ตอนที่ 9 : Chapter 9
Chapter 9
ในช่วงเวลาสำคัญฮิววิตต์ก็กระโจนขึ้นมากลางอากาศและขี่หัวการ์เดี้ยนเซิร์ก การ์เดี้ยนที่กำลังเกรี้ยวกราดโจมตีเขาด้วยก้ามแหลมคมที่มีลักษณะคล้ายปู แต่มันถูกลู่เหิงหยุดเอาไว้จึงไม่สามารถแตะต้องฮิววิตต์ได้
นอกเหนือจากราชินีแล้วพวกเซิร์กที่เหลือไม่ได้มีสติปัญญาสูงนัก ยกเว้นว่าจะถูกควบคุมโดยพลังจิตของราชินี พวกมันใช้สัญชาตญาณในการทำสิ่งต่างๆ แต่เพราะการร่วมมือระหว่างลู่เหิงและฮิววิตต์ ทำให้มันไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากการส่ายหัวอย่างบ้าคลั่ง การดิ้นรนของมันเปล่าประโยชน์ ขาที่แข็งแกร่งราวเหล็กกล้าของฮิววิตต์ล็อกหัวของการ์เดี้ยนเซิร์กอย่างแน่นหนา ข้อมือของเขาส่ายไปมาก่อนจะแทงกริชเข้าไปในส่วนที่เชื่อมระหว่างเสาอากาศและหน้าผากของมัน หลังจากการฟันอีกครั้งเสาอากาศของการ์เดี้ยนเซิร์กก็หลุดออกมาจากโคน
ในเวลาเดียวกันฮิววิตต์ก็ถอนเสาอากาศอีกข้างออกมา การ์เดี้ยนเซิร์กที่สูญเสียอวัยวะในการรับความรู้สึกก็เป็นเพียงแมลงวันหัวขาด มันเริ่มพุ่งชนไปรอบๆ และผลที่ได้คือกริชที่ฮิววิตต์แทงเข้าไปถูกตอกเข้าไปซ้ำๆ จนฝังลึกไปถึงสมอง
ร่างใหญ่โตของการ์เดี้ยนเซิร์กล้มลง ถึงแม้ว่าแขนขาของมันจะยังกระตุก แต่มันก็ไม่ได้คุกคามพวกเขาอีกแล้ว
“นายไม่รู้สึกปลาบปลื้มเลย?” ฮิววิตต์กระโดดลงมาและเก๊กท่า
ลู่เหิงต่อต้านความรู้สึกอยากจะกลอกตา แล้วก้มลงจับเข่าตัวเองหายใจหอบ เขาไม่ได้หยุดพักและเปิดใช้พลังจิตของตัวเอง ในการใช้พลังจิตลู่เหิงถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงทำให้สามารถตรวจจับสถานการณ์โดยรอบได้โดยไม่ไปดึงดูดความสนใจของราชินี ใกล้ๆ นี้ไม่มีการ์เดี้ยนเซิร์กอีกตัว ดูเหมือนว่าจะมีแค่ตัวก่อนหน้าที่มาพบพวกเขาโดยบังเอิญเท่านั้น โชคดีที่ลู่เหิงปลดเกราะป้องกันทางจิตได้ทันก่อนที่การ์เดี้ยนเซิร์กจะส่งข้อมูลไปยังราชินี ดังนั้นนี่จึงไม่ได้ดึงดูดพวกเซิร์กให้มาทางนี้มากขึ้น
ฮิววิตต์ก้าวเข้ามาจับมือลู่เหิงแล้วฉีดสเปรย์สมานแผลลงไป “ถึงแม้ว่าความสามารถในการฟื้นฟูระดับ 3S จะสูงมาก นายก็ควรดูแลแผลนะ”
“พวกเราจะหาที่ซ่อนของราชินีให้เร็วที่สุด ก่อนที่ราชินีจะเจอเรา” ลู่เหิงขมวดคิ้ว รู้สึกเหมือนทุกอย่างเป็นอุปสรรคเล็กน้อย
“ผ่อนคลายน่า มาพักกันหน่อยเถอะ” ฮิววิตต์ล้มตัวลงนอนราบไปกับพื้น แล้วเอามือวางหลังศีรษะ “หรือจะกินเซิร์กดี นายยังจำตอนพวกเราเรียนจบได้ไหม ระหว่างการฝึกน่ะ เนื้อเซิร์กย่างบนดาว TRX นั่นคาดไม่ถึงจริงๆ”
ในการฝึกสำหรับจบการศึกษาปีนั้น ไรเนอร์และฮิววิตต์ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยสู้รบ เวลานั้นพวกเขาดูเหมือนจะโดนเทพีแห่งโชคลาภทอดทิ้ง ทำให้ความโชคร้ายมาอยู่แทน อย่างแรกคือพวกเขาติดอยู่บนดาว TRX เกือบหนึ่งเดือนเพราะพายุแม่เหล็กไฟฟ้าที่ไม่ค่อยจะมีบ่อยนัก จากนั้นพวกเขาก็เกือบหิวตายหลังจากที่พวกเขาจัดการห่อสารอาหารทั้งหมดไปแล้ว
หลังจากนั้นไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย ทั้งคู่พบเซิร์กกลุ่มเล็กโดยบังเอิญและใช้กลยุทธ์แบบกองโจรในการจัดการพวกมัน ศพของพวกเซิร์กกลายเป็นอาหารสำหรับไรเนอร์และฮิววิตต์ในตอนนั้น
อย่างไรก็ตามความโชคร้ายยังไม่จบเท่านั้น เมื่อพวกเขาพร้อมที่จะกลับบ้าน พวกเขากลับเจอกับเซิร์กระดับสูงที่มีความสามารถแปลกๆ เข้าพอดี มันสามารถเลียนแบบความผันผวนทางจิตของมนุษย์และส่งสัญญาณความทุกข์ออกมา ชายหนุ่มทั้งสองคนที่ติดกับสัญญาณถูกจับได้เกือบจะเอาชีวิตไม่รอดในการต่อสู้ครั้งนั้น
แต่ในสถานการณ์อันตรายนั้น ก็มีการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่รออยู่เช่นกัน การนำเซิร์กกลายพันธุ์ตัวนั้นกลับไปด้วยทำให้สถาบันศึกษาของจักรวรรดิสามารถพัฒนาวิธีการวิจัยความผันผวนทางจิตวิญญาณได้ เครื่องมือที่พัฒนาบนพื้นฐานนั้นสามารถเลียนแบบความผันผวนทางจิตวิญญาณของเซิร์กตัวหนึ่งเพื่อดึงดูดตัวอื่นๆ
ทั้งสองมองหน้ากันแล้วคิดหาวิธีตามหาราชินี
“นานาน้อย มองด้วยจิตของนายสิ เรื่องนั้นนายเก่งกว่าฉัน” ฮิววิตต์ยืนขึ้นและตั้งท่าป้องกันตรงหน้าลู่เหิง
ลู่เหิงหลับตาลง ตาข่ายสีทองปรากฏในอาณาเขตการรับรู้ของเขา นั่นคือเครือข่ายจิตวิญญาณของราชินี ลู่เหิงค่อยๆ บังคับกิ่งก้านเพื่อเลียนแบบความผันผวนทางจิตวิญญาณของการ์เดี้ยนเซิร์กตัวนั้นและข้ามตาข่ายนั้นด้วยความระมัดระวัง ไม่นานหลังจากนั้นเครือข่ายจิตวิญญาณของราชินีก็ยอมรับกิ่งก้านจิตวิญญาณของลู่เหิง พอไล่ตามข้อความจากเครือข่ายจิตวิญญาณเขาก็พบที่อยู่ของราชินีอย่างรวดเร็ว
“เจอแล้ว ราชินีอยู่ทางเหนือสุดของดาวนี้ ถ้าเราเดินทางด้วยความเร็วเต็มที่ พวกเราจะไปถึงที่นั่นในเวลาประมาณสามวัน” ลู่เหิงกล่าว
“จิ๊ ใช้หุ่นจักรกลไม่ได้นี่ลำบากพอตัวเลย” ฮิววิตต์เกาหัวด้วยความรู้สึกเคืองๆ
ทั้งสองเตรียมพร้อมและตัดสินใจที่จะไปที่ซ่อนของราชินีเพื่อตรวจสอบ นี่เป็นครั้งแรกที่มนุษย์สามารถเข้าใกล้ราชินีเซิร์กได้มากขนาดนี้ หลังจากเดินทางสามวันโดยไม่หยุดพัก ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงใกล้ๆ กับที่ซ่อนของราชินี
ฮิววิตต์และลู่เหิงเดินผ่านป่าทึบและทันใดนั้นพวกเขาก็มาโผล่ในพื้นที่กว้าง ตรงหน้าพวกเขาทั้งคู่เป็นหน้าผา เมื่อก้มลงไปมองความลึกพวกเขาก็ต้องตกตะลึงกับภาพเบื้องหน้า ใต้หน้าผาเป็นแอ่งที่ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงตระหง่าน ไหมสีขาวหนาๆ ยื่นออกมาจากหน้าผาทั้งสี่ด้านจนถึงตรงกลาง และใจกลางของสถานที่มีรังไหมสีขาวขนาดใหญ่แขวนอยู่
“นั่นคือที่ซ่อนของราชินีงั้นเหรอ?” ฮิววิตต์ตกตะลึงด้วยภาพอันน่าทึ่งนี้ไปพักใหญ่
คำตอบก็ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะว่ามีหนอนสีทองเข้าออกจากรังไหมสีขาวเป็นครั้งคราว
ลู่เหิงกวาดตามองสถานที่สถานที่ครั้งหนึ่งด้วยพลังจิต เขาเปิดใช้งานไลท์เบรนและเริ่มบันทึกข้อมูลที่แสนมีค่าเหล่านี้
ในตอนที่ข้อมูลวิเคราะห์สำเร็จ ฮิววิตต์ก็นำหุ่นจักรกลออกมาจากปุ่มสเปซทันที และลู่เหิงก็เข้าไปในห้องนักบินกับเขา ถึงแม้ว่าหุ่นจักรกลของฮิววิตต์จะเป็นกลไลแบบขับคนเดียว แต่มันก็มีโหมดปฏิบัติการสองโหมดและเมื่อคนสองคนร่วมมือกันผลลัพธ์ของพลังจะสูงขึ้น แน่นอนว่าหลักฐานคือมันต้องใช้ความสามัคคีมากเช่นเดียวกับความสัมพันธ์ระหว่างฮิววิตต์และลู่เหิง
มันนานมากแล้วตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองคนควบคุมหุ่นร่วมกัน แต่ลู่เหิงและฮิววิตต์ก็ยังทำได้สมบูรณ์แบบราวกับคนคนเดียวกัน ก่อนที่เครือข่ายทางจิตวิญญาณของราชินีจะจับทางพวกเขาได้และออกคำสั่งให้ตามล่า พวกเขาคงหนีออกจากชั้นบรรยากาศของดาวดวงนี้และถอยกลับไปที่รูหนอนเรียบร้อยแล้ว
ในตอนที่ลู่เหิงกำลังจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาก็เห็นหุ่นจักรกลของหน่วยสายลมและสายฟ้าบนหน้าจอเรดาร์พุ่งชนเข้าหาดาวเคราะห์
“หุ่น ZR-177? เกิดอะไรขึ้น?” ลู่เหิงจำไม่ได้ว่าหุ่นตัวนี้เป็นของใคร
“นั่นคาร์โล เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” ฮิววิตต์ดูน่าเกรงขามและเตรียมตัวหันกลับไปอีกครั้ง
“ใช่”
เมื่อกลับไปที่ดาวเซิร์ก ฮิววิตต์และลู่เหิงก็เจอหุ่น ZR-177 ที่ถูกทำลายไปครั้งหนึ่งทางทิศใต้ของปลายแม่น้ำ โชคดีที่ห้องคนขับยังไม่เสียหาย คนด้านในจึงไม่น่าจะบาดเจ็บมาก เมื่อเขาเปิดห้องคนขับ เขาก็พบคาร์โลที่หน้าซีดและหมดสติอยู่
“พลังจิตของเขาผิดปกติมาก” ลู่เหิงดึงเส้นด้ายพลังจิตของเขาเข้าไปในสมองคาร์โล ก่อนจะขมวดคิ้วและกล่าวออกมา “ความผิดปกติระดับนี้เป็นไปได้ว่าเขา... ใช้สารหมายเลข 1”
สารหมายเลข 1 เป็นยาประเภทหนึ่งที่ทหารทุกคนมีติดตัว หลังจากรับมันเข้าไป คนคนนั้นจะสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองได้ และทำให้คนที่มีร่างกายระดับ A หรือมากกว่านั้นเพิ่มขึ้นเป็น 3S ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่อย่างไรก็ตามยาชนิดนี้จะถูกใช้แค่ในสถานการณ์ที่คับขันจริงๆ เท่านั้น เพราะมีโอกาสมากกว่า 99% ที่จะทำให้จิตวิญญาณพังทลายหลังจากใช้เพียงครั้งเดียว
ลู่เหิงครุ่นคิด ไม่น่าแปลกใจที่ในโลกดั้งเดิมคาร์โลสามารถผ่านรูหนอนด้วยตัวคนเดียวเพื่อมาตามหาฮิววิตต์ได้ สารหมายเลข 1 ไม่ได้ทำลายพลังจิตของเขา มีแค่บุตรแห่งโชคชะตาจริงๆ ที่ได้สิทธิพิเศษอย่างนี้
“โชคดีที่แหล่งพลังงานจิตยังไม่ถูกทำลาย หลังจากกลับไปที่ยานหลัก ให้ด็อกเตอร์ไอรีนตรวจร่างกายเขาอย่างละเอียดอีกที หลังจากฝึกอีกเล็กน้อยเขาก็ไม่น่าจะเป็นอะไรแล้ว”
ฮิววิตต์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ถ้าพลังจิตพังทลาย มันจะไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ แน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นคาร์โลเป็นลูกของคนที่ช่วยชีวิตเขา ถ้าเกิดอะไรขึ้นเขาคงต้องจมอยู่กับความรู้สึกผิดไปตลอดแน่ๆ ฮิววิตต์เอาตู้สำหรับรักษาออกมา เอาคาร์โลใส่ลงไปในนั้นแล้วแช่แข็ง จากนั้นก็รอจนกลับไปถึงยานค่อยทำการรักษาต่อ
“ทำไมคาร์โลถึงมาอยู่ที่นี่?” สีหน้าของฮิววิตต์ดูแปลกไปเล็กน้อย
“นายไม่ได้เป็นคนบอกเขาหรือไง?” ลู่เหิงชายตามอง มีแค่พวกเขาที่รู้เกี่ยวกับการตรวจสอบรูหนอน เพราะอย่างนั้นคนเดียวที่สามารถบอกคาร์โลได้ก็มีแค่ฮิววิตต์
“สองสามวันก่อนคาร์โลบอกว่าเขาอยากให้ฉันให้คำแนะนำสักหน่อยในการฝึก ฉันเลยตอบว่าฉันต้องเตรียมตัวไปทำงานเลยปฏิเสธเขาไป” ฮิววิตต์มองหน้าลู่เหิงด้วยความรู้สึกผิด “ตอนนั้นฉันไม่ได้คิดว่าภารกิจนี้เป็นความลับอะไรและพูดไปเล่นๆ ฉันไม่คิดว่าเขาจะตามมา”
แน่นอนว่ามันเป็นอย่างนั้นในสายตาคุณ ลู่เหิงก็คิดแบบนั้น สีหน้าของลู่เหิงซับซ้อน ตามบทคาร์โลต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อตามหาฮิววิตต์ ไม่ใช่ว่าเขาทำใกล้เคียงกับบทเลยหรือไง หลังจากนั้นเหตุการณ์นี้ก็เป็นฉากโหมโรงเรื่องราวความรักระหว่างทั้งสองคน แล้วไอ้การไม่เข้าใจอะไรสักอย่างตอนนี้ของฮิววิตต์คืออะไร?
[ผู้ช่วยตัวน้อย ความสัมพันธ์ระหว่างบุตรแห่งโชคชะตาไม่มีทางสั่นคลอนแน่ๆ ใช่ไหม?] ลู่เหิงคอนเฟิร์มอีกครั้ง
[โปรดมั่นใจได้เลย ผลลัพธ์การค้นหาในฐานข้อมูลใหญ่ของผมแสดงให้เห็นว่าจำนวนเคสในกรณีนี้เป็นศูนย์ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เชื่อผม แต่คุณก็ต้องเชื่อในความเป็นมืออาชีพของแผนกจับคู่]
[ฉันกลัวว่าคะแนนฉันจะถูกหัก ถ้าฉันได้คะแนนติดลบในงานแรก ฉันจะถูกส่งไปทริปทัวร์นรกชั้นที่สิบแปดหนึ่งวันเชียวนะ!] ตอนลู่เหิงเข้ารับการฝึกอบรม เขาได้ไปชมชั้นที่ 18 ครั้งหนึ่งซึ่งมันได้ทิ้งรอยแผลเป็นถาวรไว้ในหัวใจเขา
บางทีฮิววิตต์อาจจะเป็นพวกความรู้สึกช้า ลู่เหิงลดการ์ดของเขาลงและทำท่าจะพูดบางอย่าง แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นท่าทางเยือกเย็นของฮิววิตต์ ไม่จำเป็นต้องพูดทั้งคู่ก็เข้าใจกันได้เป็นอย่างดี ลู่เหิงเอากริชออกมาและหันหลังกลับ หลังจากนั้นทั้งสองก็ร่วมมือกันฆ่าพวกเซิร์กที่ลอบเข้ามาโจมตี ลู่เหิงรู้สึกได้ถึงการ์เดี้ยนเซิร์กหลายตัวที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
ฮิววิตต์ตะโกนเรียกหุ่นจักรกล “ดูเหมือนว่าราชินีจะเจอพวกเราแล้ว”
เมื่อถูกราชินีพบแล้ว พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องระวังตัวอีก หุ่นจักรกลสามารถกำจัดการ์เดี้ยนเซิร์กพวกนี้ได้เร็วและง่ายกว่า
เมื่อลู่เหิงเห็นมัน เขาก็เรียกหุ่นจักรกลของตัวเองออกมาและเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ที่หนักหน่วง
--------------------------------------------------------------
บทนี้เวอร์ชั่นอิ้งใช้กูเกิลทรานเยอะมาก เราแปลเรายังงงๆ เลยอ่ะ ไม่เข้าใจตรงไหนบอกได้นะคะ
ตอนแปลท่อนฮิววิตต์ชวนน้องกินเนื้อเซิร์ก เพลงนี่เล่นขึ้นมาได้ตรงจังหวะมาก strawberries and cigarettes always taste like you... คือมันไม่ได้ป่ะแกรรรร เซิร์กหน้าตาเหมือนแมลงมันจะรสชาติเหมือนสตอเบอรี่กับบุหรี่ไม่ได้555555
--------------------------------------------------------------
คำศัพท์ 乁༼☯‿☯✿༽ㄏ
Leap = กระโดด, กระโจน
Avail = ใช้ประโยชน์
Limb = แขนขาหรือปีก
Ecstasy = ความปิติยินดี
Gasp = อ้าปากค้าง, พูดกระหืดกระหอบ
Resilience = ความยืดหยุ่น, ความสามารถในการฟื้นฟู
Guerilla = การรบแบบกองโจร
Traverse = สิ่งที่ขวาง, เดินข้าม
Discernible = มองออก, สังเกตเห็น
Prelude = การกระทำเบื้องต้น, ฉากโหมโรง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

6283ประสาทจะกินกับคนในโลกนี้ไม่ไหว
โทษคุณผู้ช่วยตัวน้อยได้มั้ย โทษฐานที่ทำให้ความมั่นใจน้องพุ่งเกินขนาด 😆
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 18 พฤษภาคม 2563 / 20:38
ตรรกกะความคิดการตัดสินใจทัศนคติค่อนข้างแย่
ดูเป็นคนดีที่ไม่เป็นที่ต้องการการหาประโยชน์ไม่ได้
เหมือนคนเขียนคงเกลียดนิสัยนายเอก
ที่มีความคิดแบบนี้แต่สามารถรอดได้ทุกสถานการณ์อันตราย
ทำไมยิ่งอ่านยิ่งเกลียดคาร์โล อีพระเอกก็พอๆๆกัน
ฉลาดสุดคือลู่เหิง ผัวมากกลูกก
ยอมใจคาร์โล ตัวปัญหาสมฟอร์มนางเอกยอดนิยม ทำแบบนี้คือฝ่าฝืนกฏทหารมาก ยอมใจกว่าคือผบ. ที่อวยและให้ท้ายคนที่ไม่ฟังกฏอะไรทั้งนั้น จนพร้อมพาทีมไปตายได้แบบนี้ สงสารไรเนอร์คนก่อนละเกิ๊นนนนน