ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศึกป่วนดาต้าฤทธาเจ้าแฮกเกอร์

    ลำดับตอนที่ #8 : วาที เพชรเทวา(จบตอนแล้ว)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 96
      0
      8 พ.ย. 48



        “ขอโทษนะครับที่ทำให้ต้องเสียเวลา  ขอขอบคุณมากครับที่ให้ความร่วมมือ”



        พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีตำแหน่งหัวหน้าเวรควบคุมความสงบเรียบร้อยในสนามบินกล่าวกับชายหนุ่มผู้ช่วยจัดการกับนักวิ่งราวหลังจากเสร็จจากการบันทึกคำให้การในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  โดยไม่รู้เลยว่าตนเองกำลังจะถูกเฉ่งยกใหญ่จากเจ้านายของตนเองโดยฝีมือของชายหนุ่มคุ้นตาตรงหน้าโทษฐานที่ละเลยหน้าที่ปล่อยให้นักวิ่งราวที่ก่อคดีหลายครั้งในสนามแห่งเดียวกันนี้กลับมาก่อคดีซ้ำกันได้อีก  



    แถมยังปล่อยให้คนวิ่งไล่กันอุตลุดกลางสนามบิน  วางมวยสาดแข้งกันจน น๊อค! คางเหลือง  จบท้ายด้วยมวยปล้ำชนิดเกือบกรรมการได้นับสามก่อนที่ตัวเองจะแหกลูกกระตาวิ่งมาได้



        “ไม่ต้องห่วงครับ  เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว”



        “เชอะ!  ขี้เตะชะมัดเลย”



    แววเสียงเสียดสีเล็กๆดังมาจากสาวน้อยคู่กรณีที่ดังแก้มแดงยังไม่หายคอยช่วยให้การกับตำรวจอยู่ข้างๆ



    “ง่า! ใจเย็นๆนะครับคุณ 2 คน”



        เสียงกรรมการห้ามมวยดังมาจากเจ้าหน้าที่ผู้ยิ้มกริ่มที่คราวนี้ตนมีผู้ต้องหาวิ่งราวที่มีบัญชีความผิดเป็นหางว่าวและตนยังไม่มีปัญญาที่จะจับมาได้มาอยู่ตรงหน้า  แม้ว่าผู้จับผู้ต้องหาคราวนี้จะไม่ใช่ตนเองก็ตาม  แต่ด้วยฝีปากโม้นิดๆและฝีมือแก้ไขรายงายหน่อยๆคงไม่อยากที่จะเอาความดีมาใส่ตนเองแทนได้  



    หากแต่เจ้าหน้าที่ผู้ฝันหวานไม่รู้เลยว่าความหวังของเจ้าหน้าที่ผู้ไร้ฝีมือรายนี้กลับต้องฝันสลายเช่นเดียวกับนักวิ่งราวผู้ยังนอนไม่ฟื้นด้วยแรงเตะ  ในอีก 2 วันต่อมาเมื่อชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ากลับมาพบกับผู้บังคับบัญชาตนพร้อมคำสั่งย้ายด่วนและเทศนาอีกหลายชุดให้กับการทำงานอันหละหลวมไม่ได้เรื่องของตน



        “ขอโทษนะครับผมคงต้องขอพบผู้อำนวยการสนามบินนี้ด่วนเลย  แล้วก็เจ้านายของคุณที่รับผิดชอบความปลอดภัยของสานามบินนี้ด้วย”



        “ครับ....หา!   อะไรนะครับ”  เสียงช่วงบ่งบอกว่ายังไม่เข้าใจอยู่กับคำขอของชายหนุ่ม



        “บอกเขาไปว่าผม  ผู้การวาที  เพชรเทวา ผู้บัญชาการหน่วยรักษาความสงบพิเศษแห่งชาติต้องการขอพบตัวด่วนเลย”



    ............................



    คนบางคนเมื่อได้เกิดมาบนโลกนี้นั้นก็อาจจะต้องมีบ้างหรอกน่า  ที่มีซักวันหนึ่ง โลกจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคิดและอยากให้มันเป็น   ต้องมาเจอกับคนที่ตนไม่คาดคิดว่าจะได้เจอ  หรือไม่อยากจะเจอจนใจจะขาดแต่กลับได้เจอ   บางคนก็ให้นิยามว่ามันเป็นบุพเพสันนิวาส  บางคนว่าเป็นคราวเคราะห์ บางทีก็ว่ากฎแห่งกรรม



    วันนี้เองก็มีสาวน้อยอีกนางหนึ่งที่กำลังนั่งทำหน้าบึ่งในรถลีมูซีนสุดหรูมุ่งหน้าไปยังโรงแรม  อันเป็นที่หมายของการเดินทางครั้งนี้   พร้อมกับคิดไปว่า  สิ่งที่วันนี้ตนต้องมาพบเจอนี้มันเรียกว่า  คราวเคราะห์หรือกฎแห่งกรรมกันแน่ แต่อย่างหนึ่งที่สาวน้อยมาเอะแน่ใจก็คือ  มันต้องไม่ใช่บุพเพสันนิวาสอย่างแน่นอน!



    10 นาทีก่อนหน้านี้



    “มาเอะ!  รู้ไหมว่านี้ลูกทำอะไรลงไปนะ”



    เสียงของโกโบริหัวหน้าครองครัวยามางิดังออกมาจากโต๊ะกาแฟตัวหนึ่ง  ในร้านคอฟฟี่ไดมอน  เรียกความสนใจจากผู้เข้ามาใช้บริการในร้านโต๊ะข้างๆได้อย่างชะงัก  หลังจากที่แม่ลูกสาวตัวน้อยของตนสวมบทผู้ผดุงคุณธรรมหญิงไล่กวดเจ้าโจรร้ายไปสร้างความตกใจให้แก่คนในครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง  และเมื่อสาวน้อยผู้หน้าบึ้งเดินกลับมาพร้อมกับกระเป๋าใบต้นเรื่องหลังจากทำ 5 แต้ม จับคนร้ายผิดตัวหน้าแหกหมอไม่รับเย็บกลับมา



    “หนูๆขอโทษค่ะคือหนู..” สาวน้อยปากกล้ากลับอึกอักไม่กล้าสู้หน้าบิดาเมื่อถูกต่อว่า



    “เอาน่าคุณ  ลูกกลับมาปลอดภัยก็ดีแล้ว แถมยังได้กระเป๋ากลับมาอีก  คนร้ายก็ถูกจับไปแล้ว อย่าโกรธลูกนักเลย”



    คุณมาลีรีบออกรับแทนลูกเมื่อเห็นว่าผู้เป็นสามีกำลังโกรธ  ด้วยความห่วงใยลูกสาวคนเล็กที่มักจะทำอะไรไม่ยั้งคิดอยู่เสมอด้วยความเป็นวัยรุ่น  เมื่อเห็นว่าสามียังทำท่าว่าจะโกรธลูกสาวของตนยังไม่หาย  คุณมาลีจึงรีบเปลี่ยนเรื่องพูดไปว่า



    “แล้วผู้ชายคนที่ลูกเล่าให้ฟังว่าเป็นผู้การอะไรซักอย่างที่ช่วยเราเอากระเป๋ากลับมาจากคนร้ายล่ะจ๊ะ  เราได้ขอโทษเขาหรือเปล่าเรื่องที่เราไปเข้าใจเขาผิดนะ  แล้วก็เรื่องที่เขาช่วยจับคนร้ายให้เราด้วย ขอบคุณเขาไปบ้างหรือยัง”



    สิ้นประโยคถามอันยืดยาวของมารดา ผู้เป็นลูกสาวแทนที่จะตอบคำถามในทันใดกลับทำท่าอ่ำอึ้ง ปนแหยๆจนทำให้ผู้เป็นบิดาที่เริ่มอารมณ์ดีขึ้นแต่ยังไม่หายโกรธดีนัก  เอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงดุๆว่า



    “อย่าบอกนะว่าเราไปทำแบบนั้นกับเขาแล้วยังไม่รู้จักขอโทษอีกเหรอ  มาเอะ.. ลูกโตจนจะเป็นสาวอยู่แล้วนะ ยังทำตัวเป็นเด็กอยู่ได้”



    ได้ยินคำกล่าวของบิดายามนั้น  สาวน้อยนามมาเอะ ก็เริ่มเกิดอารมณ์ดื้อดึงตามประสาวัยรุ่น  แถมพอนึกถึงการต่อสู้ ด้วย “มวยปล้ำ” ของตนกับชายหนุ่มผู้ถูกเอ่ยถึงก็ทำให้ใบหน้าที่ขาวผ่องเริ่มแดงก่ำด้วยอารมณ์โกรธปนอายด้วยความเข้าใจว่าตนถูกลวนลามนั้นเอง



    “คุณพ่อค่ะทำไมหนูต้องไปขอโทษแถมขอบอกขอบใจเจ้าผู้ชายลามกแถมขี้เต๊ะนั้นด้วยล่ะค่ะไม่เอาหรอก”



    “มาเอะ!...” โกโบริขึ้นเสียงสูงอีกครั้งเมื่อเห็นท่าทางที่ดื้อดึงไม่ยอมใครของสาวน้อยมาเอะ แต่ก่อนที่ “ศึกสายเลือด” จะเริ่มขึ้น   เสียงที่เปรียบเหมือนระฆังห้ามมวยก็ดังขึ้น



    “ขอโทษน่ะครับ”



    ชายหนุ่มผู้หนึ่งในชุดสูทสากลสีดำหน้าตาคมสันปรากฏตัวข้างโต๊ะกาแฟที่ครอบครัวยามางินั่งทกปัญหาครอบครัวกันอยู่โดยไร้ซุ่มเสียง  หรืออาจบางทีจะเป็นเพราะว่า  สามาชิกทั้งครอบครัวยามางิมั่วแต่สนใจกับปัญหา “ภายใน”  จนลืมมองสภาพรอบข้างก็เป็นได้



    “ไม่ทราบว่าคุณคือ คุณยามางิ  โกโบริ กับครอบครัว  ใช่หรือไม่ครับ”



    ก่อนที่โกโบริจะกล่าวตอบรับออกไป  เสียงดังแสบแก้วหูของลูกสาวคนเล็กของครอบครัวยามางิก็สร้างความตกใจให้ครอบครัวอีกครั้ง  เมื่อหันไปพบว่าบุรุษผู้มาใหม่คือ...



    “หา!   ไอ้โรคจิต!”



    ..............................................



    “อีกประมาณ  5 นาที ก็ถึงแล้วครับ”



    วาทีกล่าวกับแขกผู้มาเยือนที่พากันนั่งนิ่งมาตลอดทางทั้งคณะ  ซึ่งอาจเกิดจากสถานการณ์ชวนปวดหัวที่พึงผ่านมาจึงทำให้สมาชิกครอบครัวยามางิทุกคนพากันนั่งนิ่งสงบเนื้อสงบตัว  ด้วยความทั้งเขินอายทั้งเกรงใจแถมด้วยความกระอักกระอวมใจสุดๆ  หลังจากพบว่าผู้มาต้อนรับของตนกลับกลายเป็นคู่กรณีของลูกสาวคนเล็กจอมเอาแต่ใจของครอบครัวตน



    คนที่ยังพอกล้าเอ่ยปากซักถามพูดคุยกับชายหนุ่มอยู่บ้างก็คงมีแต่คุณโกโบริหัวหน้าครอบครัวนั้นล่ะ  ที่พยายามพูดคุยซักถามกับวาทีเพื่อกู้สถานการณ์อันตึงเครียสระหว่างครอบครัวตนเองกับชายหนุ่มผู้เป็นตัวแทนบริษัทคู่ค้า   โชคยังดีที่ชายหนุ่มยังคงยอมพูดคุยและยิ้มแย้มให้อยู่บ้าง  



    “ไม่ทราบว่าดร.ดี.อาร์.สตอมจะว่างให้เราเข้าพบได้เวลาไหนครับ”



    โกโบริยิงคำถามตรงจุดเพื่อจะเข้าพบผู้ที่ตนต้องการเข้าพบ  เมื่อได้ทักทายทำความรู้จัดชายหนุ่มตรงหน้ามาได้ชั่วขณะหนึ่ง



    “วายุ.. เอ่อ...ดร.ดี.อาร์.สตอมรอพบพวกคุณอยู่ที่โรงแรมที่พักแล้วครับ  เมื่อพวกเราถึงโรงแรมและพวกคุณเช็คอินเข้าพักเรียบร้อยแล้ว  คุณจะได้เข้าพบกับดร.ดี.อาร์.สตอมในงานเลี้ยงต้อนรับพวกคุณมื้อเที่ยงนี้ล่ะครับ”



    “แหม่ไม่จำเป็นต้องทำให้มันใหญ่โตสิ้นเปลืองไปหรอกครับ  ความจริงผมกับครอบครัวแค่ต้องการเข้าพบและทำความรู้จักคู่ค้าที่กำลังจะทำการค้าร่วมกันและถือโอกาสได้พักผ่อนกับครอบครัวในวันหยุดเท่านั้นล่ะครับ”



    สายหนุ่มผู้มีร่างกายอันกำยำสมส่วนกับใบหน้าคมสันและดวงตาที่แฝงแววมุ่งมั่นและซื่อตรงอยู่ตลอดเวลาในชุดสูทสากลสีดำยิ้มรับคำกล่าวของอาคันตุกะผู้มาเยือนแล้วตอบว่า



    “ไม่ใช่งานใหญ่โตอะไรหรอกครับ  ความจริงแล้วดร.ดี.อาร์สตอมเองก็มาพักผ่อนกับครอบครัวเช่นกัน   งานเลี้ยงต้อนรับที่ว่านี้ก็จะถูกจัดขึ้นอยู่แล้วครับ   เพราะงานเลี้ยงนี้เป็นงานเลี้ยงประจำบริษัทของเรา  ที่จัดขึ้นทุกปีเพื่อต้อนรับครอบครัวของพนักงานและผู้บริหารระดับต่างๆในเครือ พีวี(เพชรเทวา)กรุ๊ปที่มาเที่ยวพักผ่อนและทำกิจกรรมร่วมกันในวันหยุดปีใหม่นี้  รวมทั้งนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทั่วต่างๆที่เข้ามาพักที่โรงแรมของเราในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวนี้ครับ”



    ชายหนุ่มกล่าวตอบพร้อมรอยยิ้มสร้างความอบอุ่นและเป็นกันเองให้แก่อาคันตุกะ นำพาให้จิตใจของสมาชิกครอบครัวยามางิเริ่มผ่อนคลายและลดอาการตึงเครียสลง  หากแต่กระนั้นเองก็ยังมีสาวน้อยนางหนึ่งที่ยังปากไหวไม่เข็ดไม่จำซักที



    “แหม่! หนึ่งว่าจะใจป้ำเลี้ยงเราจริงๆซะอีก  ที่แท้ก็ได้ถือโอกาสเหมารวมเราไปกับงานของโรงแรมตัวเองเท่านั้นเอง”



    “มาเอะ!”



    พี่สาวที่นั่งอยู่กระซิบดุเบาๆกับน้องสาวในขณะที่บิดาและมารดาผู้ให้กำเนิดทั้งสองคนได้แต่ทำหน้าแห้งๆผสมยิ้มก่อยๆเป็นสัญญาณขอโทษชายหนุ่มตรงหน้า  ส่วนเจ้าตัวชายหนุ่มตรงหน้าก็ได้แต่ส่งรอยยิ้มบางๆกลับมาให้กับอาคันตุกะทั้งสองและผงกศรีษะเล็กน้อยเป็นเชิงเข้าใจและให้อภัยผู้เยาว์กว่า



    “ถึงโรงแรมที่พักของเราแล้วครับ  ขอต้อนรับสู่หนึ่งในกิจการในเครือพีวี(เพชรเทวา)กรุ๊ป”



    วาทีเอ่ยบอกอาคันตุกะเมื่อรถยนต์อันเป็นพาหนะเลี้ยวเข้าสู้บริเวณสวนด้านหน้าโรงแรมอันใหญ่โตแห่งหนึ่งที่มองเห็นตัวอาคารอันใหญ่โตและโออ่าอยู่ไม่ไกลจากทางเข้า



    “โรงแรมสายชลรอยัล”



    สิ้นคำกล่าวรถลีมูซีนสีเงินแวววาวที่เรียกความสนใจจากแขกที่เข้ามาพักได้ชะงักก็เข้าเทียบบันไดที่นำเข้าสู่ห้องล๊อบบี๊ของโรงแรม



    “เดียวประมาณ 12.00 นาฬิกา จะมีเจ้าหน้าที่ของเราไปรับพวกคุณที่ห้องพัก  เพื่อนำทางไปยังบริเวณงานจัดเลี้ยงของเรานะครับ”



        “เดียวก่อนครับ ผู้การวาที”



        โกโบริร้องเรียกวาทีก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินจากไปและปล่อยให้หน้าที่ต้อนรับอาคันตุกะรายนี้และการนำทางไปยังห้องพักเป็นหน้าที่ของพนักงานต้อนรับของโรงแรมต่อไป



        “ผมต้องขอขอบคุณอีกครั้งนะครับ  ที่คุณกรุณาไปต้อนรับเราถึงสนามบิน  แล้วยังช่วยจับนักวิ่งราวให้เราอีก ผมต้องขอขอบคุณจริงๆครับ  แล้วก็ต้องขอโทษคุณด้วยนะครับที่ลูกสาวของผมเขาใจผิดคุณ  แถมยังแสดงกิริยาที่ไม่งามแก่คุณด้วย”



        หัวหน้าครอบครัวยามางิขอบคุณชายหนุ่มอีกครั้งด้วยความจริงใจและขอโทษแทนลูกสาวตัวดีของตนที่ยังไม่รู้จักควบคุมตัวเองให้ดีนัก   เนื่องจากอยู่ในช่วงวัยรุ่นและด้วยความเป็นลูกคนเล็กจึงถูกตามใจทั้งบิดามารดารวมทั้งพี่สาว



        “ไม่เป็นไรครับ  ผมเข้าใจดี และเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วที่ต้องให้การต้อนรับและดูแลความปลอดภัยของแขกผู้มาเยือนอย่างคุณ”



        ชายหนุ่มตอบด้วยรอยยิ้มจริงใจเช่นกันก่อนที่จะต่อประโยคว่า



        “แล้วก็ที่สำคัญอีกอย่าง  อย่าเรียกผมว่าผู้การเลยครับ   นั้นนะผมใช้นำหน้าชื่อของผมเฉพาะเวลาราชการเท่านั้น  ช่วงนี้เป็นเวลาหยุดพักผ่อนของผมเหมือนกัน  ผมเลยมารับจ๊อบพิเศษนะครับ  เรียกชื่อผมธรรมดาดีกว่า”



        “เชอะ!  รับจ๊อบพิเศษ  หรือถูกไล่ออกจากราชการ  เพราะไปทำลามกกับลูกน้องสาวๆเข้ามากกว่ามั้ง”



        คำพูดเสียดสีลอยตามลมมาอีกครั้ง  เมื่อสาวเจ้าตัวดีเดินมาทันบิดาและทันที่จะได้ยินประโยคหลังสุดที่ชายหนุ่มกล่าว  



        “เฮ่ย!”  โกโบริได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆให้แก่วาทีอีกครั้ง  เมื่อลูกสาวที่ไม่รู้จักโตของตนเอง  แผลงฤทธิ์อีกครั้ง  ยังดีที่เมื่อมองไปพบรอยิ้มที่ถูกสงกลับมาจากชายหนุ่มตรงหน้า  ทำให้รู้ว่าชายหนุ่มเองก็ไม่ได้ถือสาหาความอะไรกับเด็กสาวมากนัก



        “แล้วพบกันครับ”



    วาทีเอ่ยก่อนที่จะเดินจากไปและแทบจะในทันทีที่ชายหนุ่มก้าวจากไปนั้นเอง  บุรุษอีกคนก็เข้ามาทักทายโกโบริ



    “สวัสดีครับคุณโกโบริ”



    “สวัสดีครับคุณวิเชียร”



    “เพื่อนทางธุรกิจ”ที่สนิทกันจนกลายเป็น “เพื่อน” จริงๆของโกโบริเอ่ยทักทาย พร้อมกับรับไหวจากสมาชิกในครอบครัวยามางิที่เหลือ



    “เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับการเดินทางครั้งนี้”



    “เป็นการเดินทางที่ยอดมากครับ  ทางพีวี(เพชรเทวา)กรุ๊ปให้การต้อนรับเราดีมากครับ”



    “เอ..เมื่อกี่นี้ผมเห็นคุณคุยกับคุณวาทีอยู่ก่อนนี้ครับ  แต่ว่าผมเดินมาไม่ทันเขาเดินไปซะก่อน  นี้คุณรู้จักกับคุณวาทีแล้วเหรอครับ”

    “ครับ! คุณวาทีไปรับผมที่สนามบินแถมยังช่วยจับคนร้ายที่วิ่งราวเอากระเป๋าถือของภรรยาไปให้อีก”



    “หา! ว่าอะไรนะครับ  นี้มันเรื่องอะไรกันครับนี้”



    “ว่าไปเรื่องมันยาวครับ  เดียวเราค่อยคุยกัน   ว่าแต่คุณวาทีคนนี้นี่ผมดูแล้วเขาเป็นคนดีจริงๆนะครับ  สายตาของผมมองไม่พลาดหรอก  เห็นอายุเท่านี้รับราชการเป็นถึงผู้การด้วยนี้  แล้วทำไมบริษัทถึงได้เขามาช่วยทำงานได้ล่ะครับ  เห็นเขาพูดเล่นๆว่าช่วงนี้ได้พัก เลยมารับจ๊อบทำงานพิเศษ”



    โกโบริกล่าวกับวิเชียรด้วยน้ำเสียงชื่นชมชายหนุ่มผู้ถูกกล่าวถึงและอยากทำความรู้จักให้มากขึ้น   โดยคิดไปเองที่วิเชียรตกใจในครั้งแรกนั้น  เป็นผลจากการที่ได้รู้ว่าเกิดเหตุร้ายกับครอบครัวของตน  โดยไม่รู้เลยว่า  แท้ที่จริงแล้วยังมีสิ่งที่ทำให้วิเชียรตกใจก่อนหน้าที่จะได้ยินเรื่อง เหตุร้ายที่เกิดซะอีก



    “นี้คุณวาทีไปรับพวกคุณด้วยตัวเองเลยเหรอครับ   แถมยังท่าทางว่าจะไปสร้างวีรกรรมอะไรไว้ให้พวกคุณประทับใจอีก  อืม!...สงสัยคราวนี้คุณวาทีคงเจอคุณน้องชายบังคับให้ช่วยงานธุรกิจอีกแล้วซิ”



    วิเชียรเอ่ยบ้างด้วยน้ำเสียงกล้ำหัวเราะ  สร้างความงุนงงสงสัยให้แก่ครอบครัวยามางิ  จนโกโบริหัวหน้าครอบครับต้องกล่างถามว่า



    “เอ...นี้มันอะไรกันครับ  ผมชักงงบ้างแล้วซิ   ใครกันเหรอครับ  คุณน้องชายที่ว่านี้”



    วิเชียรทำหน้าประหลาดใจ ก่อนที่จะสร้างความตกใจและความมึนงงเหมือนกับโดนตบหน้าแตกไม่รับเย็บ  เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ในวันนี้ของมาเอะและครอบครัว



    “อ้าว! เห็นว่าคุณรู้จักคุณวาทีแล้ว  ผมเลยนึกว่าคุณรู้แล้วซะอีก  ก็นั้นล่ะผู้การวาที  เพชรเทวา  พี่ชายของคุณวายุ   เพชรเทวา หรือที่พวกคุณและก็คนในต่างประเทศรู้จักกันในชื่อ  ดร.ดี.อาร์.สตอม ที่เราจะได้ไปพบและติดต่อเรื่องธุรกิจกันในวันนี้นั้นแหละ”



    เหมือนมีใครเอาค้อนมาทุบหัวสาวน้อยนามมาอิและครอบครัวเมื่อได้ยินดังกล่าว  ขณะที่บิดาของสาวน้อยได้แต่หันมามองด้วยสายตาเย็นๆมายังลูกสาวคนเล็กพร้อมมือที่กุมขมับบอกท่าทางปวดเสียนเวียนเกล้า  ประหนึ่งดังจะบอกให้ลูกรู้ว่า



    “เนื่อนะ  ไอ้โรคจิตกับผู้การถูกไล่ออกจากราชการของแก  รู้จักคิดก่อนจะพูดซะบ้างซิ  เล่นไปด่าว่าพี่ชายเขาแบบนี้  นี่อยากให้ธุรกิจของครอบครัวเราเจ๊งนักหรือยังไง  คุณลูกที่เคารพ!”



    ………….



    จบตอน





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×