คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : วันที่ 6
วันที่ 6
“อือ
” แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องลอดหน้าต่างมาที่เตียง ยาหยีพลิกตัวช้าๆ กางมือบิดขี้เกียจ
แปะ
รู้สึกเหมือนมือไปโดนอะไรบางอย่าง อุ่นๆ
“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงหนึ่งที่เธอคุ้นเคย เสียงของเจ้าภูตวิบัติจอมก้าวร้าวคนนั้น อยู่ข้างๆเธอ
“กรี๊ด!!! นายมาทำอะไรบนเตียงชั้นยะ ลงไปเดี๋ยวนี้!!!” เด็กสาวตะโกนเสียงดัง
“เธอนี่โวยวายจริงๆเลย ท่าทางจะต้องปิดปากซะหน่อยล่ะมั้ง” ว่าแล้วโยฮันก็รวบข้อมือทั้งสองข้างของเด็กสาวไว้ ใบหน้าคมๆนั้นเคลื่อนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
ใบหน้านั้นโน้มเข้ามาเรื่อยๆ
ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่!!!” เด็กสาวตะโกนลั่น ลืมตาโพลง รอบข้างยังมืดสนิท
ความฝันเหรอ!?!
“อือ” แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องลอดหน้าต่างมาที่เตียง ยาหยีพลิกตัวช้าๆ กางมือบิดขี้เกียจ แต่คราวนี้ไม่มีใครอยู่บนเตียงเธอแล้ว
“เราตื่นจริงๆแล้วใช่มั้ยเนี่ย” หยิกตัวเองเพื่อทดสอบ ใช้ได้
เจ็บจริง แต่ว่าแปลกจังปกติต้องได้ยินเสียงทักทายของเทวดาหนุ่มหรือไม่ก็ซาวิตี้แล้วนี่นา
เด็กสาวกวาดสายตาไปรอบห้อง ภาพยามะพีของเธอยังไร้ราคีไม่มีรอยปากกา ของในห้องตำแหน่งก็ปกติ แต่
“แจนเป็นอะไร” เด็กสาวลุกจากเตียงเดินไปยังร่างในชุดขาวที่นอนอยู่บนพื้น แจนนอนอยู่บนพื้นตรงปลายเตียงโดยมีซาวิตี้ยืนดูอยู่ข้างๆด้วยสีหน้าเป็นห่วง เทวดาหนุ่มท่าทางไม่ค่อยดีนัก หน้าแดงก่ำ หายใจขัดๆ
“เลว! แจนตายแล้ว” ซาวิตี้พูด
“ตายแล้วตัวร้อนจี๋เลย”
“ยาหยีเหรอครับ” ชายหนุ่มคราง
“ท่าทางนายจะเป็นหวัดน่ะแจน เพราะเมื่อวานนี้แน่ๆเลย” ตอนที่ชายหนุ่มเอาตัวทีเปียกชุ่มไปด้วยฝนบังแอร์ให้เธอบนรถเมล์เมื่อวานนี้
“ผมไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ เดี๋ยววันนี้เราก็ออกไปหากันต่อ”
“จะบ้าเหรอ วันนี้น่ะนายนอนพักเฉยๆเถอะ” ยาหยีประคองแจนให้ลุกขึ้นและพาไปที่เตียง
“แต่ว่า
” ชายหนุ่มแย้ง
“ไม่เป็นไรหรอก พักสักวัน ที่ที่จะไปหาวันนี้ เอาไว้ให้โยฮันเขาไปหาก็ได้
นายนอนพักไปก่อนเดี๋ยวเราไปเอาข้าวต้มกับยามาให้” เด็กสาวสั่งเป็นชุด ก่อนจะเดินออกไป แจนมองตามแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆด้วยความเหนื่อยอ่อน
“ทานข้าวต้มเสร็จแล้ว ก็กินยานี่นะ” เด็กสาวว่า เธอจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว เทวดาหนุ่มค่อยๆตักข้าวต้มเข้าปาก ซาวิตี้กระโดดโลดเต้นอยู่แถวๆนั้น ท่าทางมันคงอยากให้กำลังใจ
“มองอะไรเหรอครับ” ชายหนุ่มถาม เมื่อเห็นสายตาที่จับจ้องเขาไม่วางตาจากยาหยี
“เปล่า แค่คิดว่าเทวดาก็เป็นหวัดได้ด้วย”
“ก็มีบ้างครับ” ตอบก่อนจะตักข้าวต้มเข้าปากต่อไป “แต่ว่าไม่บ่อยนัก เพราะที่นั่นอากาศไม่แปรปรวน” เด็กสาวพยักหน้าเข้าใจ
“กินยาเสร็จแล้วก็นอนพักซะนะ พรุ่งนี้จะได้หาย”
“
”
“มองอะไรเหรอ”
“ยาหยีใจดีจังครับ” แจนมองยาหยีด้วยสายตาอ่อนโยน ทำเอาเด็กสาวหน้าแดง
“เราลงไปข้างล่างก่อนนะ อย่าลืมกินยาล่ะ” เด็กสาวทิ้งท้ายก่อนจะเดินลงไป
“เอาล่ะ” เด็กสาวดี๊ด๊า วันนี้จะได้พักผ่อนซะบ้าง จากที่ต้องออกนอกบ้านทุกวัน ทำอะไรดีนะ
เอาเป็นกินเค้กที่ซื้อมาเมื่อวานดีกว่า ปาเว โอ คาราเมล กินกับน้ำชาท่าจะดี
เด็กสาวตั้งน้ำ เตรียมชงชา หยิบกล่องกระดาษสีเขียวของร้านแอนทีคออกมาจากตู้เย็น เปิดออกดู
ปาเว โอ คาราเมล ของเธอหายไป!!!
“พี่ยี่ พี่ยี่กินเค้กของหยีไปรึเปล่า” ผู้ถูกเรียกตะโกนกลับ
“เปล่า”
“แล้วมันจะหายไปได้ยังไงล่ะ”
“จะไปรู้เหรอ” ตะโกนกลับมาอีกครั้ง
ใครกินเค้กของเธอไป ยาหยีพยายามครุ่นคิด แจนก็คงไม่ใช่ ซาวิตี้เหรอ หรือว่า
โยฮัน!!!
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เด็กสาวละสายตาจากหนังสือนิยายตรงหน้า จะหกโมงแล้วหรือเนี่ย แจนจะเปลี่ยนเป็นโยฮันหรือยังนะ
เธอเดินขึ้นไปข้างบนแจนก็ยังคงเป็นแจนอยู่
“เป็นไง ดีขึ้นบ้างรึเปล่า” เด็กสาวถาม
“ครับ นอนพักอีกสักคืน พรุ่งนี้ก็คงหายแล้วล่ะครับ” ชายหนุ่มว่า ทันใดนั้น กลุ่มควันสีม่วงก็เข้าปกคลุมร่างของเขา ก่อนจะเปล่งแสงและค่อยๆจางหายไป บุรุษในชุดดำปรากฏขึ้นตรงหน้าตามที่คาดไว้
“ไง
ไปหาวันนี้เป็นไงบ้างล่ะ” โยฮันทัก พยายามพูดโดยไม่สบตายาหยี
“วันนี้ไม่ได้ไปหา แจนไม่สบาย เป็นหวัดน่ะ” เด็กสาวตอบ
“งั้นเหรอ ถ้างั้นวันนี้ชั้นไปหาก่อนนะ”
“เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป!” จับข้อมือเอาไว้ก่อน
“มีอะไร”
“เราจะไปด้วย”
“หา! จะบ้าเหรอเธอ ตอนกลางคืนอย่างนี้น่ะนะ มันอันตรายนะ” ภูตวิบัติตอบ
“ไม่บ้าหรอก นายต้องไปหาที่ที่เราวางแผนไว้”
“บอกมาก็ได้ ไม่ต้องไปด้วยหรอก”
“นายจะไปรู้ได้ไงเล่า ยังไงเราก็จะไปด้วย!”
ท่าทางซาวิตี้จะอยากโชว์การทำงานของมันในตอนกลางคืน หรือว่ามันชอบเที่ยวกลางคืนก็ไม่รู้ มันถึงได้คึกขนาดนี้ โยฮันทำหน้าเซ็งๆขณะเดินไปที่ป้ายรถเมล์ ยัยนี่
เห็นตัวเล็กๆอย่างนี้ปีนหน้าต่างลงมาจากชั้นสองเชียวนะ
“เธอจะพาชั้นไปที่ไหนเนี่ย” ชายหนุ่มพูดขึ้นมาหลังจากที่ความเงียบเข้าปกคลุมเสียนาน
“ก็เป็นแถวตลาดน่ะ ที่นั่นออกจะโต้รุ่งหน่อยๆ แล้วก็มีผับแถวนั้นสองสามแห่ง” ความจริงถ้าไปหาในตอนเช้ามันก็เป็นแค่สถานที่เงียบๆธรรมดาเท่านั้น
“ว้าว เลวชอบ” ซาวิตี้ร้องขึ้นมา ท่าทางมันจะชอบเที่ยวตอนกลางคืนจริงๆนั่นแหละ
“เธอก็เลยอยากมางั้นสิ”
“เปล่าซะหน่อย! เอ้า แล้วนายจะหยุดเดินทำไมล่ะ” หันไปแหววใส่ชายหนุ่มที่อยู่ดีๆก็เกิดนิ่งขึ้นมาซะงั้น เธอจึงค่อยๆหันหน้าไปมองข้างหน้า ฝูงหมาหน้าเหี้ยมกำลังจ้องมาทางพวกเธอ
“กรร กรร
โฮ่ง!!!”
“วิ่ง!”
“แฮ่ก แฮ่ก มันไม่ตามมาแล้วใช่มั้ย แฮ่ก” ยาหยีพูดไปหอบไป หลังจากที่วิ่งหนีเจ้าสี่ขาหน้าเหี้ยม อย่างไม่คิดชีวิต
“ไม่ตามมาแล้ว โอย
เหนื่อยเป็นบ้าเลย” ชายหนุ่มตอบ “ขากลับจะทำไงดีเนี่ย” เขาว่า
“เอาไว้เดี๋ยวค่อยคิด แฮ่ก”
“เลว!!! หมาเลว” ซาวิตี้ร้องด่า มันก็บินหนีไม่คิดชีวิตเหมือนกัน
“นั่นรถมาแล้ว รีบขึ้นเถอะ”
“ที่นี่ชั้นเคยมา” โยฮันพูดขึ้นหลังจากลงจากรถเมล์ ซาวิตี้ตื่นเต้นจนอยู่ไม่สุข บินไปบินมาจนน่ารำคาญ
“ก่อนจะไปตามหา ขอถามอะไรหน่อย”
“อะไรอีกล่ะ นี่เธอ! อย่าทำให้เสียเวลาได้มั้ย” ชายหนุ่มหันมาหัวเสียใส่
“นายกินเค้กของชั้นไปใช่มั้ย” เงียบกริบ ไม่มีคำตอบจากปากของภูตวิบัติ โยฮันหลบสายตาไปทางอื่น
“ใช่มั้ย”
“ถ้าใช่แล้วจะทำไม”
“นายน่าจะขอเราดีๆนะ ทำอย่างนี้มันน่าเกลียด” เด็กสาวบ่น
“น่าจะขอกันดีๆนะ อย่างกับได้เจอเธอนานๆงั้นแหละ เมื่อวานไปย่านของกินไปกินเค้กเจ้าอร่อยกันมา ไอ้ชั้นก็นึกว่าจะซื้อมาฝาก ก็เลยซัดซะเกลี้ยง โธ่!ที่แท้ก็ไม่ได้ซื้อมาให้ แล้งน้ำใจ” ชายหนุ่มร่ายยาวเป็นชุด ยาหยีเพิ่งมาคิดได้ว่าเธอไม่ได้คิดถึงเขาเลย
“ขอโทษที ไม่ได้นึกถึงเลยแฮะ ว่าแต่ทำไมต้องกินชิ้นที่เรายังไม่ได้กินไปด้วยล่ะ” เด็กสาวว่าเลโมนี่เธอก็ชิมจากแจนแล้ว ปาเว โอ คาราเมลนี่สิที่ยังไม่ได้กินเลย กะจะเอามาลองแท้ๆ
“ชั้นจะไปรู้ได้ยังไงว่าเธอกินชิ้นไหนไปล่ะยัยบ้า! อีกอย่างชั้นน่ะ
”
“ชั้นน่ะ
”
“ชั้นน่ะอะไร” ยาหยีจ้องอย่างคาดคั้น
“ชั้นไม่กินผลไม้!”
“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ นายนี่แปลกจริงๆ กลัวหนอนแล้วก็ไม่กินผลไม้” จะว่าไปนอกจากชูครีมซึ่งซาวิตี้กินไปแล้วก็เหลือแต่ ปาเว โอ คาราเมลเนี่ยแหละที่ไม่เป็นผลไม้
“เรียกว่ากินไม่ได้จะดีกว่า เธอไม่ลองคิดบ้างเหรอ ว่าในผลไม้น่ะก็มีหนอนอยู่ ว่าแต่เธอหยุดขำได้มั้ย มันไม่ตลกเลยนะ”
“ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ เอ๊ะ!”
“เอ๊ะ อาไร” โยฮันมองเด็กสาวด้วยใบหน้าโกรธปนอาย
“ซาวิตี้หายไปไหนแล้วล่ะ”
“เลว!!! อยู่ทางนี้” มันโบกไม้โบกมือให้จากหน้าประตูเข้าผับแห่งหนึ่ง ก่อนจะบินเข้าไป
“เฮ้ย!!!”
โยฮันและยาหยียืนอยู่หน้าผับแห่งนั้นด้วยความเครียด
“ชั้นจะเข้าไปเอามันออกมานะ” โยฮันว่าทำท่าจะเดินเข้าไป
“แล้วนายจะปล่อยชั้นไว้ข้างนอกอย่างนี้เนี่ยนะ”
“ก็อยากตามมาทำไมล่ะ หรือว่าเธอจะเข้าไปด้วย” เด็กสาวส่ายหน้า เธอไม่อยากเข้าไปในสถานที่แบบนั้น อีกอย่างเธอยังอายุไม่ถึง ยามหน้าประตูคงไม่ให้เธอเข้าไปหรอก ชายหนุ่มมองเด็กสาวก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ ผู้หญิงนี่น่ารำคาญอย่างนี้ทุกคนรึเปล่านะ ถ้าเป็นอย่างนี้ เขาจะไม่มีแฟนเลย ให้ตายสิ! ถ้าปล่อยไว้ก็อันตราย เข้าไปก็อันตราย
“เธอหน้าแก่ยามเค้าไม่รู้หรอกว่าอายุเท่าไหร่ แต่ว่าส่วนสูงคงไม่ถึงมั้ง” ปากเสียๆของภูตวิบัติทำงานตามความเคยชิน
“ตาบ้า!!! นี่นายจะพูดจาดีๆหน่อยไม่ได้รึไง” เด็กสาวโกรธหน้าแดง
“เธอน่ะ กลับบ้านไปดีกว่า”
“เราไม่กลับ”
“ถ้างั้นก็เข้าไป มีทางเลือกให้สามทาง กลับ รอ หรือว่าเข้าไป”
เสียงเพลงในผับดังเสียจนสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง ไฟก็สลัวเสียจนมองแทบไม่เห็นว่าใครเป็นใคร ไอ้สถานที่แบบนี้มันสนุกตรงไหน
โยฮันใช้เวทย์พรางตัวให้คนอื่นมองไม่เห็นแล้วเดินเข้ามา โชคดีที่เวทมนตร์หมดฤทธิ์ตอนเดินเข้ามาเรียบร้อยแล้ว ไม่งั้นคงแย่แน่ๆ
“เธอจับมือชั้นไว้สิ” โยฮันว่า ยื่นมือมาให้เด็กสาว
“นายจะบ้ารึไง ชั้นไม่จับย่ะ”
“ชั้นไม่คิดอะไรบ้าๆกับเธอหรอกน่ะ”
“ไม่จับ!” เด็กสาวยืนยันคำเดิมเสียงแข็ง
“ตามใจ ถ้าหลงอย่ามาหาว่าไม่เตือนก็แล้วกัน เอ้า!ตามมาดีๆนะ” ชายหนุ่มเดินนำไปไม่เร็วนัก ดูเหมือนเขาจะพยายามเดินช้าเพื่อให้ยาหยีตามทัน(งั้นเหรอ)
เด็กสาวพยายามสอดส่ายสายตาไปรอบๆ มองหาเจ้าตัวเล็กหัวแดงที่หายไป ซ้ายที ขวาที แต่เมื่อมองกลับมาข้างหน้า ชายหนุ่มผมน้ำเงินก็หายไปเสียแล้ว!
“โยฮัน ซาวิตี้ ฮึ่ย! หายไปไหนนะ ทั้งคู่เลย” ยาหยีใจเสียขึ้นมาทันที ในสถานที่แบบนี้เธอไม่อยากอยู่คนเดียว รู้อย่างนี้เธอน่าจะจับมือโยฮันไว้จะได้ไม่หลงกันอย่างนี้
“โยฮัน” หันไปหาคนที่สะกิดหลังเธอหวังว่าจะเป็นคนที่เรียก แต่ว่ากลับไม่ใช่ชายที่เธอคุ้นเคย
“ไงจ๊ะน้องสาว มองหาอะไรอยู่เหรอจ๊ะ ไปนั่งกับพี่ดีกว่า” ผู้ชายท่าทางไม่น่าไว้วางใจสุดๆ ในมือมีแก้วเบียร์ เป็นคนสะกิดเรียกเธอ สายตาที่หน้ารังเกียจ กับรอยยิ้มทุเรศๆนั่น มันทำให้เธออยากวิ่งหนีไปให้ไกล
“มามะ ไปนั่งดื่มกับพี่ดีกว่า” ชายคนนั้นคว้าข้อมือของยาหยีไว้ เด็กสาวกลัวจนน้ำร่วง แต่ว่าไม่กล้าแม้แต่จะตะโกน
พลั่ก!!!
“ทำบ้าอะไรของแกวะไอ้โรคจิต”
“โยฮัน!” เด็กสาวหันไปมอง โยฮันและซาวิตี้ทำหน้าตาเอาเรื่อง
“แก! กล้าดียังไงมาต่อยชั้นเห้อ!!! รู้มั้ยชั้นลูกใครน่ะ!!!” คนที่ถูกต่อยไปกองตะโกนลั่น พยายามลุกขึ้นมาพุ่งหมัดใส่
“จะลูกใครแล้วมันอะไรล่ะฟะ!!!” โยฮันหลบออกข้างและสวนกลับด้วยความเร็ว คราวนี้คนหาเรื่องถึงกับจุกจนลงไปกอง ซาวิตี้ยิ้มสะใจลงไปกระทืบซ้ำ
“เฮ้ย! ตรงนั้นน่ะ เกิดอะไรขึ้น” เสียงยามแว่วมาแต่ไกล
“หนีเร็ว!” ชายหนุ่มคว้าข้อมือของยาหยีที่กำลังตัวสั่นเทา วิ่งหนีออกไปหลังร้าน เธอรู้สึกมือของโยฮันอบอุ่นเสียจนไม่น่าเชื่อ รู้สึกเจ็บใจตัวเองที่ไม่จับมือนี้เสียตั้งแต่แรก
“แฮ่ก โอย
ทำไมวันนี้มีแต่เรื่องให้ต้องวิ่งหนีนะ” โยฮันหอบหายใจหลังจากที่หนีออกมาพ้นจากบริเวณนั้น “นี่เธอเป็นอะไรรึเปล่า”
“ฮึก ฮึก”
“เฮ้ย ร้องไห้ทำไม” ภูตวิบัติตกใจ ไม่รู้จะทำยังไงกับเด็กสาวที่ร้องไห้น้ำตาอาบสองแก้ม
“ก็มัน ฮึก กลัวนี่นา ฮือ” เด็กสาวยิ่งร้องไห้หนักเข้าไปอีก โยฮันมองเด็กสาวที่ร้องไห้ไม่หยุดแล้วก็หน้าแดงก่อนจะตัดสินใจใช้มือเช็ดน้ำตาให้ยาหยี
“เอ้า อย่าร้อง อย่าร้อง” ภูตวิบัติหน้าแดงไปปลอบไป คนถูกปลอบเลื่อนมือขึ้นมาจับมือของคนปลอบไว้ โยฮันสะดุ้ง
“ขอยืมมือแป๊บนึงนะ” เธอกำมือของชายหนุ่มไว้อย่างสั่นเทา โยฮันถอนหายใจ แล้วจับมือของเด็กสาวมากุมไว้แทน เขามองไหล่ของร่างบางที่สั่นไหวน้อยๆ นึกอยากจะดึงมากอดให้รู้แล้วรู้รอดไป นี่เขาคิดอะไรเนี่ย!
“
”
“เธอกลับบ้านดีกว่ามั้ง”
“อะไรกัน เราไม่กลับหรอกนะ” ยาหยีหันมาแหววใส่
“แล้วอยากจะเจอแบบเมื่อกี๊อีกรึไง ลองคิดดูสิว่าถ้ามาช่วยไม่ทันน่ะ นี่ก็จะ 4 ทุ่มแล้ว พรุ่งนี้ก็ต้องหาต่อ ไปนอนซะเถอะน่า” ชายหนุ่มว่า ยัยนี่เมื่อกี้ยังน่ารักกว่านี้แท้ๆ
“ไม่เป็นหรอกน่า”
“ชั้นไม่ได้เกรงใจเธอ แต่หมายถึงว่าเธอน่ะเป็นภาระ”
“เอ๊ะ! นายนี่มัน ฮึ่ย!คนเค้าอยากช่วยนะ” เด็กสาวโกรธ หมอนี่ยังไงก็เป็น Bad อยู่ดีนั่นแหละ
“เธอนี่โวยวายจริงๆเลย ท่าทางจะต้องปิดปากซะหน่อยล่ะมั้ง” ว่าแล้วโยฮันก็รวบข้อมือทั้งสองข้างของเด็กสาวไว้ ใบหน้าคมๆนั้นเคลื่อนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ยาหยีคิดถึงความฝันเมื่อเช้าขึ้นมาทันที
ใบหน้านั่นโน้มเข้ามาขึ้นเรื่อยๆ
ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่!!!” เด็กสาวตะโกนลั่น แล้วภาพรอบข้างก็มืดไป
จบวันที่ 6
ความคิดเห็น