คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เริ่มประลอง
เจ้าชายเคเซอโรฟาห์หาใช่เลือดร้อนเช่นยามมีชีวิต ระยะเวลากว่าสามร้อยปีที่ถูกจองจำกล่อมเกลาให้ผู้ครอบครองคัมภีร์แห่งธอธสุขุมและเจ้าเล่ห์เพทุบายกว่าใคร เป็นดังเสือร้ายที่หมอบซุ่มเงียบ ๆ รอตะครุบเหยื่อ
บัดนี้เหยื่ออันโอชะมาอยู่ตรงหน้า โอกาสที่จะได้ออกจากสุสานแห่งนี้พลันสว่างเรืองขึ้นมา
เซเนตคือเกมกระดานที่ต้องอาศัยปัญญาเป็นอย่างมากในการวางอุบายและกลยุทธ์ แน่นอนว่าเป็นการละเล่นเฉพาะสำหรับชนชั้นสูงและนักบวช เจ้าชายเคเซอโรฟาร์แสร้งนิ่งไปด้วยสีหน้าครุ่นคำนึงก่อนจะเอ่ยตอบตกลง
“อย่าได้รีรออีกเลย” มือหนาโบกไปที่พื้นที่ว่างด้านหน้า เครื่องเรือนไม้อะซาเซียปรากฏขึ้นทันใด แม้จะได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะที่หลายร้อยปีจะมีสักคน แต่เจ้าชายเซราโฮเทปก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความคล่องแคล่วในการร่ายเวทของผู้พิชิตคัมภีร์แห่งธอธช่างน่าตื่นตา
เจ้าชายคนงามขยับย้ายร่างไปนั่งบนเก้าอี้อย่างหวาดระแวงเสียจนน่าขัน ผู้เป็นเจ้าของสุสานหัวเราะร่า
“หากข้าจะสังหารเจ้า ข้าคงทำไปตั้งแต่เจ้าก้าวเข้ามาในที่แห่งนี้แล้วคนงาม” เจ้าชายผู้สุขุมยังคงมีท่าทีนิ่งเฉยแล้วจับจ้องไปที่กระดานไม่วางตา แต่ผู้พิชิตคัมภีร์แห่งธอธกลับเอ่ยขัด
“ช้าก่อน เรายังมิได้วางเดิมพันเลย”
“อะไรอีกเล่า” เจ้าชายเซราโฮเทปขึ้นเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย
“หากเจ้าชนะ เจ้าได้คัมภีร์แห่งธอธไป แล้วหากข้าชนะเล่า ข้าจะได้อะไร” เจ้าชายเคเซอโรฟาร์ลอบยิ้มมุมปากเมื่อเห็นเจ้าชายคนงามเม้มเรียวปากแน่น ขมวดสองคิ้วอย่างชั่งใจ
“ท่านประสงค์สิ่งใด”
“แล้วเจ้ามีสิ่งใดมาแลกเล่า”
“ทุกสิ่งที่ท่านปรารถนา” คำกล่าวของผู้เยาว์กว่าทำเอาผู้พิชิตคัมภีร์แห่งธอธเผยรอยยิ้มมุมปากกว้างขึ้นไปอีก
“สิ่งที่เสนอมาช่างมุทะลุ หากข้าต้องการชีวิตเจ้าเล่า เจ้าจะยินยอมหรือไม่”
“ข้ายอมเสียชีพ ไม่ยอมเสียสัตย์” เพียงเท่านี้ก็แทนคำตอบได้แล้ว หากคำกล่าวนี้กลับทำให้เจ้าชายเคเซอโรฟาร์อดนึกถึงตนเองในกาลก่อนมิได้
…ทั้งเลือดร้อน มุทะลุ ลำพองตนไม่หวั่นเกรงต่ออำนาจใด ๆ จนพาตัวเองเข้าสู่หนทางแห่งความตาย
“เช่นนั้นข้าผู้นี้ขอสอนเจ้าว่าอย่าวู่วามเอ่ยวาจาสัตย์หากยังไม่...” ดวงเนตรคู่คมทอดมองออกไปไกล ทิ้งให้ผู้เยาว์กว่าสงสัยใคร่รู้
“เหมือนสิ่งใด”
“ลืมไปเสีย” องค์ชายคนงามยิ่งใคร่รู้กว่าเดิมเมื่อผู้ที่มีท่าทางไม่จริงจังมาตลอดกลับวางท่าทีจริงจังขึ้นมาเสียได้ “เช่นนั้นข้าจะเอ่ยถึงเดิมพันของข้าภายหลัง”
“เริ่มกันเถิด”
“ผู้ใดเริ่มก่อน”
“ย่อมต้องเป็นเจ้า” กระดานงาช้างสีขาวเงาวาววางอยู่บนโต๊ะรอการใช้งานอยู่แล้ว เจ้าชายเซราโฮเทปขบคิดอยู่ไม่นานก็ขยับย้ายหมากตัวแรก เจ้าชายอีกองค์เดินหมากของตนเองตามราวกับตริตรองไว้ล่วงหน้า
บรรยากาศเครียดเคร่งขึ้นทุกขณะ เวลาที่ใช้ในการตัดสินใจเดินหมากของสองฝ่ายก็เพิ่มขึ้นในทุกตาเดิน ผู้อาวุโสกว่าจึงเริ่มทำลายความเงียบขึ้นก่อน
“เมื่อครู่เจ้ากล่าวว่าเสด็จพ่อ เจ้าเป็นเจ้าชาย?”
“ไม่ผิด”
“เป็นหลานข้าหรือไม่” เจ้าชายเซราโฮเทปส่ายหน้าแทนคำตอบ เจ้าชายผู้มากอาวุโสกว่าทอดถอนใจอย่างใจหาย “ล่มสลายแล้วหรือ”
“ร้อยปีเห็นจะได้”
“เจ้าดูเหมือนเป็นองค์ชายที่มีความสำคัญ บิดาตามใจมากล่ะสิท่า” ใบหน้างามขั้นแถบสีแดงอีกครา นับว่านี่เป็นครั้งที่สองที่ผู้พิชิตคัมภีร์แห่งธอธคาดเดาได้ถูกต้อง
“ไม่มากปานนั้น”
“เหตุใดยังฝักใฝ่ในตำนานอยู่เล่า” ผู้เป็นเจ้าของสุสานแสร้งถามโดยมิหวังว่าจะได้รับคำตอบ ทว่าคนงามกลับเอ่ยตอบขึ้นมา
“เราทั้งสองเป็นเจ้าชาย เกิดมามีสถานะสูงส่งปานเทพเจ้า ทว่าถูกยกย่องสูงส่งเพียงใดท้ายที่สุดก็เป็นเพียงผู้คนเดินดินไม่ผิดแผกไปจากคนอื่น มีเกิด แก่ เจ็บ และตาย...” เจ้าชายเซราโฮเทปหยุดพูดกะทันหันเมื่อเห็นว่าวาจาของตนคงไปกระทบกับจิตใจอีกฝ่ายเข้า
“ข้าขอโทษ”
“ไม่เป็นไร มันนานจนข้าชินชาเสียแล้ว”
“เจ้าคิดดีแล้วจริง ๆ หรือเรื่องคัมภีร์แห่งธอธ อำนาจของเทพธอธไม่อาจดูเบาได้”
“เมื่อข้าอายุเท่าเจ้าข้าก็เป็นแบบเจ้านั่นล่ะ อาจจะมุทะลุกว่าเจ้าเสียด้วยซ้ำ...เลือดร้อน หยิ่งทะนง อยากลองวิชา...สุดท้ายก็ไปลบหลู่เทพธอธเข้า จึงจบลงด้วยความตาย”
“สามร้อยปีเชียวที่ข้าถูกจองจำ เกียรติยศศักดิ์ศรีที่เคยมีก็กลับกลายเป็นสิ่งไร้ค่า เครื่องใช้ทองคำเหล่านี้ล้วนไร้ความหมาย คัมภีร์ที่อุตส่าห์ช่วงชิงมาก็กลายเป็นพันธะผูกดวงวิญญาณ ข้าไม่อาจไปไหนได้ ได้แต่เฝ้ารอให้มีผู้บุกรุกเข้ามาเอง”
“เทพธอธจะไม่ปรานีผู้ใด...เจ้ารับผลของมันไหวหรือ” ดวงเนตรกลมโตฉายแววลังเลขึ้นวูบเล็ก ๆ แต่แล้วความแน่วแน่กลับฉายขึ้นแรงกล้ายิ่งกว่า แม้จะผ่านโลกมามากแต่ทว่าเจ้าชายเคเซอโรฟาร์ไม่อาจคาดเดาความคิดของคนงามได้เลย ลึก ๆ แล้วเจ้าชายผู้อ่อนวัยกว่าอาจกำลังสับสน หรืออาจยิ่งหลงใหลในความลี้ลับก็เป็นได้
ทันใดนั้นเมื่อเจ้าชายเซราโฮเทปเดินหมากผิดพลาด ไม่อาจเคลื่อนหมากข้ามช่องอุปสรรคบนตารางได้ ชั่ววูบนั้นเองที่รู้สึกได้ถึงพื้นศิลายุบยวบลงไป ข้อเท้าของเจ้าชายผู้อ่อนวัยกว่าค่อย ๆ จ่อมจมลงไปยังพื้นเบื้องล่าง เมื่อสายตาทอดมองลงไปจึงเห็นว่ามันเป็นเม็ดทราย ไม่ใช่พื้นศิลาดังในตอนแรก
ทรายดูด
เจ้าชายเคเซอโรฟาห์กล่าวขึ้นอย่างไม่ใส่ใจนัก “ระวัง หากเดินหมากพลาดไปจะโดนทรายดูดเอา”
ความคิดเห็น