ตอนที่ 13 : น้องหมวยบทที่ 12
ไม่น่า
ไม่น่าเลย
สอบผ่านว่ายากแล้ว
ผ่านมีนนี่ชิบหายกว่า....
มันเลยทำให้ผมตกระกำลำบากเยี่ยงนี้แหละ
หลังจากการเสนอเงื่อนไข พี่ไทม์ก็แทบจะยัดทุกอย่างใส่หัวผม ข้อสอบเก่ามีเท่าไหร่นี่แทบจะต้มให้ผมกินเลยทีเดียว หลังจากนั้นอย่าหวังว่าจะได้นอน ติวกันเข้าไป ผิดข้อนึงแม่งให้ผมกลับไปทำใหม่อีกละ แปะเนื้อหากระทั่งในห้องน้ำ กะว่านั่งขี้ก็ต้องอ่านอะ
พี่ครับคือมันต้องเคี่ยวกันขนาดนี้ไหมมมม
พี่ว่างหรอวะ
พี่มันติวโหดจนผมเสียใจที่ยื่นเงื่อนไขผ่านมีนกับเขาตั้งแต่แรก
รู้งี้ผมยอมเอฟอะ แลกกับการได้นอน อะไรก็ยอม
“นอนเหอะพี่ สี่ทุ่มแล้ว พรุ่งนี้สอบบ่ายก็จริง แต่นอนเหอะนะๆๆๆๆๆ”
“มาทำอันนี้อีกรอบ เรายังไม่ค่อยแม่นบทนี้เลย”
“โห น้องทำมาสามรอบละน้าาาาา น้องขอนอน” พูดจาเพราะๆพร้อมหน้าตาแบบมารยาร้อยแปด เห็นใจผมเถอะ เมื่อวานก็นอนตีห้า ผมถูกลากมานอนที่ห้องพี่ไทม์ทุกคืน แทบจะมาตั้งรกรากที่นี่อยู่แล้ว พี่แกอัดแทบทุกวิชาจนจะผมกระอักตาย โดยเฉพาะไอ้วิชาเจ้ากรรมที่อยู่ในเงื่อนไข ยัดจนมันซึมเข้ากระแสเลือดผมอะคิดดู และนี่คือวันสอบวันสุดท้าย ไอ้วิชาห่านี่ ก็สอบวันนี้ พี่มันเลยเคี่ยวผมจนเปลื่อย กะว่ายังไงก็ต้องผ่านอะ
“มาทำอันนี้ก่อน จะยอมให้นอน สัญญา ช่วงนี้นอนไม่ค่อยหลับไม่ใช่หรอครับ ทำไมวันนี้ง่วงเร็วจัง”
“นอนเช้ามาหลายวันแล้ว”
“วันสุดท้ายแล้ว ไม่อยากผ่านมีนหรอ”
“.......”
“ไม่อยากเป็นแฟนพี่หรอครับ” อย่ามาทำอ้อนได้ไหม อย่าเอาตาหมีแพนด้าของพี่มาอ้อนผมสิ คือผมต้องรู้สึกผิดใช่ไหมเนี่ยยยยยย
“ไม่ใช่ แต่ผมอยากให้พี่พักผ่อนไง พึ่งสอบเสร็จไม่ใช่หรอ นอนดึกมาหลายวัน พักเนอะๆๆๆ เป็นหมีแพนด้าละเนี่ย ยอมให้กอดเลย นอนนะๆๆ” ยอมหมดแล้วปล่อยผมไปเถอะครับ ใช่ครับพี่มันสอบเสร็จก่อนผม หึ ใจเย็นไว้ เย็นไว้ ผมพยายามที่จะไม่โวยวายอยู่
“ไม่ได้ ไม่ต้องมาใช้มุกอ้อนเลย อีกนิดเดียว แปปเดียวก็เสร็จ มาเร็วอย่างอแง ปกติเห็นเล่นเกมจนเช้าได้ นี่พี่งสี่ทุ่มเอง มานี่เลย”
พี่ไทม์ดึงผมกึ่งๆจะลากมากกว่า ให้ผมกลับไปทำข้อสอบ แต่แค่เห็นผมก็ไม่อยากจะทนละอะ อัดอั้นมาหลายวันมาก จะนอนก็นอนไม่ได้เพราะเดี๋ยวอ่านไม่ทัน เอาจริงๆคือถ้าไม่ได้พี่ไทม์มันไม่บังคับ ผมก็คงอ่านไม่ทันจริงๆนั่นแหละ แต่ตอนนี้ผมอยากนอน ผมพึ่งได้นอนแค่สองชั่วโมงเอง ชีวิตมหาลัย สอบบ่ายก็อ่านยันเช้า
“ไม่!” ผมโมโหแล้ว ผมจะไม่ทน
“น้องหมวย” พี่ไทม์ทำเสียงเข้มขึ้นเหมือนจะดุผม แต่ก็ดูไม่จริงจัง
“ไม่ ไม่ ไม่ ผมไม่ทำ ผมจะนอน น้องจะนอน อิณจะนอน ไม่ทำแล้ว จะนอนจะนอนจะนอน ถ้าไม่ได้เป็นแฟนก็แต่งงานกันไปเลย ช่างมีนมันแล้ว จะเอฟจะเอก็ช่างมัน จะนอนนน”
ผมว่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่ดูจากหน้าพี่ไทม์แล้วคงมองผมเหมือนเด็กงอแงมากกว่า พี่ไทม์ดูชะงักไปตอนแรกที่ผมเสียงดัง แต่ก็ทำท่ากลั้นขำตอนที่ผมพูดจบ ฮึ่ย นี่โมโหอยู่นะ
ผมมองตาขวางด้วยความโมโห ไม่รอให้อีกฝ่ายพูด ผมลุกขึ้นไปหาเตียงนอนก่อนจะคลุมโปง ปิดการรับรู้ทุกอย่าง พี่ไทม์จะว่ายังไงผมก็ไม่สนแล้ว ผมโมโห ผมง่วง ผมจะนอน
ร่างสูงพยายามกลั้นขำ เด็กน้อยงอนตุบป่องไปแล้ว เอาเถอะ เคี่ยวเข็ญกันมาหลายวันแล้ว ถึงจะยังไม่ค่อยแม่นก็เถอะ แต่เจ้าตัวเขาพึ่งพูดเองว่าถ้าไม่ผ่านมีนก็ให้ข้ามขั้นแฟนไปได้เลย
เด็กน้อยเอ้ย
จะทำให้หลงกันไปถึงไหน
ไทม์เก็บข้าวของของเด็กงอแงก่อนจะปิดไฟ แล้วเดินตามเด็กน้อยไป พอเห็นไอ้การนอนคลุมโปงหนีเขาก็นึกเอ็นดูไปกันใหญ่ ตอนอ้อนก็ว่าน่ารักจนแทบจะใจอ่อน แต่ตอนงอแงนี่น่ารักกว่า แก้มพองเชียว ร่างสูงตามขึ้นไปบนเตียง เสียงหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่าก้อนกลมๆของเขาหลับสนิทไปแล้ว ผ่านไปแค่แปปเดียวเอง
สงสัยจะง่วงจริงจัง
เขายิ้มเอ็นดูก่อนจะค่อยเปิดผ้าห่มออก เดี๋ยวก็หายใจไม่ออกกันพอดี น้องนอนเช้ามาหลายวัน ไม่ใช่แค่เพราะอ่านไม่ทันแต่เจ้าตัวนอนไม่ค่อยหลับต่างหาก แถมยังกินน้อยลง จนเริ่มผอม ตัวก็แค่นี้ เขาต้องย้ำบ่อยๆให้กินข้าวให้หมด หานู่นนี่มาให้กิน เวลาอยู่กับเขาก็กินเยอะอยู่หรอก แต่ก่อเกียรติสายสืบจำเป็นก็ยังรายงานว่าน้องหมวยกินน้อยอยู่ดี
มือหนาลูบผมนิ่มไปมา เรื่องครอบครัวคงยังกระทบอยู่ไม่น้อยสินะ ถึงไม่ได้ร้องไห้ ยังยิ้มสดใส แต่เจ้าตัวก็คงยังเครียดอยู่เหมือนกันแต่อย่างน้อยวันนี้เด็กน้อยของเขาก็หลับสนิท ไม่ขมวดคิ้ว ไม่ตื่นมากลางดึกเหมือนทุกทีแล้ว
คนตัวโตแย่งผ้าห่มจากคนตัวเล็ก ก่อนจะสอดตัวไปในผ้าห่มผืนเดียวกัน หอมแก้มนุ่มนิ่มของน้องพร้อมดึงเจ้าตัวมากอด
“ฝันดีครับ”
“ไอ้ไทม์ เลี้ยงครับ แดกให้มันจนเลยครับน้องงงง”
“พี่ไทม์โคตรป๋าาาาา”
“เชี่ยปุน กูไม่ได้เลี้ยง ปากดีละมึง”
“อ่อ เขาเก็บตังไว้ขอน้องปีหนึ่งบางคนน่ะครับ”
อั๊ก!
พี่ปุนโดนเฮดช็อตไปหนึ่งที ตอนนี้สาขาปรัชญาของเรากำลังถล่มร้านหมูกระทะหลังมอ แต่ส่วนใหญ่ก็มีแต่ปีหนึ่ง ปีสองนิดหน่อย กับปีสาม ปีสี่ยังสอบไม่เสร็จ เขารีเควสว่าค่อยจัดเต็มตอนบายเนียร์ทีเดียว
“แต่มีน้องปีหนึ่งบางคนบอกพี่ว่าถ้าไม่ผ่านมีนจะมาขอพี่แต่งงาน” พี่ไทม์ที่บังคับให้ผมนั่งข้าง กระซิบใส่หูผมพร้อมติดสินบนด้วยหมูย่างหนึ่งชิ้น และกุ้งแกะแล้วสามตัว
“งี้ถ้าผมได้เท่ามีน สถานะเราก็เท่าเดิมถูกปะ” ผมคีบหมูใส่ปากพร้อมสบตาอย่างไม่ยอมแพ้ ถึงจะเริ่มใจเต้นแรงเพราะพี่มันอยู่ใกล้เกินไปก็เถอะ
คนเยอะนะเว้ย อย่าเบียดได้ไหม
“เป็นศรีธนญชัยหรอเรา ไม่มีตังมาขอพี่เดี๋ยวพี่ให้ยืมก็ได้”
“พี่ให้ผมชนะบ้างไม่ได้รึไง อย่าเบียดได้ไหม คนเยอะแยะไม่อายเขารึไง” ผมโวยวายเงียบๆ นี่ผมดุอยู่นะ แต่พี่ไทม์มันก็ยังยิ้มอยู่นั่นแหละ ไม่ได้เชื่อฟังผมเลยสักนิด ขยับมาใกล้กว่าเดิมอีก
“ปุนๆ”
“ว่าไงวะแชมป์”
“กูว่าน้ำจิ้มแม่งแปลกๆวะ”
“ทำไมวะ”
“ตอนแรกก็เปรี้ยวนะเว้ย ตอนนี้หวานเฉยยยย”
“ฮิ้ววววว”
“ฮิ้ววววววววววว”
“ฮิ้ววววววววววววววววว”
ผมแทบจะมุดดินหนี ไม่ใช่แค่กลุ่มพี่ไทม์ แต่ปีสามแทบทั้งหมดเลยที่มันแซวผม ฮือ เขารู้เรื่องกันหมดแล้วหรอ รู้กันได้ยังงายยยยยยย
“อุ๊ย!”
“วินเป็นไรวะ”
“ไอ้ไทม์เลือดออก” ทำหน้าตกใจมากด้วยนะ
“ไหนวะๆๆ อ๋อออออออออออ”
“ทำไมวะ”
“ความรักมันบาดใจ เลือดไหลเป็นสีชมพูเลย”
“พ่าม!!!!”
เกลียดดดดดด เข้ากันดีอะไรปานนั้น ผมไม่กล้าเงยหน้ามองใครเลย ถ้าใครถามว่าทำไมแก้มแดง ก็บอกเขาไปว่าอยู่ใกล้เตามันร้อน เลิกแซวเถอะครับ ผมอยากกินหมูต่อแล้ว
“เลิกแซวเพื่อนผมเถอะครับ” ดีมากก่อเกียรติ ถูกแล้วที่มึงปกป้องกู เพื่อนรัก
“.....”
“มันสุกไปทั้งตัวแล้วครับ เดี๋ยวพี่ไทม์เขาจะนึกว่าเป็นหมู จับกินก่อนจะบรรลุนิติภาวะ ฮ่าๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“โอ้ยๆๆอย่าหยิกกูไอ้หมวย กูเจ็บ” เพื่อนชั่ว ไม่ทีมกูแล้วยังกล้าแซวกูอีกหรอออ
“ไอ้ก่อเกียรติ ห้ามเรียกแบบนั้น คนเยอะแยะ”
“เห้ย โทษทีวะหมวย”
“ไอ้ก่อ”
“พี่ๆอย่าเรียกมันว่าหมวยนะครับ”
“หยุดนะมึง ไอ้ก่อ”
“พี่จะไม่เรียก น้องหมวย”
“พี่ อย่าเรียกแบบนั้น”
“โอเค ได้เลยน้องหมวย”
“ผมไม่คุยด้วยแล้ว!”
ฮึ่ยยยยยย โมโห ทำไมวันนี้ผมเถียงใครไม่ชนะเลย พี่ไทม์ก็ไม่คิดจะช่วยจะแก้ตัวสักคำ นั่งยิ้ม ย่างหมูอย่างมีความสุข แล้วคือย่างให้ผม ส่วนตัวเองนั่งกระดกเหล้า เขากินกันทั้งโต๊ะ มีผมที่ถูกห้ามอยู่คนเดียว พี่แกบอกคนเยอะ ไม่อยากให้กิน อันนี้ผมไม่เคืองอย่างน้อยเขาก็ย่างหมูให้ผม แต่คือไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเบียดผมด้วย
“พี่ไทม์อย่าเบียด ที่ตั้งกว้างเนี่ย”
“แก้มแดงหมดแล้ว น้องหมวย” ไม่ได้สนใจคำพูดกู แล้วยังย้ำด้วยการเรียกน้องหมวยอีก คือผมเป็นผู้ชายไหมอะ มาเรียกน้องหมวยๆมันไม่เท่ เรียกกันแค่ชนหมู่น้อยยังโอเค แต่นี่เรียกกันจะทั้งสาขาแล้ว ผมอยากจะวาร์ปหายไปให้รู้แล้วรู้รอด
“ทำไมวันนี้มีแต่คนแกล้งผมเนี่ย แกะกุ้งแล้ว ก็อย่าหยิกแก้มผมสิครับ”
“ฮ่าๆๆ” หัวเราะใส่ผมอีก โมโหนะ แต่ใครจะไปโกรธลง พี่ไทม์ไม่ได้หัวเราะแบบนี้บ่อยๆซะหน่อย แต่ก็ไม่แปลกนี่เหล้าแก้วที่สามแล้ว คงเก๊กไม่ไหวแล้ว ผมมองพี่ไทม์อยู่นาน พยายามจดจำเสียงหัวเราะเอาไว้ เพราะมันทำให้โลกผมสดใสมากเลย
“พี่ก็กินบ้างสิ ย่างให้ผมอยู่นั่นแหละ”
“มือไม่ว่างเลย” ขี้อ้อนนะครับเดี๋ยวนี้
“ทำไมคุณเวลาขี้อ้อนจังครับ” ผมพึมพำเบาๆพร้อมคีบหมูจุ่มน้ำจิ้ม
“เรียกพี่ว่าอะไรนะครับ”
“ไม่บอกหรอก กินเข้าไป”
พี่ไทม์อ้าปากรับ ไม่ได้เซ้าซี้ถามต่อ แต่ท่าทางยิ้มแป้นแล้นนี่มันน่าหมั่นไส้เหลือเกิน เขามองกันทั้งโต๊ะแล้วโว้ยยยยยย เลิกยิ้มแบบนั้นซะที
“อุ๊ย มดกัด”
“อุ๊ย ทำไมหมูเป็นสีชมพูละเนี่ย”
“เลิกแซวน้องได้แล้วพวกมึง” พี่ไทม์พูด แต่พวกพี่เขาก็ยังยิ้มล้อผมอยู่ดี ผมหนีก่อนดีกว่า
“ผม ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”
“ห้องน้ำมันไกล เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน”
“ผม 19 แล้วนะ พี่นั่งอยู่เนี่ยแหละ แกะกุ้งไปเลย เดี๋ยวมากิน”
ค่อยหายใจหายคอได้หน่อย อายนะแต่ก็มีความสุขดี เหมือนได้กระชิบมิตรกันในสาขาด้วย ผมกับก่อเกียรตินี่เหมือนพวกไม่ค่อยมีคนคบเลย ประชากรในสาขามันน้อยครับ แต่ละคนก็โลกส่วนตัวสูงกันทั้งนั้น
ผมทำธุระเสร็จ ก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ได้ยินเสียงคนเอะอะอยู่หลังห้องน้ำไกลๆ คือร้านมันเป็นลานเปิด ห้องน้ำจะสร้างแยกออกมาอยู่ข้างๆลานหมูกระทะ ซึ่งมันก็ไกลอยู่ ไม่แปลกที่คนในร้านจะไม่ได้ยิน เสียงเอะอะดังจนผมแน่ใจว่าคนทะเลาะกันแน่ๆ แต่คนในห้องน้ำก็ไม่มีใครสนใจ พี่ที่ล้างมือข้างๆมองหน้าผมแล้วบอกว่า
“งี้แหละน้อง ปกติ อย่าไปยุ่งเลย พวกนี้มันชอบหาเรื่องกัน”
“แต่ว่า....” พี่เขาเดินจากไปเฉยเลย
ทำยังไงดี
ผมควรจะเดินหนีไปแล้วค่อยเรียกให้คนมาช่วยดีไหม
“แน่จริงมึงอย่าหมาหมู่ดิวะ เพื่อนกูไม่เอามึงไว้แน่”
เพล้ง!
“โอ้ย!”
เสียงคนพูดมันคุ้นหูผมมาก และยิ่งตามมาด้วยเสียงขวดแตกมันก็ทำให้ผมต้องรีบวิ่งออกจากห้องน้ำไปดู ขออย่าให้เป็นคนที่ผมคิดเลย
แต่ดูเหมือนไม่มีใครสนใจคำขอของผม
“พีท!”
“พี่อิณหรอ”
ผมอึ้งและตกใจ พีทกำลังนอนอยู่บนพื้น ผู้ชายหน้าเกรี้ยวกราดสามคนยืนอยู่ มีคนนึงถือปากขวดที่แตกอยู่ สภาพพีทเรียกว่าไม่น่าจะยืนไหว ปากแตก หน้าช้ำ เลือดไหลท่วมตัว
“ใจเย็นๆนะครับ นี่น้องผม มีอะไรค่อยๆคุยกันนะครับ”
“คุยกันเหี้ยไร น้องมึงมันกวนตีนพวกกู ถ้ามึงไม่อยากเจ็บตัวก็ถอยไป อย่าเสือก!” ใจดีให้โอกาสกูถอยด้วย แต่นี่น้องกูไหม ถอยไปมึงก็แทงมันตายสิวะ
“แต่นี่น้องผม ค่อยๆเคลียร์กันดีกว่านะครับ ไม่งั้นผมคงต้องแจ้งความ”
“อวดเก่งเหมือนน้องมึงเลยนะ”
ผมเดินไปดึงพีทขึ้นมา แล้วขวางหน้าเอาไว้ สามคนตัวโตเดินมาหาผม ดูจากสถานการณ์แล้ว สามคนนี้ไม่น่ายอมง่ายๆ ผมสู้ไม่ได้แน่นอน ผมหนีไม่ได้ด้วยเพราะพีทเจ็บอยู่ วิ่งไม่ไหวแน่ จะตะโกนผมก็ไม่รู้ว่าจะมีใครได้ยินไหม ถ้าคนในห้องน้ำได้ยินเขาจะมาช่วยรึเปล่า แล้วก็ไม่รู้ว่าระหว่างมันเดินมาแทงผมกับคนวิ่งมาช่วยอันไหนจะเกิดก่อนกัน แต่ผมว่าอย่างแรกวะ
“พี่หนีไปเหอะ พีทเคลียร์ได้ อย่ามายุ่งเลย”
“เคลียร์สภาพนี้หรอพีท ยืนให้ไหวก่อนเหอะ”
“บอกว่าอย่ามายุ่งไง” ทรงตัวก็ไม่ค่อยจะรอดอยู่แล้ว ยังจะทำเก่งอีก
“พวกคุณต้องการอะไรวะะ ซ้อมน้องผมขนาดนี้ยังไม่พออีกหรอ”
“กูจะเอามันให้ตาย หลบไปไอ้หน้าตี๋”
ผลั๊วะ!
“พี่อิณ!”
ผมถูกต่อยจนกระเด็นลงพื้น คอนกรีตขูดกับแขนผมจนเลือดซิบ สะบัดหัวอยู่สองสามที พีทถูกต่อยจนลงไปกองกับพื้นอีกแล้ว คนที่มีขวดแก้วกระชากคอพีทขึ้นมา
ชิบหายแล้ว
ผมรีบยันตัวลุกขึ้น วิ่งเข้าใส่พร้อมถีบยอดอกจนมันเซถอยหลัง รู้สึกเท่อยู่แปปนึง ความซวยก็มาเยือนอย่างต่อเนื่อง
กูลืมไปมันมีสามคน......
สองคนที่เหลือรุมผมไม่ยั้งเลยครับ ผมลงไปกองกับพื้นตั้งแต่หมัดที่สอง สี่เท้ากระหน่ำผมจนกลายเป็นคนที่เสื้อไม่ได้รีด ยับไงครับ
ผมได้แต่เอามือป้องหน้าเอาไว้ เห็นพีทพยายามจะลุกขึ้นมาช่วยผม ไอ้ห่าเสียงเอะอะขนาดนี้ ไม่มีใครสนใจบ้างรึไงวะ มึงช่วยออกมาเสือกแล้วเรียกคนมาช่วยกูหน่อยเส้ ผมคิดว่ามีคนได้ยินแต่เขาไม่อยากมายุ่งมากกว่า
แล้วความซวยกว่าเดิมก็มาเยือนจริงๆเพราะไอ้คนที่โดนผมถีบมันคว้าปากขวด แล้วกระชากคอพีทขึ้นมา
“อย่า!!!!”
พี่ไทม์ มาช่วยน้องเร็ว
หึ ทุบไรท์เนี่ย5555 ชีวิตเจ้าหมวยชักจะอเมซิ่งเกินไปละ เพลาๆหน่อยจ้าไอ่หนู ทางนี้ใจจะวาย หนู ต้อง ปลอด ภัย!!!!!