ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Youngster Of New Generation

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 : เ ป ล ว โ ล กั น ต ร์

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ย. 48


    บทที่ 4 : เ ป ล ว โ ล กั น ต ร์





              สิ่งต่อไปที่พวกเขาจะไปเลือกซื้อกันก็คือ...ดาบ

              การที่จะหาดาบมาควงเล่นสักเล่มสองเล่มจากถนนแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแต่มันไม่ใช่สำหรับเขา...เลนาร์ด คริปตอน



              เกือบค่อนวันแรก เขาใช้เพื่อค้นหา ‘คทา’ ที่ถูกใจ แล้วนี่ก็อีกกว่าชั่วโมงที่หมดไปกับการค้นหาดาบคู่กาย เขาก็ยังไม่เจอดาบที่ถูกใจสักที ไม่ใช่ว่าเรื่องมากหรอกนะ แต่มันเป็นความรู้สึกอย่างหนึ่ง ที่เหมือนกับว่าถ้าคุณจะเลือกซื้อปากกาดีๆสักด้าม คิดว่าจะใช้มันให้ได้นานๆ คุณไปเลือกด้ามที่สวยถูกใจ แต่มันไม่รับกับมือคุณสักนิด หรือคุณจะเลือกเสื้อผ้า ตัวที่คุณถูกใจ มันอาจใส่ไม่ได้ ไม่พอดีกับตัวคุณ



              การเลือกซื้อดาบก็เช่นกัน เขาตระเวนตั้งแต่ท้ายซอยจนเกือบจะถึงต้นซอย ก็ยังไม่มีวี่แววของดาบที่เขาคิดว่า ‘ใช่’ จวบจนบัดนี้ดวงตะวันก็ลอยอยู่เหนือหัวแล้ว  ‘กราวิน เลนด์’ เพื่อนของเขาจึงชวนไปนั่งทานข้าวก่อน เมื่อทานข้าวเสร็จ เลนาร์ดก็มองไปรอบๆ โต๊ะที่เขานั่งอยู่ริมหน้าต่างพอดีจึงทำให้สามารถมองออกไปนอกร้านระหว่างรอเพื่อนที่นั่งทานอยู่ แล้วสายตาของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับร้านขายดาบร้านหนึ่ง ประจวบเหมาะกับที่กราวินทานเสร็จ ทั้งสองจึงรีบจ่ายเงินแล้วไปเดินดูดาบ



              เมื่อเข้าไปในร้าน ก็ได้กลิ่นของโลหะคละเคล้าไปกับกลิ่นอายแห่งอัศวินที่ทางร้านจัดได้อย่างลงตัว ดาบนานาชนิด สลับกับภาพของอัศวินในยุคต่างๆ ทั้งขี่ม้าและถือดาบ ใบหน้าเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น สร้างบรรยากาศให้เป็นร้านขายดาบได้อย่างดีเยี่ยม แท่นโชว์ดาบไม่มีตู้กระจก สามารถหยิบลองได้ตามใจชอบ ร้านนี้ไม่มีพนักงานไว้บริการลูกค้า มีแต่เจ้าของร้านซึ่งเป็นชายวัยกลางคนท่าทางเป็นมิตรนั่งเฝ้าอยู่ที่เคาน์เตอร์ซึ่งตั้งไว้กำกับประตู แม้ว่าร้านนี้จะไม่เล็กอย่างร้านขายคทาที่ผ่านมา แต่กลับไม่มีวี่แววของมนุษย์ในร้านนี้ ทั้งๆที่ออกจะดูดี แต่ ทำไมไม่มีคนเข้าเลย แต่ถ้าจะว่าไป ทำไมตอนแรกเขาไม่เห็นร้านนี้..?



              ‘มันอาจต้องมองดีดี’ เขาให้บทสรุปแก่สมองที่กำลังทำงานหนักกับเรื่องไร้สาระ แล้วหันไปสนใจดาบต่อ



              เขาเดินดูไปเรื่อยๆ รู้สึกว่ามีดาบที่ดีหลายเล่ม แต่ก็ไม่สามารถจับแล้วถนัดกับมือของตนเลยสักเล่ม เขาลองแล้วลองอีกมานานกว่าชั่วโมง และแล้ว ก็มาถึงด้ามสุดท้ายของร้านนี้ ดาบใหญ่สองคมสีเงินแวววาว ใบมีดมีการสลักเป็นอักษรสีแดงที่ดูมีมนตร์ขลังว่า ‘F L A M E O F H E L L’ มีรูบี้สีแดงเพลิงเม็ดหนารูปเปลวเพลิงฝังอยู่ท้ายคำ มองเห็นได้ทั้งสองด้าน ด้ามจับสลักลวดลายเปลวเพลิงพันวนรอบๆ คมคาบพราวระยับ เลนาร์ดพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเขาก็หยิบมันมาลองดู...น้ำหนักพอดี ขนาดพอเหมาะ ด้ามดาบพอมือ จับถนัด แล้วเขาก็ลองสะบัด



              ...ฉับ...



              ‘แรงเหวี่ยงพอดี ความถ่วงใช้ได้’ ความคิดของเด็กหนุ่ม พลันทดสอบดาบตรงหน้าต่างๆนานา ในที่สุดดาบเล่มนี้ก็...



              “ใช่”



              “อะไรนะ” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลแดงถามขึ้น

              “เอาเล่มนี้” เด็กหนุ่มอีกคนตอบกลับอย่างไม่ค่อยสนใจ วินาทีนี้ เขาสนดาบตรงหน้ามากกว่า จึงหยิบดาบไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์

              

              “เท่าไรครับ” นัยน์ตาสีน้ำเงินคู่สวยจับจ้องอยู่แต่ดาบในมือ

              “2,000 เอิร์น แล้วกัน” เจ้าของร้านบอกอย่างอารมณ์ดี ในช่วงที่เลนาร์ดกำลังจะควักเงินจ่าย กราวินที่เพิ่งรู้สึกตัวก็เดินมาพอดี

              “โธ่ลุง ทำไมมันแพงอย่างนี้อะ” นัยน์ตาคมสีน้ำตาลเข้มกำลังมองดาบเจ้าปัญหาอยู่เช่นกัน

              “แล้วรู้มั้ยล่ะว่าดาบนั่นทำมาจากอะไร ไอ้เม็ดแดงๆเขาเรียกว่ารูบี้ ใบมีดคมๆนั่นน่ะเหล็กกล้า ส่วนด้ามจับที่มือนั่นแพลตตินั่มเชียวนะโว้ย 2,000 ไม่แพงแล้วนา จะเอารึเปล่าล่ะ” ชายวัยกลางคนยังรักษาอารมณ์ได้อยู่

              “เอาเล่มนี้แหละครับ” น้ำเสียงบ่งบอกถึงความแน่วแน่อย่างเต็มที่ แล้วเจ้าตัวก็ล้วงมือลงไปในกระเป๋าอีกครั้ง



               เมื่อออกมาจากร้านเลนาร์ดก็รู้สึกได้ถึงความเบาสบาย พอสำรวจในกระเป๋าอีกก็รู้ได้ถึงต้นเหตุที่แท้จริงของความสบายที่ได้รับ ตอนนี้เขาเหลือเงินในกระเป๋าไม่ถึง 3,000 เอิร์น ที่เขาจะต้องซื้อชุดเกราะ 1 ชุด กับ อาวุธลับประจำตัวอีก 1 อย่าง



              ชุดเกราะที่เลนาร์ดเลือกมาเป็นแบบสามารถใส่ได้ทั้งภายในเสื้อ(เกราะอ่อน)ที่ทำจากใยเคฟล่าร์อย่างดีถักทอผสมกับใยไหม และสามารถนำไปประกอบกับแผ่นเหล็กน้ำหนักเบาอีกชั้นเพื่อใส่ทับด้านนอก ตัวเกราะสีน้ำเงินเข้ม ปลอกแขนสีกรมท่าเข้าชุดกัน แลดูงามสง่ายิ่งนัก ทุกชิ้นสลักตัวอักษร ‘L’ ส่วนเรื่องราคาก็ปาเข้าไปเฉียดๆสองพันเอิร์น



              “ในกระเป๋านายเหลือตังค์เท่าไหร่อะ” กราวินเอ่ยขึ้นหลังจากที่เขาสองคนเดินออกมาจากร้านขายชุดเกราะ

              “ประมาณ...พันกว่าเอิร์น” ผู้ถูกถามตอบเมื่อนับเงินส่วนที่เหลือเสร็จ

              “ก็ดี เพราะนายต้องเอาส่วนที่เหลือไปซื้ออาวุธของตัวเองอีกแค่อย่างเดียว” แล้วทั้งคู่ก็เดินไปร้านขายอาวุธลับต่อ



              ร้านขายอาวุธลับมีเพียงแค่แห่งเดียวเท่านั้น อาวุธแต่ละชิ้นของแต่ละคนจะไม่ซ้ำกัน อาวุธทุกชิ้นถูกห่อหุ้มด้วยลูกเหล็กอย่างดี อย่างที่ไม่มีใครสามารถเปิดได้นอกจาก...เจ้าของ

              

              พวกมันถูกลงอาคมไว้เพื่อให้เลือก ‘เจ้าของ’ ของมันเอง เพราะฉะนั้น ‘เจ้าของ’ จะต้องเป็นผู้ที่ ‘อาวุธแห่งจิตวิญญาณ’ เลือกเองเท่านั้น พวกเขาทั้งหมดที่ถูกสิ่งเหล่านี้เลือกก็จะต้องศึกษาหาวิธีในการใช้อาวุธ ไปจนถึงวิธีที่ทำให้อาวุธของตัวเองตอบสนองความต้องการจากจิตใต้สำนึกของตน



              +ชาวเพียเรสท์เชื่อว่า ยิ่งอาวุธแห่งจิตวิญญาณเข้าถึงได้ยากเพียงใด มันจะมีพลังมากเท่านั้น+



              ทั้งสองเดินไปจนถึงต้นซอย แล้วทั้งคู่ได้พบกับร้านขายอาวุธตามที่ต้องการ ตัวร้านถือได้ว่ามีขนาดใหญ่มากโดยเฉพาะมาอยู่ตรงหัวมุมของถนนยิ่งเพิ่มความอลังการเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว แถมยังมีผู้คนเนืองแน่น จนทำให้ร้านเล็กไปขนัดตา



              ตัวร้านเป็นอาคารทรงห้าเหลี่ยม สร้างให้เข้าล็อกหัวมุมของถนนอย่างลงตัวพอดิบพอดี ภายในแบ่งออกเป็น 3 โซน โซนแรกเป็นส่วนที่รับบัตรคิวเพื่อเข้าไปสู่โซนถัดไป ส่วนโซนที่สองเป็นส่วนเลือกอาวุธ(หรือที่จริงก็คืออาวุธเลือก) และโซนสุดท้าย โซนที่สาม เป็นเพียงเคาน์เตอร์จ่ายเงินค่าอาวุธเท่านั้น



              พวกเขาเดินเข้าไปในร้าน บรรยากาศในร้านคึกคักน่าดู ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างมา ‘ให้อาวุธเลือก’ กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ในโซนที่หนึ่ง พวกเขาต่างเบียดเสียดกันเพื่อไปเอากระดาษแผ่นเดียว ที่มีชื่อเรียกอย่างดีว่า ‘บัตรคิว’



              เพียงแต่พวกเขาฉลาดพอที่จะไม่ทำเช่นนั้น (เพราะอาจเสียฟอร์ม) แค่อาศัยทริคเล็กๆน้อยๆ ที่สามารถทำได้เท่านั้น เลนาร์ดก็ได้เจ้ากระดาษที่เป็นต้นเหตุมาครอบครองอย่างง่ายดาย



              เมื่อ 1 นาที ที่แล้ว



              “เอาไงดี” เด็กหนุ่มคนหนึ่งถาม นัยน์ตาสีน้ำเงินส่อแววเครียดมองไปยังฝูงชนเบื้องหน้า

              “เดี๋ยวฉันจัดการให้” อีกคนตอบพลางหลุบนัยน์ตาลง แล้วพึมพำอะไรบางอย่าง ที่ไม่สามารถจับใจความได้เพราะเสียงตะโกนโหวกเหวกของคนในร้าน



              “ได้แล้ว” พลันเปลือกตาเปิดขึ้นเผยให้เห็นนัยน์ตาเข้มสีน้ำตาลที่ทอประกายระริกอย่างผู้มีชัย พร้อมกับชูกระดาษใบเล็กแผ่นหนึ่งให้ดู ในกระดาษเขียนหมายเลขสี่หลักไว้ แล้วทั้งคู่ก็ไปหาที่นั่งรอเรียกกัน



              สักพัก ก็มีประกาศเรียกหมายเลขในมือของเลนาร์ดเพื่อเข้าไปยังโซนที่สอง เขาส่งบัตรคิวให้พนักงานแล้วเดินเข้าไป



              ในโซนที่สองมีการแบ่งเป็นห้องๆ จำนวนกว่าสิบห้อง เมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องๆหนึ่ง ประตูก็ปิดลงทันที ภายในห้องมีแบล็กโฮลหรือหลุมดำขนาดใหญ่หนึ่งหลุม แต่มันเป็นหลุมที่เอาไว้สำหรับปล่อยออกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เด็กชายหลับตา เพ่งสมาธิไปที่แบล็กโฮล แล้วหลุมดำตรงหน้าก็เริ่มทำงาน ลูกเหล็กขนาดเท่าศีรษะของเด็กชายก็ลองเคว้งคว้างมาตกอยู่เบื้องหน้าเขา



              ...ตึก...



              เมื่อได้ยินเช่นนั้น เด็กหนุ่มก็ค่อยๆขยับเปลือกตาขึ้น แล้วก็นำลูกเหล็กตรงหน้าไปจ่ายเงินยังโซนสุดท้าย โซนที่สามก็มีแค่แคชเชียร์จ่ายเงินที่แบ่งเป็นล็อกๆเท่านั้น และแล้วเลนาร์ดก็เสียเงินไปอีกพันเอิร์น



              เมื่อความร้อนในยามบ่ายหมดไป อาทิตย์เริ่มคล้อยสู่ทิศตะวันตก สายลมเอื่อยเริ่มพัดมา เหล่าปักษาเริ่มบินกลับรังนอน



              เด็กหนุ่มทั้งสองก็ได้เวลาที่จะต้องกลับโรงเรียน ในเมื่อพวกเขาได้สิ่งที่ต้องการครบถ้วน จึงเริ่มต้นเดินทางเพื่อไปสู่สถานที่พำนักชั่วคราว



              ‘โรงเรียน’



             และเมื่อทั้งสองถึงจุดหมาย ด้วยความที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน เมื่อทุกคนทานข้าวเสร็จก็ต่างแยกย้ายกันไปนอน และผล็อยหลับอย่างรวดเร็ว…



    -------------------------------------------------------



    ง่า ลงใช้ไปนิดส์(เยอะ)



    ขอโต้ดคร้าบ >/\\<



    ป.ล ไอเก๊กมันเว่อร์ไปเปล่า ยังไงก็คอมเมนท์บอกนิดนะคับ^^



    GegKung
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×