ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปริศนารัก อัจฉริยะ

    ลำดับตอนที่ #3 : อัจฉริยะ ผู้มีแต่ความเศร้า

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ย. 60



         อินที่จู่ ๆ ก็โผล่มาร่วมวงสนทนา ได้เปิดเผยว่าเขาก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับยูและวี "ไอ้แว่นอิน ความทรงจำที่ขาดหายที่นายพูดถึง นายหมายความว่ายังไง?" ยูพูดกับอิน "ก็มันเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้แล้วไงล่ะ ไม่มีทางที่พวกเราจะลืมไปเองแน่นอน ยิ่งเป็นริทย์มันยิ่งไม่มีทางลืมเด็ดขาด ไม่ว่ารายละเอียดเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม" อินตอบกลับอย่างมั่นใจในทันที "ไม่ว่ารายละเอียดเล็กน้อยแค่ไหนก็ไม่ลืมงั้นเหรอ ริทย์ความจำดีขนาดนั้นเลยเหรอ? นายแว่น!?"
    นิลถามอินด้วยความสงสัย "หึหึ เธอคงยังไม่รู้สินะ งั้นชั้นจะอธิบายให้เอง ฮะฮาฮ่าฮา!!" อินพูดด้วยความตื่นเต้นเขาหยิบเอกสารออกมาจากแฟ้ม แล้วแจกให้นิลไปหนึ่งชุด "เอาล่ะ นั่นคือเอกสารประกอบการบรรยาย ตั้งใจฟังให้ดีล่ะ นี่คือข้อมูลของชายที่มีชื่อว่า อัจฉริทย์!!"

         ริทย์ หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า นาย อัจฉริทย์ ทัศนประกฤติไพศาล เกิดวันที่ 6 เดือน 6 ปัจจุบันอายุ 17 ปี เขาเป็นอัจฉริยะผู้มี IQ สูงถึง 219 จึงมีความจำดีมากและสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว อันที่จริงเนื้อหาที่ต้องเรียนจนจบชั้น ม.ปลาย เขาอ่านหนังสือและเรียนด้วยตัวเองไปจนจบแล้ว แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเขายังเลือกที่จะมาโรงเรียนเหมือนคนปกติทั่วไปอยู่ แม่ของเขาเป็นนักบัญชีอิสระที่เป็นอัจริยะเช่นกัน IQ 196 เธอสามารถคำนวณตัวเลขได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ จึงเป็นที่ต้องการของบริษัทต่าง ๆ มากมาย เธอต้องออกไปรับงานทำบัญชีให้ที่นู่นที่นี่บ่อย ๆ จึงไม่ค่อยมีเวลากลับบ้าน ริทย์จึงอยู่บ้านเพียงคนเดียวในวันจันทร์ - เสาร์ แม่ของเขาจะกลับมาช่วงหัวค่ำของวันเสาร์และอยู่บ้านทั้งวันในวันอาทิตย์ ส่วนพ่อของเขาเสียชีวิตไปตั้งแต่ริทย์อายุ 6 เดือนตามข้อมูลที่แม่ของริทย์บอกมา และพ่อของริทย์เองก็เป็นอัจฉริยะเช่นกัน ไม่ทราบระดับ IQ

         "ห๊าาาาาาาาาาาา!!?" นิลส่งเสียงดังออกมาด้วยความตกตะลึง "เรื่องจริงเหรอเนี่ย? ยู? วี?" นิลถามสองสาวด้วยความสงสัยแล้วทั้งสองก็พยุกหน้าตอบรับทันที "ถ้าริทย์เป็นถึงอัจฉริยะไอคิวสูงลิ่วขนาดนั้น มันจะเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะลืมเรื่องแบบนี้" นิลยิงคำถามรัวมาอีกครั้ง "ใช่ เป็นไปไม่ได้เลยล่ะ ก็อยากที่ชั้นบอกว่าความทรงจำของพวกเราอาจจะหายไป บางทีตอนเด็ก ๆ เราสี่คนอาจจะไปหัวกระแทกที่ไหนเข้าก็ได้" อินพูดเสนอแนวคิดของเขา สาวสามเงียบไป พวกเธอหันมองหน้ากันแล้วก็พยักหน้าสื่อว่าพวกเธอก็เห็นด้วยว่าทฤษฎีของอินอาจจะเป็นไปได้ "แล้วฉันก็มีแผนที่อาจจะฟื้นความทรงจำของไอ้ริทย์เพื่อนรักของฉันได้ด้วยล่ะ" อินพูดอย่างมั่นใจ "ว่ามาสิ" สามสาวพูดขึ้นพร้อมกันโดยบังเอิญ "คือ อย่างนี้นะ . . . . . ."

         นาฬิกาชี้บอกเวลาไปที่ บ่ายสามโมงครึ่ง เป็นเวลาเลิกเรียนและได้เวลากลับบ้านแล้ว นิลยืนมองกวาดสายตาหาอะไรสักอย่างอยู่ที่ลานว่างของโรงเรียน "ให้ตายสิ ไอ้บ้าริทย์หนีไปไหนแล้วเนี่ย เรากะจะชวนเดินกลับบ้านด้วยกันตามแผนของนายแว่นอยู่เลย" นิลมีท่าทีเซ็ง เธอเดินไปนั่งที่ม้านั่งตัวนึงแต่ยังคงกวาดสายตามองหาริทย์ต่อ "เพราะว่าเธอ เสียงเหมือนกันกับผู้หญิงคนนั้น ถ้าเธอหาโอกาสอยู่กับหมอนั่นบ่อย ๆ จะได้พูดกับมันบ่อย ๆ เสียงของเธออาจจะกระตุ้นให้ความทรงจำมันฟื้นกลับมาบ้างก็ได้ เย็นนี้ก็ลองชวนมันเดินกลับบ้านด้วยกันดูสิ" นิลนึกถึงคำพูดของอินในขระที่เธอยังมองหาริทย์อยู่ "ว้าว! นั่นมันสาวสวยที่ย้ายเข้ามาใหม่นี่นา น่าเสียดายจังที่เธอดันไปอยู่ห้อง 1 ซะได้" น้ำเสียงเล็กแหลมดังมาจากด้านซ้ายของนิล เมื่อเธอหันไปมองก็พบนักเรียนชายคนนึงที่ดูท่าทางแล้วเหมือนนักเลงมากกว่า กระดุมเสื้อนักเรียนที่ไม่ได้ติด รองเท้าแตะ "ค่ะ ชั้นเองนักเรียนใหม่ มีอะไรรึเปล่าคะ?" นิลตอบกลับแล้วเธอก็ลุกขึ้นยืน เธอรู้สึกว่าเธอต้องระมัดระวังตัวจากคนคนนี้ "ไม่มีอะไรมากหรอก แค่อยากให้เธอไปสนุกกับชั้นสักหน่อยเท่านั้นเอง ได้ไหมจ้ะ? คนสวย" เขาพูดด้วยท่าทียียวนกวนประสาท "ไม่ค่ะ ชั้นกำลังหาคนคนนึงอยู่" นิลตอบปฏิเสธแบบทันควัน "อะไรกัน อ่อ ชั้นลืมบอกไป ชั้นเป็นลูกชายของ ผอ. ที่นี่ ชั้นชื่อ มิตร ขอใช้สิทธิ์ความเป็นลูก ผอ. สั่งให้เธอไปกับฉันซะ ถ้าไม่อยากมีปัญหา" ลูกชาย ผอ. ทำเบ่งและออกคำสั่ง "เป็นลูก ผอ. แล้วยังไงคะ? ชื่อมิตร แต่ทำตัวไม่เป็นมิตรเอาซะเลยนะคะ" นิลเริ่มมีท่าทีโมโห เธอกำหมัดกัดฟันตอบไอ้ลูก ผอ. "หึหึ ของดูกางเกงในหน่อยสิสาวน้อย" พูดจบมิตรลูก ผอ. ก็สะบัดมือทั้งสองข้างขึ้นเพื่อทำให้กระโปรงนิลพัดเปิดขึ้น นิลที่ไหวตัวทันพอดีเธอจึงเอามือกดชายกระโปรงไว้ "โธ่! เกือบแล้วเชียว อีกนิดเดียวเอง" นิลได้ยินมิตรลูก ผอ. พูดดังนั้นเธอก็หมดความอดทนในทันที หมัดของเธอกำลังพุ่งตรงไปที่หน้าของมิตรลูก ผอ. เสี้ยววินาทีนั้นมิตรก็เอ่ยปากเบา ๆ ว่า "จะดีเหรอ? มาวันแรกก็โดนไล่ออกเลย" นิลหยุดชะงัก คิดทบทวน เธอมองดูนักเรียนคนอื่นที่มุงดูอยู่รอบ ๆ แต่ไม่มีใครเข้ามายุ่งอะไร ไอ้มิตรนี่มันคงจะเป้นลูก ผอ. จริง ๆ

         เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ของนิล เธอมองหน้ามิตรแล้วยิ้มให้ "ถ้าโดนไล่ออก แล้วได้ซัดเบ้าหน้ามึงสักที มันก็คุ้มนะคะ" นิลพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแล้วพุ่งหมัดของเธอออกไปทันที แต่ในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้น มีใครบางคนจับแขนเธอไว้จากด้านหลัง นิลหันไปมองทันที "ริทย์ ทำอะไรน่ะ ปล่อยนะ!!" ริทย์ทำนิ่งไม่ตอบอะไร "ฮ่าา ทำได้ดี นายเพิ่งช่วยเธอไม่ให้โดนไล่ออก" มิตรพูดเย้ยหยัน ริทย์มองหน้ามิตรด้วยสายตาสมเพชมิตรแบบสุด ๆ เขาเดินไปใกล้ ๆ มิตรแล้วพูดขึ้นเบา ๆ "แต่ฉันเห็นด้วยกับยัยนั่น ถ้าโดนไล่ออก แล้วได้ซัดเบ้าหน้ามึงสักที มันก็คุ้มนะ"



         พูดจบหมัดของริทย์ก็สวนเข้าที่เบ้าหน้าซ้ายของมิตรอย่างแรง มิตรล้มลงไปนอนกองกับพื้นตามแรงหมัดทันที ริทย์ถอนหายใจมองดูมิตรด้วยความสมเพช เขาหันหน้ากลับไปหานิลที่ยืนอึ้งอยู่ด้านหลัง เขาพูดกับเธอว่า "เมื่อกี้ที่เธอจะซัดมันน่ะ เอาแรงประมาณนี้ใช่ไหม?"

    ------------------------------------------------------------รอติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะครับ--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ขอบคุณมากครับ--------------------------------------------------------------------------------
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×