ทูตรัตติกาล : นางฟ้า - ทูตรัตติกาล : นางฟ้า นิยาย ทูตรัตติกาล : นางฟ้า : Dek-D.com - Writer

    ทูตรัตติกาล : นางฟ้า

    และแล้วร้านเล็กๆของเขาก็เปิดให้คุณได้สัมผัสกับบางสิ่ง!

    ผู้เข้าชมรวม

    727

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    727

    ความคิดเห็น


    7

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 ธ.ค. 48 / 09:27 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ทูตรัตติกาล : นางฟ้า
        ยามค่ำคืนขณะที่รัตติสูรกำลังเตรียมที่จะปิดร้าน  สายตาคมกล้าของเขาก็แลเห็นหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังวิ่งสะเปะสะปะด้วยน้ำตานองหน้าอยู่แต่ไกล  และเขาก็มองเห็นไอบางอย่างที่ปกคลุมร่างของหล่อน  ลูกค้าอีกราย  อายุอานาม 20 ปี  นักศึกษามหาวิทยาลัยของรัฐบาลที่อยู่หอพักเพียงลำพัง  มีเพื่อนน้อยคน  พ่อแม่และน้องชายอยู่ต่างจังหวัด  ที่สำคัญหล่อนกำลังมีปัญหา…ร้ายแรงเสียด้วย  ชายหนุ่มรำพึงในใจอย่างหยั่งรู้พร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก  และดวงตาสีเหล็กที่เปล่งแสงเรื่อเรือง

        ด้วยกระแสอำนาจของเขา  หญิงสาวร่างท้วมก็วิ่งรี่มาที่ร้านเล็กๆที่ชื่อ In The Dark ที่อยู่ในตรอกซอยแคบๆราวกับมีแม่เหล็กขนาดใหญ่ดึงดูดหล่อนกระนั้น  พอรู้สึกตัวอีกที  หล่อนก็เดินเข้ามาในร้านเสียแล้ว

        \"ยินดีต้อนรับครับ\"  รัตติสูรเปิดยิ้มกว้าง

        ประโยคทักทายของเขาทำให้หญิงสาวจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกหลากใจ  หากน้ำตายังคงไหลรินอยู่อย่างนั้น

        \"ว่าไงครับ\"  ชายหนุ่มถามเสียงเรียบเรื่อย

        \"ขะ…ขอโทษค่ะ\"  น้ำเสียงแปร่งปร่าเอ่ยออกมาอย่างยากเย็น

        คนฟังหัวเราะน้อยๆก่อนบอกกับหล่อนว่า

        \"ขอโทษเรื่องอะไรครับ\"

        \"ก็…น้ำทะเล่อทะล่าเข้ามา\"  หล่อนบอกด้วยความกระดากอาย

        \"ท่าทางคุณจะมีเรื่องไม่สบายล่ะสิครับ\"  คนพูดเอ่ยถามง่ายๆ

        วารีรัตน์หรือน้ำนิ่วหน้า

        \"น้ำตาของคุณบอกเล่าทุกอย่างเป็นอย่างดีทีเดียว\"  พูดจบชายหนุ่มก็ควักผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋าเสื้อแล้วบรรจงซับหยาดน้ำใสๆที่อาบสองแก้มของหล่อนอย่างนุ่มนวล

        หญิงสาววางตัวแทบไม่ถูกกับการกระทำของอีกฝ่าย  แต่หล่อนก็ยืนนิ่งโดยดี

        \"เรื่องที่ไม่สบายใจบางทีถ้าเราระบายให้ใครสักคนฟัง  อาจช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้น\"  สุ้มเสียงของคนพูดอ่อนโยน

        หากหล่อนกลับเม้มปากด้วยดวงตาวาววับและน้ำตาก็พาลจะไหลอีกระลอก

        \"ถ้าคุณไม่อยากจะเล่าก็ไม่เป็นไร  แต่รบกวนช่วยผมปิดร้านหน่อยได้ไหมครับ\"  รัตติสูรขอร้องด้วยน้ำเสียงที่แฝงเร้นอำนาจอย่างประหลาดที่ทำให้วารีรัตน์ต้องกระทำตามคำขอของเขา

        ใช้เวลาอยู่เป็นนานคนทั้งคู่ก็เก็บของและปิดร้านจนเสร็จ  ชายหนุ่มใจดีชวนหล่อนให้อยู่ทานอาหารกับเขา  หนำซ้ำเขายังเป็นฝ่ายทำอาหารและชวนหล่อนคุยเรื่อยเปื่อยเป็นระยะๆ  ทว่าหญิงสาวก็พูดน้อยคำ  และบางครั้งที่รัตติสูรเงียบเสียงลง  หล่อนก็จะกวาดสายตามองข้าวของรูปร่างแปลกๆในร้านของเขาด้วยความใคร่รู้  ซึ่งผู้ร่วมโต๊ะย่อมสังเกตเห็นอากัปกิริยาของหล่อน  และเขาก็ปล่อยให้หล่อนสำรวจตรวจตราจนพอใจ

        \"ของที่ผมขายอาจจะมีรูปร่างไม่น่าชื่นชม  แต่คุณสมบัติของมันล้ำลึก\"  เขาเอ่ยทำลายความเงียบสงบ

        \"คุณสมบัติแบบไหนคะ\"  วารีรัตน์หลุดปากถาม

        \"คุณจะเอาแบบไหนล่ะ\"  เขากลับย้อนถามหล่อน

        คนฟังย่นหัวคิ้วด้วยความขุ่นเคืองใจเพราะคิดว่าอีกฝ่ายเจตนาพูดจายียวนกวนประสาทหล่อน

        \"ผมเปล่าจะยั่วโมโหคุณ\"  คนพูดบอกอย่างรู้เท่าทันความคิดของหญิงสาว

        \"ที่ผมพูดน่ะจริง  และสิ่งของจะเป็นผู้เลือกคนที่เหมาะที่จำเป็นต้องใช้มัน\"  เขาพูดต่อ

        \"ยิ่งฟังก็ยิ่งงงค่ะ\"

        \"อย่างคุณ…ที่กำลังเป็นทุกข์แสนสาหัส  บังเอิญหรือที่เข้ามาในร้านของผม  บางทีอาจเพราะคุณกำลังมองหาอะไรสักอย่างที่จะใช้เพื่อตัวคุณเอง\"  ชายหนุ่มยิ้มเย็นด้วยดวงตาเป็นประกายแวววามทำให้คนมองรู้สึกสันหลังเย็นวาบขึ้นมาเฉยๆ

        \"ถ้าคุณอิ่ม  ผมก็อนุญาตให้คุณเดินเลือกสินค้าสักชิ้นที่ถูกตาต้องใจคุณ\"

        \"คุณปิดร้านแล้วนี่คะ\"

        \"อย่าลืมครับว่าคุณย่างก้าวเข้ามา  คุณก็นับเป็นลูกค้าของผม\"

        \"งั้น  น้ำอิ่มละล่ะค่ะ  ขอพิจารณาของของคุณใกล้ๆได้ไหมคะ\"

        \"ตามสบายครับ  อ้อ  ผมชื่อรัตติสูรครับคุณน้ำ  และถ้าคุณสนใจสินค้าชิ้นไหนเป็นพิเศษก็ขอให้บอกกับผมก่อน  เพราะผมไม่มี  คู่มือให้จึงจำเป็นต้องอธิบายวิธีการใช้งานให้คุณรู้ด้วยตัวเอง\"

        \"ค่ะ\"  หล่อนรับคำก่อนจะเดินดูข้าวของในตู้กระจกที่วางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ

        รัตติสูรมองตามแผ่นหลังของหล่อนและจนถึงบัดนี้ไอที่เขามองเห็นแต่แรกก็ยังคงอยู่  มันเป็นไอที่เกิดจากความรู้สึกที่เข้มข้นและรุนแรงของหล่อน  หากก็เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับตัวเขาเพราะนี่คือสัญลักษณ์ที่บ่งชี้ตัวลูกค้า

        หลังจากที่วารีรัตน์เดินดูสิ่งที่อยู่ในตู้กระจกตู้แล้วตู้เล่าอยู่พักใหญ่  สายตาของหล่อนก็สะดุดเข้ากับวัตถุชิ้นหนึ่งที่มีความสวยงามระคนกับความน่าหวาดหวั่นอย่างแทบจะแยกกันไม่ออก  มันเป็นวัตถุสีโลหิตขนาดเท่าผลลำไยที่มีรูปทรงรูปร่างและองค์ประกอบคล้ายกับดวงตาของมนุษย์  ภายในบรรจุสิ่งเล็กๆที่หล่อนต้องเพ่งมองอย่างยิ่ง  ยิ่งหล่อนขยับมองใกล้ๆ  สิ่งที่อยู่ข้างในก็ยิ่งชักนำให้หล่อนจมดิ่งลึกลงไปสู่สิ่งๆนั้นโดยไม่รู้ตัวราวกับต้องมนต์สะกด  และก็ทำให้หล่อนสามารถมองเห็นร่างจิ๋วร่างหนึ่งที่มีปีกนกงอกออกจากกลางหลัง  ทั้งในมือของร่างจิ๋วก็มีชิ้นส่วนสีแดงเข้มซึ่งเปล่งแสงวาบสอดคล้องกับจังหวะการเต้นของหัวใจอย่างน่าอัศจรรย์ใจ  หญิงสาวตกอยู่ในห้วงแห่งภวังค์ด้วยความรู้สึกสอดคล้องอย่างเคลิบเคลิ้มระคนพิศวง  นานเท่าใดหล่อนก็สุดรู้ หากเสียงเลื่อนเปิดตู้กระจกก็ปลุกให้สติสัมปชัญญะของหล่อนกลับคืน  

        หล่อนละสายตาจากวัตถุที่พึงใจในจังหวะเดียวกับรัตติสูรที่กำลังหยิบสินค้าออกจากตู้

        \"ขอโทษที่ทำให้คุณตกใจครับ\"  เขาบอกยิ้มๆ

        \"เอ่อ  น้ำไม่ได้ยินเสียงคุณเลยค่ะ\"  หล่อนสารภาพตามตรง

        \"ผมเป็นคนเดินเบา  แต่แคล่วคล่องว่องไวครับ\"

        \"คุณน้ำสนใจชิ้นนี้ใช่ไหมครับ\"  เขาถามต่อโดยไม่ปล่อยให้หล่อนติดใจสงสัยใดๆอีก

        \"ใช่ค่ะ\"

        \"ตอนที่คุณเพ่งพินิจพิจารณาเจ้านี่  คุณคิดว่าคุณเห็นอะไรครับ\"

        \"คนตัวจิ๋วในนั้นคงเป็นนางฟ้า  มีบางอย่างอยู่ในมือเธอด้วยค่ะ\"  วารีรัตน์ตอบเขา  แต่สายตาของหล่อนกำลังถามเขาเพื่อขอคำยืนยันที่ทำให้หล่อนรู้สึกมั่นใจกับสิ่งที่หล่อนมองเห็น

        \"สิ่งที่คุณเห็น…เป็นสิ่งที่คุณรู้คำตอบดีที่สุด  ฉะนั้น  โปรดอย่าถามผม  อ้อ  และเจ้าสิ่งนี้ก็ไม่มีชื่อเรียกเสียด้วย\"

        คนฟังทอดถอนใจก่อนบอกอย่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า

        \"ไร้ชื่อยังไม่เท่าไร  แต่นางฟ้ากับไอ้ที่อยู่ในมือไม่เข้ากันสักนิด  น้ำว่าถ้าเป็นปีศาจหรือซาตานอะไรเทือกนี้จะเหมาะกว่าค่ะ\"

        คนฟังเพียงหัวเราะในลำคอหึๆ

        \"ตกลงคุณต้องการมันไหมครับ\"

        \"ค่ะ\"

        \"ทีนี้ผมคงต้องบอกวิธีใช้\"  เขาเว้นจังหวะนิดหนึ่ง

        \"คุณสามารถขอสิ่งที่คุณปรารถนาจากเจ้านี่  และยามที่คุณอธิษฐาน…ขอให้คุณกุมมันไว้ในตำแหน่งของหัวใจ  มันจะช่วยให้คุณสมปรารถนา  ขอให้จำไว้ให้แม่นมั่นว่าคุณต้องยอมแปลกเปลี่ยนกับสิ่งที่มันเรียกร้อง…โดยไร้หนทางหลีกหนี\"

        \"คะ\"  ดวงตาของหล่อนเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อถือกับสิ่งที่อีกฝ่ายบอกเท่าใดนัก

        รอยยิ้มที่ชวนให้คนมองรู้สึกหนาวเยือกปรากฏบนริมฝีปากของชายหนุ่ม  เขาเพียงเอ่ยว่า

        \"ลองทดสอบ…คุณก็จะรู้เอง\"

        หญิงสาวชั่งใจอย่างใช้ความคิดอยู่หลายนาที  ยิ่งมองสิ่งที่อยู่ในมือของอีกฝ่าย  ความต้องการที่เร้นลึกก็ยิ่งกระตุ้นให้หล่อนอยากได้ใคร่ลอง  ที่สุดหล่อนก็ถามเขา

        \"เท่าไหร่คะ\"

        \"ไม่คิดมูลค่าเป็นเงินครับ  คุณเอาไปเถอะ  ส่วนมูลค่าที่คุณต้องจ่ายให้กับผม  คุณก็จะรู้เองในภายหลัง\"  น้ำเสียงกังวานและทรงอำนาจราวกับดังมาจากที่ที่ไกลแสนไกลบอกกับหล่อน

        วารีรัตน์รับของชิ้นนั้นมาจากเขาตั้งแต่เมื่อใดความทรงจำของหล่อนก็เลือนจนสิ้น  รู้ตัวแต่ว่าหล่อนถือถุงพลาสติกขนาดเล็กติดมือจนกลับถึงหอพักซึ่งมีสองชั้นและลักษณะเหมือนห้องแถวยาว

        หญิงสาวเหลือบแลมองนักศึกษาชายหญิงหลายคนซึ่งมีวัยไล่เลี่ยกับหล่อน  บ้างจับกลุ่มพูดคุยกัน  บ้างพูดคุยอยู่กับแฟน  บ้างก็กำลังกลับเข้าหอตรงกันข้ามกับบางคนหรือบางกลุ่มที่กำลังจะออกไปข้างนอก  หลายกิจกรรมที่หล่อนเห็นจนเคยชิน  ทว่าวันนี้หล่อนกลับไม่กล้าสู้หน้าใครๆ

        วารีรัตน์ก้มหน้าลงต่ำพร้อมกับเร่งฝีเท้าของตนให้เร็วขึ้น

        \"นี่ๆ  รู้อะไรไหม  ยัยนั่นที่เขาพูดกันน่ะ\"  เสียงของเพื่อนร่วมหอพักคนหนึ่งดังเข้าสู่โสตของหล่อนโดยบังเอิญ  และเสียงซุบซิบนินทาก็ดังไล่หลังอย่างกรีดแทงใจของคนฟังยิ่ง

        ร่างท้วมเปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่งขึ้นไปยังชั้นบน  พอถึงห้องหล่อนก็ล้วงหยิบกุญแจในกระเป๋าสะพายด้วยมืออันสั่นเทา  แล้วทำนบน้ำตาก็ทลายลง  หล่อนปิดประตูตามหลังก่อนที่จะกอดสองแขนรัดร่างของตนอย่างสั่นเทิ้มด้วยแรงสะอื้นพร้อมๆกับทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างคนหมดสิ้นเรี่ยวแรง  และภาพแห่งความโหดร้ายก็ฉายซ้ำในหัวของหล่อน

        วารีรัตน์…หญิงสาววัยสดใสที่เป็นเด็กเรียน  หล่อนไม่เคยมีแฟนกับใครเขา  เพราะหน้าตาที่ธรรมดา  รูปร่างที่ท้วม  แต่สมส่วน  หากก็ไร้จุดเด่น  หล่อนจึงมุมานะอยู่กับการเรียนตั้งแต่เล็กจนโต…จนกระทั่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3  ใครบางคนก็ทำลายปราการที่หล่อนสร้างขึ้นเพื่อปกป้องตัวเองจากความผิดหวังที่หล่อนรู้และยอมรับสภาพแท้จริงของตน  ซึ่งใครคนนั้นได้เข้ามานั่งอยู่ในหัวใจของหล่อน

        ตะวันเป็นรุ่นพี่ต่างคณะ  ชายหนุ่มมีรูปร่างหน้าตาและฐานะทางบ้านดี  แต่การเรียนอยู่ในระดับปานกลาง  เขาถือเป็นชายหนุ่ม    คนหนึ่งที่สาวๆในมหาวิทยาลัยต่างก็พากันคลั่งไคล้ใหลหลงถึงกับมีกลุ่ม \'คนรักตะวัน\' ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเขาโดยเฉพาะ  แน่ล่ะ  สมาชิกส่วนมากล้วนเป็นผู้หญิง  ส่วนน้อยคือผู้ชายที่ใจเป็นหญิง

        หญิงสาวรู้จักกับตะวันเพราะเขาเป็นฝ่ายเข้ามาทำความรู้จักกับหล่อนเอง  และเขาก็เพียรข้องแวะกับหล่อนอยู่หลายครั้งหลายคราด้วยท่าทีที่สนิทสนมและเป็นกันเอง  สำหรับหล่อน…ทุกอย่างเหมือนกับความฝันที่กลายเป็นความจริง  และเปลือกที่ห่อหุ้มจิตใจของหล่อนก็กะเทาะออกจนหมดเมื่อตะวันเอ่ยปากขอเป็นแฟนกับหล่อน

        ความสัมพันธ์ของตะวันกับหล่อนดำเนินไปอย่างรวดเร็วชนิดก้าวกระโดดเพียงอาทิตย์เดียวชายหนุ่มก็ขออนุญาตถูกเนื้อต้องตัวหล่อน  ด้วยความที่มีใจให้เขาอยู่ก่อนวารีรัตน์จึงโอนอ่อนผ่อนตามโดยง่าย  เพื่อนๆของหล่อนก็พยายามพูดเตือนสติ  แต่หล่อนหน้ามืดตาบอดไปกับความรักความหลงจนไม่แม้แต่จะรับฟังถ้อยคำของเพื่อนผู้หวังดี  ที่สุดเพื่อนๆก็พากันคิดว่าหญิงสาวหลงเงาตัวเอง  คิดว่าตัวเองมีดีที่ทำให้ชายหนุ่มมาชอบพอและเห็นตะวันดีกว่าเพื่อน  พวกเพื่อนๆจึงตีตัวออกห่างและปล่อยให้วารีรัตน์จมปลักอยู่กับตะวันเพียงสองคน  

        เมื่อย่างเข้าสู่อาทิตย์ที่สาม  ชายหนุ่มก็พยายามป้อนคำหวานเพื่อโน้มน้าวชักจูงใจหล่อนให้ยอมเป็นของเขา  และหญิงสาวผู้อ่อนต่อโลกอย่างวารีรัตน์ก็ตกลงปลงใจที่จะเป็นของเขา

        หลังจากนั้นความสัมพันธ์ที่หวานชื่นก็จืดชืดสนิท  ทุกอย่างแปรเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ  ตะวันพยายามตีตัวออกห่างจากหญิงสาว  ถ้อยคำหวานที่เขาเคยพูดก็หมดไปอย่างสิ้นเชิง  ภายในเดือนเดียวชายหนุ่มบอกเลิกหล่อนอย่างสิ้นเยื่อขาดใยทั้งที่หล่อนไม่มีความผิด  แม้วารีรัตน์จะอ้อนวอนอย่างไรตะวันก็ไม่รับฟัง  ครั้นพอหล่อนหวนกลับไปหากลุ่มเพื่อน  เพื่อนๆก็ไม่ไยดีหรือแม้แต่สงสารเพราะคำยุแยงของคนบางกลุ่มที่ชิงชังหล่อนในฐานะคู่ควงของตะวัน  สภาพจิตใจของหล่อนบอบช้ำและรานร้าว หากยังไม่ถึงที่สุด

        เช้าวันหนึ่งซึ่งก็คือวันนี้วารีรัตน์เดินผ่านหลังตึกเรียนและได้ยินถ้อยคำสนทนาของพวกผู้ชายที่จับกลุ่มกันโดยบังเอิญ  

        \"ตะวัน  นายไม่สนยัยอ้วนนั่นจริงง่ะ\"  เสียงหนึ่งเอ่ยถาม

        \"หึ  ที่ฉันจีบหล่อนก็เพราะพนันกับพวกนายไว้ไม่ใช่หรือไง  เราพนันกันว่าถ้ายัยอ้วนตกลงเป็นแฟนกับฉัน  พวกนายจะให้คนละ
      ห้าร้อย  และถ้ายัยอ้วนยอมนอนกับฉัน  พวกนายจะให้คนละพัน\"

        \"น่าสงสารเหยื่อของนายชะมัด\"  สุ้มเสียงเดิมบอกอย่างเย้ยหยันขัดกับถ้อยคำที่พูดออกมา

        \"ช่วยไม่ได้ที่กิตติศัพท์ร่ำลือด้านการเรียนเป็นเลิศแถมยังปลอดผู้ชายของยัยอ้วนจะทำให้ฉันเลือกหล่อน  แถมน้องนภาก็สนับสนุน\"

        หล่อนจดจำชื่อของเพื่อนร่วมเรียนได้ดี  นภา…หญิงสาวหน้าตาสะสวยที่ชายหนุ่มหลายคนเฝ้าหมายปอง

        \"ทำไมน้องนภาถึงเจาะจงสนับสนุนเพื่อนร่วมคณะของตัวเองล่ะ\"  อีกเสียงถามอย่างใคร่รู้

        \"น้องเขาบอกหมั่นไส้เด็กคงแก่เรียน\"

        \"อิจฉาที่ผลการเรียนของยัยอ้วนดีกว่าล่ะมั้ง\"  เสียงแรกบอกอย่างคาดเดา

        \"น้องนภาเขาร้ายฉันก็รู้  แต่แบบนี้สิถึงจะน่าสนใจ  มันเร้าใจผิดกับยัยอ้วนเยอะ  พวกนายรู้ไหม  ยัยอ้วนน่ะแค่จูบก็ยังไม่เป็น  พอฉันประกบปาก  ยัยนั่นก็ตัวแข็งอย่างกับท่อนไม้  ที่สำคัญนะ  ยัยอ้วนเป็นคู่นอนที่ไม่เอาอ่าวที่สุดที่ฉันเคยนอนด้วยเลยว่ะ\"  
      สิ้นเสียงของตะวัน  ผู้ชายทั้งกลุ่มก็ประสานเสียงหัวเราะอย่างเห็นเป็นเรื่องขบขัน

        คำพูดถากถางและนินทาลับหลังทำให้คนที่ยืนฟังถึงกับร้องไห้โฮด้วยความสะเทือนใจและอับอายอย่างเหลือแสน  และข่าวคาวที่อื้อฉาวก็แพร่สะพัดราวกับไฟลามทุ่ง  ในเวลาเพียงวันเดียวเกือบทั้งมหาวิทยาลัยก็รู้เรื่องของหล่อน

        ทุกๆที่ที่หญิงสาวเดินผ่านจะมีสายตาที่มองมาอย่างเหยียดหยาม  ซ้ำร้ายยังมีคนพูดจาเยาะหยันซึ่งมีทั้งแฟนคลับของชายหนุ่มทั้งเพื่อนร่วมสถาบันการศึกษา  และเพื่อนร่วมเรียน

        \"เป็นไงล่ะยัยอ้วน  คิดว่าตัวเองเป็นหงส์สิท่า  รู้ตัวไว้เถอะ  หล่อนน่ะก็แค่ของแปลกที่พี่ตะวันเขาอยากลองเท่านั้น  พอเขาเบื่อก็ทิ้ง  แถมยังทิ้งแบบให้เป็นข่าวน่าขายหน้าเสียด้วย\"  นภาเหยียดยิ้มด้วยสายตาดูแคลน

        วารีรัตน์มองหาความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ  ทว่ากลับเหลือหล่อนเพียงคนเดียว  สิ่งที่หล่อนเผชิญหนักหนาสาหัสจนเกินจะทานทน  หญิงสาววิ่งถลันออกจากห้องเรียน  หล่อนวิ่งอย่างไร้จุดหมาย  ความรู้สึกหลากหลายจู่โจมอย่างไม่ทันให้หล่อนตั้งตัว  ขณะที่วิ่งหล่อนก็คิดเรื่องตาย  หากก็สงสารพ่อแม่ที่สู้อุตส่าห์ส่งเสียให้ร่ำเรียน  และความเคืองแค้นก็ไล่หลังความเศร้าโศกมาติดๆ  กับทั้งกระแสบางอย่างก็ชักนำหล่อนให้เข้าไปที่ร้านเล็กๆของชายหนุ่มหน้าตาคมคาย

        หล่อนนั่งนิ่งปล่อยให้ความทุกข์ใจมีอิทธิพลเหนือความคิดอื่นใดอยู่นาน  หล่อนร้องไห้จนน้ำตาเหือดแห้ง  พอจะลุกยืนหล่อนก็ไม่ลืมที่จะหยิบถุงพลาสติกที่ตัวหล่อนเป็นคนปล่อยให้ตกพื้นขึ้นมา  และสิ่งที่หล่อนรับมาก็กำลังทำหน้าที่ของมันด้วยการชักจูงหล่อนให้หยิบมันออกมาเพ่งพิจารณาอีกครั้ง  เสียงจากความเงียบงันที่เชื้อเชิญราวกับดังมาจากที่ไหนสักแห่ง  มันเย้ายวนใจให้หล่อนอยากทดลองใช้สิ่งที่อยู่ต่อหน้า  ยิ่งเพ่งมอง  เสียงหัวใจที่เต้นสอดประสานที่อยู่ในอกข้างซ้ายของหล่อนกับสิ่งที่อยู่ในมือของนางฟ้าตัวจิ๋วก็ยิ่งส่งเสียงดังอย่างชัดเจน…เป็นจังหวะที่ไพเราะ  ทว่าเยียบเย็น

        หญิงสาวใช้มันตามวิธีการที่รัตติสูรบอก  หล่อนหลับตาพริ้มและเริ่มอธิษฐานด้วยความมุ่งมั่น  หากด้วยความปรารถนาที่แรงกล้าของตัวหล่อนเองเป็นหลักซึ่งในสภาวะราวกับคนหลับฝัน  หล่อนก็มองเห็นรอยยิ้มสดใสของนางฟ้าก่อนที่อีกฝ่ายจะเอ่ยถามหล่อน

        \"เจ้าปรารถนาสิ่งใด\"

        \"ฉันอยากเป็นคนสวยที่ใครๆพากันรุมรักและฉันอยากให้ทุกๆคนลืมฉันคนเก่าที่น่ารังเกียจ\"

        นางฟ้ายิ้มอีกครั้ง

        \"ข้าจะทำให้ความปรารถนาของเจ้าเป็นจริง  แต่ต้องแลกด้วยหัวใจของเจ้า  เจ้าจะยอมมอบให้ข้าหรือไม่\"  นางฟ้าพูดพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งชี้นิ้วไปที่ร่างท้วมของหญิงสาวซึ่งเป็นตำแหน่งของหัวใจ

        หล่อนนิ่งตริตรอง  นางฟ้าจึงทวงคำตอบ  และหล่อนก็ยอมรับข้อแลกเปลี่ยนที่ไร้หนทางแก้ไขด้วยแรงอารมณ์ที่ผลักดันให้ความต้องการโดดเด่นเหนือความคิดอื่นใด

        เช้าวันใหม่วารีรัตน์ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกแปลกๆ  และพอหล่อนเดินผ่านกระจกเงาหล่อนก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น  รูปร่างของหล่อนเปลี่ยนไปอย่างที่หล่อนก็ยังไม่เชื่อสายตาของตัวเอง  รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น  ใบหน้ารูปไข่  คิ้วโก่งสวย  ดวงตาคม  จมูกโด่ง  ริมฝีปากบาง  นี่คือคำขอของหล่อน…หญิงสาวคนใหม่ที่รูปโฉมงดงาม

        หล่อนออกจากห้องด้วยความรู้สึกแช่มชื่น  และสายตาของคนที่พานพบหล่อนก็จับจ้องมองอย่างชื่นชมจนเหลียวหลัง  ร่างบางยิ้มกริ่มอย่างภาคภูมิใจกับรูปโฉมของตน  เรื่องที่แปลกกว่านั้นคือไม่มีใครจดจำวารีรัตน์คนเก่าได้แม้แต่คนเดียว  หล่อนชื่อวารีรัตน์หรือน้ำ  ทว่าทุกๆคนรับรู้แต่ตัวตนใหม่ของหล่อน  หญิงสาวเมินเฉยต่อเพื่อนกลุ่มเดิม  หล่อนเข้ากลุ่มใหม่และเจาะจงกลุ่มของนภา  นภาก็ยอมรับหล่อนเข้ากลุ่มโดยง่าย  แต่ความสวยของฝ่ายแรกกลับกลายเป็นความด้อยเมื่อมีหล่อนรวมอยู่ด้วย

        ชายหนุ่มหลายคนแสดงออกถึงความพึงพอใจในตัวหล่อนแตกต่างกันไป  หล่อนกลายเป็นเป้าหมายที่ชายหนุ่มต่างแย่งชิง  และตะวันก็เป็นหนึ่งในนั้น  หากวารีรัตน์กลับไม่สนใจไยดีเขาแม้สักนิด

        รูปกายภายนอกเปลี่ยน  จิตใจของหล่อนก็ผันแปรตาม  หญิงสาวกลายเป็นคนรสนิยมสูง  รักสวยรักงามและชอบหว่านเสน่ห์  หล่อนชอบที่จะคบเพศตรงข้ามหลายคนพร้อมๆกันในคราวเดียว  และเริ่มใช้ความงามที่เหนือกว่ากดขี่ข่มเหงนภาให้ยิ่งตกต่ำ  หล่อนกลายเป็นวารีรัตน์คนใหม่โดยสมบูรณ์ทั้งใจกาย

        หนึ่งเดือนผ่านไปชีวิตของหญิงสาวยังคงดำเนินไปในแบบที่ทำให้หล่อนมีความสุขและสนุกสนานกับชีวิตอย่างเต็มที่จนหล่อนลืมสัญญาที่เคยให้ไว้ต่อนางฟ้าผู้ดลบันดาลความสุขให้แก่หล่อน  

        และแล้วค่ำคืนหนึ่งขณะที่หล่อนกลับจากเที่ยวกับเพื่อนชายหล่อนก็พบกับรัตติสูรโดยบังเอิญที่หน้าหอพัก

        \"อ้อ  คุณน่ะเอง\"  วารีรัตน์เปิดยิ้มกว้าง

        \"ดูเหมือนชีวิตของคุณเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น\"  เขาเอ่ยเสียงเรียบเรื่อย

        \"ค่ะ  ดีขึ้นจริงๆอย่างกับปาฏิหาริย์แน่ะ\"  หล่อนหัวเราะร่วน

        \"จริงสิ  น้ำยังติดค้างคุณอยู่นี่นา\"  หญิงสาวพูดต่อ

        \"ครับ  ทั้งผมทั้งนางฟ้า\"  ชายหนุ่มยิ้มเย็นอย่างที่หล่อนเคยเห็นแล้วให้รู้สึกพรั่นพรึง

        ถ้อยคำของรัตติสูรเรียกความทรงจำของหล่อนอย่างได้ผล  เพราะความรู้สึกบางอย่างเกาะกุมหัวใจของวารีรัตน์ทำให้หล่อนรู้สึกเหมือนเลือดในกายเย็นเฉียบอย่างฉับพลัน  และใบหน้าของหล่อนก็ซีดเผือด  ทั้งร่างกายของหล่อนก็สั่นสะท้านหนาวด้วยความหวาดกลัวจับขั้วหัวใจ

        \"ของของคุณอยู่นี่\"  ชายหนุ่มพูดจบ  ของที่ว่าก็ปรากฏจากอากาศธาตุให้หล่อนต้องตื่นตระหนกสุดขีด

        \"เจ้าหนี้ของคุณก่อน\"  เขาบอกง่ายๆ

        นางฟ้าตัวจิ๋วก็ขยับกายและเคลื่อนออกจากวัตถุสีโลหิตด้วยร่างของหญิงสาวขนาดเท่าคนจริง

        \"เจ้าใช้ชีวิตอยู่ด้วยความปรารถนาที่ข้ามอบให้พอสมควร  ถึงเวลาที่ข้าควรได้รับสิ่งแลกเปลี่ยนเสียที\"  นางฟ้าแสยะยิ้มเผยให้เห็นเขี้ยวซี่แหลมเต็มปาก  ดวงตาสดใสเปลี่ยนเป็นสีทับทิมวาวโรจน์  มือสองข้างมีเล็บยาวงอกออกมา

        วารีรัตน์มองดูภาพที่ปรากฏแก่สายตาด้วยความสะพรึงกลัวระคนขนพองสยองเกล้า  พร้อมกันนั้นร่างของหล่อนเหมือนตรึงนิ่งอยู่กับที่  พออ้าปากก็ปราศจากเสียงใดๆที่จะเล็ดลอดออกมา

        \"ข้าขอล่ะนะ\"  สิ้นเสียงที่แปรเปลี่ยนเป็นแหบแห้ง  มือข้างหนึ่งของนางฟ้าก็จ้วงแทงเข้าไปที่อกข้างซ้ายของหญิงสาวพร้อมๆกับความเจ็บปวดอย่างยิ่งยวดที่ก่อเกิด  และสายธารสีเข้มก็ไหลทะลักออกจากร่างบาง  พอมือที่แข็งแกร่งราวกงเล็บกระชากเอาก้อนเนื้อที่เป็นสัญญาณแห่งชีวิตออกไป  ลมหายใจของหญิงสาวก็หมดลง

        \"วิญญาณนางเป็นของท่าน\"

        รัตติสูรเหยียดยิ้มพลางกักเก็บเอาวิญญาณของลูกค้าไว้ในกายของเขาก่อนจะกำวัตถุสีโลหิตไว้ในอุ้งมือซึ่งบัดนี้สิ่งที่อยู่ในมือของนางฟ้ากำลังเต้นเป็นจังหวะตุ้บ…ตุ้บ…  และแล้วร่างของเขาก็เลือนหายภายในชั่วพริบตา.

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×