ลำดับตอนที่ #1
ตั้งค่าการอ่าน
ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : (1)
เทพบุตร...สุดวิสัย! (1)
คิ้วเรียวงามขมวดมุ่น ริมฝีปากสีสดเม้มแน่น ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนขุ่นขวางขณะจ้องมองผู้ที่กำลังใช้ความคิดอย่างหนักซึ่งนั่งอยู่ต่อหน้าหล่อน มีเพียงเรือนผมสีเดียวกับสีของดวงตาเท่านั้นที่นิ่งสนิท อภัณตรีเป็นหญิงสาววัยเบญจเพสที่มีความอดทนต่ำกับเรื่องที่ตัวเองต้องมีส่วนพัวพันด้วยและหล่อนก็ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆจากเพื่อนร่วมโต๊ะแม้แต่น้อย ดูเหมือนภัทรา…เพื่อนผู้มีวัยมากกว่าหล่อนเพียงปีเดียวจะล่วงรู้อารมณ์ของอีกฝ่าย หากหล่อนก็ยิ้มอ่อนๆก่อนเอ่ยอย่างใจเย็นว่า
\"ขอโทษจริงๆนะตรี ตอนนี้ชั้นยังนึกไม่ออกเลยว่าจะช่วยหาแฟนกำมะลอให้เธอได้ยังไง\"
\"ก็เพื่อนแฟนเธอที่โสดสนิทไม่มีบ้างเลยเหรอ\"
\"ส่วนมากก็มีเจ้าของ เธอเล่นเจาะจงเอาคนที่ไม่มีแฟน ชั้นก็ต้องคิดนานเป็นธรรมดา\"
\"เพราะชั้นไม่อยากจะมีปัญหาทีหลังน่ะสิ\" เจ้าตัวบอกเสียงห้วน
\"เข้าใจๆ แต่พ่อแม่เธอก็ทำไปเพราะเป็นห่วงเธอนั่นแหละ\" เพื่อนสาวพยายามปลอบประโลม
\"ห่วงทรัพย์สมบัติมากกว่า คงกลัวว่าคนที่จะมาเป็นเขยจะปอกลอกล่ะมัง\" อภัณตรีพูดอย่างประชดประชันบุพการีที่ไม่ได้มาอยู่ฟังถ้อยคำพูดของหล่อน
\"เขยอย่างคุณกำพล แฟนเธอเหรอ\" ภัทราถามอย่างรู้คำตอบดีแก่ใจ
\"ฮื่อ พวกท่านเกรงว่าคุณกำพลจะมาไม่ซื่อ\" เสียงของคนพูดแผ่วลงจนเพื่อนร่วมโต๊ะแทบจะตามอารมณ์ของอีกฝ่ายไม่ทัน
\"เท่าที่วุฒิบอก คุณกำพลน่ะการศึกษาก็ดี ชาติตระกูลก็ดี แค่รวยน้อยกว่าบ้านเธอนิดเดียว\"
\"ชั้นก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพวกท่านถึงกีดกันนัก\" พอจบถ้อยความ อารมณ์ที่ยังคุกรุ่นของอภัณตรีก็ปะทุขึ้นอีกระลอกทำเอาภัทรานึกคิดในใจว่า
\'อารมณ์แปรปรวนดีแท้ ไม่รู้คุณกำพลทนได้ไง\'
ทว่าประโยคที่ออกจากปากกลับเป็น
\"ตรีนี่น้า พอเจอเรื่องไม่ถูกใจก็พาลขวางหูขวางตาไปหมด\"
\"ภัท!\" หญิงสาวเรียกขานนามของเพื่อนสาวด้วยเสียงที่เข้มอย่างโกรธจัด
\"จ้าๆ ขอโทษที่พูดตรงๆ\" ภัทรายอมอ่อนข้อให้อีกฝ่ายด้วยความเคยชินพลางลอบทอดถอนใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับนิสัยของอภัณตรี
\"ชั้นจะให้วุฒิช่วยคิดอีกคนละกัน\" หล่อนหมายถึงคนรักที่คบกันมา 2 ปีและยังเป็นหนึ่งในผู้บริหารกิจการโรงแรมรวมถึงรีสอร์ทอีกหลายแห่ง
\"ชั้นอยากได้คำตอบภายในวันนี้ ภัทรา\" คนพูดบอกแกมออกคำสั่ง
\"จ้าแม่คุณ\" ภัทรารับคำง่ายๆเพราะไม่อยากรับฟังอะไรจากเพื่อนสาวให้ต้องร้อนหู
\"งั้นกลับล่ะ\" เจ้าตัวบอกสั้นๆ
\"อะไร จะรีบไปไหนตรี\" ผู้เป็นเพื่อนถามยิ้มๆอย่างรู้เท่าทันความคิดของคนเป็นเพื่อน
\"รู้แล้วยังจะถามอีก\" อภัณตรีโต้กลับทันควัน
\"นัดกับคุณกำพลสิท่า\" ภัทรากระเซ้าเพื่อนสาว
\"ย่ะ!\" คนตอบกระแทกเสียงพลางผุดลุกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว
\"นี่คุณกำพลรู้เรื่องรึยัง\" คู่สนทนาถามอย่างนึกขึ้นมาได้
\"อย่าพูดเชียว!\" อภัณตรีกำชับหนักแน่นด้วยสีหน้าสีตาเอาเรื่องจนอีกฝ่ายต้องจำยอมพยักหน้ารับคำอย่างหวาดเกรงคนเป็นเพื่อน
\"จำไว้ให้ดีล่ะเพื่อนรัก\" หล่อนย้ำเตือนพร้อมกับยิ้มหวานให้ภัทรา
ทว่าคนที่ยังนั่งอยู่กับโต๊ะทำงานภายในบริษัทของพี่ชายกลับรู้สึกร้อนๆหนาวๆกับรอยยิ้มของอภัณตรี และหล่อนก็รู้ดีที่สุดว่าหากหล่อนเผลอหลุดปากบอกอะไรให้แฟนของเพื่อนสาวรับฟัง รับรองว่าอภัณตรีจะต้องเล่นงานหล่อนจนอ่วมอรทัยแน่ เพราะยามที่เพื่อนสาวผู้มีรูปโฉมงดงามดุจเทพธิดาของหล่อนเกิดโทสะจนถึงขีดสุด การแสดงออกของเพื่อนสาวก็ย่อมจะตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับรูปร่างหน้าตาที่หมดจดซึ่งทำให้ภัทรารู้สึกเหมือนเผชิญหน้าอยู่กับนางมารอย่างไรก็อย่างนั้นเลยทีเดียว
\"ชั้นจำจนขึ้นใจหรอกตรี\" ภัทรายิ้มเจื่อนๆ
\"ขอบใจมากจ้ะภัทรา\" พูดจบอภัณตรีก็เดินจากไป
ภัทรามองตามแผ่นหลังที่ตรงแน่วของคนเป็นเพื่อนด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ นี่ถ้าอภัณตรีจะมีความอ่อนหวานสมกับ ใบหน้าของเจ้าตัวก็คงจะดีไม่น้อย หากความเป็นจริงนิสัยที่ติดจะก้าวร้าวเมื่อไม่ได้ดังใจเป็นเรื่องน่ากวั่นเกรงสำหรับผู้คนรอบข้างเสียยิ่งนัก ด้วยความที่เจ้าหล่อนเป็นบุตรีเพียงคนเดียวของผู้มีฐานะและมีหน้ามีตาในวงสังคม ผู้เป็นบิดามารดาก็ย่อมจะรักและตามใจเป็นธรรมดา แม้แต่งานการของบุตรี พวกท่านก็ยังโอนหุ้นที่มีเกินกว่าครึ่งหนึ่งในบริษัทส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับให้หล่อน หล่อนเพียงอยู่ในฐานะผู้บริหารที่อยู่เฉยๆก็มีเงินจับจ่ายใช้สอย ผิดกับภัทรา…ผู้เป็นบุตรีคนเล็กของครอบครัวที่ต้องทำงาน…กับพี่ชายซึ่งประกอบธุรกิจจำหน่ายเครื่องสุขภัณฑ์อันเป็นกิจการของครอบครัว แต่จะพูดไปฐานะทางบ้านของหล่อนเมื่อเทียบกับอีกฝ่ายก็แค่ด้อยกว่าเพียงน้อยนิดซึ่งหล่อนก็ไม่เคยเก็บมาคิดหรือใส่ใจให้รกสมอง เพราะหล่อนมีความสุขในชีวิตทุกประการโดยเฉพาะมีสิทธิ์เลือกคนที่หล่อนรัก หล่อนยังจะต้องการสิ่งใดอีก สงสารก็แต่อภัณตรี…เพื่อนสาวที่บุพการีกำลังจะจับคลุมถุงชน
และแล้วเสียงเคาะประตูห้องก็ทำให้ภัทราหลุดจากห้วงแห่งความคิด หล่อนจึงออกปากอนุญาตให้ผู้ขอพบเข้ามา
\"เชิญค่ะ\"
ภาสกรบิดลูกบิดก่อนเปิดประตูห้องทำงานของผู้เป็นน้อง
\"คิดว่าใครเหรอภัท\" พูดจบเขาก็ปิดประตูตามหลัง
\"ก็ไม่คิดว่าใครหรอกค่ะ\" ผู้เป็นน้องยอกย้อนอย่างกวนประสาท
\"เมื่อครู่พี่เดินสวนกับตรีแน่ะ แสดงว่าตรีเอาปัญหามาให้เรา \'อีก\' ล่ะสิ รู้มั้ยพี่เห็นตรีทีไรพี่ก็เห็นเค้าของความยุ่งยากตามมาด้วยทุกที\" ผู้เป็นพี่บอกอย่างไม่ใส่ใจกับคำพูดยั่วอารมณ์ของน้องสาว
\"พี่กรรู้ดีจังค่ะ\" หล่อนยิ้มกว้างผิดกับใบหน้าที่มีร่องรอยเคร่งขรึม
\"บอกปัญหาของเพื่อนเรามา พี่จะช่วย\" ภาสกรเสนอตัวอย่างอารมณ์ดี
\"เสียดายพี่กรมีแฟนแล้ว ไม่งั้นภัทจะให้พี่แสดงละครตบตาพ่อแม่ของตรีเขา\"
\"ให้เป็นแฟนตรี ไม่ไหวหรอก พี่ขอสละสิทธิ์ทันทีเลยน้องเอ๋ย\" เขารีบบอกทันควันก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า
\"ช่วยอธิบายขยายความหน่อยภัท\"
ภัทรายอมบอกเล่าเรื่องราวของเพื่อนสาวโดยดีเพราะตัวหล่อนเองก็ใช่ว่าจะเป็นนักแก้ปัญหาตัวยง อีกอย่างพี่ชายที่ดีก็มีหน้าที่ต้องช่วยเหลือน้องสาวอยู่แล้ว
หากเมื่อสิ้นเสียงของผู้เป็นน้อง ดวงตาสีดำสนิทดุจนิลก็ฉายแววครุ่นคิดอย่างชัดแจ้ง และภัทราก็ทราบในวินาทีนั้นว่าเขากำลังก่อร่างความคิดของตนอย่างเงียบๆ ความสงัดที่เข้าคั่นกลางระหว่างสองพี่น้องทำให้บรรยากาศตึงเครียดอย่างเฉียบพลันและดำเนินอยู่เป็นนานกว่าทั้งภัทราทั้งภาสกรจะประสานเสียงขึ้นอย่างคิดเห็นตรงกันโดยบังเอิญ
\"เพื่อนวุฒิคนนั้น!\"
\"พี่กรหมายถึงใครคะ\" ผู้เป็นน้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากถาม
\"เราหมายถึงใครล่ะ\" เขากลับย้อนถาม
\"คุณรัชนนท์ เศรษฐสิทธิ์โชติ ค่ะ\"
\"พี่ก็คิดเหมือนเรานั่นแหละ\" ภาสกรพูดยิ้มๆ
\"ไหวเหรอคะ คุณนนท์กับตรี\" คิดขึ้นมาหล่อนก็ให้รู้สึกว่าขืนให้คนสองคนที่มีนิสัยคล้ายๆกันมาเจอกัน…มีหวังแย่
\"คุณนนท์ก็อารมณ์ร้ายพอๆกันกับตรี เราไม่คิดเหรอ บางทีพวกเขาอาจเหมาะสมกัน\" ผู้เป็นพี่พูดอย่างนึกสนุก
\"พี่กรคิดได้ไงคะเนี่ย\" ผู้เป็นน้องไม่นึกสนุกไปกับพี่ชายของหล่อนสักนิด
\"อ้าว แค่คิดว่าคุณนนท์เขาก็ใช่ย่อย เขาอาจจะสยบตรีได้\"
\"จะแตกหักสิไม่ว่า\"
\"เราเองก็ยังคิดเหมือนพี่นี่\"
\"ภัทเห็นว่าเขายังไม่มีแฟนต่างหากล่ะคะพี่กร เพราะเพื่อนๆของวุฒิส่วนมาก ถ้าไม่แต่งงานก็ควงหญิงกันอยู่\"
\"หึๆ เหรอ คิดคนละแง่กันแฮะ\"
\"เขาเป็นทางออกสุดท้ายกระมังคะพี่กร\"
\"ก็ลองเจรจากับเขาก่อน เผื่อเขาไม่อยากเล่นด้วย\"
\"ค่ะ ภัทก็ว่าจะให้วุฒิช่วยพูด ไว้ใกล้เที่ยงภัทจะโทร.หาวุฒิแล้วค่อยให้เขาเกลี้ยกล่อมคุณนนท์\"
\"คงจะเป็นมื้อเที่ยงที่แสนอร่อย ยังไงพี่ก็จะรอฟังข่าวดี แหม พูดตรงๆนะภัท งานนี้น่าสนใจทีเดียว\" นัยน์ตาของภาสกรเป็นประกายวิบวับ
\"ค่ะ น่าสนใจ\" ภัทราพูดขรึมๆ
\"เอาน่าภัท ร่าเริงหน่อย นี่น่ะความหรรษาสุดยอดแห่งรอบปี\"
\"พี่กรขา ตรีเป็นเพื่อนภัทนะคะ\" น้ำเสียงของหล่อนมีร่องรอยข่มขู่เขาอย่างชัดเจนเพราะหล่อนคงจะยอมให้ใครต่อใครเห็นเพื่อนสาวของหล่อนเป็นเครื่องสร้างความบันเทิงอยู่หรอก
ผู้เป็นพี่ปิดปากสนิทแทบจะในทันใดพลางแสร้งก้มดูนาฬิกาข้อมือของตน
\"สิบโมงละ พี่ขอตัวไปทำงานต่อดีกว่า พอดีอีกครึ่งชั่วโมงลูกค้าจะมาพบ\" เขาบอกง่ายๆอย่างรู้อารมณ์ของภัทรา
\"ตามสบายค่ะ\" ผู้เป็นน้องบอกเสียงเรียบด้วยดวงตาฉายแววดุดันอยู่ในที
\"ลาล่ะครับคุณน้องสาวที่เคารพ\" ภาสกรบอกอย่างล้อเลียน
เจ้าของห้องรับรู้ด้วยอาการนิ่งเฉย และพอคล้อยหลังพี่ชาย หล่อนก็เอนหลังกับพนักเก้าอี้พร้อมๆกับระบายลมหายใจหนักๆ
ด้านอภัณตรีผู้ปั้นสีหน้าให้ยิ้มแย้มแจ่มใสเมื่ออยู่กับคนรักซึ่งตรงกันข้ามกับใจของหล่อนที่กำลังร้อนรุ่มด้วยฤทธิ์ของปัญหาที่รุมเร้าเล่นงานหล่อนโดยไม่ยอมให้หล่อนมีความสุขแม้เศษเสี้ยวนาที นั่นทำให้อภัณตรีต้องพยายามข่มใจอย่างมากจนหล่อนแทบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่
\"ตรีเป็นอะไรเหรอครับ\" กำพลเอ่ยถามด้วยสายตาที่อ่อนโยนอย่างเป็นห่วงเป็นใยหญิงสาว
\"เปล่าค่ะ\" หล่อนปดหน้าซื่อตาใส
\"เอ จริงเหรอครับ\" เขาย้ำถามอย่างไม่แน่ใจกับคำพูดของอภัณตรีเท่าใดนัก
\"จริงค่ะ\" หล่อนยืนยันหนักแน่น
กำพลยิ้มน้อยๆอย่างต้องการเอาใจ
\"เราไปดูชุดที่ร้านประจำของตรีกันมั้ย\" เขาชักชวนหล่อน
\"ค่ะ\" อภัณตรีรับคำอย่างไร้อารมณ์เพราะหล่อนห่วงพะวงและปริวิตกกับสิ่งที่ผู้เป็นบิดามารดาสร้างขึ้นมาเพื่อให้หล่อนต้องเผชิญอย่างขัดใจ
ชายหนุ่มผู้มีวัยมากกว่าหญิงคนรักเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อแห่งหนึ่ง เขาจัดเป็นชายหนุ่มผู้มีหน้าตาดี มีการศึกษาด้วยปริญญาบัตรจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในประเทศสหรัฐอเมริกา กิริยาวาจาของเขาก็สุภาพ ทั้งยังรู้จักวิธีเอาชนะใจ ผู้หญิง กำพลจึงเป็นชายหนุ่มที่เนื้อหอมและดึงดูดเพศตรงข้ามไม่น้อย หากเขาก็รู้จักนิสัยใจคอของคนรักผู้มีความหึงหวงอย่างมากต่อตัวเขา แน่ล่ะ เขารู้ว่าควรประพฤติตัวอย่างไรเพื่อไม่ให้หล่อนเกิดความเคืองโกรธและรู้วิธีคลายโทสะของอภัณตรีในยามที่เขาต้องงอนง้อหล่อน ซึ่งกำพลก็ทำให้หญิงสาวอยู่มือเสียด้วย
\"ผมว่าชุดสีชมพูเหมาะกับตรีมากเลย\" ชายหนุ่มเสนอความคิดด้วยรอยยิ้มเก๋
\"ชุดราตรีเหรอคะ\" หญิงสาวถามเสียงเรียบ
\"ครับ\"
\"ตรีลองชุดนะคะพล\" หล่อนสนองตอบต่อถ้อยคำเสนอแนะของเขาอย่างว่าง่าย
\"ผมกำลังอยากเห็นคุณในชุดสวย ผมกล้ารับประกันว่าถ้าคุณออกงาน คุณต้องโดดเด่นกว่าใคร\" กำพลพูดอย่างชื่นชมคนรักเต็มที่
\"ที่คุณพูดน่ะแปลว่าปรกติตรีไม่สวยเหรอคะ\" อภัณตรีแสร้งทำท่างอน
\"ใครว่า คุณน่ะสวยที่สุดในสายตาผมเลย\" เขาพูดด้วยดวงตาที่เป็นประกายพราวระยับทำเอาคนรักหน้าแดงเรื่อด้วยความเขินอาย
\"อายเขามั่งสิคะพล\" หล่อนหน้าร้อนซู่เพราะได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของพนักงานขายในร้านสองคนที่บังเอิญได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม
\"เรื่องจริงนี่จะอายทำไม\" ชายหนุ่มพูดหน้าตาเฉยอย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้าน
\"กำพล\" หญิงสาวเรียกขานนามเต็มของเขาเป็นเชิงร้องขอให้เขาหยุดเกี้ยวหล่อนต่อหน้าธารกำนัล
\"โอเค ผมขอโทษ ผมหยุดละ\"
\"ตรีไม่โกรธ แต่คราวหลัง…\" หล่อนพูดไม่ทันจบถ้อยความ ปลายนิ้วชี้ของเขาก็แตะริมฝีปากได้รูปของหล่อนเสียก่อน
\"ผมเข้าใจ\" รอยยิ้มละไมปรากฏบนใบหน้าของกำพล
\"ขอบคุณค่ะ\" อภัณตรียิ้มตอบ
\"น้องๆ คุณตรีจะลองชุดแน่ะ\" เขาเรียกหาพนักงานขาย
พนักงานขายสาวสวยจึงทำหน้าที่ของหล่อนโดยไม่รอช้า
อภัณตรีใช้เวลากับการสวมใส่ชุดราตรีสีชมพูอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะออกจากห้องลองเสื้อเพื่อให้คนรักของหล่อนได้ยลโฉมอย่างเต็มตา
\"คุณสวยเกินกว่าที่ผมจินตนาการไว้\" ชายหนุ่มบอกหล่อนด้วยอาการตกตะลึง
\"พลก็…\" ใบหน้าของหญิงสาวแปรเปลี่ยนเป็นสีเข้มราวกับลูกตำลึงเพราะอากัปกิริยาและคำพูดของคนรัก
\"คุณสวยจริงๆนี่\"
\"พอเถอะค่ะ\" หล่อนพูดตัดบทเพราะเหลือบแลเห็นสองพนักงานสาวที่รู้เห็นเหตุการณ์ยืนอมยิ้มอยู่ใกล้ๆกัน
\"ตามบัญชาของเจ้าหญิงครับผม\" น้ำเสียงของกำพลแฝงร่องรอยขบขัน
อภัณตรีจึงกลับเข้าห้องลองเสื้อเพื่อเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าชุดเดิม และพอหญิงสาวกลับออกมาอีกครั้ง กำพลก็ถามซื้อชุดสวยจากพนักงานขายซึ่งเจ้าของร้านก็ยินดีลดราคาให้แก่ลูกค้าขาประจำ
\"คุณจะสิ้นเปลืองเงินทองทำไมคะ\" หญิงสาวถามคนข้างตัวระหว่างที่เดินดูร้านรวงต่างๆภายในห้างสรรพสินค้า
\"ผมเต็มใจ อีกอย่าง ใครเขาก็อยากจะให้แฟนของตัวเองดูดีทั้งนั้นล่ะครับ\" เขาตอบง่ายๆ
\"ทีหน้าทีหลังอย่าใช้เงินเพื่อตรีนะคะ\" หล่อนวอนขอแกมบังคับ
\"ผมรับทราบ\" กำพลยิ้มมุมปาก
\"แค่รับทราบกระมัง\" อภัณตรีส่ายหน้าน้อยๆอย่างรู้เท่าทันความคิดของอีกฝ่าย คนอย่างกำพลมีหรือจะเชื่อฟังหล่อน ทุกเรื่อง บางครั้งเขาก็หลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามความต้องการของหล่อนเหมือนกัน
\"ดูอะไรต่อดีตรี\" เขาพูดอย่างเสเปลี่ยนเรื่อง
\"กระเป๋ามั้ย\" ชายหนุ่มเป็นฝ่ายเสนอความเห็นเช่นเคย
\"ตามใจค่ะ\" หญิงสาวตอบอย่างรู้ตัวว่าหล่อนไม่ควรจะบังคับกะเกณฑ์เขาให้มากจนเกินขอบเขตและความอดทนอดกลั้นที่เขามีต่อหล่อน ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่หล่อนคบกับกำพล เขาเป็นฝ่ายตามใจและยอมลงให้หล่อนมาตลอดโดยไม่เคยปริปากบ่นหรือแสดงอาการไม่พอใจ หรือหนักใจเลยสักครั้ง ดังนั้น หล่อนก็ต้องรู้จักขอบเขตของตนเองเช่นกัน
\"อ้าว ต้องตามใจคุณถึงจะถูก มาตามใจผมก็หมดกัน\" กำพลหัวเราะร่วน
\"ก็ถ้าเป็นพล พลอยากจะดูอะไร\"
ชายหนุ่มยิ้มกริ่มแกมเจ้าเล่ห์ หญิงสาวจำต้องดักคอว่า
\"อะไรที่ผู้ชายชอบดู ตรีไม่เอาด้วยแน่ๆค่ะ\"
\"ว้า รู้ทันเหรอเนี่ย\"
\"รู้สิคะ\" หล่อนตอบเสียงเรียบ
\"ฮื่อ เพราะตรีเป็นแฟนผมนี่เนอะ\"
อภัณตรีหัวเราะเสียงใสอย่างอารมณ์ดีเพราะความปริวิตกในใจของหล่อนบรรเทาเบาบางลงมากแล้วจากการที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่หล่อนรัก นอกจากกำพลจะเป็นสุภาพบุรุษ เขายังรู้จักใช้คำพูดเพื่อสร้างรอยยิ้มให้แก่อีกฝ่ายซึ่งการพบปะพูดคุยกันเพียงไม่กี่ครั้งก็ไม่ยากที่เขาจะทำให้หล่อนชอบเขา
\"ค่ะ\"
\"ดีใจจังที่คุณยอมรับ\"
\"ถ้าตรีคิดจะปฏิเสธก็คงจะทำตั้งแต่ก่อนที่เราจะเริ่มคบกันล่ะค่ะ\"
\"อ้อ\" กำพลลากเสียง
\"คุณแกล้งทำเป็นซื่อไปได้\" หญิงสาวเหน็บ
\"ผมพูดเล่นต่างหาก\" ชายหนุ่มแก้ตัวน้ำขุ่นๆ
\"ไหลลื่นจังค่ะ\"
\"คุณก็ยังอุตส่าห์ไล่ทันผม\" เขาหัวเราะในลำคอหึๆ
\"ก็ใช้ใบข่อย\" หล่อนสวนกลับ
\"ตรีเห็นผมเป็นพ่อปลาไหลหรอกรึ\" กำพลแสร้งขมวดคิ้วนิ่วหน้าอย่างมีอารมณ์ขึ้นมาบ้าง
\"เปล่านะคะ ทีคุณยังพูดเล่น ตรีก็เอามั่ง\" อภัณตรีตอบโต้ทันควัน
\"ผมชักกลัวคุณ\" ชายหนุ่มพูดขรึมๆ
\"ให้มันจริงเถอะค่ะ\"
\"ครับๆ\" เขาฉีกยิ้ม
\"หิวรึยังครับตรี\" กำพลเสเปลี่ยนเรื่องคำรบสอง
\"เพิ่งจะสิบเอ็ดโมงเองค่ะพล\" เป็นคำตอบปฏิเสธจากปากของหล่อนที่ไม่ตรงกับคำถามของอีกฝ่าย
\"ไปไหนมา สามวาสองศอกแฮะ\" ชายหนุ่มยักไหล่
หากหญิงสาวหันขวับมองเขาอย่างขุ่นเคืองเพราะตั้งแต่เช้าอารมณ์ของหล่อนก็ใช่จะดีนัก ด้วยคำพูดหยอกล้อของเขาก็ทำให้พายุที่เริ่มสลายตัวกลับตั้งเค้าใหม่อย่างไร้ต้นสายปลายเหตุ
\"ถ้าผมพูดอะไรผิด ผมต้องขอโทษจริงๆ\" กำพลบอกอย่างรู้สำนึก
อภัณตรีสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดก่อนค่อยๆผ่อนออกอย่างช้าๆเพื่อสงบสติอารมณ์ของตนเพราะเกรงกำพลจะเข็ดขยาดกับนิสัยของหล่อนที่เป็นคนลมเพลมพัดง่าย
\"ค่ะ หมู่นี้ตรีรู้สึกหงุดหงิดบ่อยๆ\" หล่อนสารภาพ
\"เลือดลมผิดปรกติเหรอตรี\" ชายหนุ่มถามตรงๆด้วยสีหน้าเรียบเฉยทำให้ใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นสีเข้ม
อภัณตรีพยักหน้าแทนคำตอบ เออหนอ นี่หล่อนต้องโกหกเขาถึงสองครั้งสองคราเชียวหรือ
\"ผมเดาถูกอย่างไม่น่าเชื่อ\" เขาบอกด้วยความรู้สึกแปลกใจ
\"คนเราก็มีเดาถูกมั่งผิดมั่ง และก็เผอิญคุณเดาถูก\" หล่อนยกคำอธิบายมากล่าวอ้างอย่างอ่อนด้วยเหตุผล
\"ถูกของตรี\" กำพลยอมรับเสียอย่างนั้น
\"เรื่องกระเป๋า ผมนึกได้ละ ผมน่าจะซื้อกระเป๋าให้คุณสักใบ\" เขาพูดต่ออย่างเข้าข้างตัวเอง
\"พลคะ อย่าสิ้นเปลืองค่ะ\" หญิงสาวย้ำเตือนความจำให้กับเขา
\"อ๊ะ ผมขอโทษ เอ๊ะ ขอโทษครั้งที่เท่าไหร่เนี่ย\" ชายหนุ่มพูดติดตลก
และคำพูดของเขาก็ทำให้อภัณตรีหลุดเสียงหัวเราะคิกอย่างสุดจะกลั้น
\"เห็นมั้ย อารมณ์ของคุณดีขึ้น\" เขายั่วยิ้ม
\"ตรียกความดีให้คุณ\"
\"เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ\"
\"เกินไปค่ะ\"
\"เกินก็เกิน ดีกว่าขาด\" ชายหนุ่มเฉไฉไปเรื่อยๆ
\"ก่อนหน้า คุณจะชวนตรีทานข้าว\"
\"คุณหิว\" กำพลพูดเป็นเชิงถาม
\"จำเป็นต้องหิวค่ะ\" หล่อนพูดเหมือนประชด ทว่าบนใบหน้างามปรากฏรอยยิ้มอ่อนหวานจนคนมองไม่อาจจะคิดเป็นอื่น
คิ้วเรียวงามขมวดมุ่น ริมฝีปากสีสดเม้มแน่น ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนขุ่นขวางขณะจ้องมองผู้ที่กำลังใช้ความคิดอย่างหนักซึ่งนั่งอยู่ต่อหน้าหล่อน มีเพียงเรือนผมสีเดียวกับสีของดวงตาเท่านั้นที่นิ่งสนิท อภัณตรีเป็นหญิงสาววัยเบญจเพสที่มีความอดทนต่ำกับเรื่องที่ตัวเองต้องมีส่วนพัวพันด้วยและหล่อนก็ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆจากเพื่อนร่วมโต๊ะแม้แต่น้อย ดูเหมือนภัทรา…เพื่อนผู้มีวัยมากกว่าหล่อนเพียงปีเดียวจะล่วงรู้อารมณ์ของอีกฝ่าย หากหล่อนก็ยิ้มอ่อนๆก่อนเอ่ยอย่างใจเย็นว่า
\"ขอโทษจริงๆนะตรี ตอนนี้ชั้นยังนึกไม่ออกเลยว่าจะช่วยหาแฟนกำมะลอให้เธอได้ยังไง\"
\"ก็เพื่อนแฟนเธอที่โสดสนิทไม่มีบ้างเลยเหรอ\"
\"ส่วนมากก็มีเจ้าของ เธอเล่นเจาะจงเอาคนที่ไม่มีแฟน ชั้นก็ต้องคิดนานเป็นธรรมดา\"
\"เพราะชั้นไม่อยากจะมีปัญหาทีหลังน่ะสิ\" เจ้าตัวบอกเสียงห้วน
\"เข้าใจๆ แต่พ่อแม่เธอก็ทำไปเพราะเป็นห่วงเธอนั่นแหละ\" เพื่อนสาวพยายามปลอบประโลม
\"ห่วงทรัพย์สมบัติมากกว่า คงกลัวว่าคนที่จะมาเป็นเขยจะปอกลอกล่ะมัง\" อภัณตรีพูดอย่างประชดประชันบุพการีที่ไม่ได้มาอยู่ฟังถ้อยคำพูดของหล่อน
\"เขยอย่างคุณกำพล แฟนเธอเหรอ\" ภัทราถามอย่างรู้คำตอบดีแก่ใจ
\"ฮื่อ พวกท่านเกรงว่าคุณกำพลจะมาไม่ซื่อ\" เสียงของคนพูดแผ่วลงจนเพื่อนร่วมโต๊ะแทบจะตามอารมณ์ของอีกฝ่ายไม่ทัน
\"เท่าที่วุฒิบอก คุณกำพลน่ะการศึกษาก็ดี ชาติตระกูลก็ดี แค่รวยน้อยกว่าบ้านเธอนิดเดียว\"
\"ชั้นก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพวกท่านถึงกีดกันนัก\" พอจบถ้อยความ อารมณ์ที่ยังคุกรุ่นของอภัณตรีก็ปะทุขึ้นอีกระลอกทำเอาภัทรานึกคิดในใจว่า
\'อารมณ์แปรปรวนดีแท้ ไม่รู้คุณกำพลทนได้ไง\'
ทว่าประโยคที่ออกจากปากกลับเป็น
\"ตรีนี่น้า พอเจอเรื่องไม่ถูกใจก็พาลขวางหูขวางตาไปหมด\"
\"ภัท!\" หญิงสาวเรียกขานนามของเพื่อนสาวด้วยเสียงที่เข้มอย่างโกรธจัด
\"จ้าๆ ขอโทษที่พูดตรงๆ\" ภัทรายอมอ่อนข้อให้อีกฝ่ายด้วยความเคยชินพลางลอบทอดถอนใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับนิสัยของอภัณตรี
\"ชั้นจะให้วุฒิช่วยคิดอีกคนละกัน\" หล่อนหมายถึงคนรักที่คบกันมา 2 ปีและยังเป็นหนึ่งในผู้บริหารกิจการโรงแรมรวมถึงรีสอร์ทอีกหลายแห่ง
\"ชั้นอยากได้คำตอบภายในวันนี้ ภัทรา\" คนพูดบอกแกมออกคำสั่ง
\"จ้าแม่คุณ\" ภัทรารับคำง่ายๆเพราะไม่อยากรับฟังอะไรจากเพื่อนสาวให้ต้องร้อนหู
\"งั้นกลับล่ะ\" เจ้าตัวบอกสั้นๆ
\"อะไร จะรีบไปไหนตรี\" ผู้เป็นเพื่อนถามยิ้มๆอย่างรู้เท่าทันความคิดของคนเป็นเพื่อน
\"รู้แล้วยังจะถามอีก\" อภัณตรีโต้กลับทันควัน
\"นัดกับคุณกำพลสิท่า\" ภัทรากระเซ้าเพื่อนสาว
\"ย่ะ!\" คนตอบกระแทกเสียงพลางผุดลุกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว
\"นี่คุณกำพลรู้เรื่องรึยัง\" คู่สนทนาถามอย่างนึกขึ้นมาได้
\"อย่าพูดเชียว!\" อภัณตรีกำชับหนักแน่นด้วยสีหน้าสีตาเอาเรื่องจนอีกฝ่ายต้องจำยอมพยักหน้ารับคำอย่างหวาดเกรงคนเป็นเพื่อน
\"จำไว้ให้ดีล่ะเพื่อนรัก\" หล่อนย้ำเตือนพร้อมกับยิ้มหวานให้ภัทรา
ทว่าคนที่ยังนั่งอยู่กับโต๊ะทำงานภายในบริษัทของพี่ชายกลับรู้สึกร้อนๆหนาวๆกับรอยยิ้มของอภัณตรี และหล่อนก็รู้ดีที่สุดว่าหากหล่อนเผลอหลุดปากบอกอะไรให้แฟนของเพื่อนสาวรับฟัง รับรองว่าอภัณตรีจะต้องเล่นงานหล่อนจนอ่วมอรทัยแน่ เพราะยามที่เพื่อนสาวผู้มีรูปโฉมงดงามดุจเทพธิดาของหล่อนเกิดโทสะจนถึงขีดสุด การแสดงออกของเพื่อนสาวก็ย่อมจะตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับรูปร่างหน้าตาที่หมดจดซึ่งทำให้ภัทรารู้สึกเหมือนเผชิญหน้าอยู่กับนางมารอย่างไรก็อย่างนั้นเลยทีเดียว
\"ชั้นจำจนขึ้นใจหรอกตรี\" ภัทรายิ้มเจื่อนๆ
\"ขอบใจมากจ้ะภัทรา\" พูดจบอภัณตรีก็เดินจากไป
ภัทรามองตามแผ่นหลังที่ตรงแน่วของคนเป็นเพื่อนด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ นี่ถ้าอภัณตรีจะมีความอ่อนหวานสมกับ ใบหน้าของเจ้าตัวก็คงจะดีไม่น้อย หากความเป็นจริงนิสัยที่ติดจะก้าวร้าวเมื่อไม่ได้ดังใจเป็นเรื่องน่ากวั่นเกรงสำหรับผู้คนรอบข้างเสียยิ่งนัก ด้วยความที่เจ้าหล่อนเป็นบุตรีเพียงคนเดียวของผู้มีฐานะและมีหน้ามีตาในวงสังคม ผู้เป็นบิดามารดาก็ย่อมจะรักและตามใจเป็นธรรมดา แม้แต่งานการของบุตรี พวกท่านก็ยังโอนหุ้นที่มีเกินกว่าครึ่งหนึ่งในบริษัทส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับให้หล่อน หล่อนเพียงอยู่ในฐานะผู้บริหารที่อยู่เฉยๆก็มีเงินจับจ่ายใช้สอย ผิดกับภัทรา…ผู้เป็นบุตรีคนเล็กของครอบครัวที่ต้องทำงาน…กับพี่ชายซึ่งประกอบธุรกิจจำหน่ายเครื่องสุขภัณฑ์อันเป็นกิจการของครอบครัว แต่จะพูดไปฐานะทางบ้านของหล่อนเมื่อเทียบกับอีกฝ่ายก็แค่ด้อยกว่าเพียงน้อยนิดซึ่งหล่อนก็ไม่เคยเก็บมาคิดหรือใส่ใจให้รกสมอง เพราะหล่อนมีความสุขในชีวิตทุกประการโดยเฉพาะมีสิทธิ์เลือกคนที่หล่อนรัก หล่อนยังจะต้องการสิ่งใดอีก สงสารก็แต่อภัณตรี…เพื่อนสาวที่บุพการีกำลังจะจับคลุมถุงชน
และแล้วเสียงเคาะประตูห้องก็ทำให้ภัทราหลุดจากห้วงแห่งความคิด หล่อนจึงออกปากอนุญาตให้ผู้ขอพบเข้ามา
\"เชิญค่ะ\"
ภาสกรบิดลูกบิดก่อนเปิดประตูห้องทำงานของผู้เป็นน้อง
\"คิดว่าใครเหรอภัท\" พูดจบเขาก็ปิดประตูตามหลัง
\"ก็ไม่คิดว่าใครหรอกค่ะ\" ผู้เป็นน้องยอกย้อนอย่างกวนประสาท
\"เมื่อครู่พี่เดินสวนกับตรีแน่ะ แสดงว่าตรีเอาปัญหามาให้เรา \'อีก\' ล่ะสิ รู้มั้ยพี่เห็นตรีทีไรพี่ก็เห็นเค้าของความยุ่งยากตามมาด้วยทุกที\" ผู้เป็นพี่บอกอย่างไม่ใส่ใจกับคำพูดยั่วอารมณ์ของน้องสาว
\"พี่กรรู้ดีจังค่ะ\" หล่อนยิ้มกว้างผิดกับใบหน้าที่มีร่องรอยเคร่งขรึม
\"บอกปัญหาของเพื่อนเรามา พี่จะช่วย\" ภาสกรเสนอตัวอย่างอารมณ์ดี
\"เสียดายพี่กรมีแฟนแล้ว ไม่งั้นภัทจะให้พี่แสดงละครตบตาพ่อแม่ของตรีเขา\"
\"ให้เป็นแฟนตรี ไม่ไหวหรอก พี่ขอสละสิทธิ์ทันทีเลยน้องเอ๋ย\" เขารีบบอกทันควันก่อนพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า
\"ช่วยอธิบายขยายความหน่อยภัท\"
ภัทรายอมบอกเล่าเรื่องราวของเพื่อนสาวโดยดีเพราะตัวหล่อนเองก็ใช่ว่าจะเป็นนักแก้ปัญหาตัวยง อีกอย่างพี่ชายที่ดีก็มีหน้าที่ต้องช่วยเหลือน้องสาวอยู่แล้ว
หากเมื่อสิ้นเสียงของผู้เป็นน้อง ดวงตาสีดำสนิทดุจนิลก็ฉายแววครุ่นคิดอย่างชัดแจ้ง และภัทราก็ทราบในวินาทีนั้นว่าเขากำลังก่อร่างความคิดของตนอย่างเงียบๆ ความสงัดที่เข้าคั่นกลางระหว่างสองพี่น้องทำให้บรรยากาศตึงเครียดอย่างเฉียบพลันและดำเนินอยู่เป็นนานกว่าทั้งภัทราทั้งภาสกรจะประสานเสียงขึ้นอย่างคิดเห็นตรงกันโดยบังเอิญ
\"เพื่อนวุฒิคนนั้น!\"
\"พี่กรหมายถึงใครคะ\" ผู้เป็นน้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากถาม
\"เราหมายถึงใครล่ะ\" เขากลับย้อนถาม
\"คุณรัชนนท์ เศรษฐสิทธิ์โชติ ค่ะ\"
\"พี่ก็คิดเหมือนเรานั่นแหละ\" ภาสกรพูดยิ้มๆ
\"ไหวเหรอคะ คุณนนท์กับตรี\" คิดขึ้นมาหล่อนก็ให้รู้สึกว่าขืนให้คนสองคนที่มีนิสัยคล้ายๆกันมาเจอกัน…มีหวังแย่
\"คุณนนท์ก็อารมณ์ร้ายพอๆกันกับตรี เราไม่คิดเหรอ บางทีพวกเขาอาจเหมาะสมกัน\" ผู้เป็นพี่พูดอย่างนึกสนุก
\"พี่กรคิดได้ไงคะเนี่ย\" ผู้เป็นน้องไม่นึกสนุกไปกับพี่ชายของหล่อนสักนิด
\"อ้าว แค่คิดว่าคุณนนท์เขาก็ใช่ย่อย เขาอาจจะสยบตรีได้\"
\"จะแตกหักสิไม่ว่า\"
\"เราเองก็ยังคิดเหมือนพี่นี่\"
\"ภัทเห็นว่าเขายังไม่มีแฟนต่างหากล่ะคะพี่กร เพราะเพื่อนๆของวุฒิส่วนมาก ถ้าไม่แต่งงานก็ควงหญิงกันอยู่\"
\"หึๆ เหรอ คิดคนละแง่กันแฮะ\"
\"เขาเป็นทางออกสุดท้ายกระมังคะพี่กร\"
\"ก็ลองเจรจากับเขาก่อน เผื่อเขาไม่อยากเล่นด้วย\"
\"ค่ะ ภัทก็ว่าจะให้วุฒิช่วยพูด ไว้ใกล้เที่ยงภัทจะโทร.หาวุฒิแล้วค่อยให้เขาเกลี้ยกล่อมคุณนนท์\"
\"คงจะเป็นมื้อเที่ยงที่แสนอร่อย ยังไงพี่ก็จะรอฟังข่าวดี แหม พูดตรงๆนะภัท งานนี้น่าสนใจทีเดียว\" นัยน์ตาของภาสกรเป็นประกายวิบวับ
\"ค่ะ น่าสนใจ\" ภัทราพูดขรึมๆ
\"เอาน่าภัท ร่าเริงหน่อย นี่น่ะความหรรษาสุดยอดแห่งรอบปี\"
\"พี่กรขา ตรีเป็นเพื่อนภัทนะคะ\" น้ำเสียงของหล่อนมีร่องรอยข่มขู่เขาอย่างชัดเจนเพราะหล่อนคงจะยอมให้ใครต่อใครเห็นเพื่อนสาวของหล่อนเป็นเครื่องสร้างความบันเทิงอยู่หรอก
ผู้เป็นพี่ปิดปากสนิทแทบจะในทันใดพลางแสร้งก้มดูนาฬิกาข้อมือของตน
\"สิบโมงละ พี่ขอตัวไปทำงานต่อดีกว่า พอดีอีกครึ่งชั่วโมงลูกค้าจะมาพบ\" เขาบอกง่ายๆอย่างรู้อารมณ์ของภัทรา
\"ตามสบายค่ะ\" ผู้เป็นน้องบอกเสียงเรียบด้วยดวงตาฉายแววดุดันอยู่ในที
\"ลาล่ะครับคุณน้องสาวที่เคารพ\" ภาสกรบอกอย่างล้อเลียน
เจ้าของห้องรับรู้ด้วยอาการนิ่งเฉย และพอคล้อยหลังพี่ชาย หล่อนก็เอนหลังกับพนักเก้าอี้พร้อมๆกับระบายลมหายใจหนักๆ
ด้านอภัณตรีผู้ปั้นสีหน้าให้ยิ้มแย้มแจ่มใสเมื่ออยู่กับคนรักซึ่งตรงกันข้ามกับใจของหล่อนที่กำลังร้อนรุ่มด้วยฤทธิ์ของปัญหาที่รุมเร้าเล่นงานหล่อนโดยไม่ยอมให้หล่อนมีความสุขแม้เศษเสี้ยวนาที นั่นทำให้อภัณตรีต้องพยายามข่มใจอย่างมากจนหล่อนแทบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่
\"ตรีเป็นอะไรเหรอครับ\" กำพลเอ่ยถามด้วยสายตาที่อ่อนโยนอย่างเป็นห่วงเป็นใยหญิงสาว
\"เปล่าค่ะ\" หล่อนปดหน้าซื่อตาใส
\"เอ จริงเหรอครับ\" เขาย้ำถามอย่างไม่แน่ใจกับคำพูดของอภัณตรีเท่าใดนัก
\"จริงค่ะ\" หล่อนยืนยันหนักแน่น
กำพลยิ้มน้อยๆอย่างต้องการเอาใจ
\"เราไปดูชุดที่ร้านประจำของตรีกันมั้ย\" เขาชักชวนหล่อน
\"ค่ะ\" อภัณตรีรับคำอย่างไร้อารมณ์เพราะหล่อนห่วงพะวงและปริวิตกกับสิ่งที่ผู้เป็นบิดามารดาสร้างขึ้นมาเพื่อให้หล่อนต้องเผชิญอย่างขัดใจ
ชายหนุ่มผู้มีวัยมากกว่าหญิงคนรักเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อแห่งหนึ่ง เขาจัดเป็นชายหนุ่มผู้มีหน้าตาดี มีการศึกษาด้วยปริญญาบัตรจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในประเทศสหรัฐอเมริกา กิริยาวาจาของเขาก็สุภาพ ทั้งยังรู้จักวิธีเอาชนะใจ ผู้หญิง กำพลจึงเป็นชายหนุ่มที่เนื้อหอมและดึงดูดเพศตรงข้ามไม่น้อย หากเขาก็รู้จักนิสัยใจคอของคนรักผู้มีความหึงหวงอย่างมากต่อตัวเขา แน่ล่ะ เขารู้ว่าควรประพฤติตัวอย่างไรเพื่อไม่ให้หล่อนเกิดความเคืองโกรธและรู้วิธีคลายโทสะของอภัณตรีในยามที่เขาต้องงอนง้อหล่อน ซึ่งกำพลก็ทำให้หญิงสาวอยู่มือเสียด้วย
\"ผมว่าชุดสีชมพูเหมาะกับตรีมากเลย\" ชายหนุ่มเสนอความคิดด้วยรอยยิ้มเก๋
\"ชุดราตรีเหรอคะ\" หญิงสาวถามเสียงเรียบ
\"ครับ\"
\"ตรีลองชุดนะคะพล\" หล่อนสนองตอบต่อถ้อยคำเสนอแนะของเขาอย่างว่าง่าย
\"ผมกำลังอยากเห็นคุณในชุดสวย ผมกล้ารับประกันว่าถ้าคุณออกงาน คุณต้องโดดเด่นกว่าใคร\" กำพลพูดอย่างชื่นชมคนรักเต็มที่
\"ที่คุณพูดน่ะแปลว่าปรกติตรีไม่สวยเหรอคะ\" อภัณตรีแสร้งทำท่างอน
\"ใครว่า คุณน่ะสวยที่สุดในสายตาผมเลย\" เขาพูดด้วยดวงตาที่เป็นประกายพราวระยับทำเอาคนรักหน้าแดงเรื่อด้วยความเขินอาย
\"อายเขามั่งสิคะพล\" หล่อนหน้าร้อนซู่เพราะได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของพนักงานขายในร้านสองคนที่บังเอิญได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม
\"เรื่องจริงนี่จะอายทำไม\" ชายหนุ่มพูดหน้าตาเฉยอย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้าน
\"กำพล\" หญิงสาวเรียกขานนามเต็มของเขาเป็นเชิงร้องขอให้เขาหยุดเกี้ยวหล่อนต่อหน้าธารกำนัล
\"โอเค ผมขอโทษ ผมหยุดละ\"
\"ตรีไม่โกรธ แต่คราวหลัง…\" หล่อนพูดไม่ทันจบถ้อยความ ปลายนิ้วชี้ของเขาก็แตะริมฝีปากได้รูปของหล่อนเสียก่อน
\"ผมเข้าใจ\" รอยยิ้มละไมปรากฏบนใบหน้าของกำพล
\"ขอบคุณค่ะ\" อภัณตรียิ้มตอบ
\"น้องๆ คุณตรีจะลองชุดแน่ะ\" เขาเรียกหาพนักงานขาย
พนักงานขายสาวสวยจึงทำหน้าที่ของหล่อนโดยไม่รอช้า
อภัณตรีใช้เวลากับการสวมใส่ชุดราตรีสีชมพูอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะออกจากห้องลองเสื้อเพื่อให้คนรักของหล่อนได้ยลโฉมอย่างเต็มตา
\"คุณสวยเกินกว่าที่ผมจินตนาการไว้\" ชายหนุ่มบอกหล่อนด้วยอาการตกตะลึง
\"พลก็…\" ใบหน้าของหญิงสาวแปรเปลี่ยนเป็นสีเข้มราวกับลูกตำลึงเพราะอากัปกิริยาและคำพูดของคนรัก
\"คุณสวยจริงๆนี่\"
\"พอเถอะค่ะ\" หล่อนพูดตัดบทเพราะเหลือบแลเห็นสองพนักงานสาวที่รู้เห็นเหตุการณ์ยืนอมยิ้มอยู่ใกล้ๆกัน
\"ตามบัญชาของเจ้าหญิงครับผม\" น้ำเสียงของกำพลแฝงร่องรอยขบขัน
อภัณตรีจึงกลับเข้าห้องลองเสื้อเพื่อเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าชุดเดิม และพอหญิงสาวกลับออกมาอีกครั้ง กำพลก็ถามซื้อชุดสวยจากพนักงานขายซึ่งเจ้าของร้านก็ยินดีลดราคาให้แก่ลูกค้าขาประจำ
\"คุณจะสิ้นเปลืองเงินทองทำไมคะ\" หญิงสาวถามคนข้างตัวระหว่างที่เดินดูร้านรวงต่างๆภายในห้างสรรพสินค้า
\"ผมเต็มใจ อีกอย่าง ใครเขาก็อยากจะให้แฟนของตัวเองดูดีทั้งนั้นล่ะครับ\" เขาตอบง่ายๆ
\"ทีหน้าทีหลังอย่าใช้เงินเพื่อตรีนะคะ\" หล่อนวอนขอแกมบังคับ
\"ผมรับทราบ\" กำพลยิ้มมุมปาก
\"แค่รับทราบกระมัง\" อภัณตรีส่ายหน้าน้อยๆอย่างรู้เท่าทันความคิดของอีกฝ่าย คนอย่างกำพลมีหรือจะเชื่อฟังหล่อน ทุกเรื่อง บางครั้งเขาก็หลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามความต้องการของหล่อนเหมือนกัน
\"ดูอะไรต่อดีตรี\" เขาพูดอย่างเสเปลี่ยนเรื่อง
\"กระเป๋ามั้ย\" ชายหนุ่มเป็นฝ่ายเสนอความเห็นเช่นเคย
\"ตามใจค่ะ\" หญิงสาวตอบอย่างรู้ตัวว่าหล่อนไม่ควรจะบังคับกะเกณฑ์เขาให้มากจนเกินขอบเขตและความอดทนอดกลั้นที่เขามีต่อหล่อน ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่หล่อนคบกับกำพล เขาเป็นฝ่ายตามใจและยอมลงให้หล่อนมาตลอดโดยไม่เคยปริปากบ่นหรือแสดงอาการไม่พอใจ หรือหนักใจเลยสักครั้ง ดังนั้น หล่อนก็ต้องรู้จักขอบเขตของตนเองเช่นกัน
\"อ้าว ต้องตามใจคุณถึงจะถูก มาตามใจผมก็หมดกัน\" กำพลหัวเราะร่วน
\"ก็ถ้าเป็นพล พลอยากจะดูอะไร\"
ชายหนุ่มยิ้มกริ่มแกมเจ้าเล่ห์ หญิงสาวจำต้องดักคอว่า
\"อะไรที่ผู้ชายชอบดู ตรีไม่เอาด้วยแน่ๆค่ะ\"
\"ว้า รู้ทันเหรอเนี่ย\"
\"รู้สิคะ\" หล่อนตอบเสียงเรียบ
\"ฮื่อ เพราะตรีเป็นแฟนผมนี่เนอะ\"
อภัณตรีหัวเราะเสียงใสอย่างอารมณ์ดีเพราะความปริวิตกในใจของหล่อนบรรเทาเบาบางลงมากแล้วจากการที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่หล่อนรัก นอกจากกำพลจะเป็นสุภาพบุรุษ เขายังรู้จักใช้คำพูดเพื่อสร้างรอยยิ้มให้แก่อีกฝ่ายซึ่งการพบปะพูดคุยกันเพียงไม่กี่ครั้งก็ไม่ยากที่เขาจะทำให้หล่อนชอบเขา
\"ค่ะ\"
\"ดีใจจังที่คุณยอมรับ\"
\"ถ้าตรีคิดจะปฏิเสธก็คงจะทำตั้งแต่ก่อนที่เราจะเริ่มคบกันล่ะค่ะ\"
\"อ้อ\" กำพลลากเสียง
\"คุณแกล้งทำเป็นซื่อไปได้\" หญิงสาวเหน็บ
\"ผมพูดเล่นต่างหาก\" ชายหนุ่มแก้ตัวน้ำขุ่นๆ
\"ไหลลื่นจังค่ะ\"
\"คุณก็ยังอุตส่าห์ไล่ทันผม\" เขาหัวเราะในลำคอหึๆ
\"ก็ใช้ใบข่อย\" หล่อนสวนกลับ
\"ตรีเห็นผมเป็นพ่อปลาไหลหรอกรึ\" กำพลแสร้งขมวดคิ้วนิ่วหน้าอย่างมีอารมณ์ขึ้นมาบ้าง
\"เปล่านะคะ ทีคุณยังพูดเล่น ตรีก็เอามั่ง\" อภัณตรีตอบโต้ทันควัน
\"ผมชักกลัวคุณ\" ชายหนุ่มพูดขรึมๆ
\"ให้มันจริงเถอะค่ะ\"
\"ครับๆ\" เขาฉีกยิ้ม
\"หิวรึยังครับตรี\" กำพลเสเปลี่ยนเรื่องคำรบสอง
\"เพิ่งจะสิบเอ็ดโมงเองค่ะพล\" เป็นคำตอบปฏิเสธจากปากของหล่อนที่ไม่ตรงกับคำถามของอีกฝ่าย
\"ไปไหนมา สามวาสองศอกแฮะ\" ชายหนุ่มยักไหล่
หากหญิงสาวหันขวับมองเขาอย่างขุ่นเคืองเพราะตั้งแต่เช้าอารมณ์ของหล่อนก็ใช่จะดีนัก ด้วยคำพูดหยอกล้อของเขาก็ทำให้พายุที่เริ่มสลายตัวกลับตั้งเค้าใหม่อย่างไร้ต้นสายปลายเหตุ
\"ถ้าผมพูดอะไรผิด ผมต้องขอโทษจริงๆ\" กำพลบอกอย่างรู้สำนึก
อภัณตรีสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดก่อนค่อยๆผ่อนออกอย่างช้าๆเพื่อสงบสติอารมณ์ของตนเพราะเกรงกำพลจะเข็ดขยาดกับนิสัยของหล่อนที่เป็นคนลมเพลมพัดง่าย
\"ค่ะ หมู่นี้ตรีรู้สึกหงุดหงิดบ่อยๆ\" หล่อนสารภาพ
\"เลือดลมผิดปรกติเหรอตรี\" ชายหนุ่มถามตรงๆด้วยสีหน้าเรียบเฉยทำให้ใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นสีเข้ม
อภัณตรีพยักหน้าแทนคำตอบ เออหนอ นี่หล่อนต้องโกหกเขาถึงสองครั้งสองคราเชียวหรือ
\"ผมเดาถูกอย่างไม่น่าเชื่อ\" เขาบอกด้วยความรู้สึกแปลกใจ
\"คนเราก็มีเดาถูกมั่งผิดมั่ง และก็เผอิญคุณเดาถูก\" หล่อนยกคำอธิบายมากล่าวอ้างอย่างอ่อนด้วยเหตุผล
\"ถูกของตรี\" กำพลยอมรับเสียอย่างนั้น
\"เรื่องกระเป๋า ผมนึกได้ละ ผมน่าจะซื้อกระเป๋าให้คุณสักใบ\" เขาพูดต่ออย่างเข้าข้างตัวเอง
\"พลคะ อย่าสิ้นเปลืองค่ะ\" หญิงสาวย้ำเตือนความจำให้กับเขา
\"อ๊ะ ผมขอโทษ เอ๊ะ ขอโทษครั้งที่เท่าไหร่เนี่ย\" ชายหนุ่มพูดติดตลก
และคำพูดของเขาก็ทำให้อภัณตรีหลุดเสียงหัวเราะคิกอย่างสุดจะกลั้น
\"เห็นมั้ย อารมณ์ของคุณดีขึ้น\" เขายั่วยิ้ม
\"ตรียกความดีให้คุณ\"
\"เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ\"
\"เกินไปค่ะ\"
\"เกินก็เกิน ดีกว่าขาด\" ชายหนุ่มเฉไฉไปเรื่อยๆ
\"ก่อนหน้า คุณจะชวนตรีทานข้าว\"
\"คุณหิว\" กำพลพูดเป็นเชิงถาม
\"จำเป็นต้องหิวค่ะ\" หล่อนพูดเหมือนประชด ทว่าบนใบหน้างามปรากฏรอยยิ้มอ่อนหวานจนคนมองไม่อาจจะคิดเป็นอื่น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
กำลังโหลด...
ความคิดเห็น