สองอีก

    นับแต่นั้นคัมภีร์แห่งธอธกลายเป็นวัตถุต้องห้าม...

    ห้ามกล่าวถึง

    ห้ามตามหา

    คนรุ่นหลังจึงจำได้เพียงว่าเจ้าชายเคเซอโรฟาห์สิ้นชีพเพราะลบหลู่ทวยเทพ

     

    แม้เรื่องคัมภีร์แห่งธอธจะหลุดลอดถูกเล่าลือต่อไปบ้าง แต่องค์ฟาโรห์อาเมนโฮเทปนับว่าแยบยลนัก พระองค์ไม่ฝังร่างโอรสในสุสานของเชื้อพระวงศ์ตามที่ตระเตรียมไว้ กลับใช้กลลวงนำโลงศิลาที่บรรจุทั้งคัมภีร์และร่างผู้ครอบครองไปฝังที่อื่น

    สุสานของราชวงศ์เก่านั้นเจ้าชายเซราโฮเทปเคยไปเยือนแล้วคราหนึ่ง กว่าจะเข้าไปถึงห้องชั้นในได้นั้นยากเย็นยิ่ง ทั้งวางกับดักและร่ายคำสาปไว้มากมาย ทว่าในคูหาหินที่สลักนามเคเซอโรฟาห์นั้นว่างเปล่า ไร้ซึ่งร่องรอยของโลงศิลาและทรัพย์สมบัติที่ควรบรรจุไว้ให้ผู้ตายได้ใช้สอยในโลกหน้า

    ...เสียแรงที่อุตส่าห์พยายามบุกเข้ามา

    แต่ก็ไม่นับว่ากลับไปมือเปล่า

     

    ใกล้ ๆ กับหุบผากษัตริย์ ยังมีสุสานเล็ก ๆ ของขุนนางและข้าราชบริพาร ในคูหาหินที่เล็กแคบและเบียดเสียด มีอาลักษณ์ชราผู้หนึ่งนอนทอดร่างอยู่ในโลงไม้

    เชซา...คือนามของเจ้าของร่าง แม้ร่างจะถูกห่อด้วยผ้าฝ้ายบ่งบอกฐานะว่าไม่ร่ำรวยมั่งคั่ง แต่จารึกข้างผนังสุสานทำให้รู้ว่าเมื่อยามมีชีวิต คนผู้นี้มีหน้าที่การงานไม่เลวทีเดียว เชซาผู้นี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นอาลักษณ์ของเจ้าชายเคเซอโรฟาห์และยังเป็นที่ไว้วางใจได้รับใช้ใกล้ชิดคอยจดบันทึกข้างกาย

    เป็นธรรมดาที่การฝังร่างผู้วายชนม์ลงในสุสาน จะต้องฝังสมบัติไว้ให้ผู้ตายได้นำติดตัวไปใช้ในโลกหน้าอาลักษณ์ผู้นี้ก็มีข้าวของพอมีราคาฝังอยู่รอบกาย แต่สิ่งมีค่าใดเล่าจะเทียบได้กับตำราปาปิรุสที่เขาครอบครอง

    การเขียนตำราสักม้วนอาจใช้เวลามากถึงหนึ่งชั่วชีวิตคน ม้วนตำราแต่ละม้วนจึงมีมูลค่าสูง แต่เชซาเกิดในครอบครัวอาลักษณ์และไม่มีทายาท ตำราที่ถูกส่งต่อมาจากบิดาอาจารย์ล้วนถูกฝังรวมไว้ในสุสาน

    ม้วนปาปิรัสทุกม้วนในสุสานแห่งนั้นถูกเจ้าชายเซราโฮเทปเปิดอ่าน ม้วนหนึ่งในนั้นบันทึกเรื่องราวต้องห้ามในยุคสมัยที่คนผู้นั้นยังคงมีชีวิต...คัมภีร์แห่งธอธ

    เรื่องราวของคัมภีร์แห่งธอธที่โลดแล่นผ่านปลายปากกาของเชซานั้นละเอียดลึกซึ้งกว่าตำนานคัมภีร์แห่งธอธที่เจ้าชายเซราโฮเทปอ่านจากหอตำราเสียอีก เขาบันทึกไว้กระทั่งว่าเจ้าชายเคเซอโรฟาห์แกะรอยหาที่ซ่อนคัมภีร์แห่งธอธได้อย่างไร และพิชิตอสรพิษบูโตมาด้วยเล่ห์อุบายใด

    เชซาทำให้เจ้าชายเซราโฮเทปพึงพอใจมาก กระทั่งเจ้าชายพระองค์นี้เปลี่ยนผ้าพันร่างเขาเป็นลินินอย่างดีและยังให้ช่างฝีมือซ่อมแซมสุสานที่เริ่มสึกร่อนผุพังเสียใหม่

     

    เรื่องน่ายินดียังไม่หมดเพียงเท่านั้น เมื่อเจ้าชายเซราโฮเทปเริ่มค้นลึกลงในหุบผาราชินี ยังได้พบสุสานของราชินีแห่งอาเมนโฮเทป มารดาของเจ้าชายเคเซอโรฟาห์ นางให้กำเนิดโอรสธิดาแก่ฟาโรห์ถึงเจ็ดคน และหนึ่งในนั้นยังได้เป็นฟาโรห์สืบต่อจากฟาโรห์อาเมนโฮเทปเสียด้วย สุสานของนางจึงใหญ่โตโอ่อ่ากว่าใคร

    ข้างผนังศิลา ช่างฝีมือของวังหลวงจารึกเรื่องราวของนางด้วยอักขระอ่อนช้อย ทั้งยังไม่ลืมกล่าวถึงบุตรธิดาทั้งเจ็ดของนาง...

    ที่สำคัญนั้น ยังมีฤกษ์กำเนิดของบุตรธิดาทุกคนจารึกไว้!

     

    สำหรับชาวไอยคุปต์ ดวงดาวไม่เพียงชี้นำทาง แต่ยังเกี่ยวพันกับชะตาชีวิตตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตายอีกด้วย และยามฝังร่างลงในสุสาน ยังต้องเลือกเฟ้นทำเลที่ส่งเสริมกับฤกษ์ดวงดาวของตนมากที่สุด

    สุสานแห่งเคเซอโรฟาห์ก็คงถูกเลือกตามฤกษ์ดวงดาวเช่นกัน เมื่อได้ฤกษ์กำเนิดมาแล้วย่อมเป็นเรื่องง่ายที่จะค้นหาสุสาน

     

    หลังจากขวนขวายศึกษาเส้นทางแห่งดวงดาวอยู่ร่วมเดือน เจ้าชายเซราโฮเทปจึงได้คำตอบ

     

    ...สุสานของเจ้าชายเคเซอโรฟาห์ตั้งอยู่ที่เกบตูไม่ผิดแน่

     

    กว่าจะปลีกตัวจากราชสำนักได้ เจ้าชายเซราโฮเทปต้องหาข้ออ้างโป้ปดเสียมากมาย สุดท้ายผู้คนจึงรู้เพียงว่า เจ้าชายเซราโฮเทปเสด็จไปควบคุมการสร้างวิหารที่อัสวาน

    อัสวานไกลจากไพ-ราเมเสสมาก คงไม่สะดุดตาหากแวะพักที่เกบตูซึ่งอยู่ระหว่างทาง

    คนที่เจ้าชายเซราโฮเทปนำไปด้วยก็มีไม่มาก และล้วนแต่เป็นคนใกล้ชิดที่มีฝีมือไว้วางใจได้ การเดินทางครั้งนี้ถูกวางแผนอย่างรัดกุมที่สุด

    ที่อัสวานมีการก่อสร้างมหาวิหารใหญ่อุทิศแด่เทพอามุน ในการนี้ต้องใช้แรงงานนับสิบหมื่น และงบประมาณจากคลังอีกไม่น้อย องค​ฟาโรห์ราเมเสสไม่ไว้วางใจให้ขุนนางไปกำกับควบคุมห่างไกลสายตา เมื่อมีพระโอรสอาสาไปตรวจสอบดูแลจึงตระเตรียมการไว้ให้พร้อมสรรพ

     

    เมืองและชุมชนของชาวอียิปต์ตั้งอยู่ตามชายฝั่งไนล์ ดังคำเปรียบเปรยที่ว่าไนล์คือของขวัญจากทวยเทพ...คือสายน้ำแห่งชีวิต ชาวอียิปต์จึงสัญจรกันด้วยเรือเสียเป็นหลัก

    ชาวอียิปต์คิดประดิษฐ์เรือไว้มากมายหลายประเภท ตั้งแต่เรือประมงจนถึงเรือสำหรับการศึก หลากหลายวัสดุตามแต่ฐานะชนชั้น ทั้งเรือลำเล็กจากมัดต้นปาปิรุส เรือไม้อะซาเซีย หรือเรือไม้ซีดาร์ราคาแพงที่ต้องซื้อหามาจากอาณาจักรอื่น

    เรือสำหรับเดินทางไกลเป็นเรือลำใหญ่ใช้ฝีพายนับสิบคน มีผืนใบเรือขึงไว้กินลมเพื่อเคลื่อนไปข้างหน้า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการแล่นบนน้ำเป็นระยะเวลานาน

     

    อัสวานตั้งอยู่ในอียิปต์บนและอียิปต์บนอยู่ทางใต้ของลำน้ำไนล์

    ไนล์ไหลจากทิศใต้สู่ทิศเหนือ การเดินทางจากนครหลวง ไพ-ราเมเสส ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือไปยังอัสวานทางใต้จึงเป็นการเดินเรือทวนกระแสน้ำ

    ...กินเวลานานร่วมเดือนกว่าจะถึงจุดหมาย

    นับตั้งแต่แล่นออกจากไพ-ราเมเสสขบวนเรือก็แล่นผ่านเมืองหลายเมือง แวะพักที่โนมส์หลายแห่ง ทุก ๆ สถานที่ที่ได้ไปเยือนล้วนแต่มีเรื่องราวที่น่าจดจำ

    เมมฟิสเป็นนครหลวงแห่งแรก อมาร์นาเป็นนครหลวงที่ถูกทิ้งร้าง

    กีซามีพีระมิดยิ่งใหญ่ตระการตา ลักซอร์มีวิหารศักดิ์สิทธิ์มากมาย

     

    แสงแดดร้อนระอุสาดกระทบท้องน้ำเป็นประกายจับตา ผืนน้ำสีมรกตไหวระริกเป็นลูกคลื่นน้อย ๆ ยามฝีพายจ้วงไม้ลงกับท้องน้ำ เรือลำใหญ่แล่นละลิ่วอยู่กลางลำน้ำ มองผิวเผินคล้ายเป็นเรือเดินทางธรรมดา ใครจะรู้เล่าว่าเรือลำนี้เป็นที่ประทับของเชื้อพระวงศ์ เป็นเจ้าชายเซราโฮเทปเองที่ไม่ต้องการให้การเดินทางเอิกเกริกสะดุดตา

    กลางลำเรือ ร่างสูงโปร่งเอนมองวิถีชีวิตริมสองฝั่งน้ำอย่างเอื่อยเฉื่อย แม้สายตาจะจดจ่อไปที่ริมตลิ่ง ทว่าใจคะนึงถึงเพียงตำราที่เคยอ่าน‘ผู้พิชิตคัมภีร์แห่งธอธ...จักมีอำนาจเหนือท้องนภาจรดธาตรี’ปาปิรัสเก่าแก่แห่งเคเมนูและบันทึกของอาลักษณ์เชซาจารึกไว้ตรงกัน

    องค์ชายคนงามเหยียดแย้มรอยยิ้ม จ้องมองเหล่าฝีพายพายเรือเทียบท่า

    สู่เกบตู

     

    เจ้าชายเซราโฮเทปไม่รอช้ารีบก้าวลงจากลำเรือ สายลมหวีดหวิวพัดพาเม็ดทรายมาปะทะใบหน้ายิ่งชวนให้รู้สึกวิเวกวังเวง

    คัมภีร์แห่งธอธอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว

    เจ้าชายเซราโฮเทปเริ่มวันใหม่ด้วยการบวงสรวงเทพอามุน วัวที่ดีที่สุดที่หาได้ถูกเชือดเพื่อสักการะมหาเทพ กำยานราคาแพงถูกจุดอบอวลไปทั่ว เจ้าชายเซราโฮเทปยอมใช้ของบูชาอย่างฟุ่มเฟือยเพื่อขอประสาทพรจากมหาเทพสูงสุด

    ตั้งแต่เด็ก ๆ ทุกคนล้วนชื่นชมเจ้าชายเซราโฮเทปว่าเก่งกาจ ไม่ว่าจะเป็นอักษรหรือศาสตร์แห่งสงครามล้วนยากจะหาผู้เทียบเสมอ ทำให้เด็กน้อยในวันวานเติบใหญ่เป็นเจ้าชายผู้เย่อหยิ่งทะนงตน ด้วยสำคัญว่าตนคือผู้มีฝีมือที่ไม่มีใครอาจต่อกร เจ้าชาย เซราโฮเทปในวัยสิบเก้าปีมั่นใจอย่างล้ำเหลือว่าจะสามารถฝ่ากับดักในสุสานของเจ้าชายคีเซโรฟาห์และช่วงชิงคัมภีร์แห่งธอธมาไว้ในครอบครอง

     

    หลังเสร็จสิ้นการบูชาเทพ เจ้าชายคนงามเหวี่ยงกายขึ้นขี่ยอดม้าคู่ใจตรงไปทางตะวันตกเฉียงใต้

    ไปเพียงคนเดียวไม่มีผู้ติดตามทิ้งพลับพลาที่พักและข้าทาสบริวารไว้เบื้องหลัง ใจยึดมั่นในปณิธานอันแรงกล้าที่จะครอบครองชิงคัมภีร์แห่งธอธ สองไหล่ตั้งขึ้นอย่างทระนง ริมฝีปากเหยียดตรง ดวงตาทั้งสองทอดมองไปยังเวิ้งทรายเบื้องหน้า

    วันนี้เจ้าชายเซราโฮเทปเขียนขอบเนตรด้วยผงโคห์ลสีดำสนิทเฉียบคมยิ่งกว่าทุกวัน ถนิมพิมพาภรณ์ทองคำล้ำค่าที่เคยสวมใส่เมื่อครั้งอยู่เมืองหลวงถูกปลดออกทั้งหมด ทว่าก็ไม่อาจลบล้างรัศมีสูงส่งของบุตรแห่งสุริยเทพ เสื้อผ้าอาภรณ์แม้ไม่ใช่ลินินสีขาวเนื้อลื่นอัดกลีบละเอียดลออที่เคยสวมในยามปกติแต่ชุดคลุมสีดำทะมัดทะแมงก็เสริมให้ดูลุ่มลึก

    เจ้าชายเซราโฮเทปใช้หลังเท้ากระทุ้งสีข้างของเจ้าม้าเบา ๆ สองสามทีม้าก็วิ่งออกไปไกลลิบ ทิ้งเพียงฝุ่นทรายตลบคลุ้งไว้ข้างหลัง

     

    ขณะเดียวกันนั้นเอง นกกุลาศักดิ์สิทธิ์ตัวใหญ่กางปีกร่อนอยู่เหนือหมู่เมฆ ดวงตาเย็นเยียบจับจ้องไปยังหนึ่งคนหนึ่งอาชาที่เคลื่อนไหวอยู่เบื้องล่าง มันกู่ร้องอย่างดูแคลนออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะโผบินออกตามทิศทางที่เจ้าชายเซราโฮเทปจากไป

     

    อาลักษณ์

    sds
    (เครดิต :https://bit.ly/2Ajvq0G)

    อาลักษณ์คือผู้ที่ทำหน้าที่จดบันทึกในราชสำนัก อาลักษณ์ในอียิปต์โบราณต้องรู้ทั้งอักษรเฮียราติกและอักษรภาพเฮียโรกลิฟ เนื่องจากประชาชนมีอัตราการรู้หนังสือน้อย (แม้แต่ฟาโรห์บางองค์ก็ไม่รู้หนังสือ) อาลักษณ์ในอียิปต์โบราณจึงเป็นอาชีพที่ได้รับการเคารพยกย่องมาก และได้รับอภิสิทธิ์ เช่น ได้รับการยกเว้นภาษี ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเกณฑ์แรงงาน เป็นต้น

    อาลักษณ์มักจะมาจากครอบครัวอาลักษณ์ หรือครอบครัวที่มีฐานะดี (เด็ก ๆ ชนชั้นล่างต้องทำงานและไม่มีเงินพอจะจ่ายค่าเล่าเรียน) โดยใช้เวลาเรียนในโรงเรียนสอนอาลักษณ์ประมาณ4-5 ปี เมื่อจบการศึกษา อาจเป็นนักบวชหรือแพทย์ก็ได้เช่นกัน

    ไม่เฉพาะเด็กผู้ชายเท่านั้นที่สามารถเรียนในโรงเรียนสอนอาลักษณ์ มีหลักฐานบอกว่าเด็กผู้หญิงจากครอบครัวฐานะดีก็เข้าเรียนในโรงเรียนสอนอาลักษณ์เพื่อเป็นแพทย์หญิงหรือนักบวชหญิง

     

    หุบผาราชินี

    sds
    (เครดิต :https://bit.ly/3e04OjW)

    หุบผาราชินี (Valley of the queens หรือواديالملكات) ถูกเรียกในภาษาอียิปต์โบราณว่า‘ทา-เซต-เนเฟอร์รู’ แปลว่าสถานที่แห่งความงาม

    หุบผาราชินีตั้งอยู่ในลักซอร์ (ใกล้กับหุบผากษัตริย์และหมู่บ้านช่างฝีมือในยุคนั้น) เป็นผาหินที่ถูกสกัดเข้าไปเป็นห้อง ๆ เพื่อเป็นสุสานสำหรับราชินีและเชื้อพระวงศ์ในสมัยราชวงศ์ที่ 18-21

     

    อียิปต์

    sds
    (เครดิต :https://bit.ly/2MSanF6)

    อียิปต์ถูกแบ่งเป็นสองเขต คืออียิปต์บนและอียิปต์ล่าง โดยใช้การไหลของแม่น้ำไนล์เป็นเกณฑ์ แม่น้ำไนล์ไหลจากทิศใต้ไปยังทิศเหนือ อียิปต์บนคือดินแดนที่อยู่ทางต้นน้ำหรืออยู่ทางใต้ ส่วนอียิปต์ล่างอยู่ทางปากน้ำที่จะไหลลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนหรือก็คืออยู่ทางเหนือ

    นอกจากนี้ยังแบ่งเขตการปกครองท้องถิ่นเป็นมณฑลที่เรียกว่า‘โนมส์’ แต่ละโนมส์มีขุนนางท้องถิ่นที่เรียกว่า ‘โนมาร์ช’ คอยปกครองดูแล โดยอียิปต์บนถูกแบ่งเป็น 22 โนมส์ และอียิปต์ล่างถูกแบ่งเป็น 20 โนมส์

     

    นกกุลาศักดิ์สิทธิ์

    sds
    (เครดิต :https://bit.ly/2Al8fDc)
    sds
    (เครดิต :https://bit.ly/3hmhGD1)

    ​นกกุลาศักดิ์สิทธิ์ หรือนกช้อนหอยศักดิ์สิทธิ์หรือนกช้อนหอยศักดิ์สิทธิ์แอฟริกัน(Sacred ibis, African sacred ibis)ชื่อวิทยาศาสตร์Threskiornis aethiopicus

    นกช้อนหอยศักดิ์สิทธิ์แอฟริกันเป็นนกน้ำขนาดใหญ่อาจมีความยาวลำตัวถึง 82 เซนติเมตร มีขายาวและมีปากโค้ง อาศัยอยู่ตามหนองบึง และทุ่งหญ้าใกล้แหล่งน้ำ อาหารหลักคือ สัตว์จำพวกแมลงสัตว์น้ำขนาดเล็กและสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก ทำรังวางไข่ครั้งละ 2-3 ฟอง อาศัยอยู่เป็นกลุ่มบนต้นไม้ใหญ่

    นกช้อนหอยศักดิ์สิทธิ์ กระจายพันธุ์อยู่ทั่วทวีปแอฟริกา และเป็นนกที่ชาวอียิปต์โบราณนับถือเป็นนกศักดิ์สิทธิ์ เป็นตัวแทนของเทพธอธจึงนิยมนำนกช้อนหอยศักดิ์สิทธิ์มาบูชายัญแด่เทพธอธ (อ่านเพิ่มเติมเรื่องการบูชายัญได้ที่ :https://bit.ly/2YsDB2r)

     

    talk : สวัสดีค่ะทุกคน พบกันอีกแล้วนะคะหลังจากห่างหายไปนาน คราวนี้ #คัมภีร์ky กลับมาใหม่ในรูปแบบรีไรท์แล้วนะคะ รับรองว่าเนื้อหาตอนต่อ ๆ ไปจะเจ้มจ้นกว่าเวอร์ชั่นเก่าแน่นอนค่ะ มาเอาใจช่วยเซราโฮเทปค้นหาคัมภีร์แห่งธอธกันเถอะ! ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยน้า คอมเมนท์หรือจะเล่นแท็กในทวิตเป็นกำลังใจให้ไรท์ปั่นต่อก็ได้????????

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×