คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : อารัมภบท
มีตำนานเล่าขานถึงคัมภีร์มหาเวทที่ทรงอำนาจเหนือสรรพสิ่งทั้งปวง
เทพธอธผู้เปี่ยมปัญญาเป็นผู้รจนามหาคัมภีร์นี้ขึ้นด้วยพระหัตถ์...
คัมภีร์แห่งธอธ
ว่ากันว่าเมื่อบริกรรมมนต์บทแรก ผู้ร่ายจะล่วงรู้ภาษาของสิงสาราสัตว์ และเมื่อร่ายมนตร์บทต่อมา ผู้ร่ายจะสามารถขานไขความลับของผืนฟ้าและท้องนที
แล้วถ้าหากได้อ่านจนจบเล่า...ผู้ครอบครองจะมีอานุภาพมากเพียงใด
ด้วยอิทธิฤทธิ์ของคัมภีร์มหาเวทยั่วเย้าให้เป็นที่ปรารถนาของเหล่ามนุษย์ที่มีกิเลสไม่สิ้นสุด เทพธอธเล็งเห็นว่าหากคัมภีร์แห่งธอธถูกครอบครองโดยทรราช ผืนแผ่นดินไอยคุปต์ที่เหล่าเทพเจ้าช่วยกันฟูมฟักอุ้มชูมาอาจถึงคราวล่มสลาย จึงต้องซ่อนคัมภีร์วิเศษไว้ห่างไกลมนุษย์ที่จับจ้องจะมาช่วงชิง
จากบันทึกเก่าแก่ที่สืบทอดมาจากมหาวิหารแห่งเคเมนู สถานที่บวงสรวงอันอุทิศแด่เทพธอธ คัมภีร์แห่งธอธถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัยแน่นหนาที่สุด ณ ใจกลางแม่น้ำไนล์
จากชายฝั่งเกบตู ให้หันหน้าสู่บูรพาทิศ จะมองเห็นกระแสน้ำวนเชี่ยวกราก
ที่ใจกลางมหานที ลึกลงไปใต้กระแสน้ำปั่นป่วน ท่ามกลางฝูงจระเข้และฮิปโปว่ายวน มีหีบโลหะอยู่ใบหนึ่ง
ในหีบโลหะมีหีบสัมฤทธิ์
ในหีบสัมฤทธิ์มีหีบไม้คีตี
ในหีบไม้คีตีมีหีบงาช้าง
ในหีบงาช้างมีหีบเงิน
ในหีบเงินใบนั้นมีหีบทองคำ
และในหีบทองคำคือคัมภีร์แห่งธอธ
ในหีบแต่ละใบมีทั้งกลไกกับดักและพิษร้าย รายล้อมหีบโลหะคืออสรพิษร้ายและแมงป่อง บูโต...อหิเทพงูเห่าที่ไม่มีใครอาจสังหารได้ชูคอแผ่แม่เบี้ยอยู่เหนือหีบ ทั้งหมดถูกอัญเชิญมาเพื่อพิทักษ์คัมภีร์อันล้ำค่าเล่มนี้
ผู้กล้าทั้งหลายเดินทางมาหวังจะพิชิตคัมภีร์แห่งธอธ ครอบครองอำนาจค้ำฟ้าดุจเทพเจ้า หากแต่ทุกคนกลับต้องทิ้งชีวิตไว้ที่เกบตูทั้งสิ้น...ไม่อาจเอื้อมถึงคัมภีร์อันทรงอำนาจเหนือคัมภีร์ใด
ยกเว้นคนผู้หนึ่ง...
บุตรแห่งอามุนผู้ฉกาจกล้าเหนือใคร เจ้าชายเคเซอโรฟาห์
หากจะกล่าวถึงชาติกำเนิดของเจ้าชายเคเซอโรฟาห์ เป็นพระโอรสในฟาโรห์อาเมนโฮเทปและองค์ราชินี อันที่จริงถูกวางตัวในตำแหน่งว่าที่มกุฎราชกุมารเสียด้วย ทั้งยังเป็นนักรบที่แกร่งกล้า เป็นนักปราชญ์ นักเวทที่เชี่ยวชาญสามารถ เหนือสิ่งอื่นใดคือเป็นผู้รอบรู้อักขระโบราณอย่างแตกฉาน
เมื่อทรงล่วงรู้ว่าคัมภีร์แห่งธอธถูกเก็บรักษาไว้ที่ใด ด้วยจิตใจหาญกล้าดุจราชสีห์จึงมิลังเลเลยที่จะดั้นด้นค้นหา กระทั่งในที่สุดก็ฝ่าเข้าไปถึงใจกลางเกบตู และร่ายพเวทพิชิตราชันอสรพิษด้วยกลอุบายอันปราดเปรื่อง
ทันทีที่คัมภีร์แห่งธอธถูกนำออกจากที่ซ่อนผืนฟ้าลั่นสนั่น ผืนดินสะท้านสะเทือน ปักษีเทพธอธ...จอมปราชญ์แห่งสรรพวิชาทั้งปวงพิโรธโกรธาที่มีผู้บังอาจมาขโมยคัมภีร์ของพระองค์ไป เจ้าชายคีเซโรฟาห์ต้องจ่ายค่าตอบแทนสูงลิบลิ่ว
ชดใช้ด้วยชีวิตของโอรสน้อย ชายา...และชีวิตของพระองค์เอง
วันที่เสด็จกลับนครธิบีส พระราชบุตรถูกอำนาจของเทพธอธดึงจมหายไปกับสายน้ำ แม้เจ้าชายเคเซอโรฟาห์จะสามารถใช้พระเวทดึงร่างขึ้นมาได้...แต่ก็ไม่อาจคืนชีวิต ไม่นานพระชายาของพระองค์ก็สิ้นใจด้วยสาเหตุเดียวกัน เจ้าชายเคเซอโรฟาห์ทำพิธีศพให้บุตรชายและชายาไว้บนฝั่งเมืองเล็กๆ และล่องเรือเสด็จกลับนครหลวง
เมื่อยามเสด็จออกเดินทาง เสด็จออกไปอย่างผยอง ทว่าเมื่อเรือทองแล่นกลับมา กลับเหลือเพียงร่างไร้วิญญาณ
เมื่อองค์ฟาโรห์อาเมนโฮเทปพระบิดาได้สดับเรื่องราวทั้งหมด ก็ทรงจัดการฝังพระศพของพระโอรสเคเซอโรฟาห์พร้อมด้วยคัมภีร์แห่งธอธไว้ที่สุสานอย่างสมเกียรติ
เจ้าชายจึงเป็นมนุษย์คนแรกที่ถูกจารึกว่าได้ครอบครองคัมภีร์ของเทพเจ้า แม้นบั้นปลายของพระองค์จะไม่งดงามนักก็ตาม
กาลเวลาเวียนไปหลายร้อยปี เชื้อพงศ์แห่งอาเมนโฮเทปค่อย ๆ ตายจาก นามเคเซอโรฟาห์จางหายไปตามกาลสมัย ขั้วอำนาจแปรผัน จากมหาอำมาตย์ที่อยู่เหนือคนนับหมื่นกลับกลายเป็นชายชาตินักรบที่นั่งบนบัลลังก์
นครหลวงถูกโยกย้าย จากธิบีสแห่งอียิปต์บน กลายเป็นไพ-ราเมเสสแห่งอียิปต์ล่าง มหานครที่เกิดจากสามเหลี่ยมดินตะกอนน้ำพาอันอุดมสมบูรณ์
ศาสตร์แห่งเวทมนตร์ค่อย ๆ เลือนหาย นักเวทถูกลดทอนศักดิ์ศรี ถูกดูแคลนว่าเป็นเพียงวิทยากลลวงหลอก
ตำนานอันยิ่งใหญ่ของคัมภีร์แห่งธอธถูกลืมเลือน
สามร้อยปีต่อมา ณ ไพ-ราเมเสส
เทียนไขในห้องใกล้สิ้นแสงลงแล้ว มองนอกกรอบหน้าต่างเห็นดวงจันทร์สุกสว่างเพียงเสี้ยวเดียว ดวงดาวแข่งกันเฉิดฉันแสง หากเห็นทีว่าสามเหลี่ยมฤดูร้อนจะทอแสงระยิบระยับที่สุดตามฤดูกาล
ในโสตประสาทได้ยินเสียงลมทะเลทรายพัดหวีดหวิวอยู่ไกลๆ สายลมระลอกเล็กพัดพาม่านมุกพลิ้วไหว เรือนร่างสะโอดสะองของบุรุษผู้หนึ่งทอดเอนอยู่บนเก้าอี้ไม้ซีดาร์ อากัปกิริยางามสง่าแต่ผยองยโส มาตรว่ามีฐานะศักดิ์สูงส่งยิ่ง ดวงเนตรคู่งามเฉียบคมถูกทาด้วยผงโคห์ลกำลังเพ่งแผนที่ดวงดาวในมือ ดูราวกับว่าเป็นร่างจำแลงของเทพเจ้าสักองค์อย่างไรอย่างนั้น
หญิงงามในอาภรณ์ลินินเดินนวยนาดเข้ามาหาชายหนุ่ม ในมือประคองไหเบียร์รสอ่อนที่ถูกหมักอย่างพิถีพิถัน
เจ้าชายเซราโฮเทปขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่พอใจนักที่มีผู้มารบกวนแต่ก็มิได้ตำหนิชายาของตน ไอซิสวางไหลงตรงหน้าผู้เป็นสามี มือบรรจงเทเบียร์ลงจอกใบเล็ก ตาก็พิศใบหน้างามเฉิดฉันราวแกะขึ้นจากศิลาอะลาบาสเทอร์ ที่ครั้งหนึ่งอาลักษณ์อาวุโสแต่งกลอนถวายเยินยอโฉมอันงามยิ่ง
สองเนตรดุจดังช่างเขียนวาด พิศพักตร์พิลาสเพียงบุหลัน
โฉมงามราวฮาเธอร์ปั้น ยามแย้มโอษฐ์พลันทิวาจรัสแสง
“ดึกมากแล้ว ไยไม่มาบรรทมเพคะ” ไอซิสเอ่ยอย่างห่วงใย เซราโฮเทปเพียงแย้มยิ้มบาง เชื้อเชิญให้นางนั่ง
“เรายังมีคัมภีร์ต้องศึกษาอีกมาก เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถิด” เมื่อสวามีเอ่ยเป็นเชิงไล่กลายๆ นางจึงเอ่ยราตรีสวัสดิ์แล้วกลับไปยังห้องนอน
หลังจากพระชายาคนงามออกจากห้องอักษรไปเจ้าชายเซราโฮเทปก็วางแผนที่ปาปิรัสลง มือเรียวเสลายกขึ้นบีบคลึงขมับแล้วถอนหายใจแผ่วเบาคำรบหนึ่ง
"อยู่ที่ใดกัน สุสานแห่งเคเซอโรฟาห์"
เจ้าชายเซราโฮเทปเป็นโอรสในฟาโรห์ราเมเสสผู้ยิ่งใหญ่และองค์ราชินีไอเซตมิเร ทรงพระปรีชาทั้งศาสตร์และศิลป์ เปี่ยมด้วยคุณสมบัติของกษัตริย์ทั้งปวง เป็นศิษย์เอกของนักบวชผู้ที่เชี่ยวชาญศาสตร์แห่งเวทมนตร์ที่สุดในยุคสมัย ทั้งยังรอบรู้อักษรโบราณ และอย่างแน่นอนที่สุด...
เป็นอีกหนึ่งหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์ที่ปรารถนาอย่างแรงกล้าจะครอบครองคัมภีร์แห่งธอธ
เทพธอธ
(ภาษาอียิปต์โบราณ ผู้มีลักษณะเป็นนกกุลาศักดิ์สิทธิ์) เทพแห่งปัญญา การเขียน และเวทมนตร์ มีลักษณะเป็นชายมีศีรษะเป็นนกกุลาศักดิ์สิทธิ์หรือลิงบาบูน เป็นสวามีของเทวีมาอัต (เทพีแห่งความยุติธรรม ทำหน้าที่พิพากษาดวงวิญญาณ) ตำนานกำเนิดเทพธอธมีสองลักษณะ คือแบบแรกเทพธอธถือกำเนิดขึ้นเอง และสอง เทพธอธเป็นบุตรของสุริยะเทพรากับเทวีเนฟธิส เทพธอธเป็นเทพเจ้าผู้คุ้มครองเมืองเคเมนู (เฮอร์โมโพลิสในภาษากรีก) หรืออัล-อัชมูนินในปัจจุบัน
สามเหลี่ยมฤดูร้อน
แนวเส้นสมมุติบนท้องฟ้าซีกโลกเหนือที่ดูคล้ายรูปสามเหลี่ยม เชื่อมต่อระหว่างดาวสามดวง คือ ดาวดวงตานกอินทรี ดาวเดเน็บ และดาวเวกา ซึ่งอยู่ในกลุ่มดาวนกอินทรี กลุ่มดาวหงส์ และกลุ่มดาวพิณ ตามลำดับ
ตลอดช่วงเดือนในฤดูร้อนในซีกโลกเหนือ ดาวสามดวงนี้จะอยู่บริเวณเหนือศีรษะพอดีในเวลาใกล้เที่ยงคืน ส่วนในฤดูใบไม้ผลิจะสามารถเห็นได้บ้างในเวลาเช้าตรู่ ในฤดูใบไม้ร่วงจะทันเห็นในตอนเย็นจนกระทั่งถึงเดือนพฤศจิกายน
ผงโคห์ล (Kohl)
ผงทาขอบตาสีดำเพื่อป้องกันแมลงและความร้อน รวมถึงเชื่อว่าสามารถช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้าย มีส่วนผสมของสินแร่และรงควัตถุสีดำหลายชนิด เช่น กาลีนา (PbS) สติปไนต์ (Sb2S3) เขม่าดำ หรือสนิมเหล็ก
(ภาพล่างคือภาชนะใส่ผงโคห์ลสำหรับทาขอบตาจากสมัยราชวงศ์ที่ 18 แห่งอียิปต์โบราณ)
ความคิดเห็น