ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    7 Days

    ลำดับตอนที่ #5 : วันที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ค. 49


    วันที่ 5


               
    เมื่อคืนนี้โยฮันหลับไปในร่างของเขาเอง ดังนั้นตื่นเช้ามาวันนี้คงจะได้พบกับแจนแน่นอน


                   
    อรุณสวัสดิ์ครับเทวดาหนุ่มทักทายเสียงใส ยาหยียิ้มรับ


                   
    อรุณสวัสดิ์เธอจัดการเก็บที่นอน ซึ่งแจนก็เข้ามาช่วยเหมือนเช่นเคย


                   
    วันนี้ก็ตั้งใจหาเหมือนเดิมนะ


                   
    แน่นอนครับ อ้อใช่ โยฮันจัดการเรื่องโปสเตอร์ให้แล้วเหรอครับชี้ไปที่โปสเตอร์ยามะพีที่กลับมาเหมือนเดิมแล้ว


                   
    อื้อขานั้นเขานึกว่าเป็นผู้หญิงน่ะ แต่พอได้รู้ว่าเป็นผู้ชายล่ะก็ช็อกไปเลย หน้าหมอนั่นตอนนั้นตลกมากเลยแจนยิ้มพยักหน้ารับรู้ ยาหยีบอกให้ชายหนุ่มไปเจอกันข้างล่างเหมือนเดิมแล้วเดินลงไป


                   
    จะไปทำให้เหมือนเดิมทำไมนะ


                    วันนี้ต้องนั่งรถเมล์ไปรึเปล่าครับแจนถามสีหน้าหวาดๆ ไม่เอาแล้วนะ


                   
    ก็นะ นั่นรถมาพอดียาหยีลากชายหนุ่มขึ้นรถเมล์ไปด้วยความเร็ว โดยไม่ได้หันมามองหน้าที่ซีดเซียวของเขาสักนิดเลย


                    โอไม่เอาแล้วครับ ขากลับนั่งรถแอร์เถอะนะครับชายหนุ่มขอร้อง หลังจากลงจากรถมานั่งพักอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ยาหยีมองด้วยความสงสารปนตลก ซาวิตี้หัวเราะเยาะเย้ยวนเวียนอยู่รอบๆ แต่แจนที่สภาพย่ำแย่จนไม่มีแรงตอบโต้ ได้แต่มองด้วยความเคียดแค้น


                   
    เคะ เคะ เคะซาวิตี้หัวเราะอย่างน่าเกลียด ตบก้นล้อเลียน เห็นแล้วน่าฆ่าทิ้งนัก


                   
    กะแกไอ้เจ้า อุ อุ อุแหวะของเก่าถูกปล่อยออกมาทางปาก ชายหนุ่มอาเจียรออกมา ทำเอายาหยีตกใจ แต่สำหรับตัวเขานั้นรู้สึกสะใจเล็กน้อยเพราะว่า


                   
    เลว!!! อ้วกใส่เลวซาวิตี้ที่ตอนนี้เนื้อตัวเต็มไปด้วยอ้วกแหวะๆของแจน ร้องออกมาด้วยความโกรธ


                   
    ฮะ ฮะ ฮะ เฮ้ออ้วกแล้วรู้สึกดีขึ้นนะเนี่ยแจนหัวเราะด้วยความสะใจ


                   
    นายนี่อะไรก็ไม่รู้ยาหยีส่งสายตาตำหนิให้แต่ก็ไม่ได้เปื้อนเสื้อผ้าใช่มั้ยเด็กสาวว่า


                   
    เปื้อน!!!” ซาวิตี้ตะโกน ยาหยีมองมันขำๆ


                   
    เอาเจ้านี่ไปล้างตัวก่อนแล้วค่อยหากันก็แล้ว แบบนี้มันเหม็นอ้วก นายเดินไหวแล้วใช่มั้ยแจนพยักหน้า


                   
    ไหวแล้วครับ อุ อุ อุ…”


                   
    เฮ้ย


                   
    ล้อเล่นน่ะครับ


                   
    เล่นอะไรบ้าๆน่ะ


                   
    เลวเหม็น!!! ล้างตัวเร็วๆซาวิตี้ตะโกน ทำท่าพร้อมที่จะสะบัดตัว ทั้งคู่จึงต้องพาเจ้าจอมยุ่งไปหาที่ล้างตัวโดยด่วน


                    สถานที่ที่มาหากันในวันนี้ เป็นแหล่งของร้านอาหาร มีตั้งแต่ภัตตาคารหรูๆจนถึงรถเข็นปอนๆ คนเดินกันให้ขวักไขว่ อากาศวันนี้ไม่ร้อนมาก จึงเดินกันได้อย่างสบายๆ ดูท่าทางซาวิตี้จะสนอกสนใจร้านรวงต่างๆมากเป็นพิเศษ จนบางครั้งแจนต้องดึงตัวมันเอาไว้ก่อนที่มันจะไปทำน้ำลายหกใส่หัวชาวบ้านเสียก่อน


                   
    ดูสิ ดูสิ เค้กน่ากินเนอะยาหยีว่าหลังจากหยุดยืนดูเค้กที่โชว์อยู่หน้าร้านเค้กร้านหนึ่ง แจนยืนมอง ก็น่ากินจริงๆนั่นแหละ ท่าทางจะถูกใจซาวิตี้จัด เพราะมันเอาหน้าแนบกับกระจกเสียชิดจนจะรวมเป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าไม่มีกระจกนี่ สงสัยเค้กคงชุ่มน้ำลายไปแล้วแน่ๆ


                   “สวัสดีครับ ร้านแอนทีคยินดีต้อนรับครับ ถ้ายังไงขอเชิญข้างในดีกว่านะครับเสียงทักข้างหลังทำเอาเด็กสาวตกใจ ชายอายุประมาณ 30 ต้นๆ มีหนวดเล็กน้อยในชุดสูทบริกรทักขึ้น


                 “ไม่เป็นไรค่ะ แค่ดูเฉยๆน่ะค่ะยาหยีปฏิเสธอย่างสุภาพ หันหลังเดินออกไป
     

    ไม่เป็นไรครับ ตอนนี้เรามีเทศกาลเค้กผลไม้สุดอร่อยจากพ่อครัวอัจฉริยะของร้านเรา ถ้าสนใจก็แวะได้ทุกเมื่อนะครับ



                    เมนูครับชายคนนั้น(รู้สึกจะเป็นเจ้าของร้าน)ยื่นเมนูให้ ในที่สุดทั้งสามก็เข้ามานั่งในร้านนี้จนได้ ช่วยไม่ได้นี่นะ พอได้ยินคำว่าเค้กผลไม้แล้วมันอดใจไม่อยู่นี่นา


     
                   ช่วยแนะนำหน่อยได้มั้ยคะเด็กสาวรับเมนูมาอ่าน เมนูมีแต่ชื่อแปลกๆทั้งนั้นเลย


                   
    ได้ครับ งั้นขอเชิญที่ตู้โชว์เลยครับเจ้าของร้านผายมือไปทางตู้กระจกในร้านที่มีเค้กเรียงรายเต็มไปหมด ทั้งสามตามไปด้วยความตื่นเต้น


                   
    เค้กที่ขอแนะนำวันนี้นะครับเริ่มจากชิ้นทางขวาเลโมนี่ เป็นเค้กช็อกโกแลตกับเลมอนครีม ฟังดูแล้วอาจจะคิดว่าไม่เข้ากันแต่ถ้าลองชิมดูแล้วจะต้องตกใจกับความกลมกลืนที่แสนจะลงตัวระหว่างช็อกโกแลตกับเลมอน ชิ้นถัดมาเป็นสตรอเบอร์รี่ไวท์ช็อกโกแลตมูสซึ่งข้างในเต็มไปด้วยสตรอเบอร์รี่คอมโพท เนื้อเค้กชุ่มโชกด้วยไลม์ไซรัปบรรเลงด้วยสุดยอดความนุ่มละมุนของไวท์ช็อกโกแลตมูส และชิ้นสุดท้ายบลูเบอร์รี่ชีสพาย ดื่มด่ำกับความชุ่มช่ำของบลูเบอร์รี่กับครีมชีสรสชาติกลมกล่อมครับ นอกจากนี้ ร้านเรายังมีชากาแฟและเครื่องดื่มหลากหลายชนิด ไม่ทราบว่าจะรับอะไรดีครับเจ้าของร้านพูดแนะนำได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง ทำเอาน้ำลายยืด อยากกินไปหมดทุกชิ้นเลย!


                   
    เอาสตรอเบอร์รี่ไวท์ช็อกโกแลตมูสกับชาเอิร์ลเกรย์ละกันค่ะเด็กสาวสั่ง
     

                    แล้วคุณผู้ชายล่ะครับ


                   
    เอ่อเลโมนี่ก็แล้วกันครับ


                   
    ครับ สตรอเบอร์รี่ไวท์ช็อกโกแลตมูสกับชาเอิร์ลเกรย์และเลโมนี่ กรุณารอสักครู่นะครับเจ้าของร้านทวนรายการ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัว


                   
    ขอโทษนะแจน ขอเสียเวลาที่นี่นิดนึงยาหยีว่า


                   
    ไม่เป็นไรครับ


                   
    เค้กที่สั่งได้แล้วครับ สตรอเบอร์รี่ไวท์ช็อกโกแลตมูสกับชาเอิร์ลเกรย์และเลโมนี่ครับเด็กผู้ชายหน้าตาดีในชุดพ่อครัวสีขาวเป็นคนเอาเค้กมาเสริฟ เค้กที่สั่งมาถึงเร็วทันใจ สตรอเบอร์รี่ไวท์ช็อกโกแลตมูสที่ตกแต่งเพิ่มด้วยซอสสตรอเบอร์รี่และช็อกโกแลต ส่วนเลโมนีก็ถูกตกแต่งด้วยเลมอนฝานและวิปปิ้งครีม ดูเหมือนงานศิลปะมากกว่าเค้ก


                   
    สวยจังเลย


                   “เค้กของอาจารย์น่ะ อร่อยที่สุดในโลกเลยครับพ่อครัวหนุ่มน้อยว่า ยาหยีกับแจนหันไปยิ้มให้ เตรียมจะตักเค้กเข้าปาก แต่พอไปเห็นสายตาเปี่ยมความหวังของพ่อครัวหนุ่มน้อยแล้วมัน


                  “นี่เจ้าหนู นายไปจ้องเขาอย่างนั้นเขาก็ไม่กล้ากินสิ กลับครัวไปได้แล้วคุณเจ้าของร้านเอ็ด คนถูกว่ายิ้มๆก่อนจะกลับเข้าครัวไป


                   ซาวิตี้ยืนน้ำลายไหลอยู่ข้างๆจานของเด็กสาว เธอจึงตัดแบ่งให้มัน แน่นอนว่ามันรีบรับไปกินด้วยความเอร็ดอร่อย ก่อนจะหันไปมองแจน เทวดาหนุ่มจ้องเค้กตรงหน้าด้วยตาเป็นประกาย ทั้งสองค่อยๆบรรจงตักเค้กตรงหน้าเข้าปาก 


                   
    อร่อยมากกกก 


                    ทั้งสามเดินออกมาจากร้านด้วยหัวใจที่ชุ่มชื่น โดยเฉพาะยาหยี ในมือของเธอมีกล่องใส่ขนมกลับบ้านจากร้านแอนทีค ข้างในมีเลโมนี่,สตรอเบอร์รี่ไวท์ช็อกโกแลตมูส,ปาเว โอ คาราเมล เค้กช็อกโกแลตที่ชุ่มด้วยเนยและคาราเมลผสานกับมูสช็อกโกแลตและสุดท้ายชูครีมสำหรับซาวิตี้ ร้านนี้อร่อยจริงๆไว้วันหลังต้องมากินบ่อยๆ ส่วนขนมที่ซื้อมานี่ พรุ่งนี้จะจัดการให้เกลี้ยงเลย


                   
    เอาล่ะ พลังงานเต็มที่ เราไปตั้งใจหากันดีกว่าเด็กสาวเรียกกำลังใจ


                   
    ครับ!/เลวขานรับออกมาพร้อมกันด้วยความคึกสุดขีด(ถึงจะไม่ใช่คำเดียวกันก็เถอะ)


                    ย่านนี้มีอะไรให้ดูมากมาย ถึงจะมีแค่ร้านอาหาร แต่ว่าแต่ละร้านก็ให้ความรู้สึกที่ต่างกัน อย่างเช่น ร้านขายเค้ก คนที่มากินส่วนใหญ่ก็จะเป็นเด็กผู้หญิงโดยเฉพาะเด็กสาวๆ ส่วนผู้ชายนั้นไม่ชอบของหวานเสียเท่าไหร่ ร้านอาหารตามสั่งก็จะเป็นกลุ่มคนทั่วๆไปที่ทานอะไรก็ได้ ร้านพวกสุกี้ บาร์บีคิวหรือพิซซ่าก็จะเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนซะส่วนใหญ่


                   
    แจนไปตรงนั้นกันดีกว่า อ้าวหันไปไม่เจอคนที่พูดด้วยซะแล้ว อ้ออยู่ตรงนั้นเอง


                   
    คุณยายจะข้ามถนนเหรอครับ ผมช่วยนะครับเทวดาหนุ่มเสนอตัวช่วยคุณยายที่หอบของพะรุงพะรังเตรียมจะข้ามถนน


                   
    ขอบใจมากจ้ะพ่อหนุ่มคุณยายว่า แจนยิ้มยกถุงใส่ของใบโตนั่น พาคุณยายข้ามถนน โดยมียาหยี
    มองดูอยู่ตลอด เมื่อส่งคุณยายที่อีกฝั่งหนึ่งเสร็จแล้ว ก็ข้ามกลับมา


                   
    หายไปไหนมาเนี่ยเด็กสาวแกล้งทำหน้าโกรธถามออกไปทั้งที่รู้อยู่แล้ว


                   
    เอ่อคือคุณยายเค้าจะข้ามถนน ผมก็เลย…” เทวดาหนุ่มเลิกลั่ก เขากลัวสายตาดุๆของยาหยี


                   
    ล้อเล่นน่ะ เห็นหมดแล้วแหละ ไปช่วยคุณยายข้ามถนนมาใช่มั้ยล่ะยาหยียิ้ม แจนเนี่ยเป็นคนดีจริงๆ ชายหนุ่มเห็นอย่างนั้นก็ยิ้ม


                   
    ไปหากันต่อดีกว่าครับ


                    สำหรับวันนี้ก็ต้องผิดหวังกันไป  เพราะว่าหาจนทั่วบริเวณแล้วก็ยังไม่มีวี่แววของบัตรประจำตัวนั่นเลยสักนิด


                   
    โครกเสียงพยาธิในท้องร้องประท้วงว่าหิวเต็มที แน่ล่ะ เค้กที่กินไปเมื่อตอนสายคงโดนย่อยหมดแล้ว ก็เดินตลอดทั้งวันนี่นา แถมยังมีกลิ่นหอมๆยั่วใจจากร้านหลายร้านอย่างนี้อีก ไม่หิวได้ยังไง


                   
    โอ๊ย หิวจังเลยเด็กสาวครางออกมา ทั้งซาวิตี้และแจนต่างเห็นด้วย อีกเหตุผลหนึ่งคือหลังจากกินเค้กที่ร้านแอนทีคไปเมื่อตอนสายๆแล้วทั้งสามก็ไม่ได้กินข้าวเที่ยง ดังนั้นจะมาหิวเอาตอน 4 โมงนี่ก็ไม่แปลกอะไร


                   
    ยังไงวันนี้เราก็เดินมาจนทั่วแล้ว งั้นก็หาอะไรกินก่อนกลับบ้านดีกว่ามั้ยแน่นอนว่าเหล่าผู้ติดตามต่างพยักหน้าเห็นด้วย อืมแต่ว่าจะกินอะไรดีล่ะเนี่ย ก๋วยเตี๋ยวดีมั้ยไม่เอาดีกว่าไม่อยากกินอะไรร้อนๆ อืม


                   
    เอาเป็นว่าไปกินไอ้นั่นก็แล้วกันว่าแล้วเด็กสาวก็เดินจูงมือชายหนุ่ม ที่ยังไม่รู้ว่าไอ้นั่นที่เธอพูดถึงมันหมายถึงอะไร


                    เอาส้มตำปลาร้าพริกห้าเม็ด ข้าวเหนียวไก่ย่างแล้วก็น้ำแข็งเปล่าสองค่ะร้านขายอาหารอีสานที่มีคนนั่งเยอะพอสมควร ร้านนี้เธอเคยมากินกับเพื่อนๆ อร่อยใช้ได้เลยล่ะ เทวดาหนุ่มนั่งหน้าเอ๋อๆอยู่ครู่หนึ่ง เมื่ออาหารยกมาเสริฟหน้าของเขายิ่งเอ๋อเข้าไปกันใหญ่

                    ไอ้นี่มันคืออะไรครับชี้ไปที่ส้มตำปลาร้า


                   
    เขาเรียกว่าส้มตำน่ะ ส้มตำปลาร้า ไม่เคยกินเหรอแจนส่ายหน้าแทนคำตอบ ซาวิตี้ดมๆดูแล้วก็ทำหน้าเหม็นแหวะ(ก็มันเหม็นจริงๆนี่)


                   
    เป็นมะละกอ กับมะเขือเทศ พริก กระเทียม ใส่มะนาว น้ำปลา อะไรหลายๆอย่างน่ะ อร่อยนะเด็กสาวพูดเชื้อเชิญ ชายหนุ่มใช้ส้อมเขี่ยขึ้นมาตรงปาก


                   
    กลิ่นมันเหม็นๆ ไม่ใช่ว่าเสียแล้วเหรอครับซาวิตี้พยักหน้าเห็นด้วย

                    ที่มันเหม็นเป็นเพราะว่ามันใส่ปลาร้าน่ะ แต่ว่าอร่อยนะ ลองชิมดูดีกว่า ถึงกลิ่นไม่โสภานัก แต่อร่อยนะยาหยีกินให้ดู อืมอร่อย เผ็ดดีจัง ถึงจะชอบทานเค้กแต่ว่าของเผ็ดๆก็ชอบเหมือนกันนะ


                   
    ทางฝ่ายซาวิตี้ก็ลองเอาใส่ปาก


                   
    อร่อย! เลวอร่อย!” แล้วมันก็ตั้งหน้าตั้งตากิน ส่วนแจนกำลังลังเลอยู่เล็กน้อย ในที่สุดก็ส่งส้อมที่มีส้มตำปลาร้านอนนิ่งอยู่เข้าปากไป


                   
    เผ็ด!!!” แจนโวยวายออกมา คายส้มตำในปากทิ้ง คว้าน้ำมาดื่มอย่างรวดเร็ว หน้าแดงก่ำ น้ำตาคลอ ทำเอายาหยีตกใจ


                   
    แฮ่ก แฮ่กเทวดาหนุ่มลิ้นห้อย เผ็ดมากเลยครับ


                   
    นายไม่กินเผ็ดเหรอยาหยีถาม แจนพยักหน้า ความจริงสำหรับหยีแล้วมันก็ไม่เผ็ดมากนะ


                   
    ผมทานเผ็ด ไม่ได้เลยครับเขาตอบ


                   
    ตายแล้วเราไม่รู้ ขอโทษทีแจนส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร ซาวิตี้ก็ขำสุดขีด


                   
    เคะ เคะ เคะ


                   
    ขำบ้าอะไรมิทราบ เดี๋ยวก็อ้วกใส่หัวอีกหรอกเจ้าตัวกวนจึงเงียบไป


                   
    สรุปว่ามื้อนั้น เทวดาหนุ่มผู้น่าสงสาร ก็ได้แต่นั่งกินไก่ย่างกับข้าวเหนียว
     


                    เฮ้ออิ่มจัง ตายแล้ว!จะห้าโมงแล้วเหรอเด็กสาวอุทานออกมาเมื่อมองนาฬิกา


                  “รีบกลับกันเถอะ ท่าทางเหมือนฝนจะตกด้วย


                   
    ซ่า!!!


               
    ไม่ทันขาดคำฝนก็เทลงมาห่าใหญ่ ทำเอาทั้งสองคนกับหนึ่งตัวเปียกโชกราวกับลูกหมาตกน้ำก็ไม่ปาน ทั้งหมดพากันวิ่งไปที่ป้ายรถเมล์อย่างรวดเร็ว


                   
    ผมจะใช้เวทมนตร์ทำให้แห้งนะครับเทวดาหนุ่มว่าแต่ยาหยีห้ามไว้ก่อน
     

                    คนเปียกทั้งป้ายรถเมล์ ถ้าสมมติเราแห้งสนิทกันอยู่แค่นี้จะน่าสงสัยซะเปล่าๆ


                   
    เลวเกลียดฝนซาวิตี้สะบัดตัว น้ำกระเซ็น


                   
    รถเมล์มาแล้วรีบกลับกันเถอะรีบวิ่งขึ้นรถเมล์ไป ซึ่งถึงจะเป็นรถแอร์ก็ต้องรีบขึ้นเพราะถ้าแจนเปลี่ยนเป็นโยฮันขึ้นมาตอนนี้แล้วล่ะก็ ไม่สนุกแน่ๆ 


                    ฮัดเช้ย!” เสียงจามเบาๆของเด็กสาว ขึ้นรถแอร์ทั้งที่ตัวเปียกขนาดนี้ ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย


                   
    ผมบังแอร์ให้ก็แล้วกันครับแจนขยับตัวยืนบังแอร์ที่เป่าใส่ยาหยี เธอคลายหนาวลงเยอะ แต่ว่าแจนล่ะ


                   
    ไม่เป็นไร ไม่ต้องบังให้เราหรอก


                   
    ไม่ได้หรอกครับ ผู้ชายที่ดีต้องเสียสละครับ กะแค่แอร์แค่นี้ ทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับแจนฝืนพูดทั้งที่หน้าซีด ปากสั่น ยาหยีพยักหน้า


                   
    ขอบคุณนะเธอยิ้ม เปิดดูกล่องเค้กที่พยายามรักษามาสุดชีวิตในมือ ดีจริงๆที่ข้างในไม่เปียกอะไร แค่เละๆไปนิดหน่อย ปิดฝากล่อง แล้วเรียกซาวิตี้มากุมไว้ที่มือ เพื่อให้มันอบอุ่นซึ่งดูท่ามันจะพอใจ เหลือบมองแจนเป็นระยะ


    รู้สึกประทับใจสุดๆ


    หลังจากกลับถึงบ้านแล้ว แจนก็ใช้เวทมนตร์เสกให้ตัวแห้ง เด็กสาวเอาเค้กไปเก็บ พอกลับมาที่ห้องอีกครั้งเทวดาหนุ่มก็เปลี่ยนเป็นภูตวิบัติเรียบร้อยแล้ว


                ท่าทางซาวิตี้ไม่อยากจะหาต่อแล้ว ฝนก็ยังตกอยู่ โยฮันยืนมองหน้าต่าง เตรียมจะออกไปข้างนอก


                “ฝนตกอย่างนั้น นายยังจะออกไปอีก เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอกยาหยีเตือนด้วยความเป็นห่วง


               “ถ้าไม่ออกไปหาแล้วจะให้ทำอะไร เดี๋ยวเธอก็หาว่าชั้นอู้อีกชายหนุ่มเถียงกลับ


                “แต่นี่มันฝนตกซาวิตี้ก็ไม่ไหวแล้วด้วย


               “แล้วจะให้ชั้นทำอะไร นอนกับเธอในห้องนี้รึไง!”


               “จะบ้าเหรอ!” เด็กสาวหน้าแดง


              “ใช่มั้ยล่ะ งั้นชั้นไปนะเขาเดินไปที่หน้าต่าง ส่วนเจ้านี่ ดูแลมันด้วยก็แล้วกันแล้วก็กระโดดหายไป

     
             “เดี๋ยวสินาย!” แต่ว่าช้าไปแล้ว ร่างสูงหายไปกับสายฝนและความมืดของรัตติกาลเรียบร้อยแล้ว


    จบวันที่
    5

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×