คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ความขัดแย้งที่นำไปสู่ความล้มเหลว
“ให้เรอยู่กลุ่มเดียวกับหนูก็ได้ค่ะ”ทุกสายตาจับจ้องไปยังผู้พูดทันที เจ้าของเสียงเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กชื่อ ‘กีฟท์’ ผมของเธอถูกมัดเป็นหางม้าอยู่ด้านหลัง หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู เธอเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวธรรมดาๆที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ผลการเรียนก็เกรดสามบ้างสี่บ้าง แต่จุดเด่นของเธอที่เพื่อน ๆ พากันชื่นชอบและชื่นชมในตัวของเธอคือความมีน้ำใจ
เมื่อเด็ก ๆ คนอื่นเห็นสิ่งที่กีฟท์ทำ ทุกคนก็เริ่มเอาเธอเป็นแบบอย่าง มือของเด็กนักเรียนเริ่มทยอยยกขึ้นพร้อม ๆ กับที่เด็กนักเรียนที่ไม่มีกลุ่มเริ่มถูกเพื่อน ๆ ดึงตัวเข้ากลุ่มทีละคนทีละคนจนสุดท้ายก็ไม่เหลือเด็กคนไหนที่ไม่มีกลุ่มอีกเลย
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของครูฟ้า ครูสาวกวาดตามองนักเรียนในห้องก่อนจะถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“ตอนนี้มีเพื่อนคนไหนไม่มีกลุ่มอยู่อีกไหมเอ่ย”เสียงของครูฟ้าดังไปทั่วห้อง ยังไม่ทันที่ประโยคจะจบเด็ก ๆ ทั้งห้องก็รีบขานรับทันที
“ไม่มีแล้วค่ะ/ครับ”ทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียงกัน
“งั้นครูจะให้โจทย์ต่อไปแล้วนะ”ครูฟ้าเอ่ยก่อนจะเว้นช่วงเล็กน้อย พอเด็กทั้งห้องขานรับ หญิงสาวจึงเริ่มหยิบชอล์คขึ้นมาเขียนกระดานทันที ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นโจทย์หนึ่งประโยคก็ปรากฎขึ้นตามมา โจทย์มีอยู่ว่า...
‘ให้ระบุโปรเจ็กต์ที่จะทำ’
“ครูจะให้เด็ก ๆ ทุกคนในกลุ่มช่วยกันออกไอเดียโปรเจ็กต์ที่อยากจะทำ จากนั้นพอเลือกได้ก็ให้เรียกครูนะ”ครูฟ้าเอ่ย หลังจากนั้นเด็กทุกกลุ่มจึงแยกย้ายกันไปนั่งเป็นวงกลมทันที
ในกลุ่มของกีฟท์นั้นมีคนทั้งหมดห้าคนประกอบด้วย คราวน์ เด็กชายที่เป็นเด็กกำพร้าซึ่งโรงเรียนรับเลี้ยงมา เขาเรียนไม่ค่อยจะเก่งนักแต่ก็เป็นคนที่เข้มแข็ง และเก่งการทำอาหารและทักษะชีวิตเป็นอย่างมาก ต่อมาคือวันเดอร์ เด็กสาวผมสั้นแก่นแก้วที่ค่อนข้างจะซนพอสมควร เธอมาจากครอบครัวธรรมดาเช่นกัน พ่อของเด็กสาวเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ส่วนแม่ของเธอนั้นทำงานเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้เช่นกัน
คนที่สามนั้นคือทริค เด็กชายมาจากครอบครัวธรรมดา ๆ ที่มีพ่อทำอาชีพปลูกผักออร์แกนิกขาย ส่วนแม่เป็นจิตรกร ทริคเป็นคนพูดมากพอตัว เขามักมีไอเดียดี ๆ นำเสนอเพื่อน ๆ เสมอ นิสัยร่าเริงสดใสนี่เองทำให้เด็กชายมีเพื่อนมากมาย
ส่วนอีกสองคนที่เหลือแน่นอนว่าคือกีฟท์และเร ตอนนี้คนทั้งห้ากำลังนั่งล้อมรอบกันเป็นวงกลมเพื่อหารือเรื่องโปรเจ็กต์ที่จะทำ
“เออ...มีใครมีไอเดียอะไรดี ๆ บ้างไหม”ทริคถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อน ๆ ในกลุ่มเอาแต่นั่งเงียบกัน ปกติแล้วไม่ว่าจะจับกลุ่มทำงานอะไร ในกลุ่มมักจะมีเพียงสี่คน คือทริค กีฟท์ คราวน์ และวันเดอร์ พวกเขาเป็นเพื่อนที่อยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มเสมอ คราวนี้พอมีเรมาด้วยอีกคนเลยเป็นสาเหตที่เพื่อน ๆ ยังปรับตัวไม่ค่อยได้เท่าไหร่ อีกทั้งเรยังเป็นคนเงียบ ๆ อยู่แล้วด้วย บรรยากาศเลยยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
“ถ้างั้นปลูกป่ากันไหม ถ้ามีต้นไม้เยอะออกซิเจนก็จะยิ่งเยอะ เราจะได้มีอากาศบริสุทธิ์หายใจ”คราวน์เสนอ แน่นอนว่าสิ่งที่เขาพูดนำมาจากข้อมูลที่ได้จากการเรียน
“แต่มีคนทำกันเยอะแล้วนะ แล้วก็มีเวลาน้อยด้วย ไหนจะต้องหาสถานที่ปลูกอีก”วันเดอร์ว่าอย่างไม่เห็นด้วย
“ถ้างั้นปลูกผักล่ะ”ทริคถามขึ้น “เหมือนที่พ่อฉันทำ ถ้าเราอยากปลูกผักก็ไปทำที่บ้านฉันก็ได้นะ เรามีแปลงผักออร์แกนิกด้วย”เขาเสริมขณะที่ตาวาวโรจน์
“ไม่เอา”เสียงๆหนึ่งขัดขึ้น เป็นใครไปไม่ได้นอกจากเร เด็กชายหยิบหนังสือขึ้นมานั่งอ่านพรางเอ่ยขณะที่ตายังไม่ละจากหนังสือ
“ไอเดียของฉันไม่ดีตรงไหน?”ทริคถามอย่างไม่สบอารมณ์
“ปลูกผักต้องมาคอยดูแล เสียเวลา น่าเบื่อ”เรตอบสั้นๆทำเอาทริคหัวเสียเข้าไปใหญ่ สุดท้ายกีฟท์เลยจำต้องมาห้ามเพื่อน ๆ แล้วบอกให้สงบสติอารมณ์
“เอาน่า มันก็จริงของเรนะ”เด็กหญิงว่า
“ถ้าอย่างนั้นทำสื่อกันไหม แบบพวกสื่อประชาสัมพันธ์น่ะ”เด็กหญิงเสนอ
“ไม่เอา ฉันไม่ชอบมาพูดนำเสนอให้คนอื่นฟัง”เรเอ่ยตัดความหวังทุกคนทันที
“เอ่อ...ถ้างั้นเป็นหนังสือ”กีฟท์พยายามเสนอต่อ
“ไม่ ขี้เกียจมานั่งตกแต่ง แล้วก็เขียนด้วย”เรยังคงค้าน
“เฮ้ย นายจะอะไรนักหนา นู่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่เอา งั้นนายก็ลองเสนอมาเองสิว่าจะทำอะไร!”ทริคเอ่ยอย่างหัวเสียเป็นจังหว่ะเดียวกันกับที่คุณครูฟ้าพูดขึ้นพอดี
“เด็กๆเหลือเวลาให้ปรึกษากันอีกห้านาทีนะ กลุ่มไหนยังไม่ได้ข้อสรุปต้องรีบแล้วนะจ๊ะ”เสียงนั้นเป็นเหมือนแรงกดดันให้เด็กทั้งห้าต้องรีบเร่งมือขึ้นไปอีก แต่ถึงอย่างนั้นเรก็ดูไม่สะทกสะท้าน จนถึงตอนนี้หนังสือก็ยังคงกางอยู่บนมือของเขา
“ตอบมาสิ”ทริคย้ำ แต่เรก็ยังคงเงียบ
“เฮ้ย!”ทริคว่า
“ไม่รู้”เรเอ่ยเรียบ ๆ สุดท้ายสงครามขนาดย่อมจึงเกิดขึ้นในที่สุด ดูเหมือนวันเดอร์เองก็เข้าไปร่วมกับ ทริคและเรด้วย กีฟท์กับคราวน์จึงต้องห้ามกันพัลวัน สุดท้ายกลุ่มของพวกเขาก็เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่แม้จะจบคาบแล้วก็ยังเลือกไม่ได้ว่าจะทำโปรเจ็กต์อะไร...
ความคิดเห็น