[นิยายแปล BL] วิธีตายอย่างยิ่งใหญ่เยี่ยงเขาไท่ซาน How To Die As Heavy As Mount Tai 如何死得重于泰山

ตอนที่ 40 : Chapter 39.2

ลูกค้าคนที่สามแต่งตัวแปลกๆ เขาสวมเสื้อคอปกปักลายเมฆแบบมัวเร แต่กลับสวมกางเกงยีนส์บนร่างกายส่วนล่าง อีกทั้งยังมีดาบไม้กว้างสี่นิ้วบนแผ่นหลัง มันให้ความรู้สึกไม่เข้ากันแปลกๆ

เมื่อคนคนนั้นเห็นท่าทางแปลกๆ ของลู่เหิง เขาก็ยิ้มด้วยความเขินอาย “ชุดนี้มันแปลกๆ ใช่ไหม? มันเพราะกางกางยีนส์ขยับตัวได้สะดวกมากกว่าน่ะ”

ลูกค้ามีชื่อว่าอวิ๋นหลาน โลกที่เขาอยู่มีลักษณะคล้ายโลกที่ลู่เหิงเคยอยู่มาก่อน ในเวลานั้นหลังจากที่เกิดเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ขึ้น ทิศทางความเป็นไปของโลกก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

มันเป็นวันสิ้นโลก การปรากฏตัวของซอมบี้ทำให้ทุกอย่างบนโลกยุ่งเหยิง ทว่าในมุมมองของอวิ๋นหลานพวกมันไม่ควรถูกเรียกว่าซอมบี้ แต่ควรจะถูกเรียกว่าปีศาจเสียมากกว่า สำหรับอวิ๋นหลานที่มาจากสำนักที่ซ่อนเร้นทราบดีว่าสาเหตุของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วโลกนั้นไม่ใช่ไวรัสอย่างที่คนทั่วโลกลือกัน แต่เป็นเพราะการรั่วไหลของพลังปีศาจต่างหาก

นี่คือความแตกต่างอย่างใหญ่หลวงระหว่างมิตินี้กับโลกของลู่เหิง มิตินี้เชื่อมต่อกับมิติที่มีระดับสูงกว่าอีกสองมิติ หนึ่งคือโลกแห่งการฝึกตน อีกหนึ่งคือโลกปีศาจ เมื่อนานมาแล้วพลังวิญญาณจากโลกแห่งการฝึกตนได้เข้ามาสู่โลกนี้ผ่านทางเชื่อมมิติ ดังนั้นบางคนในโลกที่มีรากฐานพลังวิญญาณจึงถูกกระตุ้นจนสามารถเข้าสู่การฝึกตนได้และสามารถขึ้นไปบนโลกแห่งการฝึกตนที่แท้จริงได้ ต่อมาทางเชื่อมมิติค่อยๆ พังทลาย พลังวิญญาณของโลกนี้จึงน้อยลงเรื่อยๆ และพวกคนที่มีพลังสูงหน่อยก็หนีออกจากโลกนี้ไปอยู่อีกโลกหนึ่ง

ก่อนตัวตนที่แข็งแกร่งคนสุดท้ายจะจากไป เขาได้ผนึกทางเชื่อมระหว่างโลกกับโลกปีศาจเอาไว้ นั่นเป็นเพราะเมื่อไม่มีการจำกัดพลังวิญญาณ พลังปีศาจจากโลกปีศาจที่ทะลักออกมาจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อมนุษย์ธรรมดาบนโลก

สำนักที่ซ่อนเร้นของอวิ๋นหลานประกอบด้วยลูกหลานของนักบวชที่มีพลังฝึกตนไม่เพียงพอที่จะออกจากโลก พวกเขาเรียกตนเองว่าคุรุเทพ บรรพบุรุษของพวกเขาได้ฝึกฝนพวกเขาเพื่อทำหน้าที่ของคุรุเทพที่ต้องคอยรักษาผนึกระหว่างโลกและโลกปีศาจ ล่าปีศาจที่หลุดออกมาจากผนึกเป็นบางครั้งบางคราวและฝึกฝนตนเอง

สำนักซ่อนเร้นได้รับการปกป้องจากค่ายกลที่ถูกทิ้งไว้โดยตัวตนที่แข็งแกร่งในสมัยโบราณ ดังนั้นมันจึงไม่เคยถูกผู้ใดค้นพบ ตัวตนที่แข็งแกร่งได้นำแหล่งกำเนิดพลังวิญญาณมาจากโลกแห่งการฝึกตนเพื่อจะรักษาการทำงานของค่ายกลเอาไว้ อีกทั้งยังจัดหาสิ่งจำเป็นสำหรับการฝึกตนไว้ให้เหล่าคุรุเทพอีกด้วย

การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันเกิดขึ้นในตอนนั้นเอง หนึ่งในเส้นทางสำคัญที่เก็บรักษาผนึกถูกนักสำรวจพบโดยไม่ตั้งใจ ตามมาด้วยการขุดเจาะครั้งใหญ่และนักโบราณคดี ก่อนที่คุรุเทพจะได้ซ่อมค่ายกลนี้ ค่ายกลอีกที่ก็ถูกทำลายลงโดยไม่ได้ตั้งใจ

ภายใต้ความบังเอิญนับไม่ถ้วน ผนึกได้ถูกทำลายทำให้พลังปีศาจรั่วไหลออกมา สิ่งมีชีวิตส่วนมากทั่วโลกติดเชื้อจากพลังปีศาจและกลายเป็นซอมบี้เหมือนในหนัง ผู้รอดชีวิตที่เหลืออยู่บางคนสามารถกระตุ้นรากพลังวิญญาณในเลือดและปลดล็อคความสามารถได้สำเร็จ

คุรุเทพในสำนักที่ซ่อนเร้นเริ่มวิ่งวุ่นต่อสู้กับเหล่าปีศาจและสัตว์ประหลาดไปทั่ว ขณะเดียวกันก็ตามหาวิธีซ่อมผนึกไปด้วย แต่เมื่อใกล้ประสบความสำเร็จมันกลับไม่เป็นไปตามที่คาด แหล่งกำเนิดพลังวิญญาณถูกขโมยทำให้การป้องกันของสำนักหายไป

ดินแดนแห่งนี้ซึ่งได้รับการชะล้างด้วยพลังวิญญาณซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาเป็นเวลาหลายพันปีได้ถูกเปิดเผยต่อพวกปีศาจ พวกมันเกลียดพลังวิญญาณราวกับว่ามันเป็นศัตรูทางธรรมชาติ แม้ว่าคุรุเทพจะเก่งกาจเพียงใด แต่พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้ได้ และในที่สุดทั้งสำนักก็ถูกกำจัดอย่างน่าสังเวช

อวิ๋นหลานเป็นศิษย์ที่มีพรสวรรค์และมีพลังสูงที่สุดในสำนัก อาจารย์และพี่น้องของเขารวบรวมพลังเสี้ยวสุดท้ายเพื่อส่งเขาออกมาจากวงล้อม และมอบหมายภารกิจหนึ่งเดียวให้เขาคือการตามหาแหล่งกำเนิดพลังวิญญาณและซ่อมผนึก

อวิ๋นหลานเป็นศิษย์ที่อายุน้อยที่สุดในสำนัก ถึงแม้ว่าเขาจะมีพรสวรรค์และพลังที่สูงส่ง แต่เขาไม่เคยออกจากสำนักมาก่อน ความคิดของเขาจึงเรียบง่ายและไม่สนใจโลกภายนอก ทว่าจู่ๆ เขาก็ต้องเข้าสู่วันสิ้นโลกเพียงลำพัง หลังจากถูกหลอกลวงมาหลายต่อหลายครั้ง เขาก็ไม่กล้าเชื่อใครอีก และออกเดินทางในวันสิ้นโลกเพียงลำพังดั่งหมาป่าเดียวดาย

ต่อมาภายหลังอวิ๋นหลานได้พบที่อยู่ของแหล่งกำเนิดพลังวิญญาณในฐานทัพความมั่นคงของมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุด อวิ๋นหลานต้องการเจรจากับพวกระดับสูงของฐานเพื่อนำแหล่งกำเนิดพลังวิญญาณกลับไปให้คนของเขา แต่เขากลับไม่สามารถเข้าไปได้

ด้วยความสิ้นคิดเขาเลือกที่จะแทรกซึมเข้าไปในฐานทัพและพยายามจะเอาแหล่งกำเนิดพลังวิญญาณออกมา แต่ตอนนั้นเองเขาก็ถูกพบเข้า อวิ๋นหลานไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ในการนำแหล่งกำเนิดพลังวิญญาณออกไป ถึงแม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งมากพอ แต่เขาก็ไม่สามารถต้านทานคนที่มีพลังพิเศษในฐานจำนวนมากได้ ในที่สุดเขาก็ถูกปิดล้อมแล้วพลังของเขาก็หมดและตายอย่างน่าอนาถ

“ความปรารถนาของฉันคือการตามหาแหล่งกำเนิดพลังวิญญาณ ซ่อมผนึก และไม่ทำให้ภารกิจที่อาจารย์มอบหมายให้ล้มเหลว” อวิ๋นหลานพูด

“ภารกิจของคุณได้ถูกมอบหมายให้ผม ผู้ปฏิบัติภารกิจหมายเลข 666 ของแผนกชำระล้างวิญญาณ ลู่เหิงยินดีให้บริการ”

ระดับพนักงานของลู่เหิงพุ่งขึ้นเป็น B หลังจากได้รับ S+ ในการประเมินสองครั้ง ดังนั้นเขาจึงได้สิทธิ์ต่างๆ ที่ไม่เคยมีมากขึ้น หลังจากอวิ๋นหลานออกไป ลู่เหิงก็ขอให้ผู้ช่วยตัวน้อยเข้าไปตรวจสอบในฐานข้อมูลระดับ B และคัดแยกจุดสำคัญๆ ของโลกนี้

“เสี่ยวลู่ ผมเจอเรื่องใหญ่ โลกนี้เป็นโลกที่แตกแขนงออกมา!”  ผู้ช่วยตัวน้อยอุทานออกมาทันที

“โลกที่แตกแขนงออกมา?”

“ตอนที่ผมกำลังเปรียบเทียบฐานข้อมูล ผมพบว่าโลกนี้มีโลกพื้นฐานอยู่ด้วย ความเป็นไปสุดท้ายของโลกดั้งเดิมคือสำนักของอวิ๋นหลานซ่อมผนึกได้สำเร็จ และทำให้วิธีการฝึกตนกลายเป็นที่นิยมซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของกฎแห่งฟ้าดิน โลกจึงสร้างพลังวิญญาณของตัวเองขึ้นมาและในที่สุดก็ยกระดับเป็นโลกแห่งการฝึกตนขั้นสูง สำนักของอวิ๋นหลานประสบความสำเร็จในการเป็นสำนักชั้นสูงและตัวอวิ๋นหลานเองก็เป็นหัวหน้าของสำนัก อวิ๋นหลานคนนี้น่าจะเป็นบุตรแห่งโชคชะตา!” ยิ่งผู้ช่วยตัวน้อยอ่านข้อมูลมากเท่าไรก็ยิ่งรู้สึกกลัวมากเท่านั้น

“แล้วความเป็นไปของโลกที่แตกออกมาบิดเบือนเป็นแบบนั้นได้ยังไง? อะไรคือจุดเปลี่ยนการกลับมาเกิดใหม่หรือการเข้ามาสิงร่าง?” เมื่อเกิดความเป็นไปที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงในโลก สาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดคือการกลับมาเกิดใหม่หรือไม่ก็การเข้ามาสิงร่าง ซึ่งจะเปลี่ยนเหตุการณ์สำคัญบางอย่างก่อนเวลา แต่ไม่คาดว่าเขาจะได้เจอภารกิจพิเศษแบบนี้รวดเร็วขนาดนี้

“การกลับมาเกิดใหม่” ผู้ช่วยตัวน้อยดึงข้อมูลบางส่วนออกมา “เจียงซือเล่อ ในโลกพื้นฐานเขาถูกคนรักและชู้รักของอีกฝ่ายฆ่าตายจากนั้นก็กลับมาเกิดใหม่ หลังจากจุดนี้โลกที่แตกแยกออกมาก็โผล่ขึ้นมา”

ดูเหมือนว่าจุดสำคัญของภารกิจนี้จะอยู่ที่คนคนนี้

---------------------------------------------------------------------

ลายมัวเร (moiré)

---------------------------------------------------------------------

คำศัพท์

Perplex = ทำให้งุนงง, ทำให้ยุ่งยากยิ่งขึ้น

Flabbergasted = แปลกใจและตกใจอย่างมาก

Frantically = ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้, กระวนกระวาย

Nondescript = อึมครึม, จัดเข้าพวกไม่ได้

Excavation = กระบวนการขุดค้นหาวัตถุโบราณ

Fall short = ไม่เป็นไปตามที่คาด

Perishing = ตายอนาถ